หลายคนรู้ว่าเอเดรียนเป็นหนึ่งในสาวกที่โดดเด่นที่สุดในวงนอกของโกลด์เด้น พาเลซ และเขามีโอกาสที่จะเป็นนายน้อยแห่งสนามฝึกศิลปะการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์เอเดรียนต้องส่งตัวสโม้คมาให้โคเอนแน่นอน เพื่อให้เขาได้รับการสนับสนุนตามที่ต้องการ และควบคุมวงนอกของโกลด์เด้น พาเลซได้อย่างสมบูรณ์พูดง่าย ๆ ก็คืองานหมั้นครั้งนี้เป็นการแสดงถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของเอเดรียนนี่ไม่เพียงแต่หมายความว่าเอเดรียนตั้งใจที่จะยึดครองวงนอกทั้งหมดเท่านั้น แต่เขายังพร้อมที่รับมือกับฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ อย่างถาวรอีกด้วยถ้าพวกเขาทำลายการหมั้นหมายของโคเอนได้ พวกเขาก็คงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตรอด แต่พวกเขาถูกกำหนดให้ตายอย่างน่าสยดสยอง ถ้าเข้าไปยุ่งกับแผนการของเอเดรียน!ฟุ่บ!ชายสูงอายุในชุดคลุมสีเหลืองก้าวไปข้างหน้าจากมุมที่เขายืนอยู่แล้วจู่โจมอย่างรวดเร็วเขาดูเหมือนนกอินทรีที่พุ่งเข้าหาเหยื่อ โดยบินเข้าหาเลย์นก่อนที่จะตะปบด้วยกรงเล็บท่าสังหาร!ชายคนนั้นกำลังวางแผนที่จะทำร้ายเลย์นให้ดูเป็นตัวอย่างเขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเอเดรียนจะควบคุมวงนอกของโกลด์เด้น พาเลซอย่างไม่มีอะไรมาหยุดยั้งเขาได้เขาอยากให้คนพวกนั้นรู้ว
ถึงแม้ว่าสโม้คจะอัดแน่นไปด้วยความเกลียดชังและความขุ่นเคือง แต่เขาก็ไม่กล้าสร้างปัญหาอีกต่อไปเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคลานออกไปทางด้านข้างและหลีกทางให้กับฮาร์วีย์เขารู้ดีว่าหากเขายังคงท้าทายฮาร์วีย์ต่อไป ณ จุดนี้ ราเชลจะต้องโจมตีเขาจนตายอย่างแน่นอน“ฮาร์วีย์! คุณกล้าดียังไงมาทำร้ายลูกน้องคู่หมั้นของฉันจนพิการ?!“แถมยังแบกโลงศพเข้ามาที่นี่ด้วย! คุณกำลังทำลายงานหมั้นของฉันอยู่นะ!”ใบหน้าของเอมิลี่ดูมืดมนลงทันทีเมื่อเห็นฮาร์วีย์เดินเข้ามา“คุณคิดว่าเราเป็นคนไร้ฝืมืออย่างนั้นเหรอ!”"ไป! ไปฆ่าเขาซะ!”ไม่ว่าจะยังไงก็ตามโคเอนก็ยังคงเป็นลูกเขยของตระกูลเบเน็ตต์การไม่ให้ความเคารพเขาก็จะหมายถึงการไม่ให้ความเคารพต่อตระกูลเบเน็ตต์ด้วยดังนั้นเอมิลี่จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลงมือจัดการนอกจากนี้เธอยังกลัวฮาร์วีย์จะพูดอะไรที่เปิดเผยต่อสาธารณชนไม่ได้ เธอจึงอยากให้ฮาร์วีย์ตายโดยเร็วที่สุด"ตาย!"ผู้เชี่ยวชาญแปดคนจากตระกูลเบเน็ตต์ดึงดาบทองคำออกมา แล้วพุ่งเข้าใส่ฮาร์วีย์อย่างไม่ลังเลอะไรเลยฟั่บ!ราเชลหัวเราะอย่างไม่แยแสอะไร เธอคว้าดาบของคนข้างหน้า แล้วเหวี่ยงออกไปด้วยความโกรธจัด
"อย่างนั้นเหรอ?! ทำไมคู่หมั้นของฉันถึงต้องทำแบบนั้นล่ะ?!“เขาบอกให้ทุกคนเลิกยุ่งเพื่อเห็นแก่ประเทศชาติและประชาชน!“เขาเป็นคนใจดีมาก! คุณไม่คิดว่ามันน่าละอายที่มาใส่ร้ายเขาแบบนั้นเหรอ?!“นอกจากนี้มันเป็นปัญหาของคุณที่แอมเบอร์และคนอื่น ๆ ถูกวางยาให้หลับลึก! นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับเรา!“อย่าคิดว่าคุณจะพูดอะไรก็ได้เพียงเพราะว่าคุณมีนักสู้อยู่กับคุณนะ!”แปะ แปะ แปะ!ฮาร์วีย์ปรบมือให้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม“ไม่แปลกใจเลยที่ใคร ๆ ต่างก็เรียกพวกเธอว่าคู่รักที่ขี้โกงที่สุดในโลก!“ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องจริงทั้งหมดเลยนะ!“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นคนโกหกหน้าด้าน ๆ แบบนี้”ใบหน้าของโคเอนดูมืดมนลงทันที“นายจะต้องชดใช้ในสิ่งที่พูดออกมาแบบนั้นนะ ฮาร์วีย์!“นายเคยคิดถึงผลที่จะตามมาจากการพูดแบบนั้นโดยไม่มีหลักฐานหรือเปล่า?!”ฮาร์วีย์ยิ้ม"หลักฐานเหรอ? คนปัญหาอ่อนอย่างพวกนายสองคนก็ให้ฉันมาแล้วนี่?“ฉันบอกตอนไหนว่าแอมเบอร์และคนอื่น ๆ ถูกวางยา? ฉันบอกตอนไหนว่าพวกเขาหลับลึก?“ฉันแค่บอกนายว่าฉันมาที่นี่เพื่อแก้แค้นในสิ่งที่นายทำลงไป“แต่นายก็รู้นี่ว่าพวกเขากำลังหลับลึก“นายคงจะรู
“วันนี้คุณโซอี้ได้มาคุยกับฉัน“เธอบอกว่าเธออยากให้ฉันเข้าร่วมทีมกับเธอ และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเธอก็จะให้เงินหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ ที่ดินสามร้อยเอเคอร์ และตำแหน่งวรรณะพราหมณ์กับฉัน!“เธอบอกฉันว่านายก็อยู่ข้างเดียวกับเธอด้วย“ราชวงศ์อินเดียยังมอบวรรณะกษัตริย์ให้นายด้วย!“ดังนั้นนายจึงให้ญาติของนายแกล้งไปขอโทษแอมเบอร์และคนอื่น ๆ ในหอฝึกยุทธ”“นายผสมยาชุบชีวิตลงไปในชาก่อนที่เธอจะยื่นให้เด็กที่มีความสามารถพวกนั้นดื่ม” ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น“ในขณะเดียวกันราชวงศ์อินเดียก็ตกลงที่จะมอบวรรณะพราหมณ์ให้กับนาย ถ้านายอุทิศตนให้กับประเทศอินเดียในขณะที่แฝงตัวอยู่ในประเทศ H“นั่นก็หมายความว่าพวกเขาไม่เคยคาดหวังว่าโซอี้จะเอามาขายใช่ไหม?“เธอไม่เพียงแต่มอบหลักฐานกับฉันอย่างมากมายเท่านั้น แต่ยังบันทึกเสียงสนทนาระหว่างนายกับชาวอินเดียไว้ทั้งหมดด้วย"บอกฉันมาสิว่านายไม่กลัวที่จะลากทั้งครอบครัวของนายมารับข้อกล่าวหาในการการสมคบคิดกับศัตรู?”"ฮะ?!"หลังจากมองดูสีหน้าที่สงบนิ่งของฮาร์วีย์แล้ว ทุกคนก็อ้าปากค้างไม่มีใครคาดคิดว่าฮาร์วีย์จะมีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนอยู่ในมือจริง ๆ"เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไ
โคเอนโบกมือแล้วทำท่าทำทางให้ลูกน้องไปปิดประตูจากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและจ้องมองฮาร์วีย์“เท่าที่ฉันรู้นายรู้จักแอมเบอร์และคนอื่น ๆ ยังไม่ถึงสองสามสัปดาห์เลยด้วยซ้ำ“ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างนายกับคนพวกนั้นไม่ได้ใกล้ชิดอย่างที่นายแสดงให้ใคร ๆ เห็น“นายมาที่นี่เพื่อเอาคืนฉันเพื่อพวกเขาเหรอ? ช่างตลกสิ้นดี!“ในยุคนี้ทุกคนต่างก็ต่อสู้เพื่อตัวเอง! นายคิดว่าฉันจะเชื่อคำโกหกโง่ ๆ ของนายจริง ๆ เหรอ?“ฉันรู้ดีว่านายมาที่นี่ตอนนี้ทำไม!“ตราบใดที่นายทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับของแอมเบอร์ และลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ไป…“ตราบใดที่นายไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่คำเดียว…“ฉันก็จะให้เช็คมูลค่าหนึ่งร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์กับนาย ถือซะว่านี่เป็นของขวัญสำหรับมิตรภาพของเรา!”โคเอนดึงเช็คออกมาอย่างระมัดระวังนี่เป็นเช็คที่ชาวอินเดียเคยให้เขาไว้...แต่เขาต้องดึงมันออกมาทั้งที่เพิ่งเก็บเข้ากระเป๋าได้ไม่นาน เขารู้สึกโกรธเกรี้ยวกับเรื่องนี้มากแต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นถ้าเขาไม่แก้ไขสถานการณ์นี้ ไม่เพียงแต่ชื่อเสียงของเขาจะถูกทำลายอย่างย่อยยับแล้ว แ
เอมิลี่จ้องมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาดุร้าย“อย่าคิดว่านายจะบังคับเราได้เพียงเพราะนายมีคลิปเหล่านั้น!“อย่าคิดว่าผู้คนเหล่านี้จะเข้าข้างนายเด้วย!"ฉันจะบอกอะไรให้นะ! พวกเขาทั้งหมดเป็นญาติของฉันเอง!“ไม่ว่าเราจะทำอะไรพวกเขาจะไม่มีวันอยู่ข้างเดียวกับนายแน่! แต่พวกเขาจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้น!”เอมิลี่มองไปยังผู้คนรอบ ๆ ตัวด้วยสายตาเย็นชา"มาเร็ว! บอกชายคนนี้หน่อยซิว่าเธอเห็นหรือได้ยินอะไร!”แน่นอนว่าเอมิลี่ต้องการทดสอบอำนาจและสถานะของโกลด์เด้น พาเลซในฟลัตเวลล์แขกเหรื่อต่างมองหน้ากันก่อนที่จะส่ายหัว"ไม่เห็นอะไร! เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย!”ใบหน้าของเอมิลี่ดูมืดมนลงทันที“จะไม่ได้ได้ยังไง! เธอเห็นผู้ชายคนนี้ทำร้ายทุกคนที่นี่ไม่ใช่เหรอ?!“เขายังสมคบคิดกับศัตรูเพื่อวางยาแอมเบอร์และเด็กที่มีความสามารถคนอื่น ๆ ต่อหน้าเราด้วย!“เราต้องแก้แค้นให้พวกเขา!”บรรดาแขกเหรื่อในงานต่างพยักหน้าพร้อมกันเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นพวกเขาไม่ใช่คนโง่ ที่สำคัญกว่านั้นคือพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีอย่างยิ่งกับโคเอนและเอมิลี่ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ พวกเขาจึงลุกขึ้นต่อสู้กับฮาร์วีย์เป็นธรรมดาพวก
“อีกเรื่องหนึ่ง...ฉันจะให้เวลานายหนึ่งวันในการนำยาแก้พิษของยาชุบชีวิตมาให้ฉัน“ถ้าพรุ่งนี้ฉันยังไม่เห็นยาแก้พิษนั้นล่ะก็ นายจะโดนเผาเป็นจุณแน่!“แน่นอนว่านายไม่ต้องเชื่อฉันก็ได้ ก็ลองต่อต้านฉันดูนะถ้าอยากจะทำ“แต่ถ้าคิดต่อต้านฉันล่ะก็ นายจะไม่ได้รับอะไรดี ๆ ในเรื่องนี้เลย…“ถึงแม้ว่านายจะมาจากโกลด์เด้น พาเลซก็ตาม”ฮาร์วีย์จ้องมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะเดินกอดอกออกจากประตูไปอย่างช้า ๆ โคเอนกัดฟันกรอดเมื่อเห็นฮาร์วีย์แสดงท่าทีหยิ่งผยองแบบนั้น“นายคิดว่านายดูน่าประทับใจอย่างนั้นเหรอ ฮาร์วีย์?!“นายสั่งให้เราคุกเข่าบนจุดสูงสุดของฟลัตเวลล์ และนำยาแก้พิษมาให้เหรอ?!“นายข่มขู่โกลด์เด้น พาเลซด้วยเหรอ?!"นายคิดว่านายเป็นใคร?!“นายมีสิทธิ์ทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ?!“ฉันขอเตือนนายเอาไว้นะ! นายตายไปแล้วเมื่อฉันรายงานเรื่องนี้กับเอเดรียนพี่ชายของฉัน!”“นายนั่นแหละจะถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ไม่ใช่พวกเรา!” เอมิลี่ตะโกนด้วยสีหน้าดุร้าย“นายคิดว่าโกลด์เด้น พาเลซเป็นแค่การล้อเล่นเหรอ?!“มันสายเกินไปแล้วที่นายจะต้องคุกเข่า!“แต่เราไม่จำเป็นต้องจัดการกับนายในตอนนี้หรอก…“หลงเหมินถูกกำหนดให้พ่ายแ
“อย่างแรกเลย” ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น“ฉันเป็นคนรายงานเหตุการณ์นี้เอง แอมเบอร์และคนอื่น ๆ ถูกวางยา”แอนเซลหัวเราะอย่างขมขื่น“เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่คุณบอกกับผมนั้น ชาที่พวกเขาดื่มเข้าไปนั้นคงถูกย่อยไปพักหนึ่งแล้ว“เราจะให้คุณรูดอล์ฟและทีมงานของเขาสกัดน้ำย่อยออกมาเพื่อทำการทดสอบ“แต่ถึงแม้เราจะมีหลักฐาน นี่เป็นเพียงหลักฐานทางกายภาพเท่านั้น เราไม่มีประจักษ์พยานเลย“เราได้ส่งคนของเราไปคุยกับโคเอนและเอมิลี่แล้ว“แต่ยังไงก็ตาม พวกเขาทุกคนถูกไล่ออกจากโกลด์เด้น พาเลซแล้ว!“ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ได้กล่าวหาว่าคุณไปทำร้ายผู้คน!“ด้วยเหตุนี้จึงมีการรายงานเหตุการณ์ยังผู้มีอำนาจสูงสุด ผู้อาวุโสสองสามคนในราชสำนักส่งข่าวมาว่า ชื่อเสียงของประเทศต้องมัวหมองเพราะเรื่องนี้ และต้องการให้เหตุการณ์นี้คลี่คลายโดยเร็วที่สุด“ถ้าโคเอนและเอมิลี่วางยาแอมเบอร์และคนอื่น ๆ และสมรู้ร่วมคิดกับศัตรู พวกเขาจะถูกลงโทษอย่างหนัก!“โกลด์เด้น พาเลซจะถูกจัดการตามระเบียบในฐานที่ปกปิดอาชญากร!“ชาวอินเดียพวกนั้นก็ต้องชดใช้เหมือนกัน!“พวกเขาบอกว่าถึงแม้ประเทศ H จะเป็นประเทศที่มีน้ำใจและมีอารยธรรม แต่เราก็ไม่ยอมให้คนอ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข