ออซซี่ เมอร์เรย์ครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ ก่อนที่เขาจะเผยรอยยิ้มอันขมขื่นบนใบหน้าดังที่โจเซฟ บาวเออร์กล่าวไว้ หากการที่ฮาร์วีย์ ยอร์กฆ่าล้างตระกูลโบวี่เป็นฝีมือของเขาจริงๆ เขาคงไม่รอดแน่หากเนลสัน ตอร์เรสมีส่วนเกี่ยวข้องแต่เนื่องจากเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงอุบายที่จะจัดการกับฮาร์วีย์ ประสาทสัมผัสอันเฉียบแหลมของเนลสันน่าจะมองเรื่องทั้งหมดออกหากเป็นเช่นนั้นนั่นหมายความว่าออซซี่กำลังแกว่งเท้าหาเสี้ยนออกัสต์ บาวเออร์ ก้าวไปข้างหน้าหลังจากเห็นท่าทางที่น่ากลัวของออซซี่“นายน้อยผมอยากรู้อะไรเรื่องหนึ่ง“เหตุใดแมนดี้ ซิมเมอร์จึงปฏิเสธข้อเสนอที่เอื้อเฟื้อเช่นนี้จากคุณ?“ว่ากันตามตรรกะแล้ว เธอน่าอยากจะช่วยสามีของเธอสิ“แต่สิ่งที่เธอกำลังทำจะไม่ทำให้ฮาร์วีย์เจ็บปวดมากกว่าเดิมเหรอ?“เราควรเริ่มต้นด้วยการเข้าหาเธอก่อนดีหรือเปล่า?”“ผู้หญิงคนนี้รับมือได้ยากกว่าที่ฉันคิดไว้มากโจเซฟแสดงสีหน้าเย็นชาเมื่อพูดถึงแมนดี้“มันบอกได้เลยว่าเธอยังรักฮาร์วีย์อยู่ถึงมันจะให้ความรู้สึกที่ขัดแย้งกันก็ตาม“ตัวอย่างเช่น เธอพยายามจะพาสามีออกจากคุก โดยเชื่อว่าเขาบริสุทธิ์จริง ๆ“เธอไว้ใจฮาร์วีย์ถึงขนาดก
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าของฟลัตเวลล์มืดมนกว่าปกติเล็กน้อยอุณหภูมิที่ลดลงอย่างกะทันหันทำให้ท้องถนนเย็นยะเยือกขึ้น ร้านค้าต่าง ๆ ก็เปิดช้ากว่าเล็กน้อยด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังง่วงงุนสองคนกำลังลาดตระเวนที่บริเวณทางเข้าสถานีตำรวจฟลัตเวลล์ขณะที่พวกเขากำลังจะเปลี่ยนกะและทานอาหารอยู่นั้น...รถยนต์หลายสิบคันได้ขับผ่านไปอย่างกะทันหันหลังจากนั้นไม่นาน ผู้คนในชุดคลุมหลายร้อยคนก็วิ่งออกจากรถหัวใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจเต้นรัวขณะที่พวกเขาจับอาวุธปืนที่อยู่ที่เอวเห็นได้ชัดว่าผู้คนในชุดคลุมได้รับการฝึกฝนมา เพียงแค่ผู้ตรวจสอบสองคนคงไม่เพียงพอที่จะรับมือกับคนพวกนั้นได้ทั้งหมดแต่ขณะนี้ผู้มาเยือนไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย พวกเขาไม่ได้พยายามล้อมผู้ตรวจสอบด้วยซ้ำชายผู้นำกลุ่มโบกมือก่อนมีคนเริ่มไว้ทุกข์ขณะเดียวกันก็มีคนนำป้ายออกมาจากรถคันหนึ่งป้ายเป็นสีขาวและมีข้อความสีดำเขียนอยู่ เรียกร้องให้ฆาตกรชดใช้ด้วยชีวิตของเขา!ผู้คนก้าวไปหน้าสถานีตำรวจอย่างดุเดือดและกู่ร้องต้องตะโกนขึ้นว่า “ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต! คืนความยุติธรรมให้เราด้วย!”คนกลุ่มนี้ดึงดูดผู้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้ทัน
ฮาร์วีย์ ยอร์กเปิดกล่องอาหารแบบซื้อกลับบ้านอย่างไม่แยแสและเอียงศีรษะ“พวกเขาไม่รู้หรอกว่าฉันเป็นหัวหน้ากองบังคับคดี?“พวกเขาไม่กลัวหรอกว่าฉันจะฆ่าพวกเขาที่มาสร้างความวุ่นวายแบบนี้?”แอนเซล ตอร์เรสหัวเราะอย่างขมขื่น“ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ พวกเขาคงกลัวจนหัวหดเชียวล่ะ“แต่ตอนนี้ทำไมพวกเขาถึงไม่กลัวคุณแล้วน่ะหรือ?“ในสายตาของพวกเขา คุณไม่มีทางจะได้ออกจากที่นี่ตลอดไป“มีคนเปิดทางให้พวกเขาทำแบบนี้ จะมีอะไรดีไปกว่าการข้ามคนที่ล้มลงไปแล้วอีกล่ะ”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ ก่อนหยิบไก่ทอดชิ้นหนึ่งขึ้นมา“คุณรู้ไหมว่าใครเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมดนี้”“ยังไม่รู้ แต่ไม่มีทางที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องพวกนี้จะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ“ศัตรูอยากให้คุณตายโดยเร็วที่สุด…”“ตอนแรกพวกเขาไม่ต้องการแบบนั้นหรอก…” ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น“แต่เมื่อพี่ชายของคุณมาอยู่ที่นี่ เขาจะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างยุติธรรมและคลี่คลายคดีได้อย่างแน่นอน“ศัตรูกลัวว่าแผนการของพวกเขาจะสูญเปล่า เพราะอาจมีเบาะแสที่จะทำให้เขาเดือดร้อนได้“วิธีการที่ง่ายที่สุดที่พวกเขาทำได้ในตอนนี้คือในการสร้างความกดดันให้กับสังคมและบัง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ผู้คนต่างมาออกันที่ทางเข้าสถานีตำรวจราเชลพากลุ่มคนจากกองบังคับคดีของหลงเหมินและแก๊งขวานมาเพื่อตั้งแถวป้องกันไม่ให้ใครเข้าไปด้านในมีบางสิ่งที่ตำรวจทำไม่ได้ แต่กองบังคับคดีและแก๊งขวานทำได้อย่างไรก็ตาม ศัตรูต้องรู้ว่าฮาร์วีย์น่าจะมีวิธีจัดการกับสถานการณ์นี้ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังเผชิญความขัดแย้ง ก็มีผู้คนมาดูสิ่งที่เกิดขึ้นมากขึ้นเรื่อย ๆ และราดน้ำมันลงกองไฟแม้แต่ฟลัตเวลล์ทีวี กระบอกเสียงของเมืองก็ยังส่งนักข่าวมืออาชีพหลายต่อหลายคนมาที่นี่เพื่อแพร่กระจายสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ทุกคนในเมืองทราบ...เหตุการณ์ที่เรียกว่าการชุมนุมกลับกลายเป็นงานแถลงข่าวครั้งใหญ่กล้องโฟกัสไปยังจุดเกิดเหตุ ถ่ายทอดสดสถานการณ์ทั้งหมดแอนเซลไม่รู้ว่าฮาร์วีย์กำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อเขาเห็นนักข่าวกลุ่มใหญ่และมีเวทีชั่วคราวอยู่ข้างหลังพวกเขา สีหน้าของเขาก็มืดลงทันทีเมื่อพิจารณาจากหลักฐานที่มีอยู่ ก็เห็นได้ชัดว่าฮาร์วีย์เป็นผู้บริสุทธิ์อนิจจาประชาชนอาจจะไม่ยอมรับความจริงข้อนั้นคำขวัญของพวกเขาคือทุกคนยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่ามีความผิด แต่สิ่งนี้ไม่อาจเ
หลังจากได้ยินเกี่ยวกับตัวเลขเหล่านั้น ฝูงชนก็อ้าปากค้างสำหรับคนทั่วไป สิ่งเหล่านี้คือจำนวนเงินที่ไม่มีทางหาได้ในชีวิตเนื่องจากฮาร์วีย์เต็มใจที่จะใช้เงินจำนวนนี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขา นั่นหมายความว่าเขาไม่ใช่ฆาตกรนั่นก็เพราะจะไม่มีใครทำอะไรที่มันได้ไม่คุ้มเสียหากมันไม่มีเหตุผลพอ"เขาโกหก!"“เขาต้องเป็นผู้ต้องสงสัยที่เข้าเค้าที่สุดแน่! เขาเป็นฆาตกร!”“ที่เขาใช้เงินมากมายขนาดนี้ก็เพราะว่าเขาผิดจริง!”“ไม่งั้นทำไมเขาต้องทำอะไรแบบนี้ด้วย!”แต่ทว่าปัญหาใหม่ก็ปรากฏขึ้นทันทีที่ปัญหาหนึ่งถูกแก้ไขหลายคนสวมเสื้อคลุมยืนข้างหน้าพวกเขาทั้งหมดมีร่างสูงสง่าและมีรูปร่างที่ดี และซึ่งสามารถโจมตีผ่านแก๊งขวานซึ่งพยายามรักษาความสงบเรียบร้อยมาได้สมาชิกของกองบังคับคดีหลงเหมินขมวดคิ้วเมื่อตระหนักว่าคนเหล่านี้เป็นเจ้าของใบหน้าที่คุ้นเคย“ฟังพวกเรานะ! พวกเราทุกคนเป็นญาติของรองหัวหน้าบาวเออร์! เรามีสิทธิที่จะพูดความจริง!”“คุณกลัวว่าเราจะพูดออกไปงั้นเหรอ? เพราะคุณมีความผิดใช่ไหมล่ะ?!”“คุณกลัวว่าคำโกหกของคุณจะถูกเปิดเผยใช่ไหม?”“บ้าเอ๊ย! คิดว่าพวกเราโง่หรือไง?! ฆาตกรกล้าดียังไงมาแจ้ง
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ เมื่อเขาเห็นออกัสต์ปรากฏตัว“นั่นฟังดูงี่เง่านิดหน่อยนะ ว่าไหม?“คุณไม่พานายน้อยสิบสามของคุณออกมาโชว์ตัวในโอกาสที่ยิ่งใหญ่แบบนี้หน่อยเหรอ?“เขาคิดจะให้แพะรับบาปของตัวเองปรากฏตัวแทนหรือไง?“ไม่คิดว่านี่มันงี่เง่าไปหน่อยเหรอ?”“นายน้อยลำดับที่สิบสาม? งี่เง่า?"การแสดงออกของออกัสต์เปลี่ยนไปทันทีหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ที่นี่นายเป็นฆาตกร ฮาร์วีย์! เรามาที่นี่เพื่อทวงความยุติธรรมเท่านั้น แต่นายยังคิดจะลากนายน้อยสิบสามมาเกี่ยวด้วยอีก!"นายมันบ้าไปแล้ว!“สมาชิกตระกูลเหล่านี้ ฝูงชนกลุ่มนี้ และนักข่าวต่างก็จับตามองอยู่!“นายไม่มีทางหลอกพวกเราได้หรอก!”ออกัสต์อธิบาย “ประสบการณ์” ของเขาสั้น ๆ และเปิดวิดีโอให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นฟังนักข่าวต่างปลาบปลื้มเมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อมาถึงจุดนี้ เหตุการณ์นี้จะกลายเป็นหัวข้อข่าวใหญ่ในวันรุ่งขึ้นอย่างแน่นอน“คุณยินดีรับฟังคำพูดจากคนของตระกูลเหยื่อไหม คุณยอร์ก” นักข่าวเอ่ยถาม“อย่างน้อยคนก็ควรอธิบายตัวเองด้วยใช่หรือเปล่า?”สาวกของกองบังคับคดีของหลงเหมินและกลุ่มขวานขมวดคิ้วหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ดูราวกับว่า
ทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นภาพนั้น ไม่มีใครกล้าตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของชายคนนี้ ท้ายที่สุดแล้ว ทุกสิ่งที่ผู้ชายทำนั้นเรียกได้ว่าบ้าเข้าขั้น!นักข่าวคิดถึงพาดหัวข่าวแล้วขณะที่พวกเขาถ่ายรูปกันอยู่“ฆาตกรพยายามอยู่เหนือกฎหมาย ตระกูลของเหยื่อหลั่งเลือดเพื่อพิสูจน์ข้อแก้ต่าง…”ฮาร์วีย์เหลือบมองภาพนั้นด้วยท่าทางขบขันนักข่าวคิดว่าฮาร์วีย์ยโสเกินไป และกฎหมายจะลงโทษเขาในไม่ช้าขณะเดียวกันญาติคนอื่น ๆ ก็เริ่มพูดขึ้นในขณะที่ทุกอย่างดำเนินไปเช่นนั้น เพื่อนและเครือญาติของตระกูลโบวี่ก็รีบรุดไปข้างหน้าเมื่อเห็นเหตุการณ์นั้นพวกเขาทั้งหมดปักใจเชื่อแล้วว่าฮาร์วีย์เป็นฆาตกร และเขาชดใช้ด้วยชีวิตสำหรับอาชญากรรมทั้งหมดที่เขาก่อฝูงชนมีสีหน้าชอบธรรม พวกเขาทั้งหมดมีความคิดเดียวกันทุกประการ“ฆาตกรมันก็แย่พอแล้ว แต่นี่เขากลับซื้อสถานีตำรวจทั้งหมดไว้ได้และจัดงานแถลงข่าวด้วย! เขาคิดว่าพวกเราทุกคนโง่เง่ากันหมดสินะ!”"คุณยอร์ก! คุณยอร์กมีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม”“มีคนมากมายเรียกคุณว่าเป็นฆาตกร!”“ทำไมคุณไม่ยอมรับข้อกล่าวหาเสียล่ะครับ!”ออกัสต์มองฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าขี้เล่นโจเซฟกล่าวว่าฮาร์วีย์อ
ปึก ปึก ปึก!ญาติของเหยื่อไม่ยอมออมมือเลยแม้แต่น้อย พวกเขากระแทกหัวลงบนพื้นโดยไม่ลังเลเลยสักนิดเลือดไหลออกจากศีรษะของพวกเขาพวกผู้ชายกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดพวกผู้หญิงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดฝูงชนตกใจมากกับเสียงกรีดร้องและสะอื้นที่ผสมปนเปกันไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะสุดโต่งขนาดนี้แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย หากฆาตกรไม่ได้รับการปล่อยตัวตั้งแต่แรกพวกเขาจะยอมทำถึงขนาดนี้หรือ?คนพวกนี้น่ะเหรอจะถูกซื้อไปได้ด้วยเงิน?ช่างน่าขันนัก!ตอนนี้พวกเขาถึงขนาดยอมใช้ชีวิตตัวเองเข้าแลกเชียวนะ!"คุณ…"ราเชลและคนอื่น ๆ ขมวดคิ้ว สิ่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการสมรู้ร่วมคิดมากเกินไปจนแทบไม่น่าเชื่อออกัสต์อดไม่ได้ที่จะประทับใจกับภาพที่เห็นนี้เขาใช้เงินมากมายเพื่อซื้อคนเหล่านี้มา...แต่มันก็คุ้มค่ามาก!การแสดงระดับฮอลลีวู้ดแบบนี้จะไม่มีไหนให้เห็นที่อื่นอีกแล้ว!นักข่าวกดปุ่มชัตเตอร์อย่างต่อเนื่อง พยายามบันทึกทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทุกคนเชื่ออย่างสุดหัวใจแล้วว่าฮาร์วีย์เป็นฆาตกรเมื่อพวกเขาจ้องมองไปที่ฮาร์วีย์ ความรังเกียจฉายชัดอยู่ทั่วใบหน้าของพวกเขาถ้าไม่ใช่เพร