เมื่อแซ็คมาถึงคฤหาสน์ ผู้อาวุโสซิมเมอร์เล่าให้เขาฟังอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันกับไนส์เวลล์ในขณะเดียวกันผู้อาวุโสซิมเมอร์ก็ทำหน้าจริงจัง“แซ็ค การทำงานร่วมกันนี้อาจอยู่ภายใต้การดูแลของโรซาลีเอง นายต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ ถ้านายสามารถทำให้เธอเป็นของนายได้ มันจะดีถ้านายได้เป็นลูกเขยของพวกเขา!”แซ็คถูกแช่แข็งนิ่งค้างไปแล้ว‘ปกติแล้วปู่ดีกับฉัน ทำไมเขาถึงขอให้ฉันไปเป็นลูกเขยของคนอื่นล่ะ? เขาวางแผนที่จะตัดขาดฉันงั้นเหรอ?’ผู้อาวุโสซิมเมอร์รู้ถึงความคิดของแซ็ค จากนั้นเขาก็พูดว่า “แซ็ค มั่นใจได้เลย ตระกูลซิมเมอร์จะเปิดให้นายเสมอแม้ว่านายจะได้เป็นลูกเขยของไนส์เวลล์ไปแล้วก็ตาม ไม่ต้องกังวล!”“ส่วนเรื่องของโรซาลี นายก็ลองดู ปู่ได้ยินมาว่าเธออาจจะเป็นทายาทคนต่อไปของไนส์เวลล์ ถ้านายสามารถทำให้เธอเป็นของนายได้ สุดท้ายนายก็เป็นลูกเขยที่สามารถเข้ามาแทนที่เธอได้ในอนาคตเมื่อเธอไต่อันดับขึ้นไป!”“ในอนาคตอันใกล้ ถ้าจะเปลี่ยนไนส์เวลล์มาเป็นซิมเมอร์จะไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้สำเร็จอีกต่อไป!”แซ็คตกใจนิ่งค้าง เขาไม่คิดว่าปู่ของเขาจะคิดไปไกลขนาดนั้น“คุณปู่ ขอบคุณที่ไว้วางใจผม ผมจะ
ฮาร์วีย์ตากระตุก เขาเสมองขึ้นไปบนเพดาน พูดอะไรไม่ออก‘ทำไมเธอยังคงถามเรื่องนี้อีก มันผ่านมานานแล้ว?’เรื่องนี้มันซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบายให้เข้าใจได้เขาถอนหายใจ“แมนดี้ โปรดเชื่อใจผม เราเป็นแค่เพื่อนกันจริง ๆ ! ถ้าเรามีอะไรกันจริง ขอให้ผมโดนรถชนตาย!”แมนดี้เอื้อมมือไปปิดปากของเขา“อย่า! อย่าพูดเพ้อเจ้อ หยุดพูดเรื่องไร้สาระนั่นซะ ฉันเชื่อคุณแล้ว!”ทั้งสองมองหน้ากันและยิ้มให้กัน ดูเหมือนน้ำแข็งที่ปิดกั้นพวกเขาทั้งสองจะละลายลงแล้ว การทะเลาะวิวาทระหว่างคู่สมรสมักจะสั้น ๆ ไม่ยืดเยื้อ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างฮาร์วีย์และแมนดี้นั้นซับซ้อนเกินไป พวกเขาไม่ได้นับว่าเป็นสามีภรรยาจริง ๆ นั่นเพียงแค่เปลือกนอกเท่านั้น เป็นเพราะเหตุนี้ความขัดแย้งมากมายระหว่างทั้งสองจึงเกิดขึ้น“ฮาร์วีย์ ฉันต้องทำงาน คุณออกไปก่อนแล้วกลับบ้านให้เร็วด้วยล่ะ” แมนดี้พูดอย่างเขินอายเธอตัดสินใจแล้ว คืนนี้เธออาจต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างงั้นสามีของเธออาจถูกคนอื่นแย่งไปแมนดี้เขินอายเหมือนเคยหลังจากคิดถึงเรื่องนี้แต่ในจังหวะนั้นโทรศัพท์ของฮาร์วีย์ก็ดังขึ้น โหมดอารมณ์หวานซึ้งระหว่างทั้งสองหยุดลงทันทีฮาร์วีย์กดตั
ในตอนเย็น ฮาร์วีย์ได้ออกจากที่ทำงานและขับรถปอร์เช่ไปรับโรซาลีโรซาลีรู้สึกดีราวกับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่กินไอศกรีมเมื่อเธอนั่งบนที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า เธอคิดว่าฮาร์วีย์มารับเธอด้วยจักรยานไฟฟ้า เธอยังเตรียมใจที่จะฝืนยิ้มขึ้นนั่งบนจักรยานไว้แล้ว เธอไม่คิดว่าเขาจะขับรถปอร์เช่มานั่นหมายความว่าฮาร์วีย์ให้ความสำคัญกับฉัน ใช่ไหม?“คุณหัวเราะอะไร?”ฮาร์วีย์รู้สึกสับสน จิตใจของผู้หญิงซับซ้อนมากและมักจะเปลี่ยนแปลงบ่อยตามอารมณ์ของตัวเองโรซาลีมองออกไปนอกหน้าต่างและยิ้ม“ไม่มีอะไร ฉันแค่อยากจะยิ้ม มีปัญหาเหรอ?”“ไม่มีปัญหาอะไร! คุณคือสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของไนส์เวลล์ไม่ใช่แค่ในนิอัมมี่ แม้แต่ในเซาท์ไลท์ คุณสามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ” ฮาร์วีย์พูดฮาร์วีย์ไม่ได้พูดเพื่อเยินยอ แม้ว่าไนส์เวลล์จะไม่สามารถควบคุมทุกอย่างในนิอัมมี่ได้ทั้งหมด แต่อำนาจของพวกเขาก็ไม่ธรรมดา“งั้นเราไปช้อปปิ้งกัน พอเสร็จแล้วก็ไปทานอาหารกัน” โรซาลีพูดฮาร์วีย์มองไปที่นาฬิกาของเขาและยิ้ม“คุณผู้หญิงครับ ตอนนี้หกโมงเย็นแล้ว เราไปซื้อของได้ แต่ขอจำกัดเวลาไว้ที่ 1 ชั่วโมงได้ไหม? ภรรยาของผมเพิ่งจะคุยกับผมวันนี้ ผมต้
โรซาลีไม่รู้จักทั้งสองคน เธอมองพวกเขาสักพักแล้วพยักหน้า“โอ้ พวกเธอเองเหรอ เราไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่หลังจากเรียนจบ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่ได้เจอพวกเธอที่นิอัมมี่”รีอายิ้มและเดินไปหาโรซาลีด้วยรองเท้าส้นสูงของเธอจากนั้นก็มองโรซาลี“ใช่ ช่างโลกกลมจริง ๆ !”สามีของรีอา เคยตามจีบโรซาลีในตอนที่พวกเขาเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เธอไม่ชอบโรซาลีรีอามองไปที่ฮาร์วีย์แล้วหัวเราะ“โรซาลี ฉันได้ยินมาว่าไนส์เวลล์ไม่มีผู้ชายที่คู่ควรพอที่จะสืบทอดธุรกิจของครอบครัวและเธอคงกำลังมองหาลูกเขยอยู่ล่ะสิ”“ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าฉันคือคนที่เธอเลือกแล้วจริง ๆ ใช่ไหม?”“ถ้าเธอถามความคิดเห็นของฉัน สมัยเรียนเธอมีโอกาสมากมายในการเลือกผู้ชายสักคน ทำไมต้องเลือกคนที่ดูจน ๆ น่าสงสารแบบนี้?”“แต่ก็เหมาะสมแล้ว คนแบบนี้เท่านั้นที่จะเป็นลูกเขยของไนส์เวลล์”“ใครจะอยากเป็นผู้ชายลับ ๆ”รีอายังพูดต่อไปไม่หยุดฮาร์วีย์เริ่มขมวดคิ้วหลังจากฟังสิ่งที่พวกเขาพูดเขาคิดว่าพวกเขาคงจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะเริ่มประณามเธอทันทีที่พวกเขาเปิดปากในขณะนั้นโอเวนเดินเข้ามาหาพวกเขาและหัวเราะเสียงดัง“โรซาลี ฉั
“ว้าววว”พนักงานร้านสองสามคนตกใจนั่นคือบัตรแพลตตินั่ม!แต่มันก็เทียบได้กับเอเม็กซ์ แบล็คการ์ด แต่ก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของตัวตนและสถานะของบุคคลนั้น คนที่เป็นเจ้าของบัตรใบนี้ได้นั้นแสดงว่ามีทรัพย์สินมูลค่าหลายพันดอลลาร์มีไม่เกินร้อยคนในนิอัมมี่หลังจากที่ตกใจครู่หนึ่ง พนักงานร้านค้าก็โค้งคำนับต่อหน้าเขาและพูดว่า “คุณสุภาพบุรุษที่เคารพ ด้วยการ์ดใบนี้เราสามารถขาย ‘มรกตแฟนตาซี’ ให้คุณได้ค่ะ”เสียงของพวกเขาไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่ แต่ผู้คนในร้านขายเครื่องประดับในบริเวณใกล้เคียงก็มองไปยังทิศทางของพวกเขา พวกเขาไม่คิดว่าสินค้าลิมิเต็ดเอดิชั่นอย่าง ‘มรกตแฟนตาซี’ จะขายหมดแล้วภายในเวลาไม่กี่วันหลังจากวางจำหน่ายหลังจากได้ยินแบบนั้น โอเว่นก็มองและยิ้มให้โรซาลีอย่างหยิ่งผยอง“โรซาลี อย่างน้อยเธอควรมีมาตรฐานในการมองเลือกผู้ชายหน่อยนะ เธอไม่เพียงแค่หาผู้ชายดี ๆ ไม่ได้ แต่คาดหวังให้เขาซื้อสร้อยคอแบบนี้ให้เธองั้นเหรอ”รีอาเกาะแขนสามีของเธอแน่น“โอ้ ที่รัก ขอบคุณมากนะคะ ฉันรู้สึกเหมือนเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุด!”“แพ็คมันให้เรียบร้อย”โอเว่นหัวเราะแต่สายตามองไปยังฮาร์วีย์ยอร์กตลอดเวลาแม้ว่าโ
รีอาหัวเราะขบขัน“โอ้ โรซาลี ฉันจำได้ว่าเธอเคยพูดสมัยเรียนมหาวิทยาลัยว่าเธออยากจะเจอเจ้าชายที่มีเสน่ห์”“แล้วนี่เกิดอะไรขึ้น? เธอไม่อายที่จะพาเด็กเลี้ยงของเธอมาใช้เงินของตัวเธอเองซื้อของแบบนี้เหรอ?”โรซาลีมองไปที่รีอาด้วยสีหน้าเย็นชาราวกับน้ำแข็งจากนั้นก็ส่ายหัวไปมา“ฮาร์วีย์ อย่าปล่อยให้คนพวกนี้มาทำลายวันของเรา ไปกันเถอะ ช่างสร้อยคอนี้เถอะ”ฮาร์วีย์พยักหน้า เขามาที่นี่เพื่อซื้อของกับโรซาลีและไม่อยากจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่เช่นนี้ เขาหันหลังกลับพร้อมที่จะจากไปโอเว่นหัวเราะเบา ๆ“แล้วบัตรเอเม็กซ์ แบล็คการ์ดนี่ก็คงจะเป็นของปลอม ฉันคิดว่างั้น?”“ฉันได้ยินมาว่าบัตรเอเม็กซ์ แบล็คการ์ด ปลอมราคาเพียงยี่สิบห้าดอลลาร์เท่านั้น บัตรนี้ก็ดูเหมือนจริงอยู่หรอก ฉันโชคดีจริง ๆ ที่ได้เจออะไรแบบนี้”ฮาร์วีย์หยิบบัตรของเขากลับมาและมองไปที่โอเว่น“ต่อให้มันอาจจะเป็นของปลอม แล้วคุณจะทำไม?”“ฉันไม่สามารถทนมองคนที่ยังแสร้งทำตัวอวดรวยแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีเงินก็ตาม”โอเว่นถอนหายใจ“ฉันไม่รู้ว่าโรซาลีตาบอดถึงขนาดที่ว่าเธอคบกับคนแบบคุณ”เห็นได้ชัดว่าโอเว่นยังคงให้ความสนใจโรซาลีในช่วงเวลานั้น การได้เห็นเ
โรซาลีส่ายหัวเธอชอบสร้อยคอเส้นนี้ แต่ราคาเกินกว่าที่จะรับได้ไม่ใช่แค่ลูกเขยแบบฮาร์วีย์ เธอก็ไม่สามารถนำเงินสดออกมาได้มากขนาดนั้นในตอนนี้โรซาลีดึงฮาร์วีย์ออกจากร้านขายเครื่องประดับฮาร์วีย์ยิ้มโดยไม่พูดอะไร เขารู้ว่าโรซาลีชอบสร้อยคอเส้นนั้นจริง ๆสร้อยคอเส้นนั้นราคาสูงมาก แต่นั่นก็ไม่ได้หนักหนาอะไรสำหรับฮาร์วีย์ เขาคิดว่าจะซื้อแล้วมอบให้เธอในภายหลังในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน โอเว่นและรีอาก็เดินตรงมาหาพวกเขารีอาดูเหมือนจะลืมความอับอายที่เธอได้เจอเมื่อกี้แล้วพูดอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “โอ้ โรซาลี มันต้องเป็นโชคชะตาแน่ ๆ ที่เราได้เจอกันในนิอัมมี่ ทำไมเราไม่หาที่นั่งพูดคุยกันสักหน่อย”นับตั้งแต่ที่รีอาแต่งงานกับโอเว่น สิ่งเดียวที่เธอไม่พอใจเขาคือช่วงเวลาที่เขาพยายามตามจีบโรซาลีในช่วงที่พวกเขาอยู่ในมหาวิทยาลัยตอนนี้คือโอกาสดีที่จะฟาดฟันโรซาลีอีกครั้ง ทำไมเธอจะต้องปล่อยมันไปง่าย ๆ แบบนั้นล่ะ?ในขณะนั้นโอเว่นดูเหมือนจะลืมความอับอายก่อนหน้านี้เช่นกัน“ใช่ หลายปีแล้วที่เราไม่ได้เจอกัน! เราพูดคยกันสักหน่อยเผื่อในอนาคตอาจจะมีโอกาได้ทำงานร่วมกัน”“โอ้ ขอโทษที ฉันลืมไป ฉันเกรงว่าผู้ชายขอ
เห็นว่าฮาร์วีย์เริ่มรู้สึกหงุดหงิด ผู้จัดการก็ไม่กล้าพูดเรื่องไร้สาระอะไรอีกต่อไปและพยักหน้าให้พนักงานรีบดำเนินการต่อไป“ได้ครับ!”พนักงานของร้านรีบเก็บ “มรกตแฟนตาซี” และส่งมอบให้ฮาร์วีย์ด้วยความเคารพมีพนักงานของร้านที่หน้าตาสะสวยกว่าคนอื่น ๆ คอยส่งสายตาให้ฮาร์วีย์ และแตะมือเขาเล็กน้อยฮาร์วีย์ไม่แม้แต่จะสบตาไม่กี่นาทีต่อมา ฮาร์วีย์ก็กลับมาพร้อมกับกล่องบูติกในมือในขณะนั้นทั้งสามคนยังคงสนทนากันอยู่แต่โรซาลีไม่อยากจะเสวนากับสองคนนี้ด้วยซ้ำ เธอต้องทนอยู่อย่างไม่เต็มใจที่จะเผชิญหน้ากับตระกูลตระกูลฮอว์กินส์แห่งมอร์ดูในขณะนั้นฮาร์วีย์เดินยิ้มเข้าไปหาโรซาลีพร้อมกล่องในมือและมอบให้กับเธอ“พรุ่งนี้คุณจะกลับแล้ว นี่เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ แทนคำขอบคุณ ผมยินดีต้อนรับคุณในครั้งต่อไปถ้าคุณมาที่นิอัมมี่ในฐานะแขกของผม!”โรซาลีรู้สึกปลาบปลื้ม การที่ฮาร์วีย์จะซื้อของขวัญให้เธอนั้น มันมีหมายความว่าโรซาลีคงมีควมสำคัญในใจของเขาใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงโดยไม่รู้ตัว“ขอบคุณ”ในขณะที่เธอพูดนั้นเธออยากรู้ว่าฮาร์วีย์ซื้ออะไรให้เธอ เธออยากจะเปิดกล่องดู“อย่าเพิ่งเปิด”ฮาร์วีย์ยิ้ม“มันไ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข