ในตอนที่ลีออนกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป เขาก็เห็นว่าเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธกลางอากาศหยุดเคลื่อนไหวกะทันหันพวกเขาเปิดใช้งานโหมดลอยตัวและลอยอยู่กลางอากาศนิ่ง ๆ อาวุธปืนหันปากกระบอกปืนและเล็งมาที่ฝูงชนด้านล่างยิ่งกดดันพวกเขามากกว่าทหารจากค่ายศัสตราวุธเสียอีกเพราะนั่นจากมุมจากฟ้าสู่เป้าภาคพื้น ไม่มีทางให้หลบหนี!มันเลวร้ายที่สุด!ภาพตรงหน้าน่ากลัวเกินไป!ซิสเตอร์แฮเรียตเป็นคนแรกที่ทนแรงกดดันไม่ได้!ฟุบ! เธอคุกเข่าลงบนพื้นและยกมือขึ้น จากนั้นเธอก็พูดขึ้นมาว่า “พวกเราถูกตระกูลซิลวาหลอกให้มาที่นี่ พวกเราไม่ได้ทำอะไร!”นอกจากของเธอแล้ว หัวหน้าแก๊งอันธพาลและคนอื่น ๆ อีกหลายคนคุกเข่าลงและทันทีหลังจากนั้นช็อปเปอร์ชี้ไปที่ลีออนและสาปแช่งว่า “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของตระกูลซิลวา! พวกเขาใช้ดินแดนหนึ่งหลอกล่อให้เราทำเรื่องพวกนี้!”“พวกเราตาบอดเพราะความโลภ! เราไม่รู้เรื่องด้วยจริง ๆ !”“พวกเราคิดผิด! เราผิดไปแล้ว!”ทันทีที่ช็อปเปอร์พูดจบ เขาไม่ลังเลเลยที่จะคุกเข่าลงกับพื้นและยกมือยอมแพ้ดังคำกล่าวที่ว่า “ผู้นำสามารถยอมจำนนหรือยืนหยัดได้ตามต้องการ” ควรรู้เมื่อไหร่จะต้องยอมจำนนและเมื่อไหร่
ทันใดนั้น รถจี๊ปทหารก็จอดต่อหน้าทุกคนชายวัยกลางคนในชุดเครื่องแบบทหารได้ก้าวออกมาและเดินไปตามเส้นทางที่ฝังศพของวิลเลียมอยู่อย่างรวดเร็ว“นั่น…พันโท?”ตำแหน่งของพันโทมีสถานะไม่สูงนัก พวกซิลวาไม่เคยจะสนใจพวกเขาหากบังเอิญได้เจอกันแต่ชายผู้นี้คือพันโทแห่งกองกำลังค่ายศัสตราวุธ!ค่ายศัสตราวุธซึ่งเป็นหนึ่งในกองกำลังทหารเก้าอันดับแรกของประเทศ H!การที่จะได้รู้จักกับพันเอกของค่ายศัสตราวุธคือโอกาสหนึ่งในล้าน!ทันทีที่ตระกูลซิลวาเห็นเขา สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ผู้พันที่กำลังมุ่งหน้าไปยังหลุมศพของวิลเลียมจากนั้นเขาก็หยุดอยู่ตรงหน้าฮาร์วีย์อย่างเคารพ“อีธาน ฮันต์ พันโทแห่งค่ายศัสตราวุธแห่งเซาท์ไลท์ รายงานตัวครับท่าน! รวบรวมพลของค่ายศัสตราวุธเรียบร้อยแล้ว! รอคำสั่งต่อไปครับท่าน! ”สายตาทำให้ทุกคนดูสับสนลิ้นพวกเขาพันกันยุ่งเหยิง!‘อีธาน ฮันท์!’ชายคนนี้คือ อีธาน ฮันต์ บุคคลในตำนาน ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสี่เทพเจ้าแห่งสงครามในกองทัพของเซาท์ไลท์แม้ว่าผู้มีอำนาจสูงสุดในเซาท์ไลท์จะพบเจอเขา พวกเขาก็ไม่กล้าแสดงความไม่สุภาพต่อเขาออกมาแม้แต่น้อยแต่ทว่
ฮาร์วีย์จ้องมองตรงไปที่พวกซิลวาที่ยืนอยู่“แกอยากรู้ตัวตนที่แท้จริงของฉันมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”“แกจำงานเลี้ยงมื้อค่ำในบัควู้ดที่ตระกูลซิมเมอร์มาเยือนที่นี่ครั้งแรกได้ไหม?”“เจ้าชายยอร์กบอกว่าเขาจะไปที่นั่นเหมือนกัน และใช่ เขาไป...”“เพราะฉันคือเจ้าชายยอร์ก!”เบรนท์จำคืนนั้นได้อย่างดีเขาได้รับคำสั่งให้คุ้มกันพวกตระกูลซิมเมอร์ซุ่งเป็นวันเดียวกับที่เจ้าชายยอร์กบอกว่าจะเข้าร่วมด้วยในเวลานั้น พวกซิมเมอร์ต่างพากันตื่นเต้นแม้แต่เบรนท์ก็อดกลั้นความตื่นเต้นไว้ไม่ได้เขาคิดว่าเขาจะได้พบกับเจ้าชายยอร์กในตำนานทว่าทั้งหมดนั้นถูกทำลายความหวังโดยการปรากฏตัวของฮาร์วีย์ ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ ซึ่งทุกคนคิดว่าเขาล่วงเกินเจ้าชายยอร์กพวกซิมเมอร์ตราหน้าฮาร์วีย์ว่าเป็นคนบาปของตระกูลเขาเป็นคนขัดขวางโชคชะตาของซิมเมอร์!แล้วยังมีเรื่องเหลือเชื่ออย่างซิมเมอร์ที่ไม่มีแม้แต่ความสัมพันธ์กับ สกาย คอร์ปอเรชั่น แต่พวกเขาก็ยังประสบความสำเร็จในการจัดหาโครงการความร่วมมือได้เพราะแมนดี้ด้วยเหตุผลนี้ ทุกคนรวมถึงตระกูลซิมเมอร์เองก็สันนิษฐานว่าแมนดี้เป็นชู้ของเจ้าชายยอร์กแต่เพียงเหตุผลนี้เท่านั้นที่ถึงขนาดเจ
ฮาร์วีย์ลดมือขวาลง การเคลื่อนไหวของเขาหยุดทุกความเคลื่อนไหว และเสียงทั้งหมดรอบตัวเขากลายเป็นความเงียบงันฮาร์วีย์จ้องมองพวกซิลวาด้วยแววตาเฉยเมย “นายไม่เคยคิดมาก่อนล่ะสิ? ลูกเขยอย่างฉันในสายตาของแก ผู้ชายที่แกคิดว่าทำได้เพียงแค่ไร้ประโยชน์ไปวัน ๆ กลับกลายเป็นชายที่มีอำนาจมากที่สุดในเซาท์ไลท์ ใครจะหยุดฉันได้อีก? ตอนนี้ฉันกลับมาแล้ว”“ความสามารถของตระกูลซิลวา ได้ที่ชื่อว่าเป็นตระกูลอันดับต้น ๆ ของเซาท์ไลท์…”“น่าเสียดายที่เป็นได้แค่สุนัขรับใช้ของควินตัน ยอร์ก”“แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่กล้าปรากฏตัวต่อหน้าฉันในที่สาธารณะ แล้วนายจะทำอะไรได้?”น้ำเสียงของฮาร์วีย์ไม่แยแส แต่คำพูดนั้นกลับเชือดเฉือนติดอยู่ในใจของผู้คนสีหน้าของพวกตระกูลซิลวาขาวซีด ร่างกายของพวกเขาสั่นเทาจนแทบจะยืนทรงตัวไม่ได้หัวของพวกเขาหมุนติ้วตลอดเวลาถ้าไม่ใช่เพราะความเย่อหยิ่งที่เหลืออยู่ของพวกเขา พวกเขาคงจะคุกเข่าลงแล้ว“แก แก แก… ถ้าแกแข็งแกร่งจริง ควินตันจะจัดการบีบให้แกออกจากบัควู้ดได้ยังไง…? แกไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คิด…!”ลีออนเหมาะสมกับตำแหน่งเจ้าชายซิลวาเมื่อกี้ตระกูลซิลวาไม่มีแม้แต่ความกล้าจะอ้าปากพูด หลัง
ขณะที่ลีออนคุกเข่า เสาหลักที่แข็งแรงที่สุดของตระกูลซิลวาก็พังทลายลงความภาคภูมิใจ ศักดิ์ศรี และภาระหน้าที่ของตระกูลซิลวาหายไปในทันทีตุบ!ตุบ!ตุบ!เบรนท์และคนอื่น ๆ คุกเข่าลงทีละคน ๆพวกเขาไม่สามารถใต่อต้านได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วเหงื่อเย็นเยียบอาบทั่วกายราวกับว่าพวกเขาพบกับค่ำคืนที่อากาศหนาวเย็นต่อหน้าชายผู้นี้ พวกเขาไม่มีสิทธิแม้แต่จะหายใจฮาร์ย์มองภาพตรงหน้าด้วยความเฉยเมยพวกซิลวาคุกเข่าลงต่อหน้าเขา ดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อเขาเลยสายตาที่เย็นชาของเขาหันไปทางมาร์กี้“มันตลกที่พี่ชายของฉันมักจะคิดว่าเธอเป็นสุดที่รักของเขา เขาคิดว่าเธอเป็นทุกอย่างของเขา!”“มันตลกที่เธอกลับทรยศเขา และอยู่ฝั่งพวกตระกูลซิลวา เพื่อชื่อเสียงและเกียรติยศ เธอไปไกลถึงขั้นเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นของเล่นของพวกซิลวา!”“ขณะที่เธอกำลังเพลิดเพลินอยู่ เธอเคยคิดบ้างไหมว่าพี่ชายของฉันกำลังคร่ำครวญร่ำไห้อยู่ในขุมนรกโดยไม่มีความสงบสุข!”“ฉันบอกเธอแล้ว ถ้าเธอไม่มาที่หลุมศพของวิลเลียมเพื่อกลับใจ เธอจะต้องรับผลที่ตามมา…”“เธอคิดว่าคำพูดของฉันแค่เรื่องตลกเหรอ?”“ฉัน…”มาร์กี้ก็คุกเข่าลงกับพื้นโจนาธา
ฮาร์วีย์มองดูลีออนที่กำลังดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นดวงตาของเขาก็เพ่งไปที่พวกซิลวา สีหน้าของพวกเขาดูหวาดกลัวฮาร์วีย์ไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้“น่าสนใจจริง ๆ ไม่ว่านายจะยอมรับความพ่ายแพ้หรืออ้อนวอนขนาดนี้…”“นายทำเพียงแค่นี้เพราะฉันบอกนายถึงตัวตนของฉันไปแล้ว”“ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ นายจะร้องขอความเมตตาที่นี่ไหม? นายจะยอมรับความพ่ายแพ้ไหม?”“ไม่!”ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้าและเตะลีออนด้วยแรงเตะ และหัวเข่าของลีออนร้าวเหมือนแตกเป็นเสี่ยง ๆ ไม่ว่าลีออนจะรู้สึกไม่เต็มใจเพียงใด เขาทำได้เพียงคุกเข่าลงบนพื้นเพื่อสำนึกผิดหลังจากที่ฮาร์วีย์เตะลีออน เขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ลีออน ซิลวา เบรนท์ ซิลวา มาร์กี้ คลาวด์ โจนาธาน แม็กซ์เวลล์ เท็ด ดันน์…”“เงยหน้าขึ้น”บรรดาคนที่ถูกเอ่ยชื่อ แม้แต่ลีออนผู้จองหอง ก็เงยศีรษะขึ้นโดยไม่รู้ตัวพวกเขารู้สึกราวกับว่าหัวใจกำลังจะโบยบินออกจากอก พวกเขากังวลอย่างมากพวกเขาทั้งหมดรู้ว่านี่หมายถึงอะไรการกระทำของฮาร์วีย์นั้นเทียบได้กัยมฑูตเอ่ยเรียกขานชื่อพวกเขาพวกเขาต้องเงยหน้า“ถึงแม้จะไม่มีใครผลักวิลเลียมลงไปในแม่น้ำเพิร์ล แต่พวกแกเป็นคนบังคับให้เขาต้
ตอนนี้ ดวงตาที่เย็นชาของฮาร์วีย์จับจ้องไปที่ช็อปเปอร์และลูกน้องของเขาหัวหน้าแก๊งอย่างช็อปเปอร์มักจะทำตัวสูงส่งและวางอำนาจ ราวกับว่าพวกเขาอยู่เหนือหมู่เมฆ มองลงมาที่ชาวนาและดูถูกชาวบ้านทั่วไปอย่างไรก็ตาม ความเย่อหยิ่งและทะนงตัวของพวกเขากลับไร้ประโยชน์ที่นี่เมื่อพวกเขารู้สึกถึงการจ้องมองที่เย็นชาของฮาร์วีย์ พวกเขาก็หมอบไปกับพื้น ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้านและเหงื่อเย็นไหลอาบใบหน้าพวกเขารู้ดีว่าชีวิตและความตายของพวกเขาจะตัดสินโดยฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ถ่มน้ำลายใส่พวกอันธพาลด้วยสายตาที่เย็นชา “ฉันจะไม่ฆ่าพวกแก แต่พวกแกต้องถูกลงโทษ!”“แม้ว่าการตายของพี่ชายของฉันจะไม่เกี่ยวกับพวกแก…”“แต่ความจริงที่เพราะนั่นคือคำขู่ของพวกแก! พวกแกต้องคุกเข่าต่อหน้าหลุมศพของวิลเลียมเป็นเวลาสามวันเต็ม!”“ได้ ได้ ได้ครับ!”ช็อปเปอร์เป็นคนแรกที่พูดตอบรับ ตัวเขาสั่นสะท้าน“ได้ครับ เราเข้าใจแล้ว!”“คลานมาตรงนี้ดี๋ยวนี้! ห้ามลุกเดิน!”ตามคำสั่งของช็อปเปอร์ ลูกน้องทั้งหมดของเขาคลานไปที่หลุมศพของวิลเลียมและคุกเข่าลงช็อปเปอร์ไม่มีเวลาอับอาย เขาไม่กล้าที่จะมองหน้าฮาร์วีย์ตรง ๆ “เจ้าชายยอร์ก! เราจะสร้างสุสานข
“แต่ควินตันโกรธมาก! เขามาหาฉัน จุดประสงค์นั่นคือการไม่ให้คุณมีโอกาสกลับมาที่บัควู้ด!”ในที่สุดฮาร์วีย์ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมพวกซิลวาถึงกำจัดวิลเลียมการที่วิลเลียมมีชีวิตอยู่ในบัควู้ดเป็นประโยชน์ต่อพวกยอร์ก พวกเขาสามารถรับรู้แผนการของฮาร์วีย์ผ่านวิลเลียมถึงอย่างนั้น พวกซิลวาก็วางแผนกำจัดวิลเลียม และใช้แผนการที่ไม่สมควรเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย‘มันเป็นเพราะควินตัน’‘นั่นหมายความว่าชายที่อยู่ในคลิปนั้นคือควินตัน ยอร์ก แล้วเงาพร่ามัวอีกคน…’‘ควีนนี่ ยอร์ก และฝาแฝดทั้งสองเกี่ยวข้องด้วยไหม?’ลีออนพิจารณาสีหน้าของฮาร์วีย์ แล้วเขาก็ถอนหายใจและพูดว่า “ถ้าพวกเราไม่ทะเยอทะยานขนาดนี้ ควินตันจะมีโอกาสควบคุมเราได้…”“ความอัปยศนี้ทำให้ที่ฉันตาบอดเพราะความลุ่มหลงของฉันเอง ฉันไม่ได้ประเมินอำนาจของซิลวาให้ดีก่อน”“มันไม่ใช่ความผิดที่เราเคลื่อนไหว แต่ฉันล้มเหลวในการปรเมินขีดจำกัดของตัวเอง”ลีออนยังพูดต่อ“เจ้าชายยอร์ก ผู้ชนะจะได้ทุกอย่าง มันเป็นเช่นนั้นมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่วันนี้ การพ่ายแพ้ของฉันไม่ยุติธรรม!”ฮาร์วีย์หันหลังเดินจากไป ท่าทางของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง…เวลาผ่านไปทางด้านของตระก
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข