ฟุ่บ!ฮาร์วีย์เริ่มก่อน แล้วก้าวไปข้างหน้าเมื่อมองด้วยตาเปล่าการเคลื่อนไหวของเขาก็ดูเหมือนไม่ได้รวดเร็วอะไรเลย แต่มันรวดเร็วเกินกว่าใครจะจินตนาการได้เพียงชั่วพริบตาเขาก็ยืนอยู่ตรงหน้าเจฟฟ์แล้วลูกน้องที่เจฟฟ์ให้ความไว้วางใจไม่สามารถโต้ตอบในสถานการณ์นี้ได้เพียะ!เจฟฟ์ที่กำลังร้องคำรามเพื่อต่อสู้กลับ ถูกตบหน้าอย่างแรงจนกระเด็นไปทันที เลือดกระเซ็นไปทั่วขณะที่เขากระแทกเข้ากับเสาด้านหลังเขาก่อนที่เขาจะลุกขึ้นจากพื้นได้ มือที่เย็นเฉียบก็คว้าคอเขาไว้แล้วเพียะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงหลังฝ่ามือพาดหน้าเจฟฟ์ ปลุกเจฟฟ์ให้ตื่นในขณะที่เขากำลังจะหมดสติไป“นายน่าเบื่อมาก นายน้อยบาวเออร์“ทำไมนายถึงเป็นพวกตะกละที่ชอบให้ลงโทษอยู่ตลอดนักนะ? แค่คุยกับนายก็ทำให้ฉันเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว“ฉันจะถามนายเป็นครั้งสุดท้าย…“นายจะเลือกแบบไหน”ฝูงชนเงียบเสียงราวกับคนตาย'ยังไง?!''เป็นไปได้ยังไงเนี่ย?!'เจฟฟ์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้!แม้ว่าเขาจะไม่ใช่เทพสงคราม แต่เขาก็จะไม่มีปัญหาในการต่อสู้กับคนนับสิบคนพร้อมกันเลย!แต่เขาไม่มีแรงแม้แต่จะต่อสู้กับฮาร์วีย์เลย...พูดได้เลยว่าเจฟฟ์ดูน่าเวทนาพ
ในจำนวนนายน้อยสามคนของตระกูลนี้ เจฟฟ์เป็นคนหยิ่งผยองกว่าโจเซฟมากแต่ถึงกระนั้นทั้งสองคนก็เป็นบุคคลสำคัญที่ชอบเป็นศูนย์กลางของความสนใจแฮโรลด์แตกต่างออกไป เขาได้รับความรักจากคุณย่าบาวเออร์ตั้งแต่เด็ก เขาเป็นคนรอบคอบมาโดยตลอดและไม่ค่อยแสดงตัวต่อสาธารณะโลกรู้ว่ามีนายน้อยสามคน แต่มีคนไม่มากนักที่รู้ว่าแฮโรลด์มีหน้าตาเป็นอย่างไร หรือเขามีความสามารถอะไรหลังจากผ่านไปหลายปี แฮโรลด์ก็เข้าควบคุมทุกสิ่งที่คุณย่าบาวเออร์มอบให้เขาอย่างเงียบ ๆอีกทั้งเขายังเป็นคนที่มีความอดทนสูงมากด้วย นอกเหนือจากการส่งคนสองสามคนไปทดสอบโจเซฟหลังทำงานล้มเหลวเขาไม่ได้โจมตีพันธมิตรทางธุรกิจของฟลัตเวลล์ และไม่ได้พยายามยึดทรัพย์สินทั้งหมดไว้กับตัวเองเขาเป็นผีที่ไม่มีเงาแต่เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นในขณะนี้ ทุกคนสามารถบอกได้เลยว่าเขาทรงพลังเพียงใด อำนาจอันยิ่งใหญ่ของเขาภายในตระกูลบาวเออร์นั้นแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนการปรากฏตัวและความสนใจของเขาเพียงอย่างเดียว ก็ได้แซงหน้าทั้งเจฟฟ์และโจเซฟไปแล้วเจฟฟ์เผยรอยยิ้มแปลก ๆ เมื่อเห็นแฮโรลด์“ในที่สุดนายก็มาถึงที่นี่ น่าเสียดายที่นายมาสายไปหน่อย!”“เหลวไหลน่ะ”แฮโรล
“แน่นอนว่าถ้าคุณต้องทำในแบบของคุณ ฉันก็ไม่ว่าอะไร“แต่อย่างไรก็ตามฉันเชื่อว่าคุณเป็นคนฉลาด“ทำไมต้องไปต่อต้านตระกูลบาวเออร์ ในเมื่อคุณมีสิ่งที่คุณต้องการอยู่แล้ว“เพราะยังไง ๆ เราก็ไม่มีความแค้นต่อกัน!“นอกจากนี้ตระกูลบาวเออร์และหลงเหมินก็เป็นหน่วยงานที่แตกต่างกัน แต่หัวหน้าของทั้งสองแห่งนี้ยังคงเหมือนเดิมมาตั้งแต่สมัยโบราณ“ถึงแม้คุณจะไม่ให้ความเคารพฉัน แต่อย่างน้อยก็คิดถึงคน ๆ นั้นด้วย“คุณพอใจที่จะต่อสู้กับตระกูลบาวเออร์เท่านั้นเหรอ?”แฮโรลด์อวดรอยยิ้มจาง ๆ ใบหน้าของเขาดูเคร่งขรึมแต่แอบซ่อนความดูถูกเหยียดหยามเอาไว้แฮโรลด์แตกต่างจากเจฟฟ์และโจเซฟตรงที่ดูเหมือนหมาป่าที่ซ่อนอยู่ในชุดแกะมากกว่าไม่เพียงแต่เขาจะรับมือได้ยากเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนเจ้าเล่ห์และน่ากลัวอีกด้วยฮาร์วีย์หรี่ตามองเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเผยรอยยิ้มจาง ๆ“คุณพูดถูกเกี่ยวกับเรื่องนั้น“ผมสามารถส่งมอบเจฟฟ์ให้กับคุณ…“แต่มีเงื่อนไขบางประการ”“ผมจะทำทุกอย่างที่ทำได้ ตราบเท่าที่มันอยู่ในอำนาจของผม!” แฮโรลด์ตอบด้วยรอยยิ้มจาง ๆ“ทรัพย์สินที่เป็นของผมจะต้องโอนให้อยู่ภายใต้ชื่อของผมในวันพรุ่งนี้”"ได้แน่น
ราเชลผู้มีจิตใจเข้มแข็งอดที่จะอ้าปากค้างไม่ได้เมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์การประชุมสุดยอดหลงเหมินเป็นเพียงงานในโลกใต้ดิน แต่ผู้ที่มีความสามารถชั้นยอดจากหลงเหมิน ตระกูลบาวเออร์ และผู้ที่มีภูมิหลังทางด้านศิลปะการต่อสู้ต่าง ๆ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยพูดได้เลยว่าแชมเปี้ยนในรอบคัดเลือกระดับจังหวัดนั้น เป็นหนึ่งในนักต่อสู้รุ่นเยาว์ที่เก่งที่สุด...แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดหลงเหมินจริง ๆ พวกเขาก็พ่ายแพ้ให้กับผู้เชี่ยวชาญจากอินเดียไปก่อน!นี่เทียบเท่ากับการไม่ให้ความเคารพผู้นำสาขาหลงเหมินทั้ง 35 คน! ราเชลและคนอื่น ๆ ตกใจมากกับเรื่องนี้“คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?” ราเชลถาม“ฉันจะล้อเล่นในเรื่องนี้ได้ยังไง?”ฮาร์วีย์หายใจเข้าลึก ๆ และอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาแอ็กเซล…หนึ่งในสามนักบวชปีศาจของอินเดียที่ได้รับความนิยมพอ ๆ กับโคดี้ ได้นำกลุ่มผู้เชี่ยวชาญไปยังประเทศ Hด้วยความกลัวฮาร์วีย์เขาจึงตัดสินใจท้าทายแชมป์ระดับจังหวัดของการประชุมสุดยอดหลงเหมินก่อนไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังใช้สมบัติอันล้ำค่าของโลกศิลปะการต่อสู้มาเป็นเดิมพันอีกด้วยเมื่อแชมเปี้ยนถู
“ตอนนี้ทุกคนกำลังจับตาดูเรื่องนี้อยู่!“คนในประเทศ H ทั้งหมดอยู่ในความโกลาหล!“บางคนกล่าวหาว่าชาวอินเดียชั่วร้าย โดยซ่อนตัวตนเอาไว้ในการท้าทายแชมเปี้ยน ดังนั้นพวกเขาจึงลดความระมัดระวังตัวลง!“บางคนโกรธแชมเปี้ยนที่ท้าทายชาวอินเดีย ก่อนที่จะค้นพบตัวตนของพวกเขา!“แน่นอนว่ามีคนออกมาบอกว่าโลกศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H นั้นเต็มไปด้วยคนที่ไร้ประโยชน์ โดยบอกว่าหลงเหมินมีแต่คนที่ชอบเต๊ะท่าถ่ายรูป!“การประชุมสุดยอดหลงเหมินกลายเป็นความอับอายของประเทศ!“และทั้งหมดเป็นเพราะผู้ที่ถูกเรียกว่าแชมเปี้ยนประจำจังหวัดสามสิบห้าคน ไม่สามารถเอาชนะคนอินเดียกลุ่มหนึ่งได้!“ฉันได้ยินมาว่ารองหัวหน้าของหลงเหมิน ซึ่งเป็นผู้ดูแลกิจการประจำวันของหลงเหมินกำลังจัดการประชุมฉุกเฉิน เพื่อหาวิธีบรรเทาสถานการณ์ไม่ให้เกิดการบานปลาย”“รองหัวหน้าเหรอ?”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้ว“หัวหน้าของหลงเหมินไม่ทำอะไรเมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเหรอ? ตอนนี้เขากำลังจะตายหรือไง?“เรามีข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลบาวเออร์ไหม?”"ไม่มีค่ะ"ราเชลส่ายหัว“แฮโรลด์มีอำนาจดูแลตระกูลนี้แล้วในตอนนี้ เมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมของเขา เขามักจะเป็นคนคอยทำอะ
ราเชลหัวเราะอย่างขมขื่น“ใช่แล้วค่ะ ฉันรู้ในเรื่องนั้นค่ะ คุณยอร์ก…“แต่คุณคิดทบทวนในเรื่องนี้แล้วเหรอคะ?“เหลือคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น!“คุณจะต่อสู้กับพวกเขายังไง? พวกเขาจะทำให้คุณเหนื่อยล้าก่อนที่คุณจะทำอะไรได้!“ถึงแม้ว่าหลงเหมินจะได้ผู้มีความสามารถชั้นยอดรุ่นใหม่มาทำการต่อสู้อีกสามสิบหกคน…“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาทั้งหมดพ่ายแพ้อีกครั้ง?“ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ?“ชาวอินเดียเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับเรื่องนี้ พวกเขาพูดกับสื่อในเรื่องนี้ เพราะพวกเขามั่นใจในความสามารถของตัวเอง“พวกเขาอาจถูกเลือกมาโจมตีจุดอ่อนของผู้เชี่ยวชาญของหลงเหมินด้วย“ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่กล้าท้าทายแชมเปี้ยนระดับจังหวัด หลังจากที่รู้ว่าคุณเข้าร่วมในการประชุมสุดยอดหลงเหมิน“หากชาวอินเดียพ่ายแพ้อีกครั้ง พวกเขาจะกลายเป็นเรื่องตลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก“พันธมิตรที่รวมตัวกันในพื้นที่โดยรอบจะแห่กันไปที่ประเทศ H ถ้าพวกเขาพ่ายแพ้“นี่เป็นการเดิมพันครั้งใหญ่สำหรับพวกเขาอย่างแน่นอน“พวกเขาไม่เพียงแต่พยายามกอบกู้ความภาคภูมิใจของตนเองเท่านั้น แต่พวกเขายังวางแผนที่จะทำให้ประเทศ H สูญเสียสถานะและชื่อเสียงไปทั่ว
ฮาร์วีย์อดที่จะพยักหน้าไม่ได้เมื่อได้ฟังคำอธิบายของเอลานอร์ตามที่ผู้ให้คำปรึกษาทางการทหารของเจฟฟ์คาดการณ์ไว้ การวิเคราะห์ของเธอไม่เพียงแต่มีเหตุมีผลเท่านั้น แต่กระบวนการคิดของเธอก็ค่อนข้างถี่ถ้วนด้วยฮาร์วีย์จิบชาแล้วยิ้ม“นี่หมายความว่าสิ่งที่เรียกว่าสงครามระหว่างทั้งสองประเทศ จะเป็นด่านแรกที่จะโจมตีฉันจริง ๆ เหรอ?“พวกเขากำลังวางแผนที่จะยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวใช่ไหม?”ราเชลและเอลานอร์มองหน้ากันก่อนที่จะพยักหน้า"ถูกต้องค่ะ""น่าสนใจ“ฉันไม่ได้วางแผนที่จะไปโจมตีพวกเขา แต่พวกเขากลับมาหาฉันเอง…”ฮาร์วีย์แสดงสีหน้าที่ดูขบขัน“หากพวกเขาต้องการสงครามนัก พวกเขาก็จะได้สิ่งนั้น!“ราเชลส่งข่าวถึงแอ็กเซล“บอกเขาว่าฉันขอท้าทายผู้มีความสามารถชั้นยอดของอินเดียทุกคนบนจุดสูงสุดของฟลัตเวลล์ในอีกเจ็ดวันข้างหน้า“บอกให้พวกเขามาถ้าไม่กลัวตาย!“ฉันจะฆ่าพวกมันให้เรียบ…ถ้าจำเป็น!”…ในขณะที่ฮาร์วีย์ประกาศต่อสู้กับชาวอินเดียนั้น...สำนักงานใหญ่หลงเหมิน ในคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาศักดิ์สิทธิ์...เหล่าคนระดับสูงต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นั่น“เราไม่สามารถยอมรับการท้าทายนั้นได้ ไม่ว่าจะ
“ฉันไม่เห็นด้วย รองหัวหน้า!”ชายสูงอายุลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางเคร่งขรึม“ถ้าเราทำแบบนี้เราไม่ต่างจากคนขี้ขลาดหรอก!“เราจะกลายเป็นตัวตลกที่น่าขบขันที่สุดของประเทศ H ถ้าเราผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ เราจะดูแลโลกใต้ดินให้อยู่ภายใต้การควบคุมได้ยังไง?“อย่าลืมสิว่า! เราเป็นด่านหน้าในการปกป้องประเทศมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว“ถ้าเราถอยกลับไปตอนนี้ เราจะมองหน้าบรรพบุรุษของเราโดยไม่ละอายใจได้ยังไง?”“คุณเป็นแค่รองหัวหน้าสาขาเท่านั้น ฟิชเชอร์! คุณได้รับอนุญาตให้มาที่นี่เพราะคุณมีแชมเปี้ยนประจำจังหวัดเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่!“คุณมีสิทธิ์อะไรไปถามคำถามกับรองหัวหน้า?”ผู้อาวุโสทุบโต๊ะด้วยความโกรธจัด“คุณบอกว่าเราควรต่อสู้กลับ แต่ถ้าเราแพ้ขึ้นมาจะทำกันยังไงล่ะ?“ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ?"คุณเหรอ?“คุณมีค่าพอเหรอ?”ฟิชเชอร์จ้องมองผู้อาวุโสอย่างเย็นชาพร้อมกับวางอำนาจใหญ่โต“ถ้าเราพ้ายแพ้ชื่อเสียงของเราคงป่นปี้! การประชุมสุดยอดหลงเหมินคงเป็นเรื่องตลกสุดฮาด้วยเหมือนกัน…“แต่อย่างน้อยเราก็ไม่ได้ทรยศตัวเองแบบนั้น!“อย่างน้อยเราก็แสดงให้โลกเห็นว่าเรามีความกล้าที่จะต่อสู้!“ถึงแม้ว่าเราจะแพ้ แต่สิ่งที่เ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข