“ฉันไม่ได้บอกไอ้สารเลวพวกนั้นแล้วเหรอ?!“มื้ออาหารของนักเรียนมีอาหารเสริมอยู่ข้างใน! พวกเขาจำเป็นต้องทานอาหารเสริมที่เราขายหลังเรียนจบด้วย!“วิธีนี้จะทำให้เราหาเงินได้อย่างไม่รู้จบ! แล้วพวกเขาก็จะไม่เป็นอันตรายด้วย!“แล้วมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง!”ดวงตาของโจเซฟเย็นชา คู่มือการสอนและอาหารเสริมของเขาให้ผลสอดคล้องกันนอกเหนือจากการทำให้นักเรียนแข็งแกร่งขึ้นแล้ว เขายังสามารถกอบโกยเงินของพวกเขาได้อีกด้วย...ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับแผนการที่แทบจะไร้ที่ติของเขาด้วย?“อาหารเสริมของเรามีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ไม่! เป็นไปไม่ได้!“นี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับเรา! สายการผลิตของเราเข้มงวดมาก! เราไม่คิดจะเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว!“ไอ้เวรฮาร์วีย์นั่นยังออกมาช่วยนักเรียนได้ในเวลาที่พอเหมาะพอเจาะที่สุดด้วย! นักเรียนพวกนั้นไม่มีทางมาฝึกกับพวกเราอีกแล้ว…“ดูก็รู้แล้วว่านี่เป็นการโจมตีกัน!”รูบี้ขมวดคิ้ว“ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะนักเรียนหมดสติ…“แต่อาหารเช้าก็ไม่มีทางมีปัญหา“เรายังเพิ่มสารเสพติดเข้าไปในอาหารด้วย ถ้าพวกเขาไม่ได้กินอาหารพวกนั้นเขาจะรู้สึกแย่…“อาหารเ
“มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น นายน้อยบาวเออร์!”ขณะที่รูบี้กำลังจะวางสาย ออซซี่ก็รีบเข้ามาด้วยท่าทางตื่นเต้น"ดู! ดูข่าว! มีคนพยายามฆ่าฮาร์วีย์!”โจเซฟตัวแข็ง จากนั้นเขาก็มองไปที่ทีวีรูบี้หยิบรีโมทขึ้นมาเปลี่ยนช่องใบหน้าของโจเซฟมืดลงทันทีหลังจากนั้นผู้ชายสวมหน้ากากหลายร้อยคนปรากฏตัวขึ้นพวกเขาทั้งหมดถือมีด ท่อโลหะ และแท่งไม้ อีกทั้งยังไล่นักเรียนและตระกูลเหล่านั้นออกไปอย่างดุเดือดพวกเขายังบอกอีกว่าพวกเขาจะเผาหอฝึกยุทธทิ้ง!ที่สำคัญกว่านั้นคือพวกเขาทั้งหมดสวมเสื้อผ้าที่เป็นของกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจแห่งฟลัตเวลล์พวกเขามีสีหน้าเย่อหยิ่งขณะที่พวกเขาประกาศว่าโจเซฟเป็นนายของพวกเขา และเขาเป็นเจ้านายที่แท้จริงของตระกูลบาวเออร์มีคนเตะและทุบสิ่งของรอบ ๆ มากเท่าที่ทำได้ประตูที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ก็พังทลายลงอีกครั้งที่กล่าวว่าไม่เพียงแต่พวกเขาไม่สามารถทำลายหอฝึกยุทธได้เท่านั้น แต่ยังปลุกเร้าความโกรธแค้นในใจของผู้คนได้อย่างสมบูรณ์'นี่มันบ้าไปแล้ว!''นี่พวกเขาทำตัวเหนือกฎหมายอย่างสิ้นเชิง!''ชีวิตของนักเรียนไม่มีความหมายสำหรับพวกเขาเลย!'เมื่อเลย์นที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงามแต่ดูน่าสงสาร
“คุณยอร์กนี่รู้วิธีทรมานหัวใจคนจริง ๆ…”วันรุ่งขึ้น หลังจากที่โจเซฟระเบิดอารมณ์โกรธจากเหตุการณ์นั้น เจฟฟ์ก็หรี่ตาดูทีวีบนผนังขณะที่แขนของเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผลคนที่นวดขาอย่างตั้งใจไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเอลานอร์ นายหญิงลำดับที่ห้าของเขาเธอสวมชุดคลุมแบบดั้งเดิม แต่ส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายก็ยังโชว์ให้เห็นเล็กน้อยเนื่องจากมีผ้าไหมบาง ๆ รอบหน้าอกและเอวของเธอแพทย์สองสามคนอดไม่ได้ที่จะมองดูอย่างชื่นชม แต่เจฟฟ์ก็ทำให้พวกเขากลัวหัวหดอย่างรวดเร็ว“นี่ต้องเป็นฝีมือของฮาร์วีย์อย่างแน่นอน”เอลานอร์ส่งยิ้มสวยให้เขา“เนื่องจากการเป็นพันธมิตรกับฮาร์วีย์ โจเซฟและพันธมิตรทางธุรกิจในฟลัตเวลล์จึงตกเป็นเป้าสายตา“ด้วยความฉลาดของโจเซฟ เขารู้ว่าเขาควรจะรอบคอบกับสิ่งต่าง ๆ ให้มากเข้าไว้“ถ้าเขายังคิดวางแผนที่จะต่อสู้กับฮาร์วีย์ ก็แปลว่าเขาอยากตาย“ก็อย่างที่ฉันบอก คนที่ถูกจับกุมต่างพากันสารภาพว่าพวกเขามาจากพันธมิตรทางธุรกิจแห่งฟลัตเวลล์หลังจากถูกสอบปากคำ!“วิธีนี้แหละที่จะใช้ในการทำร้ายชื่อเสียงของใครบางคน!“ถ้าคนเหล่านี้ยอมรับว่าพวกเขาเป็นคนของโจเซฟแต่โดยดี ตำรวจคงจะสงสัยพวกเขา…“แต่คำสารภาพหล
โดยธรรมชาติแล้ว ฮาร์วีย์และราเชลรับปากแล้วว่าจะไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในชาริตี้ การ์เด้นบรรดาแขกเหรื่อก็ไม่คิดจะพูดเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน...ออเดรย์จึงไม่รู้ว่านายน้อยที่รักของเธอถูกฮาร์วีย์เหยียบย่ำนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อเห็นฮาร์วีย์ในทีวี เธอถึงเต็มไปด้วยความรังเกียจเช่นนี้“นอกเหนือจากการทำให้คนอื่นคิดว่าเขาเป็นเพียงลูกกะจ๊อกที่รู้จักแต่วิธีใช้อุบายเล่ห์เหลี่ยม ชื่อเสียงของคุณก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน!“ทุกคนคงจะสงสัยกันว่าคนอย่างคุณลดตัวลงต่ำไปคบหากับคนอย่างเขาได้ยังไง!“เพราะเหตุนั้น ฉันขอแนะนำให้คุณเลิกยุ่งกับเขาจะดีกว่า!“คุณเป็นทายาทคนโตของตระกูล คุณถูกลิขิตให้ก้าวขึ้นสู่อำนาจ!“โจเซฟไม่มีสิทธิ์มาเทียบเคียงกับสถานะของคุณได้!“คุณควรจะตระหนักให้ดีกว่านี้!“ไม่อย่างนั้น ถ้าเหล่าผู้อาวุโสดุคุณ คุณจะแย่เอาได้!“คุณควรออกตัวและหยุดการกระทำของฮาร์วีย์!“โจเซฟและพันธมิตรทางธุรกิจแห่งฟลัตเวลล์ก็จะไม่พินาศลง แถมยังช่วยให้ชื่อเสียงของคุณดีขึ้นได้ด้วย“บางทีโจเซฟอาจจะจัดการกับแฮโรลด์เพื่อเป็นการตอบแทนคุณก็ได้!“ฉันคิดว่าถ้าคุณทำแบบนั้น คุณจะต้องได้รับผลประโยชน์สูงสุดแน่นอ
ออเดรย์รู้สึกประหลาดใจ“นายน้อย แม้แต่ปืนลำกล้องคู่ก็ยังทำอะไรคุณไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงดาบ…”“เธอไม่เข้าใจ“ฮาร์วีย์ไม่ใช่แค่บ้าดีเดือดเท่านั้น แต่เขายังไม่กลัวใครอีกด้วย“เขาเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดออกได้ทุกเมื่อ”แน่นอนว่าเจฟฟ์ไม่คิดว่าออเดรย์จะเป็นแค่ของเล่นไร้ประโยชน์“คนอย่างเขาย่อมเป็นประโยชน์ต่อเราอย่างแน่นอน แต่ถ้าไม่ระวังเขาก็จะกลับมาทำร้ายเราได้เหมือนกัน…“นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันกำลังคิดหาวิธีจัดการกับเขา หลังจากโจเซฟถูกกำจัดไป”เจฟฟ์มีสายตาแปลก ๆเขาแสดงความชื่นชม ความกลัว และความโกรธแค้นต่อฮาร์วีย์อย่างไม่อาจคุมตัวเองได้เมื่อใดก็ตามที่เขาคิดถึงฮาร์วีย์ ความสงบของเขาก็สั่นคลอนออเดรย์ครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์อยู่พักหนึ่ง"นายน้อย ในเมื่อเขาเป็นดาบที่ดี ทำไมเราไม่ใช้เขาจัดการกับทั้งโจเซฟและแฮโรลด์ล่ะ?“หลังจากก้าวขึ้นสู่อำนาจแล้วคุณก็จะสามารถกำจัดฮาร์วีย์ได้อย่างง่ายดายไม่ใช่เหรอ”“หลังจากที่ฉันขึ้นสู่อำนาจงั้นเหรอ?”เจฟฟ์หัวเราะอย่างเย็นชา“เมื่อเขาจัดการกับสองคนนั้นเสร็จแล้ว เขาอาจจะหันมาหาฉัน!“และอาจจะพยายามทำอย่างเดียวกันนั้นกับฉันก็ได้”"อ่า!"
ออเดรย์ตัวแข็งทื่อ“นี่หมายความว่า… โจเซฟจะโยนทุกสิ่งให้กลายเป็นความผิดของคุณ!“แล้วแฮโรลด์ก็จะคิดว่าคุณคือผู้ร้ายที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ใช่ไหม?“ขณะที่เราคุยกันอยู่นี่เขาอาจจะวางแผนกำจัดคุณอยู่!“มองอย่างผิวเผินแล้วฮาร์วีย์อาจดูเหมือนอาวุธของเรา…“แต่ในความเป็นจริง เขาต่างหากที่กำลังปั่นหัวคุณอยู่“เขาอยากให้คุณกับฮาโรลด์ทะเลาะกัน หลังจากที่เขาจัดการกับโจเซฟเสร็จแล้ว!“ด้วยวิธีนี้ เขาก็จะได้เป็นฝ่ายนั่งดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่เบื้องหลัง!”เจฟฟ์แสดงสีหน้าเย็นชาราวกับน้ำแข็ง เขายิ้ม“ฉันต้องยอมรับเลยว่าฮาร์วีย์มีความสามารถค่อนข้างมาก”เจฟฟ์เป็นคนจัดการเหตุการณ์นี้ แต่หลังจากที่ฮาร์วีย์ลงมือ เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกใครวางยาอยู่สายตาของเขามีความชื่นชมและเจตนาสังหาร ในสายตาของเจฟฟ์ ฮาร์วีย์เป็นผู้ชายที่ชอบบงการและยากจะคาดเดาได้“ฮาร์วีย์บ้าไปแล้ว นายน้อย!“ทันทีที่โจเซฟล้ม คุณอาจตกอยู่ในอันตราย!”ออเดรย์ตื่นตระหนก เนื่องจากความมั่งคั่งและชื่อเสียงของเธอถูกสร้างขึ้นจากเจฟฟ์“คุณเป็นคนมีคุณธรรม นายน้อย แต่ฮาร์วีย์เป็นไอ้สารเลวน่ารังเกียจ!“เขาไม่มีทางสู้กั
"เอาสิ คุณพูดถึงขนาดนั้นแล้วผมคงปฏิเสธไม่ได้“ไม่ว่าเขาจะวางแผนฆ่าผมหรือไม่ ผมก็ไม่สนใจหรอก“บอกเขาด้วยว่าผมจะไปถึงที่นั่นตรงเวลา“ผมหวังว่าเขาจะทำให้ผมประหลาดใจได้”คำพูดของฮาร์วีย์นั้นแปลได้หลายความหมาย แต่เอลานอร์ไม่เข้าใจความในนั้น“ฉันจะบอกเขาอย่างแน่นอน” เธอตอบด้วยสีหน้าไร้เดียงสาเธอนั่งอย่างสงบบนโซฟาและไขว่ห้างด้วยขาเรียวยาวของเธอแล้วชี้นิ้วให้ฮาร์วีย์นั่ง"เชิญนั่งเถอะ ฉันว่าเราถือเป็นเพื่อนกันแล้ว“เราเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก ถือว่านี่เป็นการขอโทษแล้วกัน“แน่นอน ถ้าคุณต้องการอะไรล่ะก็ ฉันจะต้องตอบสนองความต้องการของคุณให้ได้อย่างแน่นอน“และนี่ก็เป็นคำสั่งของนายน้อยบาวเออร์อีกด้วย”เอลานอร์เผยแววตาที่มีความหมายเมื่อเธอพูดคำเหล่านั้น เธอคือผลไม้สุกงอมที่พร้อมให้ชายตรงหน้าเก็บเกี่ยวไม่มีผู้ชายที่ไหนจะปฏิเสธข้อเสนอนี้แต่ช่างน่าอายนัก สายตาของเอลานอร์ที่เคยสงบแปรเปลี่ยนเป็นความตกใจ เธอเห็นว่าฮาร์วีย์ยังคงยิ้ม สีหน้าของเขาไม่ได้ดูเย้ยหยันหรือดูคุกคามแต่อย่างใดเอลานอร์อดไม่ได้ที่จะประทับใจในตัวฮาร์วีย์นั่นก็เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นผู้ชายที่สงบนิ่งได้เท่าเขา
ฮาร์วีย์เงยหน้าขึ้นและมองไปที่เอลานอร์ เขาหัวเราะเบา ๆ“นี่แสดงว่าคุณไม่ได้มองว่าผมเป็นเพื่อนกับคุณจริง ๆ สินะ“นี่คือของขวัญที่ได้จากผม ถ้าคุณคืนให้ผมตอนนี้ก็เท่ากับคุณกำลังดูหมิ่นผมอยู่“ตอนนี้ผู้คนของฟลัตเวลล์ต่างเรียกผมว่าปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ การที่คุณมาทำแบบนี้ผมว่ามันดูไม่เหมาะเลยว่าไหม?”แม้ว่าฮาร์วีย์จะพูดอย่างนั้น แต่เขาก็ดูไม่แปลกใจมากนักท้ายที่สุดแล้วเอลานอร์เป็นผู้หญิงฉลาด เธอรู้ดีว่าเธอจำเป็นต้องขีดเส้นแบ่งกับฮาร์วีย์เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องเข้ามาพัวพันด้วยฮาร์วีย์ชื่นชมเธอด้วยเหตุนี้“แน่นอนว่าฉันต้องอยากแสดงความเคารพต่อคุณอยู่แล้ว…“แต่ยังไง ฉันก็เป็นคนของนายน้อยบาวเออร์”เอลานอร์มองหาข้อแก้ตัวอย่างใจเย็น“ในฐานะเมียน้อยคนหนึ่งของนายน้อยบาวเออร์ ฉันอาจจะถูกส่งลงนรกไปก็ได้“ฉันอาจดูเหมือนมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้าด้วยอำนาจทั้งหมดนี้ แต่ก็อย่างที่คุณทราบ ฉันไม่ได้ร่ำรวยอะไรหรอก“ทรัพย์สินที่ฉันเป็นเจ้าของไม่มีมูลค่าถึงล้านดอลลาร์ด้วยซ้ำ“เงินเจ็ดสิบล้านดอลลาร์เป็นตัวเลขที่ฉันไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึง“เพราะเหตุนี้ฉันจะต้องเดือดร้อนไปด้วย!“ถ้าฉันเ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข