เป็นธรรมดาที่ตระกูลคอบบ์ทั้งหมดต่างไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะมีอำนาจที่จะทำอย่างนั้นได้ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาต่างเชื่อว่าพวกเขารู้แล้วว่าภูมิหลังของฮาร์วีย์เป็นยังไง'สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นแค่นักท่องเที่ยวจากประเทศ H เท่านั้นแหละ''คนแบบนั้นจะจัดการกับสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ได้ยังไง?''นอกจากนี้เขายังทำร้ายกาเอลซึ่งเป็นผู้มีความสามารถชั้นยอดขององค์กรแห่งนี้ด้วย!''เขาคงฝันไปล่ะสิที่คิดว่าจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ตรงจุดนี้ได้!'“แกอยากจะจัดการกับสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้เหรอ?”วาเลรี่ทำเสียงเยาะเย้ย“แกไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรที่นี่เลย แต่ยังมีหน้ามาบอกว่าจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้เหรอ?”อีเดนจ้องมองฮาร์วีย์เช่นกัน“ถ้าแกสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้ ฉันจะหมอบกราบเคทีเพื่อเป็นการขอโทษเลย ฉันยอมรับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำในวันนี้ล้วนมาจากแรงกระตุ้นและความเชื่อว่าจะเป็นจริง!“เฮ้ เฮ้! ไอ้เด็กคนนี้คุยโวมากเลย! เขาคิดว่าเขาจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้เหรอ?“แต่ดูเขาสิ! เมื่อกี๊ฉันเห็นเขาจ้องมองขาของฉัน! เขาคิดว่าเขาจะทำอะไรได้เหรอ?“แม้แต่นายน้อยจากตระกูลโมเรโน่และต
"โอเค! ตกลงตามนั้น!”“ผมหวังว่าคุณคงจะไม่กลับคำพูดนะ"ฮาร์วีย์หยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาอย่างใจเย็นก่อนจะกดหมายเลข“เขายังพยายามเสแสร้งอยู่อีกเหรอ? เราจะได้เห็นกันว่าเขาจะทำอย่างนี้ได้อีกนานแค่ไหน!“เขาคิดว่าเขาสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้ด้วยการโทรศัพท์เพียงครั้งเดียวเหรอ? เขาคิดว่าเขาเป็นใครเหรอ? เจ้าชายแห่งราชวงศ์หรือนายน้อยจากสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้กันแน่?“ช่วงนี้ประเทศ H มีอำนาจมาก แต่เขาเป็นเพียงคนนอกเท่านั้นเอง! เขากล้าดียังไงมาทำอวดเก่งในประเทศของเรา?“ถ้าเขาสามารถแก้ไขวิกฤติของเราได้ด้วยการโทรศัพท์เพียงครั้งเดียว ฉันจะนั่งคุกเข่าต่อหน้าเขาเลย!”ทุกคนต่างทำเสียงเยาะเย้ยเมื่อเห็นฮาร์วีย์กดโทรศัพท์อย่างใจเย็นไม่มีใครคาดหวังว่าฮาร์วีย์จะทำอย่างนั้นได้จริง ๆหลังจากนั้นไม่นานฮาร์วีย์ก็โทรออกไปบี๊บ บี๊บ บี๊บ!“ใครโทรมาครับ?”เสียงชายหนุ่มดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง คน ๆ นั้นคือเทรย์“ผมเอง ฮาร์วีย์" ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็นผู้มีความสามารถชั้นยอดตัวสั่นเทาขึ้นมาทันทีเขายังให้ความเคารพอย่างมากแม้จะไม่ได้ยืนอยู่ตรงหน้าฮาร์วีย์ก็ตาม“คุณมีอะไรจะสั่งผมเ
มีผู้อาวุโสคนหนึ่งพยายามจะควบคุมอารมณ์ตัวเองเอาไว้อย่าสุดกำลังหลังจากกดโทรศัพท์ออกไป“คุณย่าคอบบ์ สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ได้ยืนยันมาแล้ว เรายังมีสิทธิ์ในการจัดหาสินค้าอยู่ พวกเขาจะมาตรวจสอบสินค้าในบ่ายวันนี้"คนของตระกูลคอบบ์ต่างตัวสั่นเทาด้วยความตื่นเต้นหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นไม่เพียงแต่การค้าของพวกเขาจะประสบความสำเร็จเท่านั้น แต่พวกเขายังได้รับเงินก้อนโตอีกด้วย ทุกคนในตระกูลจะยังสุขสำราญกับความรุ่งโรจน์และความร่ำรวยต่อไปได้“เขาทำแบบนั้นได้ยังไงในพริบตาเดียว?!“เราใช้เงินต้นทุนเพียงครึ่งเดียวในการจัดหาสินค้า! ถ้าเขาซื้อของพวกนั้นจากเราจริง ๆ เราก็รวยแน่ ๆ!”“แค่เงินปันผลเพียงอย่างเดียวก็อาจทำให้เราใช้จ่ายอะไรตามต้องการได้ถึงหกเดือนเต็ม ๆ เลยนะ!”คนทั้งตระกูลต่างทำสีหน้าแปลก ๆ ในขณะมองไปที่ฮาร์วีย์สายตาดูถูกเหยียดหยามของพวกเขาแปรเปลี่ยนเป็นความตกตะลึงและไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น ตามมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่ำรวยด้วยวิธีการสกปรกคุณย่าคอบบ์กดหมายเลขโทรศัพท์ด้วยอาการไม่พอใจหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอก็ทิ้งโทรศัพท์ลงกับพื้นทันทีเธอมีความรู้สึกหล
"เอาอย่างนี้ไหม? เนื่องจากปัญหานี้ได้รับการแก้ไขแล้วหลังจากที่เธอแกล้งทำเป็นโทรศัพท์ไป..“ฉันจะไม่เอาเรื่องเอาราวกับเธอและเคทีเพราะเธอโชคดีมาก!“เคทีสามารถเป็นหัวหน้าบ้านใหญ่ได้ต่อไป“ห้ามใครไปพูดเรื่องนี้ที่อื่นนะ!“ไม่อย่างนั้นฉันจะโทรเรียกตำรวจมาจับ!”ก่อนหน้านี้คุณย่าคอบบ์รู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่เธอก็จดจำได้ทันที...อีเดนได้กดโทรศัพท์ออกไปสองสามสาย เพื่อขอร้องผู้คนให้มาช่วยในเรื่องนี้ผู้คนที่อยู่ปลายสายนั้นต่างก็ไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ แต่คุณย่าคอบบ์ก็ยังคงมีความหวังแน่นอนว่าเธอคิดว่าอีเดนคือคนที่ช่วยจัดการในเรื่องนี้ได้สีหน้าของเคทีเปลี่ยนไป เธอไม่คิดว่าคุณย่าคอบบ์จะกลับคำพูดคุณย่าคอบบ์เหลือบมองอีเดนพร้อมกับยิ้มให้ โดยไม่ให้โอกาสฮาร์วีย์ได้พูดอะไร“หลานรักของย่า! ทำไมไม่บอกย่าล่ะว่าได้จัดการในเรื่องนี้ไปตั้งแต่แรกแล้ว? ปล่อยให้ย่าเป็นกังวลอยู่ที่นี่จนจะแย่อยู่แล้ว!”อีเดนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติ แล้วรีบใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้“ถ้าผมเดาไม่ผิดนายน้อยแพดโลว์จะต้องเป็นคนที่ช่วยเราในเรื่องนี้ คนที่ช่วยเราแก้ปัญหาก็คือคนที่สร้างปัญหาไว้ตั้งแต่แรกนั่นเอง!“ผุ้อาวุโ
ด้วยความที่อยากอวดอำนาจและความสัมพันธ์ของเขากับกาเอล อีเดนจึงเปิดเสียงลำโพงก่อนจะกดหมายเลขโทรศัพท์หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงอันเย็นชาและเศร้าหมองจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง“อะไรอีกล่ะ?!”กาเอลโกรธมาก เขาเพิ่งได้ข่าวว่าเทรย์ได้ทำการคืนสิทธิ์ในการจัดหาสินค้าให้กับตระกูลคอบบ์แล้วพ่อของเขาเป็นถึงรองผู้นำสหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ แต่ผู้มีความสามารถชั้นยอดได้บอกอะไรบางอย่าง ที่เป็นการบีบบังคับให้พ่อของเขาต้องคืนสิทธิ์ในการจัดหารสินค้านั้นไปหลังจากรับสายโทรศัพท์ของอีเดนแล้ว กาเอลก็รู้สึกเดือดดาลด้วยความโกรธเกรี้ยวแต่ยังไงก็ตามเขาไม่รู้หรอกว่าตระกูลคอบบ์มีสายสัมพันธ์แบบไหน เขาจึงไม่กล้าขึ้นเสียงขู่ตะคอกอย่างเต็มที่อีเดนยิ้มอย่างอบอุ่นแม้จะได้ยินน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรของกาเอลก็ตาม“นายน้อยแพดโลว์! ผมรู้เรื่องที่สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ได้คืนสิทธิ์ในการจัดหาสินค้าให้กับเราแล้ว“ผมรู้ว่าคุณได้พยายามพูดจาโน้มน้าวผู้อาวุโสแพดโลว์อย่างเต็มที่เพื่อช่วยพวกเรา“ผมต้องขอขอบคุณในนามของคุณย่าคอบบ์และตระกูลของเราด้วยนะครับ!กาเอลตัวแข็งทื่อ เขาไม่รู้ว่าเกิ
"ฉันรู้ว่าเธอกำลังมองหารักแท้อยู่เคที“แต่ในฐานะทายาทของตระกูล เธอต้องลิ้มรสความรุ่งโรจน์และความร่ำรวย ที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของตระกูล!“ฉันจะไม่ตำหนิเธอถึงสิ่งที่เธอเคยทำในอดีตอีกต่อไป...“ถึงแม้หลังจากที่เธอแต่งงานไปแล้ว ฉันก็ยังรับประกันตำแหน่งหัวหน้าบ้านหลังใหญ่ให้เธอได้!คุณย่าคอบบ์ทำสีหน้าภาคภูมิใจราวกับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ใจกว้างซะเหลือเกิน“ตราบใดที่เธอแต่งงานกับนายน้อยแพดโลว์ เราก็จะมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอยู่เคียงข้างเราเสมอ!“เธอคิดว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนี้รักเธอจริง ๆ เหรอ?“เขาก็แค่เกาะเธอเพื่อหวังจะได้ใช้ประโยชน์จากอำนาจและความร่ำรวยของตระกูลเท่านั้นแหละ!“ฉันจะจ่ายเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ให้ผู้ชายคนนี้ได้เผ่นกลับประเทศ H ไป“เราจะจัดการเรื่องทุกอย่างแบบนี้!“เธอมีอะไรขัดข้องกับข้อเสนอของฉันหรือเปล่า?”สีหน้าของเคทีเปลี่ยนไปในทันทีอีเดนหัวเราะอย่างเย็นชาและก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทีหยิ่งผยอง“เธอได้ยินไหมเคที?“คุณย่าคอบบ์ใจดีแค่ไหนที่จะทำให้เราเลิกทะเลาะกัน แล้วท่านยังไม่ทำให้ผู้ชายของเธอต้องลำบากมากขึ้นด้วย!“คุณย่าแค่ไล่เขาออกไปพร้อมกับให้
เคทีมองไปรอบ ๆ ตัวโดยสัญชาตญาณเหล่าสมาชิกของตระกูลนี้ต่างหัวเราะกันอย่างเย็นชา สีหน้าของพวกเขาดูชั่วร้ายและน่ากลัวมาก“หยุดมองได้แล้วเคที ไม่มีใครเชื่อไอ้โสโครกคนนั้นเหรอก...” อีเดนพูดช้า ๆ“มีแต่คนไร้เดียงสาอย่างเธอเท่านั้นแหละ ที่จะเชื่อว่าไอ้ผู้ชายไร้ประโยชน์อย่างมันจะทำอะไรแบบนี้ได้" วาเลรี่ร้องบอกด้วยท่าทีหยิ่งผยองผู้อาวุโสที่ไว้เคราคนนั้นถอนหายใจ“ตื่นได้แล้วเคที เลิกฝันเสียทีเถอะ"เคทีรู้สึกใจสลายเป็นอย่างมาก เธอพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อตระกูลนี้มาเป็นเวลานานแล้ว แต่ไม่มีใครเลยที่จะยืนหยัดขึ้นมาอยู่เคียงข้างเธอ และไม่มีใครเชื่อว่าฮาร์วีย์จะมีความสามารถด้วยเธอโซซัดโซเซไปข้างหลังด้วยใบหน้าที่ดูซีดเผือดฮาร์วีย์รีบจับเคทีเอาไว้ก่อนที่เธอจะล้มลม แล้วกระซิบบอกด้วยความกังวลว่า "คุณโอเคไหม?”“ฉันไม่เป็นไรค่ะ"เคทีสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อตั้งสติ จากนั้นเธอก็มองดูคุณย่าคอบบ์ด้วยสีหน้าขมขื่น“คุณย่าคอบบ์ไม่เชื่อในตัวหลานสาวของตัวเองเลยเหรอคะ?”แน่นอนว่าเคทียังคงเชื่อใจในตระกูลของตัวเองอยู่“คุณย่ายังไม่เข้าใจเรื่องนี้ได้ยังไงกัน?!”คุณย่าคอบทำเสียงเยาะเย้น เธอกระแทก
คนในตระกูลนี้ทั้งหมดต่างพูดเสียงดังขึ้นมาทันที พวกเขารู้ว่าตระกูลของตัวเองจะได้ประโยชน์อย่างมาก ถ้าเคทีเชื่อฟังและแต่งงานกับกาเอลความรู้สึกของเคทีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขาเลยคนในตระกูลต่างเชื่อว่าตราบใดที่สหพันธ์ศิลปะการต่อสู้แห่งแบล็คเบิร์น ซิตี้ยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับพวกเขา พวกเขาก็จะอยู่ในตำแหน่งที่ดีมาก ๆถึงแม้ว่าจะไม่สามารถรักษาตำแหน่งหนึ่งในตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งทะเลใต้เอาไว้ได้ แต่พวกเขาก็สามารถมีชีวิตแบบไม่ต้องกังวลอะไรไปได้อีกสองสามปีความรู้สึกของเคทีในตอนนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรต่อพวกเขาเลยพวกเขาไม่สนใจด้วยว่าชีวิตของเธอจะลงเอยยังไงพวกเขาเตรียมที่จะส่งเคทีไปถึงเตียงนอนของกาเอลเลย หลังจากนึกถึงผลประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับเมื่อรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังของทุก ๆ คน อีเดนก็หัวเราะออกมาด้วยความหยิ่งผยอง“ตระกูลของเราคิดว่าเธอควรแต่งงานกับนายน้อยแพดโลว์ แล้วเธอจะพูดอะไรต่อหน้าตระกูลที่เลี้ยงดูเธอมาได้อีกล่ะ?”หลังจากมองเห็นสีหน้าอันชั่วร้ายของคนในตระกูลนี้ เคทีก็นึกถึงช่วงเวลาที่เธอถูกบังคับให้แต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย...ในเวลานี้เธอได้แต่หัวเราะอย่างเศร้าใจเธอตะหนัก