ฮาร์วีย์ตรวจประเมินของโบราณชิ้นนี้ทันที“ดาบสั้นเล่มนี้น่าจะมาจากศตวรรษที่ 12 แม้จะมีการสึกกร่อนเพียงไปบ้าง และคราบเล็ก ๆ น้อย ๆ บนเครื่องถ้วยทองสัมฤทธิ์เหล่านี้ก็เป็นเรื่องปกติ!”“โคมระย้านี้ต้องมีอายุมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ถูกส่งเข้าไปในพระราชวัง!”“และแหวนนิ้วโป้งนี้ต้องเป็นแหวนในตำนานที่เจ้าชายจอร์จใช้ในการล่าสัตว์”เชนยืนนิ่งเหมือนถูกแช่แข็งหลังจากที่ฮาร์วีย์ตรวจประเมินเสร็จจากนั้นเขาก็ปรบมือให้ฮาร์วีย์หลังจากกลับมาได้สติอีกครั้ง เขารู้สึกพึงพอใจ‘ช่างเป็นคนมีพรสวรรค์จริง ๆ ฮาร์วีย์มีพรสวรรค์ในการประเมินค่าวัตถุโบราณ ทำให้สายอาชีพนี้ดูเหมือนงานง่าย ๆ ไม่ใช่ทุกคนในสายอาชีพนี้ที่มีความสามารถถึงขนาดนี้’‘น่าเสียดายที่ฮาร์วีย์ไม่สนใจที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพนี้ สิ่งที่มีค่าอย่างยิ่งในสายตาของชาร์ลส์และลูกศิษย์ของเขา อาจจะไม่มีค่าอะไรสำหรับฮาร์วีย์’‘ผู้ชายแบบนี้จะต้องเป็นทายาทที่ดีที่สุดสำหรับตระกูลไนส์เวลล์’‘ฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะหย่ากับภรรยา…’เชนถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะมองหลานสาวที่รักของเขาที่กำลังชื่นชมฮาร์วีย์จากอยู่ไกล ๆ หากหลานสาวของเขาต้องการผู้ชายสักคน ทุกคนก็
ณ คฤหาสน์ซิมเมอร์ผู้อาวุโสซิมเมอร์นั่งอยู่ที่ ๆ ประจำของเขา ที่นั่งของเขาให้ความรู้สึกเหมือนบัลลังก์เหล็กเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงพลังและอำนาจของเขาตระกูลซิมเมอร์นั้นหยิ่งผยองจริง ๆ พวกเขาเชื่อว่าตระกูลซิมเมอร์เป็นคนชั้นสูง เป็นตระกูลเฟิร์สคลาสกฎระเบียยภายในยุ่งยากและซับซ้อน ต้องจัดเตรียมที่นั่งอย่างเหมาะสมว่าใครนั่งที่ไหน ช่างเป็นเรื่องตลกจริง ๆ ลิเลียนเห็นผู้อาวุโสซิมเมอร์กำลังโกรธ จึงหันไปสั่งฮาร์วียว่า “ฮาร์วีย์! รีบเข้าไปขอโทษผู้อาวุโสซิมเมอร์สิ! ดูว่าเขาจะให้คำแนะนำอะไรกับแกบ้าง!”“ผู้อาวุโส คุณพยายามทำเพื่อแซ็คจริง ๆ งั้นเหรอ?”ฮาร์วีย์หัวเราะ“ฮาร์วีย์ ไม่เพียงแต่นายมีความสามารถเท่านั้น แต่นายยังกล้ามากเหมือนกัน!”ผู้อาวุโสซิมเมอร์ที่มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ น้ำเสียงของเขาฟังดูดุดัน“ผมไม่รู้ว่าคุณเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้แบบนี้มาจากไหน แต่คุณคิดว่าจริง ๆ แล้วคุณสามารถไต่อันดับได้จากทักษะเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่น และทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการในตระกูลซิมเมอร์นี้งั้นเหรอ?”“ถ้าไม่ใช่เพราะนาย แซ็คก็คงไม่ต้องทุกข์ทรมานใจขนาดนี้! เขาเป็นถึงรองซีอีโอของตระกูลซิมเมอร์ ความอับอายของเ
ผู้อาวุโสซิมเมอร์ตัวแข็งทื่อหลังจากได้ยินสิ่งที่แซ็คพูด เขาไม่เคยคิดเลยว่าแซ็คใจกว้างอะไรแบบนี้เขาคิดตามแล้วพยักหน้า“เอาล่ะ ถ้าไอ้ขยะนี่สามารถชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไปได้ ฉันจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป”“แกได้ยินแล้วใช่ไหม? แกต้องชดใช้ให้ฉัน!”แซ็คจ้องไปที่ฮาร์วีย์อย่างคนที่เหนือกว่า ในขณะที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโลภ“ชดใช้คุณงั้นเหรอ?”ฮาร์วีย์ยิ้มทะเล้นและถามว่า “งั้นท่านรองซีอีโอต้องการชดใช้เป็นอะไรดีครับ?”“นาฬิกานั่น ให้ฉันแล้วฉันจะยกโทษให้”แซ็คปกปิดความโลภของเขาไม่ได้แล้วนาฬิกา Rolex โบราณมีมูลค่าถึงสิบหกล้านดอลลาร์ ถ้าเขาขายนาฬิกาทิ้งไปเขาจะใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายได้นานแค่ไหนกันนะ? ให้เหล่าคนดังในรายการ D-list สักสองสามคนมาปรนนิบัติเขาสักสิบถึงสิบห้าวันก็ไม่เป็นปัญหาฮาร์วีย์ไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะของเขาได้แซ็คไม่ได้มาที่นี่เพื่อขอคำอธิบายด้วยซ้ำ แต่เขามาที่นี่เพื่อนาฬิกาของฮาร์วีย์เท่านั้นแต่นี่เป็นพฤติกรรมปกติ ตระกูลซิมเมอร์เป็นเพียงตระกูลชั้นสองซึ่งมีผลกำไรประมาณสองสามร้อยล้านดอลลาร์ แต่สิ่งนี้นั้นมันจะค่อนข้างดีสำหรับแซ็คถ้าเขามีเงินเดือนประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่นดอ
“อีกแล้วเหรอ? ในหัวของคุณคิดอะไรร้อยแปดพันเก้าขนาดนั้นเลยเหรอ? คุณต้องการให้ผมชดใช้คุณยังไง?” ฮาร์วีย์พูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันเด็กหนุ่มและผู้ใหญ่คนหนึ่งไม่มีใครหน้าด้านกว่าใครเลย แต่ฮาร์วีย์เคยชินกับพวกเขาไปเสียแล้ว “มันง่ายมากสำหรับนาย ธุรกิจของตระกูลซิมเมอร์กำลังเฟื่องฟูในช่วงเวลานี้”“ไนส์เวลล์มีสถานะที่สูงมากแม้จะอยู่ในเซาท์ไลท์ก็ตาม ไปพูดกับเขาถึงเรื่องดี ๆ ของเรา นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดถ้าเขาสามารถช่วยเราได้”“ความสัมพันธ์ของนายและไนส์เวลล์ ดูเหมือนจะอยู่ในช่วงฮันนีมูน พวกเขาจะไม่ปฏิเสธถ้านายร้องขอ”“นายไม่ต้องเสียเหงื่อด้วยซ้ำ นายเพียงแค่ต้องพูดถึงสิ่งดี ๆ เกี่ยวกับเรา และสำหรับเรื่องของวันนี้ฉันจะปล่อยผ่านไป”ผู้อาวุโสซิมเมอร์มุ่งมั่นและเขาพูดเหมือนทุกสิ่งที่เขาขอเป็นเรื่องธรรมชาติ ราวกับว่าเขาสั่งให้ฮาร์วีย์ทำอะไรบางอย่าง และต้องทำให้สำเร็จฮาร์วีย์มองไปที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์ด้วยความประหลาดใจเขาไม่คิดว่าชายชราคนนี้จะหัวใสถึงขนาดที่จะให้เขาทำเรื่องแบบนี้แต่นี่ก็เป็นเรื่องปกติ ธุรกิจที่กำลังเฟื่องฟูสำหรับพวกซิมเมอร์ ถ้าพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากไนส์เวลล์ การเป็นตระกู
หลังจากฮาร์วีย์และคนอื่น ๆ ออกไปแซ็คก็มองไปที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์ ดูเหมือนว่าเขามีอะไรอยากจะพูด แต่ก็ห้ามตัวเองไว้แซ็คเข้าใจทุกอย่าง จนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่และถามว่า “คุณปู่คิดว่าเมื่อกี้ผมเป็นคนโลภไหม…?”“โอ้? ทั้ง ๆ ที่แกก็รู้ตัว?” ผู้อาวุโสซิมเมอร์พูดอย่างเย็นชา“คุณปู่ กำลังเข้าใจผมผิด ผมไม่เคยอยากได้นาฬิกานั่น แต่เป็นเพียงการทดสอบฮาร์วีย์เท่านั้น ตอนนี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าฮาร์วีย์มีความหยิ่งผยองมากขึ้นจากแต่ก่อนทันทีที่แมนดี้ได้ตำแหน่ง ... ”“แล้วแกวางแผนจะทำอะไร? รองซีอีโออย่างแกพูดแบบนี้ ฉันอยากให้แกหยุดความคิดนั่นไว้ซะดีกว่า” ผู้อาวุโสซิมเมอร์พูดอย่างหงุดหงิด“ผมแค่อยากเสนอว่าเราควรจะสร้างปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้แมนดี้ แน่นอนว่ามันจะไม่กระทบกับผลกำไรของตระกูลซิมเมอร์ ปัญหาเล็ก ๆ เหล่านี้ทำให้แมนดี้มีอำนาจยากขึ้น มันจะรั้งแมนดี้ไว้ไม่ให้หยิ่งผยองเกินไป” แซ็คอธิบายเขาเรียนรู้ที่จะฉลาดขึ้น ก่อนที่จะทำอะไรพวกนี้ เขาจะต้องขอคำแนะนำและรายงานก่อน ถ้าไม่งั้นผู้อาวุโสซิมเมอร์จะต้องเข้ามาจัดการหากเรื่องมันเกินรับมือ“แล้วไง…”ผู้อาวุโสซิมเมอร์คิดตามแล้วพยักหน้าแซ็ครีบโน้มตัวไปก
“ลูกหมายความว่าเราขอให้เขาทำในสิ่งที่ไม่ควรทำงั้นเหรอ? เขาเป็นลูกเขยของครอบครัวเรา แล้วมันจะเป็นอะไรไปที่จะให้มันทำเพื่อครอบครัวเรา และลูกไม่คิดบ้างหรือไง? ปู่ของลูกโกรธมาก ถ้ามันทำไม่ได้ในสิ่งที่คุณปู่ต้องการ ลูกก็รู้ดีกว่าแม่ถึงผลที่จะเกิดขึ้น” ลิเลียนพูดเตือนแมนดี้อย่างใจเย็นแมนดี้รู้ดีว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์เป็นคนแบบไหนหากเธอไม่สามารถทำตามที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์ต้องการได้ เธออาจจะต้องตกที่นั่งลำบาก ผู้อาวุโสซิมเมอร์อาจไม่ทำร้ายเธอตรง ๆ แต่การลดอำนาจของเธอเป็นสิ่งที่เขาสามารถทำได้อย่างแน่นอนโครงการศูนย์กลางการค้าที่ตระกูลซิมเมอร์ทำอยู่ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นโครงการ แมนดี้ไม่ต้องการให้อะไรก็แล้วแต่มาขัดขวางการทำงานของเธอ“หนูจะคิดดูอีกทีแล้วกันค่ะ” แมนดี้พูดด้วยน้ำเสียงเบา ๆลิเลียนอดไม่ได้ที่ต้องพูดออกมา “คิดให้ได้เร็ว ๆ ล่ะ! ลูกไม่รู้เหรอว่าเรื่องนี้มันเรื่องใหญ่แค่ไหน? หลังจากนี้แม่คิดว่าจะไปเรียนโยคะกับป้าพาลเมอร์!”“คุณแม่ออกไปก่อนเถอะค่ะ ให้เวลาหนูคิดอีกที…”แมนดี้รอจนกระทั่งลิเลียนออกไปแล้วจึงนอนลงบนเตียงฮาร์วีย์ช่วยเธอมามากแล้วแม้กระทั่งยืมเงิน 1.6 ล้านดอลลาร์จากเ
“คุณต้องการให้ผมขอร้องนายใหญ่ไนส์เวลล์ช่วยตระกูลซิมเมอร์ใช่ไหม?” ฮาร์วีย์ตามตรง ๆ แมนดี้ไม่ได้พูดอะไรสักคำ และเธอก็ไม่ตอบสนองใด ๆฮาร์วีย์ถอนหายใจ ดูเหมือนว่าเขาเดาถูก ถ้าไม่อย่างนั้นอย่างน้อยเธอก็ต้องส่ายหัวปฎิเสธ“คุณต้องพยักหน้าแล้วผมจะช่วยคุณ แต่ไม่ว่าไนส์เวลล์จะให้ความสนใจซิมเมอร์หรือไม่นั้น มันเหนือการควบคุมของผม” ฮาร์วีย์พูดแมนดี้ลังเลแล้วพยักหน้าฮาร์วีย์ไม่ตำหนิอะไร หรือรู้สึกกังวลใด ๆ แต่เขากลับเปลี่ยนเรื่องคุย“คุณคิดว่ามันเป็นความผิดของผมหรือเปล่าที่ทำให้แซ็คต้องคุกเข่าลง?”แมนดี้ทานโจ๊กในถ้วยเพียงไม่กี่คำ จากนั้นลุกขึ้นยืนและเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียวฮาร์วีย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหัวเราะเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน ***ภายในวิลล่าข้างทะเลสาบพร้อมทิวทัศน์ระดับห้าดาวโรซาลีกำลังนั่งอยู่บนโซฟาถอนหายใจเธอกำลังจะกลับเมืองหลวงของมณฑลในวันพรุ่งนี้ เธออยากเจอกับฮาร์วีย์ก่อน แต่ก็ไม่สามารถหาข้ออ้างที่เหมาะสมเพื่อเจอเขาเธอเป็นหญิงสาวที่เก่งกาจของตระกูลไนส์เวลล์ เธอจะทำแบบนั้นได้ยังไง?เชนเดินเข้าไปหาเธอหลังจากได้ยินเสียงถอ
“คุณมาเพราะฉันหรือคุณปู่คะ?” โรซาลีถาม“ผมมีธุระกับนายใหญ่ไนส์เวลล์ แต่ก็อยากพบเจอคุณทั้งสองคน”“คุณคิดว่าเราเป็นร้านแผงลอยตามถนนที่ใคร ๆ ก็ไปมาหาสู่กันได้ตามใจชอบงั้นเหรอ?”โรซาลีสับสนในตัวเอง ผู้ชายคนนี้มาหาปู่ของเธอ แต่ไม่ใช่เธอ“ไม่เป็นไรถ้าคุณไม่สะดวก” ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็นฮาร์วีย์ไม่ใส่ใจเรื่องความสัมพันธ์กับตระกูลซิมเมอร์มากนัก นั่นเพราะตอนนี้เชนปฏิเสธที่จะพบเขา เขาก็ไม่อยากจะคิดอะไรมาก หลังจากได้ยินแบบนั้น หญิงสาวที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งก็มองไปที่เชนราวกับว่าเธอทำผิดและพูดทันทีว่า “ก่อนหน้านี้คุณปู่ไม่อยู่ แต่ตอนนี้เขามาแล้ว คุณจะมาเมื่อไหร่?”ฮาร์วีย์ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะ เชนก็ตกใจเช่นกัน ไม่รู้จะพูดอะไรดี“โอเคงั้นผมจะไปตอนนี้เลย” ฮาร์วีย์พูดและวางสายไปโรซาลีกลับสู่โหมดอารมณ์ปกติ หลังจากเห็นการแสดงออกของเชน เธอก็พูดอย่างเขิน ๆ ว่า “คุณปู่ หนูเป็นคนหุนหันพลันแล่นไปหน่อย อาจจะกระทบกับเรา”เชนยิ้ม“ไม่เป็นไร แต่คราวหลังก็ระวังหน่อยแล้วกัน”ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมอย่างเชนรู้ดีว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิง ไม่อย่างนั้นจะมีปัญหาหากโรซาลีเป็นศั
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข