ผู้อาวุโสซิมเมอร์ขมวดคิ้วเข้าหากัน “นั่นเป็นความคิดที่ดี แมนดี้เคยทำงานกับ ยอร์ก เอ็มเทอร์ไพรส์ ที่นิอัมมี่ เธอเหมาะแล้วที่จะเป็นตัวแทนของเรา!”“ใช่ครับคุณปู่! เธออยู่กินกับตระกูลเรามาหลายปี ถึงเวลาแล้วที่เธอควรจะทำอะไรเพื่อตอบแทนเราบ้าง!”“ใช่! ตอนนี้เธอไม่มีตำแหน่งอะไรในบริษัทของตระกูลของเรา เราเสนองานให้เธอ เธอควรจะรู้สึกขอบคุณและทำงานนี้ให้สำเร็จ!”“ใช่ เธอต้องไปเป็นตัวแทนของเรา เราไม่ได้ขอให้เธอทำให้ดีที่สุด? แต่นี่มันเป็นงานของเธออยู่แล้ว”ซิมเมอร์ทุกคนเห็นด้วยในความคิดนี้หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้อาวุโสซิมเมอร์ก็พูดว่า “เอาล่ะ ฌอน แกไปบอกให้ไซม่อนและครอบครัวของเขากลับมา บอกพวกเขาว่าพวกเขาจะได้งานคืนหากพวกเขาสามารถร่วมงานกักบ สกาย คอร์ปอเรชั่น สำเร็จ ไม่อย่างนั้น พวกเขาจะไม่มีวันกลับได้กลับคืนสู่ตระกูลซิมเมอร์อีกต่อไป!”…ฮาร์วีย์ แมนดี้ ไซม่อน และลิเลียนกำลังรับประทานอาหารเช้ากันอยู่ซีนเธียร์ดำเนินการย้ายโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว และเธอจะไปโรงเรียนใหม่ในเช้าวันนี้ในห้องอาหารไม่มีใครพูดอะไรสักคำ พวกซิมเมอร์ทำให้พวกเขาดูอนาถน่าสังเวชเช้านี้พวกเขาได้รับแจ้งจากเจ้าขอ
“แมนดี้ ฉันสั่งให้เธอไปเป็นตัวแทนของตระกูลซิมเมอร์และไปที่ สกาย คอร์ปอเรชั่น ภายในวันนี้!”“ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน เธอจะต้องได้โครงการกลับมา! ฉันไม่สนใจว่าเธอจะไปจะนอนกับเจ้าชายยอร์กหรือยังไงก็แล้วแต่!”“ไม่อย่างนั้น… ฮึ่ม!”น้ำเสียงของผู้อาวุโสซิมเมอร์จากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ดูดุดันกว่าที่เคยพูดตามความเป็นจริง คนที่อยู่ในตำแหน่งอย่างเขาไม่ควรพูดแบบนี้ฌอนเตรียมที่จะออกไป แซ็คก็เกิดความคิดดี ๆ เพื่อบังคับให้แมนดี้ไปเป็นตัวแทนของตระกูลแมนดี้ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อกับสื่งที่ได้ยินเธอรู้ว่าคุณปู่ของเธอโปรดปรานแซ็คและครอบครัวของเขา และดูถูกเธอและครอบครัวของเธอมาตลอด ถึงอย่างนั้น เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะทำให้เธอดูแย่ได้ขนาดนี้ในขณะนั้นเอง ฮาร์วีย์เดินออกมาข้างหน้าและแย่งโทรศัพท์ของฌอนมา เขาเขวี้ยงโทรศัพท์ลงพื้นอย่างแรง มันแตะกระจายพร้อมกับเสียงดังเพล้ง!เสียงลอดออกมาจากโทรศัพท์ก่อนที่จะดับสนิทฌอนและไซม่อนก็ตกตะลึงไม่แพ้กันแมนดี้ก็ชะงักไม่มีใครคาดคิดว่าฮาร์วีย์จะโกรธได้ถึงขนาดนี้ลิเลียนดูเป็นกังวล “ฮาร์วีย์! แกทำอะไรลงไป? ผู้เฒ่าให้โอกาสเราเป็นครั้งที่สอง! แกอยากให้ครอบครัวของ
ในขณะเดียวกัน พวกซิมเมอร์คนอื่น ๆ ยังอยู่ที่วิลล่าที่เช่าเอาไว้ผู้อาวุโสซิมเมอร์เขวี้ยงถ้วยชาของเขาลงกับพื้นจนมันแหลกละเอียด เขาพึมพำอย่างเกรี้ยวกราด “พวกเขาพูดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?”หลังจากกลับจากบ้านของแมนดี้ ฌอนก็รีบรายงานทุกอย่างให้ทุกคนฟังและพูดเกินจริงออกไปผู้อาวุโสซิมเมอร์มีท่าทางเกรี้ยวโกรธและตะคอกออกมาว่า “เอาล่ะ! ดูเหมือนว่าไซม่อน และครอบครัวของเขาจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงานมากพอจนไม่เชื่อฟังฉันแล้ว!”“พวกเขาคิดว่าพวกเราซิมเมอร์จะทำอะไรไม่ได้ถ้าไม่มีแมนดี้งั้นเหรอ?!”“แซ็ค! แกจะต้องเป็นผู้รับผิดงานนี้ สิ่งที่แกต้องทำคือพูดให้ดี แกไม่จำเป็นต้องได้โครงการกลับมา!” ผู้อาวุโสซิมเมอร์ประกาศออกมาแซ็คอยากที่จะปฏิเสธ แต่ก็ยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสซิมเมอร์ในประโยคหลังหากสิ่งที่เขาต้องทำคือส่งไปทักทายและสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริหารของ สกาย คอร์ปอเรชั่น ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แซ็คเชื่อว่าเขาเป็นมืออาชีพในเรื่องนี้มากพอเขาตบลงที่หน้าอกของเขาและพูดว่า “คุณปู่ไม่ต้องกังวล! แมนดี้คิดว่าเราจะทำอะไรไม่ได้โดยไม่มีเธอ แต่ผมจะแสดงให้เธอไม่มีค่าอะไรเลย!”“ต่อให้ไม่มีเธอ เ
สีหน้าของฌอน และแซ็คเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำพวกเขาหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง พวกเขามาด้วยความทะเยอทะยานสูงมากแล้วพวกเขาควรจะต้องตอบสนองอย่างไรออกไปเมื่อได้รับข่าวว่าตระกูลของเขากำลังเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย?ในตอนนั้นเองพนักงานคนนั้นคิดอะไรบางอย่างและยิ้มออกมา“คุณคงมาจากบริษัทของซิมเมอร์ในนิอัมมี่ ผมต้องขอโทษด้วยที่ล่วงเกิน คุณนายแมนดี้ ซิมเมอร์ อยู่ที่นี่ด้วยหรือเปล่า?”“ฮะ?”สองพ่อลูกถึงกับงงในคำถามนี้ ทำไมถึงถามถึงแมนดี้?แซ็คครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพูดออกไปอย่างระมัดระวังว่า “บอส ผมชื่อแซ็ค ซิมเมอร์ เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทของตระกูลซิมเมอร์”“แมนดี้เคยเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงินของตระกูลซิมเมอร์มาก่อน แต่เธอได้ทำผิดพลาดร้ายแรงและถูกไล่ออกไปแล้ว”“ทำไมถามถึงเธอล่ะ?”พนักงานคนนั้นดูโล่งใจเมื่อได้ยินแบบนั้น“เยี่ยม! เนื่องจากเธอถูกไล่ออกไปแล้ว เรื่องนี้ก็คงจะง่ายกว่าเดิม”แววตาของสองพ่อลูกเป็นประกาย พวกเขาคงกำลังจะได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้วใช่ไหม?“เนื่องจากคุณนายซิมเมอร์ไม่ได้ทำงานให้กับบริษัทนี้อีกต่อไป โปรดเตรียมรับมือกับกระบวนการล้มละลายในวันพรุ่งนี้ ผมจะม
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองพ่อลูกก็ถูกไล่ออกจากตึกการแสดงออกของพ่อและลูกชายดูแย่และถมึงทึงน่ากลัวเมื่อพวกเขายืนอยู่บนถนน“ผู้หญิงส่ำส่อน แมนดี้ต้องมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเจ้าชายยอร์กแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นทำไมพนักงานคนนั้นถึงกับต้องให้เกียรติเธอด้วย?!”“แล้วเธอยังเป็นเพื่อนกับอีวอนน์ด้วยงั้นเหรอ? หยุดโกหกสักทีเถอะ!”แซ็คกำลังกัดฟันของเขาฌอนเอามือกุมศีรษะแล้วพูดว่า “เราเจอปัญหาใหญ่แล้ว ถ้าเราไม่ให้นังผู้หญิงส่ำส่อนแมนดี้ได้อำนาจของเธอกลับคืนมา เธอจะไม่ช่วยเหลือซิมเมอร์แน่”“เราทำให้พวกเขาหมดอำนาจไปได้แล้ว แต่ตอนนี้เราต้องยอมแพ้อย่างนั้นเหรอ?”พ่อลูกมองหน้ากัน และเห็นความขุ่นเคืองในดวงตาของพวกเขาพวกเขาคิดว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเมื่อมาถึงบัควู้ด แมนดี้จะไม่สามารถทำให้พวกเขาทำตามคำสั่งของเธอได้อีกต่อไปใครจะรู้ว่าพวกเขาจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากเธอในวันเดียวกับที่เธอถูกไล่ออกจากซิมเมอร์***ที่วิลล่าซิมเมอร์ ในบัควู้ดผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่เคยออกจากวิลล่าเลย ทันทีที่เขาเห็นฌอนและแซ็ค เขาก็เดินเข้าไปหาพวกเขาทันทีและถามว่า “แซ็ค เป็นไงบ้าง? สกาย คอร์ปอเรชั่น ทำเรื่องยุ่งยากให้พวกนายสอง
ไซม่อนและลิเลียนรู้สึกงงกับท่าทีที่เห็นในระหว่างนั้นขณะที่ซินเธียร์กำลังดูโทรทัศน์และเล่นโทรศัพท์ของเธอไปด้วยนั้น“ถ้านายมาหาพี่สาวฉันล่ะก็ ตอนนี้เธอไม่อยู่บ้าน”ควินน์ยิ้มและพูดว่า “ซีนเธียร์ เธอช่วยบอกพี่หน่อยได้ไหมว่าพี่สาวของเธอไปไหน?”ซินเธียร์ส่ายหัว“ฉันไม่แน่ใจ เธอออกไปกับฮาร์วีย์ตั้งแต่เช้าตรู่ ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาไปที่ไหน?”“เข้าใจแล้ว คุณลุงคุณป้าคะ ซินเธียร์ งั้นพวกเรากลับก่อนนะคะ“รบกวนได้โปรดโทรหาเราหน่อยนะคะ ถ้าเมื่อแมนดี้กลับมาถึงบ้านแล้ว!”ทั้งสามโค้งคำนับ แม้มันจะรู้สึกกระอักกระอวนใจ แต่พวกเขาก็วางของขวัญไว้และออกมาซินเธียร์ไม่ได้สนใจอะไร แต่ไซม่อนและลิเลียนกลับมองหน้ากันไปมาด้วยใบหน้าที่ดูสับสน“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเขาต้องเอาของขวัญมาให้เราด้วย? พวกเขาจะใช้มันปิดปากพวกเราอยู่งั้นเหรอ?” ไซม่อนพูดพลางขมวดคิ้ว“แล้วจะทำยังไงถ้าพวกบ้านั่นกลับมาอีก? หรือว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์ขอความช่วยเหลือจากเรา? ผมอ่านใจเขาไม่ออก!”ลิเลียนรู้สึกสับสนจากนั้นเธอก็เปิดกล่องออกดูด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย“ที่รัก ไวน์พวกนี้มาจากโกลด์โคสต์ของประเทศ Z—บลูริบบ้อนไวน์กับช็อค
โทรศัพท์ของแมนดี้ปิดเครื่อง ขณะที่ฮาร์วีย์ไม่รับสายในขณะนั้น แซ็คและคนอื่น ๆ ถึงกับพูดไม่ออกถ้าพวกเขารู้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น พวกเขาจะปฏิบัติกับแมนดี้และครอบครัวของเธออย่างดีผู้อาวุโสซิมเมอร์โทรหาแซ็คอีกครั้งแซ็คแสดงความไม่พอใจออกมา แต่เขายังต้องกดรับสายผู้อาวุโสซิมเมอร์“คุณปู่ ไม่ใช่ว่าเราไร้ความสามารถ แต่เราไม่รู้ว่าไอ้ขยะไร้ค่านั่นอยู่ที่ไหน ฮาร์วีย์พาแมนดี้ไป!”“เราพยายามโทรหาพวกเขา แต่พวกเขาไม่รับสาย โทรศัพท์ทั้งสองคนปิดเครื่อง!”“แม้แต่คุณลุงกับคุณป้าก็ไม่รู้ว่าทั้งสองคนไปไหน!”มือของผู้อาวุโสซิมเมอร์ที่ถือโทรศัพท์อยู่นั้นสั่นทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้นถ้าหากพวกเขาหาแมนดี้ไม่เจอ ตระกูลซิมเมอร์ก็จะล้มละลายหากเป็นเช่นนั้น ความพยายามทั้งหมดของเขาตลอดในช่วงครึ่งชีวิตที่ผ่านจะสูญเปล่า!“รีบไปหาพวกเขาให้เจอ! ไปเดี๋ยวนี้ ต้องหาให้เจอก่อนพรุ่งนี้เช้า!”“ถ้าไม่ ทั้งตระกูลจะต้องออกไปนอนตามท้องถนนแน่!”“แกจะรับผิดชอบความผิดพลาดนี้ได้ไหม?!”แซ็คไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงในเรื่องนี้ได้ หากตระกูลของเขาล้มละลาย เขาจะได้มีชีวิตสะดวกสบายและมั่งคั่งอีกได้อย่างไร?เขาอยากกระโ
แมนดี้เข้าออกร้านค้าหลายร้อยแห่ง เธอลองสื้อผ้าที่เธอชอบ แต่เมื่อเห็นป้ายราคาเธอกลับซื้อไม่ลงนั่นเพราะโอลเด้น เทรดขายเฉพาะสินค้าแบรนด์หรู ที่นี่จะไม่มีอะไรที่ราคาถูกเลยแต่สำหรับเธอ การได้ลองเสื้อผ้าเพียงอย่างเดียวก็ทำให้เธอรู้สึกดีแล้วในทางกลับกัน ฮาร์วีย์ที่คอยเดินตามเธอคอยจดจำเสื้อผ้าที่แมนดี้ลองสวม แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาแมนดี้รู้สึกพอแล้วที่ได้ลองเสื้อผ้ามาเรื่อย ๆ จนถึงร้านสุดท้ายเธอรีบวิ่งไปหาฮาร์วีย์และยิ้มให้อย่างมีความสุข“กลับบ้านกันเถอะ หลังจากลองเสื้อผ้าที่ร้านนี้เสร็จ”“ตามใจคุณเลยครับ”ฮาร์วีย์ยิ้มโดยไม่คิดจะปฏิเสธเธอพวกเขากำลังจะเดินเข้าไปในร้านในจังหวะที่มีชายหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยผู้หญิงคนนั้นมีรูปร่างที่มีเสน่ห์ แต่งหน้าจัดจ้าน จนแทบไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอชายคนนั้นสวมเสื้อยืดและรองเท้าแตะพร้อมพวงกุญแจห้อยอยู่ที่เอว ดูเหมือนว่าเขาน่าจะเป็นหนึ่งในคนที่ร่ำรวยของบัควู้ดผู้หญิงคนนั้นเดินเข้าไปในร้านและขอให้ผู้ช่วยร้านจัดเสื้อผ้าที่เธอชอบโดยไม่ได้ดูป้ายราคาด้วยซ้ำนั่นทำให้ผู้ช่วยร้านยิ้มอย่างสงวนท่าทีขณะคอยรับใช้ผู้หญิงคนนั้นด้วยความสุภาพเป็นพิเ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข