หากต้องกล่าวอะไรเกี่ยวกับบ้านมูลค่าสามสิบล้านดอลลาร์ แน่นอนว่าจะต้องเป็นคำว่า สมบูรณ์แบบ!ปัญหาคือเขาจะจ่ายได้ไหมทาร่า ลูอิส มองฮาร์วี่ย์ ยอร์ก ด้วยความเยาะเย้ย เธอตัดสินใจว่าคืนนี้ เธอจะหลอกเขาอย่างแน่นอน เธอจะรอดูว่า เขาจะใช้ข้อแก้ตัวแบบไหน เพื่อถอนคำพูดเรื่องการซื้อบ้าน“นี่เพื่อนเก่า ฉันเห็นว่าเรารู้จักกันมาหลายปีแล้ว ฉันสามารถพาคุณไปดูบ้านด้วยตัวเองได้ เอาไหม?” ทาร่าพูดและยิ้ม “ถ้าคุณพอใจ ก็ย้ายเข้าไปได้เลยนะ”ในสายตาของเธอ คนบ้านนอกอย่างฮาร์วีย์ ซึ่งเป็นลูกเขยที่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่ไม่มีชื่อเสียง ไม่ควรจะทำอะไรทั้งนั้น นอกจากหยุดการเสแสร้งหลังจากอ่านคำอธิบายและดูภาพที่แสดงในใบประกาศแล้ว ฮาร์วีย์ก็ส่ายหน้า “ไม่จำเป็นเลย”"ทำไมล่ะ? คุณไม่อยากไปเหรอ? หรือเป็นเพราะคุณยากจนเกินกว่าจะซื้อได้?” ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ที่เคยบริการฮาร์วี่ย์และซีนเธียร์มาก่อนกล่าว เขาตะโกนว่า “พูดตรง ๆ นะ ถ้าคุณไม่มีเงิน! ก็เลิกแสดงละครได้แล้ว”ฮาร์วีย์ไม่เหลือบมองเธอเป็นครั้งที่สองและยัดบัตรสีดำของเขา เข้าไปในมือของทาร่า “ผมต้องการบ้านหลังนี้ แค่จ่ายเงินด้วยบัตรของผม”คำพูดของเขาฟังดูสงบและเป็นก
ซีนเธียร์ ซิมเมอร์ กลับคืนสู่สภาพปกติ หลังจากออกจากศูนย์อสังหาริมทรัพย์ เธอจ้องไปที่ ฮาร์วีย์ ยอร์ก ด้วยสีหน้าประหลาดใจ และ พูดว่า “พี่เขย ตอนนี้ฉันมีบ้านแล้วเหรอ?”“สำหรับตอนนี้ พี่สาวของคุณและผมจะอยู่ที่นั่น สวนด้านบนมีพื้นที่กว้างสองสามร้อยตารางเมตรไม่ใช่หรือ? คุณสามารถอยู่ที่นั่นได้ ถ้าคุณต้องการ”ซีนเธียร์รู้สึกตื่นเต้น “พี่เขย ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้ ฉันจะไม่อยู่ในวิทยาเขตของโรงเรียนได้ไหม? หอพักของโรงเรียนเล็กเกินไป ฉันไม่อยากอยู่ที่นั่นอีกแล้ว…”ความตั้งใจที่แท้จริงของเธอ คือการได้เจอพี่เขยของเธอทุกวันนอกจากนี้ เธอยังต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้เขาและพี่สาวของเธอแต่งงานกันสำเร็จฮาร์วีย์ไม่ได้คิดว่าน้องสาวภรรยาของเขา จะมีแรงจูงใจซ่อนเร้นแบบนี้ เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “บ้านหลังนี้เป็นของคุณ ดังนั้นคุณสามารถมาและไปได้ทุกเมื่อ ตามที่คุณต้องการ ผมไม่สามารถบังคับคุณได้”ซีนเธียร์สมปรารถนา เธอตัดสินใจย้ายเข้ามาในช่วงวันหยุด วันชาติไม่นาน วันที่สามก็มาถึงวันนี้เป็นวันเกิดของแมนดี้ ซิมเมอร์แม้แต่ไซม่อน ซิมเมอร์ และลิเลียน เยตส์ ก็ยังยอมสละเวลา เพื่อเตรียมงานฉลองวันเกิดของแ
เมื่อเปิดประตูออกมา แมนดี้ ซิมเมอร์ รู้สึกประหลาดใจมากเธอไม่เคยคาดฝันว่า เบรนท์ ซิลวา จะมาอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน พร้อมกับมีช่อดอกไม้ในมือของเขาในอีกด้านหนึ่ง ไซม่อน ซิมเมอร์ และ ลิเลียน เยตส์ กำลังมองไปที่ เบรนท์ ราวกับว่า ไซม่อน ได้เป็นลูกเขยของพวกเขาไปแล้ว และ พยักหน้าเห็นด้วยซ้ำแล้วซ้ำเล่า“สวัสดีครับ คุณลุง คุณป้า คราวที่แล้วผมหยาบคายไปหน่อย แต่นั่นมันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ผมหวังว่าพวกคุณจะใจกว้างพอที่จะปล่อยให้มันผ่านไปนะครับ”“เหตุผลที่ผมมาที่นี่ในวันนี้ ก็เพื่อมาขอโทษอย่างเป็นทางการ และ เพื่อฉลองวันเกิดของ แมนดี้ ครับ”เบรนท์ยิ้มอย่างอ่อนโยน และ หล่อเหลาถ้าคนที่รู้จักเขาอย่างใกล้ชิดอยู่ใกล้ ๆ พวกเขาจะจำเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ กับท่าทางที่เขาแสดงออกมา“ใช่ครับ คุณซิลวา มาที่นี่ด้วยความจริงใจอย่างที่สุด ลุงไซม่อน ป้าลิเลียน ควรจะปลื้มใจนะครับ” แซ็ค ซิมเมอร์ ผู้ที่คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง ได้ชื่นชมเบรนท์อย่างรวดเร็ว “ด้วยสถานะของซิมเมอร์ เราไม่ควรติดต่อกับตระกูลชั้นสูงอย่างซิลวา”เบรนท์กวักมือ ให้ลูกน้องสองคนของเขา นำของขวัญเข้ามาในบ้านไซม่อน ได้รับไวน์ชั้นดีราคาแพง ส่วนลิเล
เป็นการยากที่จะอธิบายว่าไซม่อนรู้สึกอย่างไรในขณะนี้ลูกสาวคนเล็กของเขาถูกลือกันว่าเป็นคนที่เจ้าชายยอร์กจับตามองข่าวดังกล่าวทำให้เขาแลภรรยานอนไม่หลับมาหลายคืนแล้วถ้า…ถ้าเจ้าชายซิลวาสนใจลูกสาวคนโตของพวกเขา เขาก็สามารถไล่ฮาร์วีย์ ยอร์กออกไป และใช้ ชีวิตอย่างสบายใจเมื่อเจ้าชายผู้ลือชื่อทั้งสองกลายเป็นลูกเขย เขาและครอบครัวก็จะร่ำรวยและฟุ่มเฟือยได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เมื่อดูจากสถานการณ์แล้ว เบรนท์ ซิลวากำลังตามจีบพี่คนโตถึงกระนั้น อะไรก็เป็นไปได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้!แม้ว่าเจ้าชายซิลวาจะไม่สนใจแมนดี้ แต่การมีเบรนท์ก็เกินพอแล้ว!เมื่อคิดเช่นนี้ ไซม่อนก็สงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วเขาเริ่มพูดคุยกับเบรนท์ เพื่อทำความเข้าใจสถานภาพของเบรนท์ในตระกูลซิลวาหลังจากนั้น ผู้ชายคนนี้จะเป็นลูกเขยของเขาในไม่ช้า การพยายามเข้าใจภูมิหลังของเบรนท์ให้มากขึ้นกว่านี้ ไม่ได้เสียหายอะไรใช่ไหม?ขณะที่เขาพูดคุยกับเบรนท์อย่างสนุกสนาน ฮาร์วีย์ยังคงปิดปากเงียบ ไม่พูดจาฮาร์วีย์เริ่มมีบรรยากาศเยือกเย็น เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกตินี่มันบังเอิญเกินไปเบรนท์ ชายคนนี้จู่ ๆ ก็เข้ามาในวันเกิดภรรยาของเขา
“มีอะไรเหรอ? นายเป็นอะไร?"ทุกคนหันกลับมามอง ฮาร์วีย์ ยอร์กฮาร์วีย์ พูดกับแมนดี้ ซิมเมอร์ว่า “ที่รัก ผมสั่งอาหารเย็นวันเกิดสุดพิเศษให้คุณ ให้ผมพาคุณไปที่นั่นนะ”ทันใดนั้น ลิเลียน เยตส์ ก็ตะคอกอย่างหมดความอดทน “ฮึ่ม! แล้วไง? คุณซิลวาเขาสั่งอาหารเย็นที่แกรนด์โฮเทล ดับเบิ้ลยูแล้ว! โต๊ะมีราคาประมาณสองหมื่นดอลล่า! แกสั่งอะไรมาล่ะ”เบรนท์ ซิลวา มองฮาร์วีย์ด้วยท่าทางสุขุม เขากล่าวว่า “คุณยอร์ก พวกเราไม่จำเป็นต้องไปที่ที่คุณจองไว้”“ที่ที่ผมจองไว้ โต๊ะหนึ่งราคาประมาณสองหมื่นดอลล่า ถ้าเราไม่ไป มันจะสิ้นเปลืองเปล่า ๆ” “สำหรับสถานที่ที่คุณจองไว้ เดี๋ยวผมจ่ายให้เอง คุณคิดว่าไง?"ขณะที่พูด เขาก็โบกมือให้ลูกน้องคนหนึ่งของเขา หยิบเงินกองหนึ่งออกมาแล้วโยนทิ้งลงบนพื้นอย่างลวก ๆฮาร์วีย์ไม่ได้เหลือบมองการแสดงละครของพวกเขาเลย เขายิ้มแทน “ถ้าผมทำอย่างนั้น ผมจะต้องสูญเสียมากกว่าคุณ”“โอ้? คุณจองที่ไหนล่ะ ผมจองห้องพักอันดับหนึ่งของแกรนด์โฮเทล ดับเบิ้ลยู โดยจ่ายขั้นต่ำสองหมื่นสามพันดอลล่า!”เบรนท์ ซิลวา อยากรู้อยากเห็นมากคนอื่น ๆ ก็มองมาที่ฮาร์วีย์ อยากรู้อยากเห็นเหมือนกันพวกเขายังต้องการทราบ
“ใช่ นายน้อยซิลวาพูดถูก ในเมื่อลูกเขยที่อาศัยอยู่กับเราสามารถจองร้านอาหารสปินนิ่งทั้งหมดได้ เราก็ต้องไปดู”จุดประสงค์ของแซ็ค ซิมเมอร์ ในวันนี้คือการร่วมมือกับเบรนท์ ซิลวาเพื่อทำลายแมนดี้ ซิมเมอร์ เขาจะพลาดโอกาสที่จะโจมตีฮาร์วีย์ คนขี้แพ้ได้อย่างไร?เขาและเบรนท์ แอบส่งสายตาให้กัน ทั้งคู่เห็นความทะเยอทะยานในสายตาของกันและกันเรื่องตลกแบบนี้มันจะไปเทียบกับแผนการที่พวกเขาตระเตรียมมาอย่างรอบคอบได้ยังไง?ไซม่อน ซิมเมอร์ และลิเลียน เยตส์ ไม่ต้องการที่จะไป แต่เบรนท์ยืนยันหนักแน่นว่าพวกเขาควรไปให้ได้แม้ว่าเขาจะมีลักษณะที่อ่อนโยน แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เต็มไปด้วยการข่มขู่ ไซม่อน และ ลิเลียน ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องคล้อยตามความประสงค์ของเขาแมนดี้ยิ่งสับสนมากขึ้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นฮาร์วีย์มองไม่เห็นเจตนาของเบรนท์หรือไง?อย่างไรก็ตาม เขายังปล่อยให้คนอื่นพ่นน้ำลายใส่หน้าเขา และทำเขาให้อับอาย เขาอยากโดนไล่ออกจากตระกูลซิมเมอร์มากรึไง?ถ้าไม่ใช่เพื่อรักษาหน้าของฮาร์วีย์ ตอนนี้แมนดี้ก็คงจับเขาแล้วหยิกไปแล้ว“อาสาม ป้าสาม ไปขึ้นรถของผม”“แมนดี้เป็นคนสำคัญในวันนี้ ให้เธอนั่งในเมอร์เซเดสเบนซ
ฮาร์วีย์ ยอร์ก ส่งยิ้มให้พวกอันธพาลอย่างจริงใจหลายคนในบัควู้ด ต้องการฝังเขาลงดิน แต่พวกเขากล้า เพียงแค่ใช้วิธีแบบลับ ๆ เท่านั้นแม้แต่ควินตัน ยอร์ก ที่เกรียงไกร ก็ยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขาโดยตรง ควินตันไม่เคยจับฮาร์วีย์ได้เลยสักครั้งอย่างไรก็ตาม นักเลงคนนี้กล้าพูดแบบนี้กับเขา ช่างเป็นเรื่องตลกยิ่งนัก!อันธพาลค่อนข้างแปลกใจที่เห็นฮาร์วีย์ยิ้ม “แกช่างกล้ามาก ขอแนะนำตัวก่อนแล้วกัน"“ฉันชื่อเบ็น โคล”ฮาร์วีย์คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้จักนาย ดูเหมือนว่านายแทบจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรในบัควู้ด ใช่ไหม?”นัยน์ตาของเบ็นเย็นชา ใช่ เขาไม่ใช่คนสำคัญอะไร หากเขามีสถานะใหญ่โตจริง เขาคงไม่จำเป็นต้องมาทำเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ถึงกระนั้น เขาก็ยังหยิ่งผยองเขายิ้มและ เขาหันหูของเขาไปเล็กน้อย “ฉันไม่ได้ยินใครพูดแบบนั้นกับฉันมานานแล้ว บอกหน่อยซิเกิดอะไรขึ้นกับทายาทรุ่นที่สองนั่น ที่พูดแบบนี้กับฉันแบบนี้เมื่อครั้งที่แล้ว?ชายที่อยู่ข้างหลังเบ็น ตอบว่า “พี่ใหญ่ พี่ตัดลิ้นเขา”“แกได้ยินไหม? นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อมีคนพูดกับฉันแบบนั้น” เบ็นกล่าวว่า “เนื่องจากแกค่อนข้างน่าสนใจ ฉันจะให้อภั
“ฉันให้โอกาสนายแล้ว” เสียงเย็นชาดังมาจากด้านหลัง เบ็น โคล ผู้ซึ่งเคยหยิ่งผยองเมื่อครู่นี้สั่นสะท้านทันทีเขาหันกลับมาอย่างรวดเร็ว จากหางตาของเขา เขาสามารถเห็นคนของเขาหลายคนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น"ไอ้ลูกเขยเกาะเมีย แกจะทำอะไร? ถ้าแกยังกวนประสาทฉัน ตระกูลซิมเมอร์ได้จบเห่แน่ รวมถึงตัวแกด้วย” เบ็นรู้สึกหวาดกลัว แต่ยังไงซะ เขายังคงเป็นนักเลง แม้ว่าเขาจะเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้ายอย่างไม่คาดคิด แต่เขาก็ยังยึดมั่นในความภาคภูมิใจของเขา“บอกมาว่าใครส่งนายมา” ฮาร์วีย์ถามอย่างเย็นชา“เฮ้! แกไม่จำเป็นต้องรู้หรอก!”ฮาร์วีย์พยักหน้า และเพิ่มกำลังในการกำมือของเขาเบ็นรู้สึกราวกับว่ามีเชือกพันรอบคอของเขาแน่นอยู่ตลอดเวลา ทำให้เขาหายใจลำบากความตื่นตระหนกเข้ามาในดวงตาของเขาตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่า ลูกเขยคนนี้เป็นคนโหดเหี้ยม หากเขายังกล้าทำเป็นเล่นอยู่ เขาอาจจะตายในไม่ช้า“นาย…นายปล่อยฉันก่อน” เบ็นพยายามดิ้นรนที่จะพูด "ฉันจะบอกนาย…"ฮาร์วีย์ดึงมือของเขาออกอย่างง่ายดายและจ้องไปที่เบ็นอย่างเฉยเมยเบ็นลูบคออย่างอลักเอลื่อ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดเบา ๆ ว่า “นาย ลูกเขย ฉันรู้ว่านายไม่ใช่คนธรรมดา มันจ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข