แมนดี้เข้าออกร้านค้าหลายร้อยแห่ง เธอลองสื้อผ้าที่เธอชอบ แต่เมื่อเห็นป้ายราคาเธอกลับซื้อไม่ลงนั่นเพราะโอลเด้น เทรดขายเฉพาะสินค้าแบรนด์หรู ที่นี่จะไม่มีอะไรที่ราคาถูกเลยแต่สำหรับเธอ การได้ลองเสื้อผ้าเพียงอย่างเดียวก็ทำให้เธอรู้สึกดีแล้วในทางกลับกัน ฮาร์วีย์ที่คอยเดินตามเธอคอยจดจำเสื้อผ้าที่แมนดี้ลองสวม แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาแมนดี้รู้สึกพอแล้วที่ได้ลองเสื้อผ้ามาเรื่อย ๆ จนถึงร้านสุดท้ายเธอรีบวิ่งไปหาฮาร์วีย์และยิ้มให้อย่างมีความสุข“กลับบ้านกันเถอะ หลังจากลองเสื้อผ้าที่ร้านนี้เสร็จ”“ตามใจคุณเลยครับ”ฮาร์วีย์ยิ้มโดยไม่คิดจะปฏิเสธเธอพวกเขากำลังจะเดินเข้าไปในร้านในจังหวะที่มีชายหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยผู้หญิงคนนั้นมีรูปร่างที่มีเสน่ห์ แต่งหน้าจัดจ้าน จนแทบไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอชายคนนั้นสวมเสื้อยืดและรองเท้าแตะพร้อมพวงกุญแจห้อยอยู่ที่เอว ดูเหมือนว่าเขาน่าจะเป็นหนึ่งในคนที่ร่ำรวยของบัควู้ดผู้หญิงคนนั้นเดินเข้าไปในร้านและขอให้ผู้ช่วยร้านจัดเสื้อผ้าที่เธอชอบโดยไม่ได้ดูป้ายราคาด้วยซ้ำนั่นทำให้ผู้ช่วยร้านยิ้มอย่างสงวนท่าทีขณะคอยรับใช้ผู้หญิงคนนั้นด้วยความสุภาพเป็นพิเ
แมนดี้พูดพลางขมวดคิ้ว “คุณอย่าเป็นคนประจบสอพลอขนาดนี้ได้ไหม? เธอเป็นลูกค้า ฉันก็เป็นลูกค้าด้วยไม่ใช่หรือไง?”แมนดี้ชอบชุดที่เธอสวมอยู่ เธอรู้สึกอับอายมากหลังจากได้ยินพนักงานสั่งให้เธอถอดผู้ช่วยร้านตรงหน้าเธอยิ้มเยาะและหัวเราะออกมา“คุณผู้หญิง คุณควรรู้ว่าลูกค้าก็มีเกรดต่างกัน คุณสามารถเทียบกับผู้หญิงที่ซื้อของจำนวนมากที่นี่แบบนี้ได้ไหม?”“บางทีของที่ผู้หญิงท่านนี้ซื้อในครั้งเดียวอาจมากกว่าของที่คุณจะได้รับในชีวิต!”หญิงสาวผู้มีเสน่ห์ส่งรอยยิ้มที่ดูเหนือกว่าหลังจากได้สิ่งที่พนักงานพูด“คนบางคนก็ต้องรู้ที่ของตัวเอง และไม่ทำตัวให้ตัวเองอับอายไปมากกว่านี้…”“ประเมินตัวเองซะก่อนว่าคุณสามารถเทียบกับฉันได้ไหม!”ในตอนนั้นเองผู้ชายที่มีพวงกุญแจห้อยอยู่ที่เอวเดินเข้ามาหาผู้หญิง“ทำไมคุณต้องไปเสวนากับพวกจน ๆ แบบนี้ด้วย?”“ในเวลาแบบนี้ เงินบันดาลทุกสิ่งอยู่แล้ว!”“คนพวกนี้ดูไม่เหมือนคนมีเงินด้วยซ้ำ ถ้าคุณอยากทำตัวเหมือนพระเจ้า งั้นก็โชว์เงินสดที่มีออกมาสิ!”แมนดี้แสดงความไม่พอใจต่อชายหญิงคู่นั้นดูก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเมียเก็บของผู้ชายที่ดูรวย ๆ คนนั้น แต่เธอทำตัวก็หยิ่งยโสมากแม
แมนดี้โกรธมากหลังจากได้ยินแบบนั้น แต่เธอทำได้เพียงแค่กัดฟันอดทนไว้ผู้หญิงที่มีเสน่ห์คนนั้นดูเหมือนเธอคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้ เธอกลับไปกวนอารมณ์ฮาร์วีย์ แล้วพูดด้วยความไม่พอใจว่า “นี่ ไอ้โง่ สามีของฉันเป็นคนใจกว้างมาก นายคงต้องทำงานสักสองสามปีกว่าจะได้เงินสามหมื่นดอลลาร์ จริงไหม?”“ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะเอาเงินแล้วหนีไป ทิ้งผู้หญิงคนนี้ไว้ที่นี่!”ผู้ช่วยร้านที่อยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกอยากมีส่วนร่วมเหมือนกัน รีบเดินเข้าไปพร้อมเชิดอก“เฮ้อ ฉันหวังมาตลอดว่าจะมีคนที่มองข้ามข้อบกพร่องของฉันบ้าง…”“โอ้คุณสวย คุณโชคดีมาก ฉันยินดีที่จะจ่ายค่าทำขวัญการหย่าสามหมื่นดอลลาร์เพื่อคุณโดยเฉพาะ”แววตาของฮาร์วีย์เริ่มเยือกเย็นลงเรื่อย ๆ เขามองไปที่ผู้ช่วยประจำร้านและผู้ชายคนนั้น “นั่นเพราะที่นี่เป็นห้างสรรพสินค้า ฉันจะเล่นตามกฎของคุณ”“คุณคิดว่าการมีเงินเป็นสิ่งที่น่าประทับใจแล้วงั้นเหรอ? ผมจะเอาทุกอย่างในร้านนี้…”“และคุณ ผมจะให้เงินคุณสามหมื่นดอลลาร์ แต่ผมไม่สนใจผู้หญิงของคุณ ผมแค่อยากให้เธอคุกเข่าขอโทษภรรยาของผม...”คำพูดของฮาร์วีย์เยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง และดูมีอำนาจหัวใจของแมนดี้เต้นแรงหลังจากไ
“คุณผู้ชาย ถ้าคุณไม่มีเงิน ตอนนี้ยังพอมีเวลารีบเดินออกไปเถอะค่ะ”ผู้ช่วยร้านค้าหมดความอดทนกับการเสียเวลาไปกับฮาร์วีย์ และสั่งให้เขาออกไป“ผมขอโทรหาใครบางคนก่อน” ฮาร์วีย์พูดขณะเดินออกจากร้าน“ฮึฮึ โทรหาใครบางคนงั้นเหรอ? หยุดทำตัวโอ้อวดได้แล้ว ถ้าไม่มีเงินแล้วยังจะแกล้งทำเป็นโทรไปหาคนนุ้นคนนี้ทำไม? มาดูกันว่านายจะออกไปโทรนานแค่ไหน”ผู้หญิงที่มีเสน่ห์คนนั้นยืนกอดอกด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจในสายตาของเธอ ฮาร์วีย์แสร้งทำเป็นโทรเพื่อจะหนีแมนดี้รู้สึกอับอาย เธอต้องการให้ฮาร์วีย์ยอมรับออกมาถ้าเขาไม่มีเงิน แทนที่จะทำโทรหาคนอื่นเป็นข้อแก้ตัว เธอยังไม่ได้ถอดชุดนั้นออกและไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไรผ่านไปครึ่งนาที เสียงคนเดินด้วยรองเท้าส้นสูงก็ดังก้องมาจากภายในร้านผู้จัดการร้านรีบออกมาจากร้านและมองไปรอบ ๆ ตัวเธอ“ผู้จัดการ มีคนพยายามสร้างปัญหา…”ผู้ช่วยร้านเดินไปหาผู้จัดการร้านและยิ้มให้เธอทันทีที่เธอออกมาเพี้ยะ!ผู้จัดการร้านไม่รอให้ผู้ช่วยร้านพูดจบและตบหน้าเธอทันทีผู้จัดการร้านเดินไปหาแมนดี้และโค้งคำนับ“คุณผู้หญิง ผู้ช่วยร้านคนนี้ปฏิบัติต่อคุณอย่างไม่มีมารยาท และทำให้ค
ชายคนนั้นสบตากับผู้จัดการร้านในขณะนั้นทั้งสองเหมือนใจตรงกันทั้งสองอยากจะบีบคอสตรีคนนี้ให้ตายอยู่ตรงนี้คนหนึ่งสามารถคาดเดาถึงตัวตนของฮาร์วีย์ได้แล้วส่วนอีกคนรู้สึกว่าฮาร์วีย์ไม่ใช่แค่คนธรรมดาแน่นอนณ จุดนี้พวกเขาทำได้เพียงควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้แต่หญิงโง่คนนี้ก็ยังแส่หาเรื่อง!เธอกำลังจะฆ่าพวกเขา!ก่อนที่พวกเขาจะพูดอะไรต่อ ฮาร์วีย์ก็เดินกลับเข้ามาในร้านเขาไม่ได้สบตากับชายคนนั้น และเริ่มคุยกับผู้จัดการร้านแทน“เมื่อกี้ผมโทรหา ไคล์ วู้ด เขาจะช่วยผมจัดการเรื่องชำระเงินก่อน”ผู้จัดการร้านใจสลายเมื่อได้ยินชื่อ “ไคล์ วู้ด”คนอื่น ๆ คงไม่เข้าใจความหมายของชื่อนั้น แต่เธอเข้าใจดี!ผู้จัดการทั่วไป นั่นคือชื่อของผู้จัดการทั่วไปของ โอลเด้น เทรด!คนธรรมดาทั่ว ๆ ไปจะไม่มีทางรู้จักนามสกุลของผู้จัดการทั่วไปด้วยซ้ำผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าเธอกลับพูดชื่อผู้จัดการทั่วไปออกมาได้เต็มปากเต็มคำ!กจากคำพูดของผู้จัดการทั่วไปก่อนหน้านี้แล้ว ทุกสิ่งที่เธอสงสัยเป็นเรื่องจริงแน่นอนผู้จัดการร้านแทบทรงตัวไม่อยู่ ได้แต่ปาดเหงื่อเย็น ๆ ของเธอออก“คุณผู้ชายคะ ได้โปรดเลือกของในร้านที
“บัตรรูดได้ใช่ไหม?” ฮาร์วีย์ถามขึ้นทันที“งั้นเอาให้ผมอีกสามหมื่นดอลลาร์”ไคล์ไม่กล้าถามอะไรและรีบวิ่งออกไปจากร้าน จากนั้นเขาก็กลับมาพร้อมกับถุงกระดาษแล้วยื่นให้ฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ไม่แม้แต่จะตรวจดูสิ่งของในถุงกระดาษและโยนมันทิ้งตรงประตูร้าน กองธนบัตรสีน้ำเงินกระจายออกมาจากถุงกระดาษ นั่นทำให้ทุกคนตกใจ“นี่คือเงินสามหมื่นของคุณ”ชายเย่อหยิ่งและหญิงสาวที่ดูมีเสน่ห์เกิดอยากจะหนีออกจากเหตุการณ์นี้ หัวใจของพวกเขาเต้นรัวเร็วพวกเขาจำได้ว่าชายหนุ่มคนนี้ต้องการให้พวกเขาขอโทษเพื่อแลกกับเงินสามหมื่นดอลลาร์“แล้วไงถ้านายจะรวย? ฉันก็ไม่ใช่คนจนเหมือนกัน นายคิดว่าฉันจะสนใจเงินนี่งั้นเหรอ?”หญิงสาวที่มีเสน่ห์มองฮาร์วีย์ด้วยความรังเกียจฮาร์วีย์ยิ้มแต่ไม่พูดอะไรในขณะที่จ้องมองชายเย่อหยิ่งคนนั้นชายคนนั้นรู้สึกขนลุกขนชันเมื่อเขามองดูท่าทีของฮาร์วีย์เขารู้ว่าถ้าเขาทำไม่ทำ ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาจะต้องทำให้เขายอมจนได้เขาคิดพิจารณา ไคล์ วู้ด ผู้จัดการทั่วไปของ โอลเด้น เทรด ยังให้เกียรติต่อหน้าชายคนนี้ และไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงหายใจจากเขาเศรษฐีอย่างเขาคงไม่สามารถเทียบกับชายหนุ่มคนนี้ได้เข
ผู้หญิงทุกคนล้วนเป็นนักช้อปที่เก่งกาจคืนนั้นแมนดี้หมกมุ่นอยู่กับเสื้อผ้าทั้งหมดจนเธอเกือบสามารถนอนในห้องแต่งตัวได้แล้วฮาร์วีย์กำลังรู้สึกเหมือนขาของเขาถูกหินทับจนแหลก แต่เขาทำได้เพียงยืนอยู่ที่นั่นและฝืนยิ้มมันสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของแมนดี้หลังจากพักผ่อนเต็มที่แล้ว แมนดี้ลืมถามว่าฮาร์วีย์ว่าเขาทำได้อย่างไรอยู่ดี ๆ โทรศัพท์ที่เธอชาร์จก่อนหน้านี้ก็ดังขึ้นแมนดี้ยังคงเบลอ ๆ ฮาร์วีย์ไปรับสายและดุด่าคนที่โทรมาว่า “คุณบ้าหรือไง? มันยังเช้าอยู่ คุณดูเวลาก่อนโทรหรือยัง?”ผู้คนที่อยู่อีกฝั่งของสายต่างตกใจพอ ๆ กับดีใจที่มีคนรับสายฮาร์วีย์กับแมนดี้ลองเสื้อผ้าใหม่ตลอดทั้งคืนขณะที่แซ็คและคนอื่น ๆ ตั้งค่ายพักแรมอยู่ที่ชั้นล่างบ้านของแมนดี้และโทรมาที่เธอซ้ำ ๆคนที่อยู่อีกฝั่งของสายต่างตื่นเต้นดีใจเมื่อในที่สุดมีคนรับสายฌอนกลัวว่าแซ็คจะอารมณ์หงุดหงิดใส เขารีบคว้าโทรศัพท์มาทันทีและพูดว่า “โอ้ ฮาร์วีย์ ฉันเอง ฌอน ลุงของนายไง!”“โอ้ นั่นคุณเหรอ? ทำไมคุณถึงโทรมาตอนนี้ คุณควรจะนอนอยู่ไม่ใช่เหรอ? มันเกิดอะไรขึ้น!?”ฌอนเดือดดาลด้วยความโกรธหลังจากได้ยินแบบนั้นเขาหายใจเข้าลึก ๆ และพูดก
ฮาร์วีย์พูดแบบสบาย ๆ ไม่ใส่ใจว่า “ผมไม่ชอบทำงาน ผมชอบให้ภรรยาเลี้ยงดู”ฮาร์วีย์ดูใจเย็นในขณะที่ฌอนและคนอื่น ๆ อีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์กำลังเดือดดาลด้วยความโกรธพวกเขาไม่เคยเห็นใครที่ตรงไปตรงมาขนาดนี้มาก่อน นี่มันแมงดาในตำนานตัวจริง“ไม่เป็นไร งั้นบอกฉันสิ นายต้องการอะไร?”ฌอนยังคงโกรธอยู่เขากลัวว่าน้ำเสียงของเขาจะดูหยาบคายและทำให้ฮาร์วีย์วางสายใส่อีกครั้ง“เงื่อนไขนั้นง่ายนิดเดียว ใครก็ตามที่ไล่เธอออกก็ต้องมาพาตัวเธอไปเอง!” ฮาร์วีย์พูดอย่างไม่ใส่ใจ“ใช่ ฉันไล่เธอออก ฉันจะไปเอง!” ฌอนรีบพูดฮาร์วีย์หัวเราะเสียงดัง“คุณลุง คุณคิดว่าผมเป็นคนโง่งี่เง่าจริงงั้นเหรอ?”“ถ้าคุณลุงมีอำนาจในตระกูลซิมเมอร์ คุณลุงจำเป็นต้องโทรหาผมตอนนี้ไหม?”“ให้ผู้อาวุโสซิมเมอร์มาด้วยตัวเอง ถ้าไม่อย่างนั้นเราจะไม่กลับไป”ตู๊ด… ตู๊ด… ตู๊ด…ฮาร์วีย์เริ่มไม่ยอมแพ้ง่าย ๆฌอนดูเวลา ตอนนี้ก็แปดโมงเช้าแล้ว เขาไม่กล้ารีรออีกต่อไป เขารีบกลับบ้านและรายงานสถานการณ์ผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่ได้พักผ่อนตลอดทั้งคืนเขาหอบหายใจแรง ๆ หลังจากได้ยินสิ่งที่ฌอนพูด“อะไรนะ? ไอ้ลูกเขยกาฝากพูดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?”“คนที่จะถูกเ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข