นี่มันบ้าอะไรกัน?!ฮาร์วีย์ ยอร์กถึงกับพูดไม่ออกไปเลยเขาไม่ได้เต็มใจจะมาที่นี่ และนี่ไม่เกี่ยวอะไรกับโคริ จอห์นเลยด้วย!แต่ก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้พูดอะไรออกไป โคริก็รีบตัดบทเขาพร้อมกับถอนหายใจ“ฉันเข้าใจ ฮาร์วีย์“เพื่อน ๆ ฉันเอาแต่บอกว่านายชอบฉันมาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยแล้ว! นายไปวิ่งแถวหอพักของเราทุกเช้าก็เพื่อเรียกร้องความสนใจจากฉัน!“นายไปวิ่งตลอด แม้ว่าฝนจะถล่มราวกับฟ้ารั่วก็ตาม!โคริสะบัดปลายผมหางม้าอย่างนึกสนุก กลิ่นหอมโชยมาจากปลายผมของเธอ“บอกตามตรงว่าฉันไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนั้นเลย!“ฉันรู้ว่าฉันดูดีที่สุดและมีความสามารถมากที่สุดในมหาวิทยาลัย แต่ฉันไม่เคยคิดว่าจะมีใครให้ความสนใจกับฉันขนาดนั้นเลย“ตั้งแต่เรียนจบนี่ก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว แต่นายก็ยังอุตส่าห์ดั้นด้นมาจากบัควู้ดเพียงเพื่อจะได้พบฉัน!“นี่นายเที่ยวไล่สอบถามเรื่องที่อยู่ของฉันไปทั่วเลยสินะ!“นี่ฉันถึงกับพูดไม่ออกเลยนะ”ในขณะนี้ โคริรู้สึกดีกับตัวเอง“ฉันรู้ว่านายตกหลุมรักฉันหมดหัวใจ แต่ฉันจะบอกนายเป็นครั้งสุดท้าย นายไม่มีโอกาสนั้นหรอก!“ลืมเรื่องนี้ไปเสียเถอะ! เลิกมาเสียเวลากับฉันได้แล้ว!”เพื่อนของโคร
โคริ จอห์นไม่พอใจกับการที่ฮาร์วีย์ ยอร์กปฏิเสธเจตนาของตัวเองการเป็นคนไม่เอาไหนไม่ได้เป็นปัญหาเลย แต่เขากลับไม่ยอมรับความจริงที่ว่าเขาทำทุกอย่างเพื่อเธอ! เรื่องนี้แหละที่ทำให้เธออับอายเป็นอย่างมาก!แล้วเธอจะกล้าอวดตัวได้อย่างไร! เธอคงไม่อาจปรนเปรอความเย่อหยิ่งของตัวเองได้!โคริมองฮาร์วีย์และเยาะเย้ยอย่างเย็นชา“ไม่ว่านายจะพยายามแค่ไหนหรือพยายามจะทำอะไร นายก็ไม่มีโอกาสได้ยืนเคียงข้างฉันอยู่วันยันค่ำ!“ฉันเป็นศิษย์ภายนอกของของหลงเหมินแห่งฟลัตเวลล์แล้ว"แล้วนายล่ะ? นายก็ยังเป็นแค่ขี้แพ้อยู่วันยังค่ำ!“เรามันคนละชั้นกัน!“เราเข้าไปข้างในกันเถอะสาว ๆ”โคริสะบัดผมของเธอก่อนที่จะเดินไปในโรงยิมกับเพื่อน ๆ หลังจากพูดจบฮาร์วีย์มองตามแผ่นหลังของโคริไปอย่างพูดไม่ออก เขาไม่แน่ใจว่าโคริมั่นใจมากเกินไปหรือเป็นเพราะเขาดวงตกอย่างหนักกันแน่เขามาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเท่านั้น แต่กลับถูกปฏิบัติเป็นคนโรคจิตที่เอาแต่สะกดรอยตามใครบางคนมาตลอดทางฮาร์วีย์ตัวสั่นเมื่อความคิดนี้แล่นอยู่ในหัวของเขา เขารีบสลัดความคิดทิ้งก่อนที่จะวิ่งไปที่แผนกต้อนรับเพื่อสอบถามข้อมูลของสนามสอบไม่กี่นาทีต่อมา
“พวกคุณมีเวลาสองชั่วโมง! เกณฑ์ผ่านการทดสอบนี้อยู่ที่หกสิบคะแนน!“ทุกคนที่ผ่านการทดสอบจะถูกจัดอันดับจากคะแนนสูงสุดไปต่ำสุด! แล้วจะมีเพียงหนึ่งร้อยอันดับแรกเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ผ่านเข้ารอบคัดเลือกนี้ไป!“ห้ามพูดคุยหรือเล่นโทรศัพท์ระหว่างทำข้อสอบ! ไม่เช่นนั้นคุณจะถูกตัดสิทธิ์!“ทั้งผู้ตรวจสอบและผู้คุมสอบต่างก็เป็นศิษย์ของหลงเหมิน!“หัวหน้าผู้ตรวจสอบในวันนี้คือรองหัวหน้าสาขาหลงเหมินแห่งฟลัตเวลล์ ฟิชเชอร์ เบเนตต์นั่นเอง!“หากใครพบว่ามีการโกงเกิดขึ้น สามารถรายงานเรื่องนี้กับรองหัวหน้าสาขาเบเนตต์ได้เลย! เมื่อตรวจสอบพบว่าเกิดการโกงสอบขึ้นจริง ผู้แจ้งจะได้รับคะแนนพิเศษเพิ่มด้วย!”หลังจากได้ยินคำพูดของชายคนดังกล่าว ก็มีคนอีกหลายสิบคนก้าวออกมาทักทายผู้เข้าสอบคนที่โดดเด่นที่สุดคือชายชราที่มีร่างกายกำยำ ดูน่าเกรงขาม ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฟิชเชอร์ เบเนตต์ผู้นั้นรองหัวหน้าสาขาไม่ได้น่าประทับใจนัก เนื่องจากสำนักงานใหญ่ของหลงเหมินอยู่ที่ฟลัตเวลล์...แต่ตัวตนนั้นค่อนข้างน่าประทับใจสำหรับคนทั้งโลก!ผู้เข้าสอบแสดงความชื่นชมเมื่อมองไปที่ฟิชเชอร์พวกเขาได้แต่คาดหวังว่าจะได้เข้าร่วมกับหล
"เงียบเสีย! ได้เวลาทำข้อสอบแล้ว!”หลังจากนั้นไม่นาน ข้อสอบก็ถูกแจกจ่าย ข้อสอบมีทั้งหมดร้อยคำถาม มีทั้งคำถามแบบปรนัย คำถามแบบจริงหรือเท็จ และคำถามประเภทเติมคำในช่องว่าง แต่คำถามเหล่านั้นค่อนข้างลึกซึ้งใครที่สับสนในคำถามของข้อสอบ ก็จะหัวหมุนได้ในทันทีแม้แต่โคริ จอห์นและคนอื่น ๆ ก็ได้แต่ขมวดคิ้วทันทีที่ได้เห็นคำถามเหล่านั้นฮาร์วีย์ ยอร์กตอบคำถามได้อย่างรวดเร็วโดยที่สีหน้าของเขายังคงนิ่งเฉยไม่เปลี่ยนแปลงอีกทั้งผู้คุมสอบทั้งหลายก็ดูผ่อนคลายไม่น้อยนอกจากความจริงที่ว่าที่นี่มีกล้องวงจรปิดหลายสิบตัวคอยจับตาดูไว้อยู่แล้ว ข้อสอบพวกนี้ก็ยากเกินไปด้วย หากพวกเขาไม่รู้วิธีตอบคำถามที่ตัวเองได้รับ ถึงจะโกงข้อสอบไปก็ไม่มีประโยชน์หลังจากเดินไปรอบ ๆ ห้องโถงสองรอบ ผู้คุมสอบก็เริ่มทำข้อสอบด้วยตัวเองดูบ้าง เขาอยากจะรู้นักว่าตัวเองจะทำข้อสอบได้มากน้อยเพียงใดเวลาผ่านพ้นไปครึ่งชั่วโมงแล้ว…ฮาร์วีย์ทำแบบทดสอบเสร็จเรียบร้อย ทั้ง ๆ ที่กำหนดเวลาจริงคือสองชั่วโมงนี่ไม่ใช่เพราะราเชล ฮาร์ดีเน้นจุดทำคะแนนให้ฮาร์วีย์อย่างครอบคลุม แต่ในข้อสอบมีคำถามที่เกี่ยวข้องกับความรู้ทางศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริง
หลังจากนั้นไม่นานเวลาในการสอบก็หมดลง ยังเหลือเวลาก่อนอาหารกลางวันอีกหนึ่งชั่วโมงด้วยเนื่องจากพวกเขามีกระดาษคำตอบให้กับผู้เข้าสอบได้ใช้ พวกเขาจึงไม่เสียเวลาในการตอบคำถามมากนักทุกคนรออยู่เกือบหนึ่งชั่วโมง ก่อนที่ผลการทดสอบจะออกมาตอนสิบเอ็ดนาฬิกาสามสิบนาทีวิลเบอร์ ลีและผู้คุมสอบคนอื่น ๆ กำลังเตรียมการคืนเอกสารอยู่บนเวทีทุกคนต่างกังวลเกี่ยวกับคะแนนของพวกเขาอยู่ในขณะนี้แม้แต่คนอย่างโคริ จอห์นก็ยังจมอยู่ในความวิตกกังวล ในทางกลับกันฮาร์วีย์ ยอร์กยังคงเฉยเมยคนที่ได้รับเอกสารคืนก่อนกำหนดล้วนแต่ไม่ผ่านการทดสอบ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าข้อสอบเหล่านั้นไม่ง่ายเลยสักนิด ทั่วทั้งสถานที่เต็มไปด้วยความกดดันเป็นอย่างสูง “เอ็มม่า เบียร์สตัดท์! เจ็ดสิบเก้าคะแนน! อันดับที่หนึ่งร้อย!”ฝูงชนอ้าปากค้าง คะแนนดังกล่าวนับว่าไม่ได้สูงมากนะแต่ก็สูงพอที่จะทำให้เธอผ่านเข้ารอบไปได้“แอ๊บบี้ มิลเลอร์! แปดสิบสองคะแนน! อันดับที่แปดสิบเก้า!”……คะแนนสูงๆ ถูกเรียกออกมาอย่างต่อเนื่องในขณะที่ฝูงชนส่งเสียงหัวเราะ ช่วยลดความกดดันของพวกเขาลงได้เล็กน้อย“โคริ จอห์น! เก้าสิบห้าคะแนน! อันดับที่หนึ่ง!"หลังจากนั้นทุกคน
วิลเบอร์ ลีหรี่ตามองฮาร์วีย์ ยอร์กอย่างเย็นชาพร้อมกับกอดอก“นายก็น่าจะรู้ตัวอยู่แล้วนี่ ฮาร์วีย์!“งานรวมตัวสุดยอดหลงเหมินไม่ใช่ที่ให้นายมาเล่นสนุก! การสอบครั้งนี้มีความสำคัญพอ ๆ กับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเลยด้วยซ้ำ!“นายไม่เพียงแต่โกงข้อสอบเท่านั้น แต่ยังถูกต้องสงสัยว่าขโมยกระดาษคำตอบอีกด้วย! นายมันรนหาที่เองนี่นา!“รองหัวหน้าสาขาเบเนตต์และคนอื่นๆ กำลังรอนายอยู่ในห้องประชุม!“ไปขอโทษเขาในสิ่งที่นายทำ! ไม่อย่างนั้นนายจบไม่สวยแน่!“บางทีรองหัวหน้าสาขาเบเนตต์อาจจะปล่อยนายไปก็ได้ ถ้านายยอมรับความผิดของตัวเอง!“ไม่อย่างนั้น ฉันคงต้องรายงานเรื่องนี้ต่อกองบังคับคดีของหลงเหมินทันที!“นายจะพบเจอกับสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าการถูกโยนเข้าคุกเสียอีก!”วิลเบอร์ชี้ไปข้างนอกด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ“เขาโกงงั้นเหรอ!”โคริ จอห์นและคนอื่น ๆ ตกตะลึงก่อนที่จะจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์อย่างเหยียดหยาม'นายจะเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ด้วยการโกงแบบนี้ไม่ได้!''ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมฮาร์วีย์ถึงเป็นคนแรกที่ส่งกระดาษคำตอบ ใครจะนึกแล้วว่าเขาจะใช้กลอุบายเพื่อให้ได้กระดาษคำตอบมา? ช่างไร้ยางอายจริงๆ…’โคริแอบถอนหายใจ'โถ่ฮ
หลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ ยอร์กแล้ว โคริ จอห์นก็ถอนหายใจด้วยความผิดหวังครั้งใหญ่ก่อนที่ทำท่าทางเหยียดหยาม“เลิกเสแสร้งได้แล้วฮาร์วีย์!“แค่ยอมรับผิดซะมันยากนักหรือ!“นายคิดว่าเราดูไม่ออกหรือไง!“นายคิดว่าฉันไม่รู้จักนายเหรอ!“ฉันเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยของนาย! นายไม่รู้จักศิลปะการต่อสู้อะไรเลยด้วยซ้ำ!”วิลเบอร์ ลีมีความริษยาในประกายตาของเขา หลังจากได้ยินว่าฮาร์วีย์และโคริเคยเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยกันเขาจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเกรี้ยวกราดและตะโกนขึ้น “นายได้ยินไหม ฮาร์วีย์?!“แม้แต่โคริยังบอกเลยว่านายไม่รู้เรื่องศิลปะการต่อสู้อะไรทั้งนั้น! ทำไมยังไม่เลิกเสแสร้งอีก!“ยอมรับผิดสักทีเถอะ!“ไม่อย่างนั้น นายจบไม่สวยแน่!”ฮาร์วีย์มีสีหน้าเรียบเฉย“นายเอาแต่ยืนยันว่าฉันโกงและขโมยเฉลย แต่ไหนล่ะหลักฐาน?“นายคงจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดครบทุกตัวแล้วใช่ไหม?“นายเห็นฉันเอาอะไรเข้ามาในนี้บ้างเหรอ?“ถ้านายจะบอกว่าฉันแอบจำคำตอบไว้ล่วงหน้า งั้นก็บอกฉันมาสิว่าใครเป็นคนปล่อยให้คำตอบรั่วออกไป ผู้อาวุโสคนไหนถูกขโมยกระดาษคำตอบไปล่ะ?“ผู้เข้าสอบแต่ละคนจะได้รับคำถามที่แตกต่างกันไปอย่างชัดเจน ผ
ใบหน้าของวิลเบอร์ ลีมืดลงทันทีก่อนที่เขาจะจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์ก“นี่นายกำลังกังขาในการตัดสินของฉันอยู่เหรอ ฮาร์วีย์!”โคริ จอห์นยังคงเหยียดหยามไม่เลิก“นายกล้าดียังไงไปถามผู้คุมสอบลีแบบนั้น?!“เขาเป็นถึงศิษย์สายนอกของหลงเหมินสาขาฟลัตเวลล์เชียวนะ!“ความรู้ด้านศิลปะการต่อสู้ของเขายอดเยี่ยมมาก! ถ้าเขาเป็นคนคิดคำถามแล้วก็นายตอบไม่ได้แน่!”โคริผิดหวังในตัวฮาร์วีย์หนักขึ้นไปอีกเธอไม่เพียงแต่เชื่อว่าฮาร์วีย์ทั้งยากจนและไร้อำนาจเท่านั้น แต่เขายังไม่ยอมรับความจริงว่าโกงข้อสอบอีกต่างหาก! ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรที่จะมาหลงรักเธอ!วิลเบอร์จ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชา ก่อนที่เขาจะหัวเราะเบา ๆเห็นได้ชัดว่าเขาคาดการณ์มาแล้วว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น ในตอนที่เขาวางแผนจะบดขยี้สิ่งที่เรียกว่าคู่แข่งของตัวเอง“ในเมื่อนายบอกว่านายมีความสามารถขนาดนั้น..“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะให้โอกาสนายได้พิสูจน์ตัวเอง!เขาดึงกระดาษหนึ่งแผ่นออกมาวางบนโต๊ะ จากนั้นก็เขียนคำถามที่เขาเตรียมเอาไว้เองสามข้อลงไปจากนั้นวิลเบอร์ก็แสดงรอยยิ้มแข็งคืนส่งไปให้ฮาร์วีย์“ฉันจะให้เวลานายสิบห้านาที! ถ้านายสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได