คงจะคิดไม่ถึงที่ฮาร์วีย์จะเดินทางกลับมายังบัควู้ดด้วยเที่ยวบินชั้นประหยัด แทนที่จะเช่าเหมาลำกลับมาเขาไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตระกูลยอร์กหรือไม่ แต่ข่าวที่เขากำลังจะกลับมานั้นถูกแหล่งข่าวลับแพร่ข่าวรั่วไหลออกมาฝูงชนขนาดมหึมารวมตัวกันที่สนามบินเพื่อรอเขาฮาร์วีย์ไม่รีบร้อนออกไปและถามอีวอนน์ว่า “อีวอนน์ คุณตรวจสอบเรื่องนี้หรือยัง?”อีวอนน์ที่เดินทางมาที่บัควู้ดล่วงหน้าแล้วเมื่อสองสามวันก่อนเพื่อจัดการทุกอย่าง เธอขมวดคิ้วและตอบว่า “ท่านประธานคะ กำหนดการเดินทางของคุณเป็นความลับระหว่างเรา ฉันไม่สามารถหาแหล่งข่าวที่ปล่อยข่าวนี้ให้รั่วไหลออกมาได้ค่ะ”“แต่เมื่อเที่ยวบินของคุณถึงสนามบิน มิสควีนนี่ส่งข้อความมาค่ะ”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ “เธอบอกว่าอะไร?”ควีนนี่เป็นลูกสาวบุญธรรมของตระกูลยอร์ก แต่สถานะของเธอในตระกูลสูงพอสมควร และมีบทบาทสำคัญในเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปีที่ฮาร์วีย์ถูกขับไล่ออกมาอีวอนน์ลังเลก่อนที่จะบอกเขาออกมาในที่สุด “เธอบอกว่าราชากลับมาแล้ว”“น่าสนใจ จัดหาเวลาให้ผมได้พบกับเธอ” ฮาร์วีย์ได้ตอบกลับว่า “ผมอยากรู้ว่าพี่สาวแสนดีของผมเตรียมของขวัญแบบไหนไว้ให้”อีวอนน์พยัก
ตอนแรกเบรนท์ก็ไม่ได้ให้ความสนใจที่จะมางานเลี้ยงนี้ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลของเขาบังคับให้เขาทำภารกิจนี้ เขาคงจะไม่มาทว่าในเวลานี้ เขารู้สึกว่าเขาคิดถูกที่มาเบรนท์เป็นคนเจ้าเล่ห์ เขาเพ้อฝันถึงแมนดี้และซีนเธียร์ แต่เขาทำตัวปกติ และยังอยู่ในชุดที่สง่างามเขาชนแก้วแมนดี้ เขาพูดว่า “ผู้อาวุโสซิมเมอร์ ในค่ำคืนนี้ผมขอแสดงความยินดีกับตระกูลซิมเมอร์ในนามของตระกูลซิลวา!”“ตระกูลซิมเมอร์คือที่สุดของที่สุด ตอนนี้คุณเป็นคนสำคัญในโลกธุรกิจของบัควู้ด คุณจะเป็นส่วนหนึ่งของแวดวงตระกูลระดับสูงของบัควู้ดในอนาคตอันใกล้นี้ นี่คือคำอวบพรสำหรับคุณ ผู้อาวุโสซิมเมอร์”ผู้อาวุโสซิมเมอร์ตื่นเต้นมากจนมือไม้สั่นเบรนท์มาจากตระกูลซิลวา!ซิลวาไม่เพียงแต่จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำต้อนรับให้กับตระกูลซิมเมอร์เท่านั้น แต่เบรนท์ยังได้ฉลองให้เป็นการส่วนตัวอีกด้วย นี่เป็นสิทธิพิเศษที่เหนือความคาดหมายจริง ๆ “เป็นเกียรติของตระกูลจริง ๆ มิสเตอร์ซิลวา ตระกูลซิลวาจะต้องได้ร่วมมือโครงการอีกมากมายกับพวกเราตระกูลซิมเมอร์ในอนาคต!”ผู้อาวุโสซิมเมอร์พูดด้วยใบหน้าแดง ๆเบรนท์หันไปมองแมนดี้ จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “เปลี่ยนเรื่อง
“ใช่ ฉันได้ยินมาว่ามีคนสำคัญของบัควู้ดเดินทางกลับมาที่นี่แล้ว เขามาถึงสนามบินในตอนบ่าย ตระกูลซิมเมอร์โชคดีจริง ๆ บางทีพวกคุณอาจมาถึงพร้อม ๆ กับเขา!”“ว่ากันว่าทายาทของตระกูลเฟิร์สคลาสอย่างไนส์เวลล์และคลาวด์ต่างก็มาที่นี่เพื่อเฝ้ารอพบเจอกับคน ๆ นั้น น่าเสียดายที่พวกเขาไม่เจอเขา!”“แล้วนี่อะไร! ฉันเห็นควีนนี่จากตระกูลยอร์กที่นั่นด้วย ดูเหมือนเธอจะมารอที่สนามบินมาหลายชั่วโมงแล้ว แต่ช่างโชคร้ายที่เธอก็ไม่ได้พบเขา”“เป็นไปได้ไหมที่ตระกูลซิมเมอร์ได้เจอเขา?”ผู้อาวุโสซิมเมอร์ยังคงนิ่งเงียบจากนั้นเขาก็พยักหน้าและยิ้มให้กับฝูงชนที่กรูเข้ามาสอบถามเขา “ทุกคน หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักเขาแล้ว ตระกูลของเราส่งบัตรเชิญให้เขา พวกเราก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าเขาจะมางานเลี้ยงของเราหรือเปล่า?”“มันจะเป็นไปได้ยังไง ที่คนสำคัญ ๆ อย่างเขาจะมางานเลี้ยงแบบนี้?”“เป็นคนที่แม้แต่พวกตระกูลยอร์กก็ไม่ควรได้พบเจอ!”ไม่มีใครเชื่อเขาผู้อาวุโสซิมเมอร์รู้สึกไม่สบายใจ เขาเองก็อยากจะลองพบกับคนลึกลับคนนี้เหมือนกันทันใดนั้นฌอนก็รีบวิ่งเข้าไปหาผู้อาวุโสซิมเมอร์ “พ่อครับ คน ๆ นั้นโทรมาบอกว่าเขาจะมาที่งานเลี้ยงต้อนรั
ทันใดนั้น พวกซิมเมอร์ก็เริ่มแสดงสีหน้าแปลก ๆลิเลียนเม้มปากของเธอแน่น “ฉันลืมไปแล้วว่าไอ้สารเลวไร้ประโยชน์นี้ยังไม่มา!”ลูกเขยตนนี้ไม่รู้หรือไงว่าที่ของตัวเองควรอยู่ตำแหน่งไหน?เขาไม่รู้หรือว่านี่เป็นงานอะไร? เขากล้าก้าวเข้ามาได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น เขาเข้ามาด้วยท่าทางเย่อหยิ่งอีก!บ้าที่สุด!ลิเลียนอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ไซม่อนอย่างโกรธแค้นถ้าไม่ใช่เพราะความขี้ขลาดของเขาที่นิอัมมี่ เธอคงจะขับไล่ลูกเขยคนนี้ออกไปนานแล้ว!เขาไม่เห็นหรือไงว่าเบรนท์ตกหลุมรักลูกสาวของพวกเขา?นั่นเป็นโอกาสที่ดีมาก!ทว่าทุกอย่างก็ถูกทำลายโดยไอ้คนสารเลวคนนี้!สำหรับไซม่อน แววตาของเขาดูมืดมนที่นิอัมมี่ ผู้อาวุโสซิมเมอร์ทิ้งคำพูดสุดท้ายเอาไว้ อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ที่บัควู้ดเขาต้องไล่ไอ้สารเลวคนนี้ออกไป!ฮาร์วีย์เมินสายตาแปลก ๆ จากฝูงชนและเดินเข้าไปหาผู้อาวุโสซิมเมอร์“ขอแสดงความยินดีผู้อาวุโสซิมเมอร์ ตระกูลซิมเมอร์ได้มาเยือนบัควู้ดอย่างเป็นทางการในวันนี้”ฮาร์วีย์พูดด้วยรอยยิ้มคลุมเครือและแฝงความหมายน่าเสียดายที่ไม่มีใครเข้าใจความหมายที่แท้จริงเบื้องหลังคำพูดของเขาหางตาของผู้อาวุโสซิมเม
“นี่คือลูกเขยพวกเขาใช่ไหม? ดูซิว่าพวกซิมเมอร์ปฏิบัติกับเขายังไง! เหมือนเขาไม่มีค่าอะไรเลย!”“เสื้อผ้าของเขาก็เก่า ๆ โทรม ๆ ฉันพนันได้เลยว่าเขาไม่มีเงินใช้”“สำหรับคนไม่มีอันจะกินแบบเขา หนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ก็ช่วยให้เขาใช้ชีวิตอยู่ได้นาน ฉันมั่นใจเลยว่าเขาจะยอบรับเงินนั่น”“แต่ตระกูลซิมเมอร์นั้นน่าสนใจจริง ๆ คิดจัดงานแบบนี้ขึ้นมาเพื่อเอาใจทุกคน ฮ่าฮ่าฮ่า…”ฮาร์วีย์ถึงกับพูดไม่ออกทุกคนกำลังพูดคุยกันและมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาที่ดูถูกดูแคลนทุกคนต่างรอคอยดูว่าลูกเขยอย่างเขาจะคุกเข่าหรือไม่แซ็คตะโกนออกมาอย่างดุเดือดอีกครั้ง “คุกเข่าแล้วขอร้องฉันสิ!”ตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วตอนนี้แซ็คมีคนเก่ง ๆ หลายคนคอยสนับสนุนเขาแซ็คคิดว่าฮาร์วีย์คงจะไม่กล้าทำอะไรเขาฮาร์วีย์จ้องไปที่แซ็คแต่ไม่พูดอะไร ในแววตาของเขามีเพียงความเย็นชาออกมาให้เห็น“คุกเข่าเดี๋ยวนี้!”แซ็คกดไหล่ฮาร์วีย์ด้วยมือข้างเดียว บังคับให้ฮาร์วีย์คุกเข่าแต่ฮาร์วีย์ไม่แม้แต่จะเคลื่อนไหวเลย“คุกเข่า!”แซ็คใช้กำลังทั้งหมดผลักฮาร์วีย์ลงไปที่พื้น“เพียะ!”ฮาร์วีย์ยกมือขึ้นตบไปที่แซ็คอย่างแรงจนแซ็คเซถอยออกไปเกือบเจ
ฌอนตอบด้วยสีหน้างุนงง “ตอนนี้เขาน่าจะมาถึงแล้ว ผมจะโทรไปถามเลขาของเขา?”ไม่นานสีหน้าของฌอนก็ซีดเผือดและเขาก็วางสายลง เขาพูดว่า “พ่อครับ คน ๆ นั้นมาถึงแล้ว เขาเพิ่งออกไป”“อะไรนะ? เขามาที่นี่แล้วงั้นเหรอ?”“คน ๆ นั้นบอกว่าตระกูลซิมเมอร์โง่เง่าเกินไป…”“ฉันเข้าใจแล้ว! เขาคงมาเห็นฮาร์วีย์งี่เง่าคนนั้นสร้างปัญหา นั่นเป็นเหตุผลที่เขาจากไปอย่างหงุดหงิด!”“คงเป็นเพราะตระกูลซิมเมอร์ไม่ให้เกียรติเขา!”ผู้อาวุโสซิมเมอร์ตะโกนว่า “ฮาร์วีย์ แกมันสารเลวที่สุด ไปตายซะ!”ทุกคนในงานเลี้ยงตกใจกับท่าทีของผู้อาวุโสซิมเมอร์ฮาร์วีย์ ทำให้คนสำคัญคนนั้นโกรธจัด!การกระทำของเขากำลังทำลายตระกูลซิมเมอร์!ฮาร์วีย์เป็นคนบาปใหญ่หลวงของตระกูลซิมเมอร์!ตอนนี้ พวกซิมเมอร์ต่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน อยากจะสับร่างฮาร์วีย์เป็นชิ้น ๆ ผู้อาวุโสซิมเมอร์หันกลับมามองไซมอน เขาพูดอย่างชั่วร้ายว่า “ฉันเห็นด้วย! ฉันอนุญาตให้หย่า!”“ให้แมนดี้หย่ากับมัน แล้วไล่มันออกไป!”“เมื่อมันออกจากตระกูลซิมเมอร์แล้ว ฉันอยากให้ชีวิตของมันต้องตกนรกทั้งเป็น!”ผู้อาวุโสซิมเมอร์เต็มไปด้วยแววอาฆาตแค้นแมนดี้ที่ยืนอยู่ข้างหลังมีสีหน้าซีดเผ
ไซม่อน ซิมเมอร์เย้ยหยัน “ฮาร์วีย์ ยอร์ก ไม่ใช่ว่าฉันอยากคุยกับแกหรอกนะ คิดดูสิ แกเป็นอะไรตอนที่อยู่ในนิอัมมี่หลายปีก่อน?”“ขยะ! ไอ้ขี้แพ้! สวะ! ผู้คนเรียกกว่าไว้แบบนั้น!”“ปกป้องแมนดี้เหรอ? ปกป้องแม้กระทั่งตระกูลซิมเมอร์งั้นเหรอ?”“แกจะปกป้องเรายังไง?”“ใช้ปากแกงั้นเหรอ?!”ลิเลียน เยทส์ก็เย้ยหยันด้วยเช่นกัน “จะเชื่อคุยโม้ของแกได้อย่างไร? ฮาร์วีย์! ฉันขอร้องเถอะ โม้ให้มันมีขีดจำกัดบ้าง!”ฮาร์วีย์ยิ้ม “พ่อ แม่ สถานการณ์ตอนนี้ทันต่างจากนิอัมมี่นั่นแล้ว”“ผมต้องยอมแพ้ในนิอัมมี่”“แต่ตอนนี้ ผมกลับมาที่นี่ในบัควู้ดแล้ว ราชากลับมาแล้ว!”แม้แต่แมนดี้ ซิมเมอร์ก็ทนฟังไม่ไหวอีกแล้วในครั้งนี้หล่อนจ้องไปที่ฮาร์วีย์และพูดว่า “ฮาร์วีย์! คุณช่วยอยู่กับความจริงมากกว่านี้หน่อยได้ไหม?”“ราชากลับมาแล้ว?!”“แม้ว่าคุณมีความสามารถ คุณก็ยังคงต้องทำงานหนักและก้าวหน้าแค่เล็กน้อย!”“ฉันคิดว่าคุณเปลี่ยนไปแล้วตอนนี้ แต่สุดท้ายก็ยัง คุณยังคงเป็นเหมือนเดิมแบบนี้”“คุณช่วยเอานิสัยขี้โม้ออกไปได้ไหม?”“ช่วยทำให้มันง่ายขึ้นสักนิดเพื่อฉันได้ไหม?”ฮาร์วีย์ถอนหายใจและพูดอย่างรอบคอบ “แมนดี้ คุณต้องเชื่อผมนะ
“หุบปากซะ! ฉันไม่อยากฟังเรื่องจินตนาการที่ไร้ความจริงพวกนี้!”“ฮาร์วีย์ คุณอายุเท่าไหร่แล้ว? ยังคิดว่าตัวเองยังคงเป็นเด็กสามขวบหรือไง?”“เราอยู่ในความเป็นจริงหน่อยไม่ได้หรือไง?”“แม้ว่าคุณไม่มีอะไร ตราบใดที่คุณก้าวทีละก้าว ฉันเชื่อว่าคุณทำได้!”แมนดี้ ซิมเมอร์ ถอนหายใจฮาร์วีย์ ยอร์กอ้าปากแต่ไม่รู้จะพูดอะไรในครั้งนี้ แมนดี้จะไม่เชื่ออะไรก็ตามที่เขาพูดแมนดี้ดึงสูทออกจากตู้เสื้อผ้า “ฉันซื้อนี่มาให้คุณ ไว้ใส่วันพรุ่งนี้และไปงานเลี้ยงตระกูล”“ฉันจะขอร้องปู่ของฉันและขอให้เขาให้โอกาสคุณอีกครั้ง!”“แต่คุณต้องจำไว้ว่าคุณจะบ้าเหมือนวันนี้ไม่ได้ เข้าใจไหม?”ฮาร์วีย์ถอนหายใจและพูดว่า “โอเค ผมจะเชื่อฟังคุณ”เขารู้สึกช่วยไม่ได้หลังจากกล่าวแบบนี้ด้วยเหมือนกันในนิอัมมี่ เขาเคยพูดว่าเขาเป็นซีอีโอของยอร์ก เอ็นเตอร์ไพรส์ แต่แมนดี้ปฏิเสธที่จะเชื่อเขาตอนนี้ที่เขามาที่บัควู้ด เขาพูดว่าเขาจะปกป้องตระกูลซิมเมอร์ แมนดี้ก็ยังคงไม่เชื่อเขาไม่ใช่แค่แมนดี้ที่ไม่เชื่อเขา แต่ทั้งตระกูลซิมเมอร์ต่างไม่เชื่อเขาด้วยเช่นกันฮาร์วีย์พูดไม่ออกจริง ๆ ***คืนที่เงียบสงัดคืนหนึ่งเช้าตรู่ในเช้าวันถัดไ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข