ฮาร์วีย์เหลือบมองสาวสวยสองคนนั้น“สวัสดีครับ”“เข้าไปข้างในกันเถอะแมนดี้ มีผู้คนรอคุณอยู่เยอะแยะเลย!”โจวี่ส่งสายตาให้เวียนนาก่อนจะลากแมนดี้เข้าไปข้างในฮาร์วีย์กำลังจะก้าวตามแมนดี้ไป แต่เวียนนาก้าวเข้าไปขวางเขาเอาไว้“มีอะไรเหรอครับ?” ฮาร์วีย์ถามพร้อมกับยิ้ม“ฉันหวังว่าคุณจะเลิกเกาะแมนดี้สักทีนะ คุณหย่ากันแล้วนี่นา คุณไปอยู่ในที่ในทางของคุณจะดีกว่า”น้ำเสียงของเวียนนาฟังดูเย็นชาราวกับน้ำแข็ง“ผู้คนควรจะตระหนักรู้ในตนเอง! คุณไม่รู้เหรอว่าตระกูลซิมเมอร์นั้นไม่ต้องการคุณ?“ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!“ท้ายที่สุดแล้วไอ้คนบ้านนอกอย่างคุณไม่มีสิทธิ์เข้าไปสังสรรค์กับชนชั้นสูงอย่างเรา”“คุณไม่มีสิทธิ์มาพูดคุยเรื่องของแมนดี้และเรื่องราวของผม” ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น“เธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! แน่นอนว่าฉันต้องพูดถึงเรื่องนี้!”เวียนนาเชิดคางอันงดงามของเธอขึ้น สีหน้าของเธอมีแต่ความดูถูกเหยียดหยัน“คุณมีแต่หาประโยชน์เข้าตัวเองก็เพราะแมนดี้เป็นคนดีนี่แหละ!“จริง ๆ แล้วคุณยังหล่อไม่พอ ยังเก่งไม่พอ และยิ่งเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ก็ไม่ต้องพูดถึง! แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรที่จะคบหากับแมนดี้ล่ะ?“แมนด
ในขณะเดียวกันในห้อง 888 บนชั้นสอง...ฮาร์วีย์แลคนอื่น ๆ ผลักประตูอันหรูหราเข้าไป มีผู้คนอยู่ในห้องนั้นมากมายคนพวกนั้นสวมเสื้อผ้าหรูหราและเครื่องประดับราคาแพงตั้งแต่หัวจรดเท้า และมีสีหน้าที่ดูสนุกร่าเริงเป็นอย่างมากพวกผู้หญิงต่างประโคมเครื่องเพชรเม็ดเป้งกันเต็มตัว ในขณะที่พวกผู้ชายก็สวมอะไรที่ดูวิบวับราคาแพงบนข้อมือรังสีออร่าที่พวกเขาเปล่งออกมานั้นเป็นอะไรที่ดูร่ำรวยและฟู่ฟ่ามาก คนธรรมดา ๆ เทียบไม่ติดเลยพวกเขาหันหน้ามาทันทีที่แมนดี้และคนอื่น ๆ เดินเข้ามาผู้คนมากมายมีดวงตาเป็นประกายเมื่อเห็นใบหน้าอันงดงามของแมนดี้ชายหนุ่มสองสามคนที่เซ็ตผมมาอย่างดีมองดูเธอด้วยสายตาชื่นชมปนหวาดกลัวแน่นอนว่าคนสวยราวเทพธิดาอย่างแมนดี้นั้นค่อนข้างหาได้ยากยิ่ง ในสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานอย่างโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้“แมนดี้, โจวี่, เวียนนา พวกคุณมากันแล้ว"ชายหนุ่มที่มีศีรษะล้านเล็กน้อยเดินออกมารูปลักษณ์ของเขาดูไม่มีเสน่ห์เอาเสียเลย แถมรูปร่างก็ยังไม่ได้มาตรฐานอีก ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยแบรนด์หรู และสวมแหวนทองวงเบ้อเริ่มเอาไว้ด้วย ใบหน้าของเขาดูเป็นมันเยิ้ม เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่ร่ำร
แมนดี้ยิ้มจาง ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของโธมัส“อย่ามาล้อกันเล่นน่าคุณเบอร์ตัน เดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดเอาได้นะคะ”“เข้าใจผิดเหรอ? มีอะไรให้เข้าใจผิดล่ะ?"โธมัสระเบิดหัวเราะออกมา“แวดวงธุรกิจที่นี่ต่างรู้ดีว่าซีอีโอซิมเมอร์เป็นผู้หญิงสวยและใจดี! ผมก็ได้ตามตื๊อคุณมาสักพักแล้วนะ!“ฝันไปเถอะ!” โจวี่ส่งเสียงไม่พอใจ“แมนดี้มีแฟนแล้ว!“นี่คือฮาร์วีย์ ยอร์ก! ลูกเขยที่ชอบเกาะผู้หญิงในตำนานไงคะ เขาเป็นสามีเก่าของแมนดี้“ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาจะกลับมาแต่งงานกันอีกครั้ง“คนโสโครกอย่างเขาไม่มีโอกาสหรอก!”ผู้ชายทุกคนต่างอ้าปากค้างหลังจากได้ยินคำพูดของโจวี่แม้แต่โธมัสก็ยังตกตะลึงเมื่อมองดูฮาร์วีย์ เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินเลยไม่มีใครคิดว่าผู้ชายหน้าตาธรรมดา ๆ อย่างนี้คือสามีในตำนานของแมนดี้จริง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้ยินมาว่าป้าเยตส์ไม่ชอบเขาเอาซะเลย จึงยากที่จะบอกว่าการแต่งงานกันอีกครั้งจะประสบความสำเร็จหรือเปล่า"เวียนนาอวดร้อยยิ้มจาง ๆ“ถ้าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับฉันล่ะก็ เมื่อดูจากมาตรฐานของแมนดี้แล้ว เธอน่าจะเตะผู้ชายคนนี้ลงขอบถนนไปได้แล้ว!“ผู้ชายคนไหน ๆ ก็ย่อมดีกว่าไอ้เศษสวะแบบ
โจวี่รีบส่งสายตาให้เวียนนาเมื่อได้ยินคำพูดของแมนดี้“เวียนนา! เธอพูดอย่างนั้นไม่ได้นะ!” เธอร้องบอก“เราต่างก็เป็นเพื่อนกันนะ!“ไม่ต้องไปสนใจพวกเขาหรอก! เราควรดูว่านายน้อยซาบันจะมาเมื่อไหร่ดีกว่า“เพราะท้ายที่สุดแล้วเรามาที่นี่ก็เพื่อหานักลงทุนใจดีให้กับแมนดี้นะ"ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อก่อนจะเหลือบมองแมนดี้'ทำไมเธอถึงยังต้องการนักลงทุนใจดีอยู่ล่ะ ในเมื่อฉันทวงหนี้ให้เธอได้แล้วนี่?'โธมัสก็ตัวแข็งทื่อเช่นกัน“เกิดอะไรขึ้นเหรอแมนดี้?“คุณเป็นหัวหน้าสาขาที่เก้าของตระกูลฌองนะ! คุณมาที่นี่เพื่อทำการขยายธุรกิจของคุณ!“ช่วงนี้คุณมีปัญาเรื่องเงินทุนเหรอ?”“ใช่ค่ะ มีปัญหามาสักพักแล้ว"แมนดี้กัดลิ้นตัวเองพร้อมกับทำสีหน้าเคอะเขินเธอไม่อยากให้ฮาร์วีย์รู้เรื่องนี้ แต่ในเมื่อเขามาอยู่ที่นี่แล้วเธอก็ไม่ใส่ใจในเรื่องนี้อีกต่อไปโธมัสครุ่นคิดในเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็กัดฟันแน่น“คุณต้องการเท่าไหร่เหรอ? บอกผมให้รู้หน่อย"“คุณเคารพตัวเองบ้างได้ไหมโธมัส?!”เวียนนาเงยหน้าพร้อมส่งเสียงแหวออกไป“ทรัพย์สินทั้งบริษัทของคุณถูกอายัดอยู่! คุณยังคิดว่าจะมีปัญญาไปช่วยแมนดี้ได้อีกเหรอ?!”ธอมป์สั
โธมัสตกใจมากเมื่อได้ยินชื่อของไอดริสคุณกำลังพูดถึงนายน้อยของเอเวอร์กรีน แคปปิตอล กรุ๊ปเหรอ? บริษัทที่มีความทัดเทียมกับดีพสกาย คอร์ปอเรชั่นน่ะเหรอ?!“งั้นคุณก็ควรหาความรู้บ้างนะ!”โจวี่เชิดหน้าใส่โธมัส“คุณพูดถูกในเรื่องนั้นตระกูลของเขามีทรัพย์สินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และทั้งหมดนั้นเป็นเงินหมุนเวียนในธุรกิจ! จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะหยิบยื่นเงินสามร้อยล้านดอลลาร์ให้“ที่สำคัญกว่านั้นก็คือบริษัทนี้ก็เหมือนกับดีพสกาย คอร์ปอเรชั่นนั่นแหละ ที่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลลึกลับที่สุดในโกลด์เด้น แซนด์!“คุณรู้ไหมว่าบุคคลสำคัญคนนั้นคือใคร?”โธมัสขมวดคิ้ว“ผมไม่ค่อยรู้อะไรมากนักหรอก แต่อย่างน้อยผมก็รู้ว่าทั้งสองบริษัทนั้นมีตระกูลแจ็คสันซึ่งเป็นตระกูลลึกลับคอยหนุนหลังอยู่ อย่างน้อยตระกูลนั้นก็มีความทัดเทียมกับตระกูลพาเทลและตระกูลจอห์น“มีตำนานเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตระกูลแจ็คสันเคยถูกจัดให้เป็นหนึ่งในห้าตระกูลลึกลับ...“แต่เนื่องจากพวกเขามีความสุขุมรอบคอบ และชอบที่จะใช้เส้นสายอยู่เบื้องหลังเท่านั้น พวกเขาจึงไม่มีชื่ออยู่ในลิสต์“แต่ยังไงก็ตามอำนาจของพวกเขาในโกลด์เด้น แซน
"เดี๋ยวผมจะหาทางช่วยคุณเอง!“ผมไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอก...“แต่ถ้าผมขายสมบัติทุกอย่าง ผมก็คงได้เงินถึงสามสิบล้านนะ"โธมัสกัดฟันกรอดพร้อมกับทำสีหน้าที่ดูเด็ดเดี่ยว“คุณไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ผมหรอกนะ แค่ใช้มันให้ผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ก็พอ“ผมจะหาวิธีอื่นมาช่วยอีก“ไม่ว่าจะยังไงก็ตามคุณห้ามยืมเงินจากไอดริสเด็ดขาด!”แมนดี้ตัวแข็งทื่อ แต่จากนั้นเธอก็ส่ายหัว“ฉันเอาเงินของคุณไม่ได้หรอกค่ะคุณเบอร์ตัน“คุณจะทำลายโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้ถ้าคุณทำอย่างนั้น! ฉันรับไม่ได้หรอกค่ะ!”โธมัสทำสีหน้าที่ดูเป็นคนชอบธรรม“ผมก็แค่ตอบแทนความเมตตาด้วยความเมตตาเท่านั้นแหละ“คุณคือคนที่ช่วยผมให้ผ่านสถานการณ์ยากลำบากมาก่อน! ผมจะเดินหนีคุณไปตอนนี้ไม่ได้หรอก!“ผมตัดสินใจแล้ว!”“หุบปากไปเลย!“มีใครขอความคิดเห็นจากคุณเหรอ?!” โจวี่ร้องคำรามด้วยสีหน้าที่ดูรำคาญใจเป็นอย่างมาก“คุณไม่มีเงินพอจะซื้อหลุมฝังศพของตัวเองด้วยซ้ำไป แต่ยังพยายามจะไปช่วยคนอื่นอีกเหรอ?“คุณรู้ไหมว่าตระกูลของแมนดี้นั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน? เงินของคุณก็แค่เศษเงินในกระเป๋าของเธอเท่านั้น!“ฉันขอเตือนคุณนะ! ถ้าทำให้ธุรกิจของแมนดี้เกิดความเ
ในขณะเดียวกันเวียนนาก็รีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้ววางหน้าอกอันอวบอั๋นของเธอไว้บนแขนของไอดริส“ขอบคุณที่อุตส่าห์มาถึงที่นี่นะคะนายน้อยซาบัน!“ฉันขอมอบเรือนร่างทั้งหมดนี้ให้คุณเพื่อเป็นการตอบแทน!”“พอกันได้แล้วทั้งสองคน"ไอดริสจ้องมองพวกเขาด้วยสีหน้าที่ดูรำคาญมาก“คุณบอกว่ามีสาวสวยที่กำลังต้องการเงิน ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนล่ะ?”“อยู่ที่นี่แล้วค่ะนายน้อยซาบัน!”โจวี่รีบลากแมนดี้ที่ยังอารมณ์ไม่ดีอยู่ออกไป“แมนดี้ นี่คือนายน้อยซาบัน"แมนดี้เริ่มเข้าใจความคิดของไอดริสขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว เธอคาดคะเนได้ว่าโธมัสน่าจะพูดความจริง...แต่ยังไงก็ตามเธอไม่มีทางเลือกอื่นเมื่อพิจารณาจากทรัพย์สินของสาขาที่เก้าแล้ว“สวัสดีค่ะ" เธอพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มจาง ๆ“ฉันเป็นคนที่ขอความช่วยเหลือจากคุณเองค่ะ"“โอ้! คุณช่างเป็นคนสวยจริง ๆ! คุณเป็นหัวหน้าสาขาที่เก้าของตระกูลฌองด้วย ตัวตน สถานะ และรูปโฉมช่างดูเหมาะเจาะกับคุณเหลือเกิน ไม่เลว...ไม่เลวเลย!”แน่นอนว่าไอดริสรู้อยู่แล้วว่าแมนดี้เป็นใครแต่ถึงกระนั้นด้วยความที่มีตระกูลแจ็คสันคอยหนุนหลังอยู่ ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ให้ความเคารพสิบตระกูลชั้นนำเลย“เราท
"ใช่แล้ว ลองคิดดูสิ! ที่นี่มีแต่คนปากปราศรัยใจเชือดคอกันทั้งนั้นเลยนะ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คุณจะหาเงินได้มากขนาดนี้!“เงื่อนไขของเขาฟังดูไม่สมเหตุสมผลนิดหน่อยเอง แต่ก็มีความเป็นไปได้มากที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ โดยส่วนใหญ่"เวียนนามีสีหน้าขมขื่น และพูดราวกับว่าที่เธอทำแบบนี้ก็เพื่อเห็นแก่แมนดี้“นอกจากนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะผ่านไปในไม่ช้า คุณจะไม่สูญเสียอะไรเลยเพียงแค่ปล่อยให้เขาได้เชยชมคุณเท่านั้น!“ที่สำคัญกว่านั้นก็คือการได้สนิทสนมกับนายนายน้อยซาบันก็มีแต่จะทำให้คุณได้ประโยชน์นะ!“สายสัมพันธ์นี้จะช่วยให้คุณดำเนินธุรกิจอื่น ๆ ในโกลด์เด้นได้อย่างราบรื่น!โจวี่และเวียนนาได้ยืมเงินจากผู้ชายคนเดียวกันไม่เพียงแต่พวกเธอจะถูกบังคับให้นอนกับคนโน้นคนนี้ไปทั่วแล้ว พวกเธอยังต้องคอยจ่ายดอกเบี้ยอยู่เป็นเวลานานมากด้วยดังนั้นพวกเธอจึงอยากนำตัวแมนดี้มาเป็นเครื่องสังเวย เพื่อช่วยปลดหนี้สินให้สิ้นซากไปเลยท้ายที่สุดแล้วไอดริสให้ความสนใจแมนดี้มาก จนเขาไม่สนใจเรื่องการเก็บดอกเบี้ยจากพวกเธอ ตราบใดที่เขาได้ตัวแมนดี้มาเชยชมพูดง่าย ๆ ก็คือถ้าแมนดี้ปฏิเสธเงินก้อนนั้น ผู้หญิงทั้งสองคนนั้
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข