หลังจากที่ไวแอตต์ออกไป เซซิเลียก็นั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เธอไม่เคยคิดว่าไวแอตต์จะเป็นคนแบบนั้นเธอมีความใฝ่ฝันที่จะแต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวยมาหลายปีแล้ว มันเป็นสิ่งที่เธอโหยหามากที่สุด แต่หมายความว่าเธอต้องเสียพลีกายเพียงเพื่อที่จะได้แต่งงานในตระกูลที่ร่ำรวยงั้นหรือ?เธอรู้จากคนรู้จักของเธอที่มีประสบการณ์คล้าย ๆ กันเซซิเลียรู้สึกสับสน หลังจากลังเลอยู่นานเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาแมนดี้ เพื่อนสนิทของเธอ“แมนดี้ ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับฮาร์วีย์เป็นอย่างไรบ้าง” เซซิเลียลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะถามตรง ๆ“ทำไมเธอถึงถามฉันเรื่องนี้ล่ะ” แมนดี้สับสนเพราะเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเซซิเลียค่อนข้างสับสน จากนั้นเธอก็พูดว่า “ฉันอยากรู้เรื่องหนึ่ง ถ้าเธอใช้ชีวิตร่วมกับผู้ชายโดยไม่มีความสัมพันธ์ทางกายกับเขาเธอจะสามารถรักษาความสัมพันธ์ฐานะคู่รักได้ไหม?”แมนดี้ตะลึงเซซิเลียพูดตะกุกตะกัก ในขณะนั้นเธอไม่รู้ว่าควรอธิบายสถานการณ์นั้นอย่างไรแมนดี้เข้าใจว่าเซซิเลียหมายถึงอะไร และเธอก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เธอถอนหายใจและพูดว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมื
“เลขาของท่านประธานนั่นหรือคะ?” พนักงานต้อนรับหญิงทำหน้างงสงสัยมาก “รบกวนแจ้งชื่อหน่อยนะคะ…”ตอนนี้ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ถือได้ว่าเป็นบริษัทที่มีอภิสิทธิ์มากในเมืองนิอัมมี่ ใครก็ตามที่ต้องการเข้าพบอีวอนน์ ซาเวียร์ จะต้องให้ความเคารพเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอกับคนแบบไวแอตต์ที่แสดงท่าทีวางอำนาจ“ฉันจะให้เวลาเธอสามนาที ถ้าเธอไม่ออกมา เธอจะไม่ได้เป็นเลขาประธานอีกต่อไป” ไวแอตต์ยิ้มอย่างเย็นชา เขามาที่นี่เพื่อช่วง แล้วทำไมเขาจะต้องทำตัวดีหรือแสร้งจริงใจ?แต่พนักงานต้อนรับหญิงกลับจ้องไปที่ไวแอตต์ด้วยความตกใจ ‘ผู้ชายคนนี้เสียสติไปแล้วเหรอ? เขาไม่รู้หรือไงว่าอีวอนน์เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือที่สุดของท่านประธานผู้ลึกลับคนใหม่’“คุณผู้ชาย ที่นี่คือ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ แม้ว่าดิฉันไม่ทราบว่าคุณคือใคร แต่คุณไม่สามารถพูดเหลวไหลแบบนั้นได้ บริษัท ของเราไม่ต้อนรับคนที่ไม่สุภาพแบบคุณ เชิญคุณออกไปคะ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะโทรเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย” พนักงานต้อนรับหญิงเอ่ยเตือนไวแอตต์ค้ำมือทั้งสองข้างบนโต๊ะ จากนั้นเขาก็ตะคอกเสียงดัง “เธอกล้าสั่งให้ฉันออกไปงั้นเหรอ? เธอเป็นแค่พนักงานต้อนรับ ฉ
พนักงานต้อนรับหญิงจับแก้มเธอด้วยความเจ็บ เธอรู้สึกหวาดกลัวไวแอตต์จนไม่กล้าพูดอะไรเธอเป็นพนักงานต้อนรับหญิงมานานแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นคนที่หยิ่งผยองและบ้าบิ่นแบบนี้“ฉันจะไม่พูดซ้ำ” ไวแอตต์พูดอย่างเยือกเย็น ในขณะเดียวกันเขาก็เหลือบไปเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เดินมา “ถ้าพวกนายต้องการลิ้มรสความทุกข์ทรมาน ก็เข้ามา ถ้าพวกนายยอมรับผลที่ตามมาได้!” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมองหน้ากัน พวกเขาหวาดกลัวกับท่าทีของไวแอตต์จนไม่กล้าที่จะพูดอะไร“ฉัน…ฉันจะโทรหามิสซาเวียร์เดี๋ยวนี้...” พนักงานต้อนรับหญิงรีบโทรไปที่เบอร์ติดต่อภายในสำนักงานของอีวอนน์ทันที แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าใครคือคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ แต่เธอก็รู้ว่าเธอต้องขอให้มิสซาเวียร์มาเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่เช่นนั้นอาจไม่มีใครสามารถจัดการเขาได้หลังจากนั้นไม่กี่นาที อีวอนน์ก็ปรากฏตัวที่ล็อบบี้ เวนดี้อยู่ข้าง ๆ เธอ เมื่อกี้พวกเขากำลังนั่งคุยกันอยู่ เมื่อได้ยินว่ามีคนสร้างปัญหาในบริษัท พวกเขาจึงรีบลงมาที่ล็อบบี้ด้วยกัน “มิสซาเวียร์ คุณมาแล้ว!”“ถ้าคุณไม่ลงมาตอนนี้ บริษัทของเราจะต้องถูกคนอื่นสร้างความวุ่นวายมากแน่นอน”เมื่อเห็น
ไวแอตต์ไม่ต้องการพูดเรื่องไร้สาระอะไรอีก เขาโยนเอกสารการแต่งตั้งไปให้อีวอนน์“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าฉันจะพูดอะไรก็ตาม ที่นี่คือบริษัทของฉัน ฉันหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะถูกตบสั่งสอน ถ้าเธอไม่เชื่อฟัง มันจะไม่จบเพียงแค่ตบสั่งสอนแน่นอน”อีวอนน์หยิบเอกสารมาดู หลังจากที่เธออ่านเนื้อหาในเอกสารแล้วเธอก็รู้สึกสับสนเป็นเอกสารที่ลงนามโดยตระกูลยอร์ก และเนื้อหาระบุถึงการแต่งตั้งไวแอตต์ให้เป็นประธานของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์…‘ได้ยังไง… จะเป็นไปได้ยังไง?’‘ไม่ใช่ว่ามิสเตอร์ยอร์กเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเหรอ? เหตุใดคนจากยอร์กจึงแต่งตั้งคนอื่นที่ไม่รู้จักมาเป็นประธาน? มันเรื่องตลกอะไรเนี่ย?’“คุณเอาเอกสารนี้มาจากไหน? คุณน่าจะรู้เกี่ยวกับผลของการปลอมแปลงเอกสารใช่ไหม?” อีวอนน์พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ปลอมแปลงเอกสารงั้นเหรอ? ทำไมฉันต้องปลอมแปลงเอกสาร? เธอเป็นเลขาของประธานบริษัท เธอไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างเอกสารฉบับจริงกับเอกสารปลอมอย่างงั้ยหรือ? หรือเธอคิดว่าคนอย่างฉันไม่มีสิทธิ์เป็นประธานของพวกเธอ? น่าเสียดายที่ทั้งเธอสองและฉันไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องแบบนี
ท่าทีของอีวอนน์เปลี่ยนเป็นขุ่นเคือง เธอไม่ใช่ผู้หญิงใจง่าย ! ฮาร์วีย์ไม่เคยพูดอะไรแบบนั้นแต่คำพูดเหล่านั้นมาจากคนอย่างไวแอตต์ ทำให้อีวอนน์โกรธมากเธอแทบจะไม่สามารถระงับความโกรธของเธอได้ แต่เธอต้องกัดฟันพูดว่า “ดิฉันได้ติดต่อกับตระกูลยอร์กเพื่อยืนยันตัวตนของคุณแล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นประธานคนใหม่หรือไม่ก็ตาม อย่างไรก็ตามตำแหน่งประธาน และเลขาเป็นเพียงความสัมพันธ์ตามลำดับชั้นเจ้านายและพนักงานเท่านั้น โปรดให้เกียรติด้วยค่ะ!”“ให้เกียรติ?” ไวแอตต์แสยะยิ้ม ‘บางครั้งการทำให้คนอารมณ์ร้อนใจเย็นลงเป็นอะไรน่าตื่นเต้นมาก เหมือนอีวอนน์ในตอนนี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะทำให้เธอยอมจำนน’ทันใดนั้นไวแอตต์ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ และเดินไปปิดประตูออฟฟิศอีวอนน์สะดุ้ง หัวใจเธอเต้นแรง “ไวแอตต์ จอห์นสัน คุณคิดจะทำอะไร?”“เธอคิดว่าฉันกำลังทำอะไรล่ะ?” ไวแอตต์ยิ้มเจ้าเล่ห์ อีวอนน์รู้สึกขนลุกและพูดต่อ “ฉันไม่ได้บอกเธอเหรอ? ตอนนี้ฉันว่าง แล้วมันก็เป็นเรื่องปกตินี่ ใช่ไหม?”อีวอนน์ตกใจมาก เธอไม่รู้ว่าไวแอตต์คนนี้ช่างไร้ยางอายขนาดนี้ เธอปฏิเสธหลายครั้งแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับมาบังคับเธอด้วยการใช้กำลังนี่หรื
“ออกไปให้ห่างจากฉัน! อย่าแตะต้องฉัน!”“เธอเลือกที่จะต่อต้านฉันแทนที่จะยอมกันดี ๆ เหรอฮะ?” ไวแอตต์ตบอีวอนน์ และกระชากผมของเธออย่างแรงอีวอนน์ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ไวแอตต์ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น แม่มดเฒ่าได้ทรมานเขาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ศักดิ์ศรีของเขาถูกโยนลงพื้น และถูกเหยียบย่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าในตอนนี้เขารู้สึกเหมือนได้รับความภาคภูมิใจในฐานะผู้ชายคนหนึ่งกลับคืนมา“ดูเหมือนประธานคนก่อนหน้านี้ไม่เคยได้เธอสินะ หืม? ฉันยินดีที่จะรับโอกาสนั้นมา!”ไวแอตต์รู้สึกมีอำนาจจนไม่สนใจผลที่ตามมา ตอนนี้เขาเป็นประธานของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ แล้ว จะมีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอถ้าเขาจะนอนกับเลขาของตัวเอง? อีวอนน์ยังคงดิ้นรนต่อต้าน และเสียงกรีดร้องของเธอดังก้องไปทั่วออฟฟิศเวนดี้กำลังเดินทางไปที่ออฟฟิศเพื่อรายงานความคืบหน้าของเธอหลังจากจัดการเหตุการณ์ที่ห้องโถงใหญ่เรียบร้อยแล้ว เธอได้ยินเสียงกรีดร้องของอีวอนน์จึงรีบวิ่งไปที่ห้องทำงาน และรับเปิดประตูเข้าไป เธออ้าปากค้างเมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าเธอ“ไวแอตต์ จอห์นสัน! ไอ้สารเลว!”เวนดี้รู้สึกกลัว แต่อีวอนน์เคยช่วยเธอเอาไว้เธอไม่สามารถปล่อยให้อีวอนน์ถู
“ทำสิ ถ้านายทำได้! ฉันอยากเห็นว่านายมีอำนาจมากแค่ไหน” อีวอนน์สบถออกมา ดวงตาลุกโชนด้วยความเกลียดชังที่มีต่อผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ“เอาล่ะ อย่าคิดว่าฉันจะลืมสิ่งที่พวกเธอทำ! ฉันจะให้พวกเธอสองคนชดใช้หลังจากยืนยันตัวตนของฉันแล้ว!” ไวแอตต์รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เขาไม่สามารถทำอย่างอื่นได้แม้ว่าเขาจะทำมันมากก็ตาม เขาจ้องมองพวกเธออีกครั้ง จากนั้นก็ออกจากบริษัทไปอย่างรวดเร็วในห้องทำงานของท่านประธาน เวนดี้และอีวอนน์มองหน้ากันด้วยสายตาว่างเปล่า พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น“มิสซาเวียร์ มันเกิดอะไรขึ้น? ตอนนี้มิสเตอร์ยอร์กอยู่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่า?” เวนดี้รู้สึกกังวล ฮาร์วีย์ไม่เข้าออฟฟิศมาช่วงสองสามแล้ว จู่ ๆ ก็มีการแต่งตั้งประธานคนใหม่ ฮาร์วีย์ยังปลอดภัยดีใช่ไหม?“ท่านประธานน่าจะสบายดี” อีวอนน์พูดอย่างลังเล เธอกดโทรศัพท์หาฮาร์วีย์อย่างรวดเร็ว แต่เขาไม่รับสาย“เราจะทำอย่างไรดี?” เวนดี้เริ่มตื่นตระหนกอีวอนน์สูดหายใจเข้าลึก ๆ บังคับให้ตัวเองสงบลง “ไปเถอะ ออกไปจากที่นี่กันก่อน ไปที่อพาร์ตเมนต์ของฉันปลอดภัยกว่าที่นี่ ฉันจะพยายามติดต่อมิสเตอร์ยอร์กก่อนที่จะทำอย่า
“แก…” หัวหน้าพวกอันธพาลกำลังตื่นตระหนกตกใจกลัว ผู้ชายตรงหน้าดูใจเย็นนิ่งลึกเกินไป! ลูกน้องเขาไม่มีใครเอาชนะเขาได้เลย แล้วเขาควรทำยังไง?“อะไร…แกต้องการอะไร” หัวหน้าพวกอันธพาลพร่ำพูดออหมาอย่างกลัวสุดชีวิต“ความจริง” ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น “ถ้าแกบอกสิ่งที่ฉันอยากรู้ฉันจะปล่อยให้แกมีชีวิตอยู่ต่อไป ถ้าคุณไม่ล่ะก็ อย่ามาโทษแล้วกันถ้ามีอะไรเกิดขึ้น”“ได้สิ ได้แน่นอน…” หัวหน้าอันธพาลมีเหงื่อผุดบนใบหน้าของเขา ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขามีรังสีที่น่ากลัวจนเขาก้มหน้าลง “ บ…บอส! ไม่ว่าคุณจะอยากรู้อะไร ผมจะบอกคุณทุกอย่าง!”“ผู้หญิงคนหนึ่งสั่งให้เรามาจัดการกับคุณ เธอดูรวยมาก และมีเพียงคำสั่งเดียวคือทำยังไงก็ได้คุณพิการ ถ้าคุณไม่ยอมก็จบชีวิตคุณซะ”“จบชีวิตของฉัน?” ฮาร์วีย์หัวเราะลั่น “เธอมาจากตระกูลยอร์กใช่ไหม?”“เราไม่รู้ เราเพียงทำตามคำสั่งเพื่อให้ได้เงินเท่านั้น แต่ผมมีรูปถ่ายของเธอที่ลูกน้องคนหนึ่งแอบถ่ายไว้” หัวหน้าพวกอันธพาลรีบยื่นโทรศัพท์ของเขาให้ฮาร์วีย์ฮาร์วีย์มองไปที่ภาพถ่ายนั่น ผู้หญิงคนนี้อยู่ในวัยห้าสิบ และค่อนข้างดูคุ้นเคย แต่ฮาร์วีย์จำชื่อของเธอไม่ได้“ญาติห่าง ๆ ของตระกูลยอร์ก
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข