รถฮาวาล ซีดานแอบจอดอยู่ตรงหัวมุมถนนด้านนอกสถานีตำรวจฟลัตเวลล์ประตูรถเปิดออกเมื่อฮาร์วีย์ปรากฏตัว เซียนน่าเดินออกไปพร้อมกับรอยยิ้มอันอบอุ่น“ในที่สุดคุณก็ถูกปล่อยตัว คุณยอร์ก“ถ้าคุณไม่ได้รับการปล่อยตัว ฉันคงจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต” เซียนน่าพูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยด้วยสถานะของเธอ เธอจะสามารถประกันตัวฮาร์วีย์ออกจากคุกได้ด้วยการโทรเพียงสายเดียวแต่เนื่องจากสถานะของเธอนั้นพิเศษเกินไป จึงมีบางสิ่งที่แม้แต่เธอเองก็ทำไม่ได้นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนร้ายในภาพยนตร์จึงสามารถทำอะไรก็ได้ ในขณะที่ฮีโร่ต้องควบคุมการกระทำของตนอยู่ตลอดเวลาท้ายที่สุดแล้ว บางคนก็มีตัวตนเพียงเพื่อปกป้องกฎหมายและความยุติธรรม พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเป็นตัวอย่างให้กับประชาชนดังนั้นเซียนน่าจึงไม่ได้คิดที่จะโทรหาใครตั้งแต่แรกแต่เธอกลับไปขุดหาหลักฐานที่ตระกูลจอห์นสมคบคิดกับศัตรูอย่างเงียบ ๆ และจะจับกุมผู้กระทำผิดหากฮาร์วีย์ถูกพวกเขาหลอกแต่ดีแล้วที่ฮาร์วีย์ได้รับการปล่อยตัวหลังจากนั้นไม่นานนั่นหมายความว่าฟลัตเวลล์ยังคงเป็นสถานที่เคารพกฎหมายในส่วนของการกักขังของดาห์เลีย แม้ว่าจะมีโอกาสที่เธอจะได้รับการป
เมื่อเห็นสีหน้าที่มุ่งมั่นของเซียนน่า ฮาร์วีย์ก็รู้ว่าเรื่องนี้จะไม่มีวันสิ้นสุดถ้าเขาปฏิเสธหลังจากที่ไตร่ตรองเรื่องนี้สักพัก ฮาร์วีย์ก็รับของขวัญนั้นอย่างไม่เต็มใจในเวลาเดียวกัน เขากำลังมองหาโอกาสที่จะตอบแทนกับบางสิ่งที่มีมูลค่าเท่ากันท้ายที่สุดพวกเขาก็เป็นเพื่อนกัน มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะตอบแทนน้ำใจกันฮาร์วีย์ปฏิเสธคำชวนไปทานอาหารกลางวันของเซียนน่าเขาเห็นบอดี้การ์ดในรถของเซียนน่าทำหน้าตาดุร้ายใส่เขาถ้าฮาร์วีย์ไม่ได้ช่วยชีวิตเซียนน่าเอาไว้ บอดี้การ์ดเหล่านั้นคงจะรีบออกมาและผลักเขาออกไปจากเซียนน่าแล้วฮาร์วีย์ไม่ได้สนใจพวกเขาแต่อย่างใด ท้ายที่สุดแล้วนายใหญ่ก็ต้องดูแลลูกสาวของเขาเป็นพิเศษอยู่แล้วหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ นายใหญ่จะไม่ยอมให้ใครได้อยู่ตามลำพังกับเซียนน่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ ฮาร์วีย์ไม่ต้องการดึงดูดความสนใจของนายใหญ่เขาไม่เพียงแต่จะไม่สนใจที่จะเป็นผู้อาวุโสของกองกำลังทหารของประเทศเท่านั้น แต่เขายังไม่มีเจตนาที่จะเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของเก้าของกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดอีกด้วยสิ่งที่เขาอยากจะทำคือการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างสงบสุข และการกลับมาอยู่ก
ฮาร์วีย์รู้ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่จบลงง่าย ๆถึงกระนั้นเขาก็ไม่คิดว่าตระกูลจอห์นจะตามเขามาทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งจะออกจากสถานีตำรวจแต่เมื่อพิจารณาจากสิ่งนี้ ฮาร์วีย์ก็สามารถบอกได้ว่าตระกูลจอห์นโกรธมากจากมุมมองของพวกเขา พวกเขาคงรู้สึกอับอายอย่างมากในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างเช่นการที่จะได้เป็นตระกูลอันดับสูงสุดพวกเขาทำงานร่วมกับชาวอินเดียอีกด้วยหากพวกเขาไม่สามารถแก้ตัวเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้กับชาวอินเดียได้ ความร่วมมือของพวกเขาก็จะสิ้นสุดลงอย่างแน่นอน!ตระกูลจอห์นยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้“นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับนาย! มันเป็นเรื่องของพวกเรา!”ประตูหลังของรถโตโยต้า อัลฟาร์ดเปิดออกอย่างช้า ๆชายสูงอายุคนหนึ่งที่สวมชุดทักซิโด้และมีผมสีขาวที่ถูกดูแลอย่างดีกำลังลงจากรถจากนั้นเขาก็จ้องฮาร์วีย์อย่างเหยียดหยาม“นายควรจะรู้ถึงผลที่จะตามมาทันทีที่นายลองดีกับตระกูลจอห์น“แต่ไม่ต้องกลัว เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อฆ่านาย แต่เรามาที่นี่เพื่อหักแขนขาของนายและส่งนายไปที่อารามสวรรค์“ในเมื่อตระกูลตอร์เรสจะไม่ช่วยพวกเรา…“เราก็จะลงมือเอง”ชายที่ดูเหมือนพ่อบ้านดูน่ากลัวมากเมื่อเทียบกับคนที่สวมเสื้อคลุมสีทองเขา
บัตเลอร์จอห์นหัวเราะอย่างเย็นชา ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะแปรเปลี่ยนเป็นมืดมน “นายคิดว่าเราจะให้โอกาสนายจริง ๆ เหรอ!"ไป! ทำให้เขาพิการซะ!”ผู้คนในชุดคลุมสีทองก้าวไปข้างหน้าอย่างพร้อมเพรียงกัน ดวงตาของพวกเขาเย็นชา การเคลื่อนไหวทุกย่างก้าวของพวกเขาประสานกันเป็นจังหวะได้พอดิบพอดี จนถึงจุดที่แม้แต่จังหวะการหายใจของพวกเขาก็ยังพร้อมเพียงกัน มันเป็นภาพที่ค่อนข้างน่าขนลุกฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“พวกนายจะทำให้ฉันพิการงั้นเหรอ?“เชื่อฝีมือของสามคนนี้เนี่ยนะ?“เลิกฝันลม ๆ แล้ง ๆ ได้แล้ว”ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้า“อย่ามัวแต่เสียเวลาเลย“ทำไมไม่ดาหน้าเข้ามาเลยล่ะ”“ให้เราทุกคนดาหน้าเข้าไปเนี่ยนะ? นายไม่มีสิทธิ์มาทำให้บัตเลอร์จอห์นต้องทำงานสกปรก!”บัตเลอร์จอห์นหัวเราะอย่างสมเพช“พวกนายสามคน! เข้าไปพร้อมกันเลย!“ไม่ต้องเสียเวลาแล้ว!”คนในชุดคลุมสีทองพยักหน้าก่อนจะโบกมือ หลังจากนั้น ลูกธนูที่ซ่อนอยู่ก็บินไปทางฮาร์วีย์ด้วยความเร็วแสงฮาร์วีย์รู้ว่าลูกธนูดังกล่าวอันตรายเพียงใดเมื่อเขาเห็นท่าทางมั่นใจของศัตรูเขาถอยหลังไปสองสามก้าว แทนที่จะพุ่งไปข้างหน้าตูม ตูม ตูม!เศษไฟกระจายไปทั่วสถานที่
พวกพยัคฆ์ทะเลเหนือยิ้มอย่างสมเพช“ฉันไม่สนหรอกว่านายเป็นใคร แต่นายไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลจอห์น!”แอนเซลก้าวไปข้างหน้าอย่างใจเย็นก่อนที่จะเหวี่ยงดาบออกไปการกวัดแกว่งนั้นไม่ได้เร็วนัก แต่ก็มากพอจะทำให้เกิดแสงจ้าคล้ายแสงจันทร์ขึ้นได้ใบหน้าของชายที่พูดเปลี่ยนไปทันทีเขารู้สึกได้เลยว่าเขาตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของแอนเซลการฟาดฟันของอีกฝ่ายดูคล้ายจะช้ามากในสายตาของเขาช้าจนเขาเผลอคิดไปว่าเขาสามารถรับมือกับมันได้แต่ว่า เขากลับรู้สึกว่าเขาช้ายิ่งกว่าการฟันของศัตรูซะอีก...นี่มันหมายความว่าอย่างไร?การโจมตีในครั้งนี้นั้นเร็วเกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจ!ซึ่งก็แปลได้ว่า เขาไม่มีทางป้องกันตัวเองจากคมดาบนั้นได้เลย!ถึงกระนั้นเขาก็ไม่อาจอยู่เฉยรอให้อีกฝ่ายมาเล่นงานเขาได้เขากัดฟัน โบกมือออกไปอย่างรวดเร็วก่อนจะยิงธนูที่ซ่อนเอาไว้ในที่สุดทุกคนก็สามารถเห็นการโจมตีของแอนเซลพวกเขายังเผลอคิดไปว่าสถานที่โดยรอบจะพังลงอย่างไม่เป็นท่าเสียแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าชายคนนั้นต่างหากที่เป็นฝ่ายล้มลงกับพื้น ควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้โดยสิ้นเชิง ร่างกายของเขาสั่นสะท้านรอยแผลขนาดให
“ชื่อของฉันงั้นเหรอ?“ทำราวกับว่าถ้ารู้ว่าฉันเป็นใครแล้วเธอจะมีปัญญามาแก้แค้นอย่างนั้นแหละ“ถ้าไม่ใช่เพราะตัวตนที่ฉันมี ฉันคงฆ่าเธอไปเป็นร้อยครั้งแล้ว”แอนเซลมองเธอด้วยท่าทางเย็นชาคนที่เหลือได้แต่ยืนตากระตุกอยู่อย่างนั้นพวกเขาปลดเซฟตี้ของปืนออกทันที แต่ในขณะนั้นอาวุธของพวกเขาเย็นวาบและหนักผิดปกติฮาร์วีย์มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น ในตอนที่เขาเลือกเกษียณตัวเองออกมาเมื่อนานมาแล้ว แอนเซลเองก็ทำแบบเดียวกัน ในตอนนั้นแอนเซลยังไม่ใช่เทพสงครามแต่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแอนเซลก็ฝึกตัวเองอย่างหนัก เขาจะสามารถทะลวงขีดจำกัดของตัวเองและสามารถขึ้นเป็นเทพสงครามคนใหม่ได้ หากมีโอกาสได้แสดงฝีมือ!ฮาร์วีย์รู้สึกประหลาดใจกับทักษะของแอนเซลเขาแทบไม่ต้องเสียแรงเลยด้วยซ้ำ“ฉันก็นึกว่าใคร! ที่แท้ก็ผู้บัญชาการตอร์เรสนี่เอง!”ในที่สุดบัตเลอร์จอห์นก็จำแอนเซลได้ ในขณะที่ทุกคนตัวแข็งอยู่กับที่“ผู้บัญชาการตอร์เรสผู้เลื่องชื่อมีทักษะที่น่าสะพรึงกลัวหลังกลับจากกองทัพ และใช้โอกาสนี้ก้าวขึ้นเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของสถานีตำรวจฟลัตเวลล์”“ฉันน่ะสงสัยจริง ๆ ว่าเด็กเหลือขอไร้สมองอย่างนายจะมีทัก
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ในห้องโถงด้านข้างคฤหาสน์ตระกูลจอห์น ชายรูปงามในชุดสูทเตะบัตเลอร์จอห์นลงกับพื้นอย่างโหดเหี้ยม“แอนเซลพูดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?“อะไรทำให้เขาโอหังได้ขนาดนั้น!“เขาคิดว่าเขาจะทำอะไรตามอำเภอใจได้เพียงเพราะเขามีความสามารถในการต่อสู้งั้นเหรอ“เขาลืมไปหรือเปล่าว่าลุงของฉันทำให้พ่อของเขาพิการด้วยการเคลื่อนไหวเพียงกระบวนท่าเดียว!“เขาคิดว่าเขาจะสามารถจัดการตระกูลจอห์นได้เพียงเพราะเขาเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของสถานีตำรวจฟลัตเวลล์เหรอ!“เจ้าโง่นั่น!”ชายหนุ่มรูปงามเผยสีหน้าเย็นชาอย่างยิ่งเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนายน้อยของตระกูล อย่างเอลเลียต จอห์นนั่นเอง!ดาห์เลียเป็นน้องสาวของเขาหลังจากที่เขาได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เอลเลียตวางแผนที่จะจัดการกับสถานการณ์แทนน้องสาว และทวงคืนศักดิ์ศรีให้กับตระกูลด้วยปฏิบัติการในครั้งนี้ เขาไม่สนว่าเรื่องนี้ใครจะถูกหรือผิดเขาออกคำสั่งให้กลุ่มพยัคฆ์ทะเลเหนือลงมือโดยมีบัตเลอร์จอห์นผู้เป็นแขนขาของเขาได้อย่างไรที่ติมาโดยตลอดเคียงข้างพวกเขาไปด้วย เอลเลียตคิดว่าเขาจะสามารถโค่นฮาร์วีย์ได้อย่างง่ายดายอีกนัยหนึ่ง ตระกูลของเขาจะ
ชายสูงอายุในวัยห้าสิบเดินกอดอกก้าวมาข้างหน้าชายผู้นี้เป็นหัวหน้าตระกูลจอห์น กาวิน จอห์นเขาเป็นพ่อของเอลเลียต และยังเป็นน้องชายของผู้นำระดับสูงของโกลด์เด้น พาเลซอีกด้วย“แอนเซลไม่มีความหมายอะไรเลย“แม้ว่าเขาจะเป็นเทพสงคราม แต่เขาก็เทียบกับโกลด์เด้น พาเลซไม่ได้“ถึงอย่างนั้น หัวหน้าผู้ฝึกสอนก็ไม่ใช่คนที่เราจะล้อเล่นด้วยได้!“เราจะไม่พูดถึงสงครามระหว่างยูโร-อเมริกา แต่เป็นเรื่องหลังจากนั้น สงครามโลกครั้งที่หนึ่งในตะวันออกกลาง“เป็นเพราะหัวหน้าผู้ฝึกสอน เทพสงครามจากประเทศอื่น ๆ จึงไม่กล้าก้าวเข้ามาในเขตแดนของประเทศ H แค่เหตุผลข้อนี้เพียงอย่างเดียวก็พอที่จะพิสูจน์ให้เห็นได้แล้วว่าผู้ชายคนนั้นน่ากลัวแค่ไหน“จนกว่าจะเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลตอร์เรสกับผู้ชายคนนั้น…“การตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาในตอนนี้ไม่เข้าท่าเลยสักนิด“ปล่อยให้แอนเซลปกป้องฮาร์วีย์ตามที่เขาต้องการได้เลย“ทำไมนายต้องสู้กับคนที่มีกำลังสนับสนุนมากมายขนาดนั้นเพื่อคนที่นายไม่รู้จักด้วย?”กาวินมองเอลเลียตด้วยแววตาขมขื่น“คราวหน้า หัดใช้สมองแทนอารมณ์ และเลิกพูดอะไรโง่ ๆ เพียงเพราะถูกอารมณ์พาไปได้แล้ว”“ผมมันสะ