การแสดงออกของเจสันเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเห็นอาวุธปืนทั้งหมดชี้มาที่เขาเขาหรี่ตาลง จากนั้นเขาก็หัวเราะอย่างเย็นชา“ถึงคุณชนะผมได้แล้วยังไงล่ะฮาร์วีย์?”“คุณต้องการชีวิตของผมเหรอ? คุณมีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้นหรือไง?”“ในฐานะบารอนของดินแดนพระอาทิตย์ฯ รองผู้บัญชาการของอัศวินเทมพลาร์และเทพสงคราม คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะปลิดชีพผม!”มาเทโอยืนขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด มือของเขาจับปืนที่รัดเอวไว้“ปกป้องนายน้อยลีโอ!”ทายาทของอัศวินเทมพลาร์ประมาณยี่สิบคนลุกขึ้นยืนทันทีตามคำสั่งของเขา ดวงตาของพวกเขาแหลมคมเป็นแววตาดุร้ายพวกเขามีความสามารถค่อนข้างมาก และทุกคนก็มีพลังที่จะต่อสู้กับคนสิบคนได้ด้วยตัวเองแม้ว่าฝั่งฮาร์วีย์จะมีผู้ชายมากกว่าพวกเขามาก แต่พวกเขาก็ยังคงไม่เกรงกลัวการแสดงออกของวินซ์ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน“ก่อนหน้านี้คุณได้ดูถูกนายน้อยลีโอแล้วนะ ฮาร์วีย์! เพราะฉะนั้นรอบนี้ถือเป็นโมฆะ!”“ถ้าคุณยังไม่เลิกสร้างปัญหาที่นี่ จะถือว่าคุณกำลังจะต่อต้านผมและตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงด้วย!” เขาเสริมอย่างโกรธจัดการโบกมือส่งสัญญาณของเขา บอดี้การ์ดของตระกูลก็ปรากฏตัวออกมาจากจากทุกมุมและยืนปกป้องวินซ์และคนอื่
"ไป!"สาวกของหลงเหมินจำนวนสิบแปดคนพุ่งเข้าไปหาเจสันตามคำสั่งของมอร์แกนบางคนใช้ดาบ ในขณะที่บางคนใช้โซ่ตรวน พวกเขาต้องการให้เจสันถูกจับให้อยู่มือฮาร์วีย์มีสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจว่าเจสันจะอยู่หรือตายสมาชิกจากตระกูลเศรษฐีมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีหลังจากเห็นเช่นนั้น พวกเขารู้ดีว่าการต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังจะปะทุขึ้น"ถอยออกไป!"มาเทโอก้าวไปข้างหน้าและปลดเซฟตี้ของปืนออกก่อนจะเหนี่ยวไกใส่เหล่าสาวกที่เข้ามาใกล้ปัง ปัง ปัง!กระสุนพุ่งออกไปทุกทิศทาง เหล่าสมาชิกไม่ทันได้ตอบโต้และถูกยิงทิ้งทันทีปัง ปัง ปัง!เมื่อมาเทโอสาดกระสุนเสร็จแล้ว เขาก็กระโจนไปข้างหน้าและส่งเหล่าสมาชิกของหลงเหมินปลิวไปด้วยหมัดของเขาเพียงพริบตาเดียว สมาชิกจากหลงเหมินที่ดาหน้าเข้าไปก็ถูกเล่นงานจนน่วมสาวกที่เหลือมีสีหน้าที่ดูน่าสยดสยองอย่างยิ่งพวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าอัศวินเทมพลาร์จะบ้าบิ่นถึงขนาดนี้อัศวินเทมพลาร์พ่ายแพ้ไปแล้ว แต่พวกเขากลับปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ความแข็งแกร่งของมาเทโอก็ค่อนข้างไม่ใช่เล่นเช่นกันมาเทโอเป็นเพียงทหารชั้นสูง แต่เขากลับมีพละกำลังมากพอตัวเพียงแค่นี้ คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุ
“ถ้ารู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับตัวเอง ก็รีบไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!“ช่างเรื่องข้อตกลงไปเถอะ!“ปล่อยผมไป บางทีผมอาจจะยอมยกเลิกการหมั้นหมายกับควินนี่ให้ด้วยก็ได้!“คุณจะต้องให้สี่ตระกูลชั้นนำของฮ่องกงส่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของพวกเขาไปที่หน้าประตูบ้านของผม จากนั้นต้องทำให้มอร์ดู คาสิโน พาเลซอยู่ภายใต้ชื่อของผมด้วย! และหลังจากนั้นผมจะยอมปล่อยให้พวกลิ่วล้อของพวกเขามีลมหายใจต่อไป“นี่ถือว่าผมมีเมตตามากแล้ว!”การแสดงออกของเจสันเย็นชาราวกับน้ำแข็งขณะที่เขาข่มขู่ฮาร์วีย์“ในเมื่อคุณชนะ ผมก็จะให้โอกาสคุณ“ถ้าไม่ทำตามที่ผมพูด ก็อย่าหาว่าผมไม่เตือนก็แล้วกัน!”ฮาร์วีย์หรี่ตามองเจสัน“ไม่ว่าคุณจะยกเลิกงานหมั้นหรือจะยอมวางความบาดหมางลงผมก็ไม่สนใจทั้งนั้น“การเดิมพันถูกเขียนไว้อย่างชัดเจน“แถมเรายังมีวีดีโอเป็นหลักฐานด้วย“ในเมื่อคุณพ่ายแพ้ คุณก็ต้องยอมรับและปฏิบัติตามข้อตกลง“แต่ตอนนี้ ไม่เพียงแต่ปฏิเสธเท่านั้น คนยังพยายามต่อรองกับผมอีกต่างหาก“คุณบ้าไปแล้วเหรอเจสัน? หรือคุณไม่สนใจเรื่องความสัตย์ของตัวเองแล้ว?“อ๋อ ผมลืมไป แม้แต่ประเทศบ้านเกิดคุณยังทรยศได้! คุณจะรู้จักคำว่าซื่อสัตย์ได้ยังไง
และเป็นไปตามที่คาดไว้ ไอสังหารแสดงออกมาจากสีหน้าของเจสันในขณะที่เขาหันไปจ้องมองที่วินซ์ฮาร์วีย์ใช้โอกาสนี้โหมไฟให้แรงขึ้นอีก“คุณขอให้เจสันกลับมาจัดการเรื่องหมั้นหมาย เพื่อที่คุณจะได้กล้าขึ้นสู่อำนาจได้อย่างสะดวกสบาย“ผมกำลังจะฆ่าผู้ชายคนนี้แล้ว แต่คุณกลับมาหลั่งน้ำตาจระเข้ถึงที่นี่?”“แก… ไอ้สารเลว…!”วินซ์ตัวสั่นด้วยความโกรธเขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะโยนความผิดมาให้เขาได้อย่างไร้ยางอายเช่นนี้ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ ไม่มีทางที่เขาจะอธิบายตัวเองได้เมื่อนึกย้อนกลับไป เจสันอาจจะลงเอยแบบนี้เพราะ "ความทุ่มเท" ของวินซ์ดวงตาของเจสันเป็นประกายด้วยความโกรธ“หยุดพยายามยั่วยุพวกเราได้แล้ว ฮาร์วีย์!” เขาคำราม“ผมไม่หลงกลอุบายของคุณหรอก!“รู้ไหมว่าคนที่คิดจะต่อต้านผมต้องเจอกับอะไร?!“คุณไม่มีสิทธิ์แตะต้องผมแม้แต่ปลายนิ้ว!“ผมเป็นบารอนแห่งดินแดนพระอาทิตย์ฯ! และกำลังจะขึ้นเป็นเอิร์ลแล้ว!“ผมเป็นถึงรองผู้บัญชาการของอัศวินเทมพลาร์! ใกล้จะขึ้นเป็นผู้บัญชาการแล้วด้วย!“ผมเป็นตัวแทนของลูกหลานชาวประเทศ H ในดินแดนพระอาทิตย์ฯ!“ผมเป็นคนของเจ้าหญิงองค์ที่สี่!“ถ้าคุณฆ่าผมแล้วคุณจะรับผลที่ตา
เจสันและวินซ์ตัวแข็งเมื่อเห็นภาพนั้นมาเทโอเป็นถึงทหารชั้นสูง!ต่อให้พวกเขาสองคนร่วมมือกันโค่นมาเทโอ พวกเขาก็ยังต้องทุ่มสุดตัว!ไม่อย่างนั้นก็คงจัดการกับมาเทโอไม่ได้แต่… ฮาร์วีย์กลับส่งมาเทโอให้กระเด็นไปได้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียว!ถ้าเจสันและวินซ์ไม่ได้เห็นสิ่งนี้ด้วยตาตัวเอง พวกเขาก็คงไม่เชื่อวินซ์ค่อนข้างระแวดระวังในตัวฮาร์วีย์อยู่แล้ว...แต่ในตอนนี้ ความอันตรายของฮาร์วีย์กับสูงขึ้นจนถึงระดับที่วินซ์ไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน “นี่น่ะหรืออัศวินเทมพลาร์? มาตรฐานของพวกคุณอยู่ต่ำไปสักหน่อยนะ”ฮาร์วีย์ดึงทิชชู่ออกมาเช็ดมือโดยยังคงสงบและใบหน้าเรียบเฉยเจสันมีสีหน้าเย้ยหยัน ก่อนจะหยิบปืนออกมาจากเอวทันที“นายอยากลองดีกับฉันจริง ๆ ใช่ไหมฮาร์วีย์?!” เขาคำราม“พวกนายทุกคนน่าจะรู้ว่าฉันเป็นถึงเทพสงคราม!“ถ้าอยากจะสู้กับฉันจริง ๆ ล่ะก็ คนของนายมากมายจะต้องตายอยู่ที่นี่!”“เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรนะ ฮาร์วีย์ อย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่ามเกินไปนัก” วินซ์เตือนอย่างเย็นชา"โอ้ จริงเหรอ? ทำไมคุณไม่ทำแบบเดียวกันกับตอนที่ผู้ว่าการคลาร์กไปหาคุณเมื่อวานล่ะ?”ฮาร์วีย์จ้องมองวินซ์ด้วยท่าทางเห
ปัง!กระสุนเจาะเข้าที่หลังของวินซ์ความแรงของกระสุนพอที่จะส่งให้วินซ์ลอยไปได้ ก่อนที่เขาจะกระแทกเข้ากับผนังกระจกกระจกที่แตกกระจายเผยให้เห็นรอยร้าวที่ดูคล้ายกับใยแมงมุม เศษเล็ก ๆ กระจัดกระจายไปทั่วเลือดพุ่งออกมาจากปากของวินซ์ขณะที่เขาล้มลงไปกองกับพื้น สีหน้าท่าทางของเขาดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งเจสันอำมหิตเกินไป แม้แต่เทพสงครามอย่างวินซ์ก็ยังรู้ไม่เท่าทัน วินซ์ยังไม่ตาย แต่ก็ร่อแร่ บาดแผลของเขามีเลือดไหลออกมาไม่หยุด“นายน้อยยอร์ก!”บอดี้การ์ดตระกูลยอร์กที่กำลังตื่นตระหนกต่างก็รีบวิ่งไปหาวินซ์“ไอ้สารเลว! นายน้อยทำเพื่อแกมากมาย แล้วแกตอบแทนเขาแบบนี้เหรอ!” บอดี้การ์ดคนหนึ่งอุทานอย่างโกรธเกรี้ยวบางคนนำยาครอบจักรวาลออกมาอย่างรวดเร็ว “นำมันไปใช้กับนายน้อย! แล้วพาเขาไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด!”ทั้งบริเวณตกอยู่ในความสับสนอลหม่านไม่ใช่แค่ตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกงเท่านั้น แม้แต่แขกที่เข้ามาใช้บริการก็ยังตกตะลึงหลังจากเห็นภาพดังกล่าว เหล่าอัศวินเทมพลาร์ไม่อาจประมวลผลในสิ่งที่เกิดขึ้นได้เช่นกันเจสันประกาศก้องว่าวินซ์เป็นน้องชายร่วมสาบานของเขา แล้วทำไมเขาถึงเหนี่ยวไกใส่วินซ์ได้?บางทีเจ
“นายบ้าไปแล้วเหรอเจสัน?“นายเชื่อคำพูดของมันเหรอ?!“นายจะบอกว่าฉันเรียกนายกลับมาที่นี่จัดการกับนายเนี่ยนะ?“มันฟังดูน่าขันดีนะ ว่าไหม?“นายเป็นถึงเทพสงคราม!“โดนปั่นหัวง่ายขนาดนั้นได้ยังไง?!”วินซ์โกรธจนเกือบจะกระอักเป็นเลือด“นายมันไร้ประโยชน์จริง ๆ เจสัน!“ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมเมื่อหกปีก่อนนายถึงถูกไล่ออกจากฮ่องกง!“นายคิดว่าตัวนายจะสามารถกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ได้แบบนี้งั้นเหรอ!“ถุย!"ฝันเอาเถอะ!"เจสันส่งสายตาคมกริบไปยังวินซ์เป็นการตอบแทน“จะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ ยังไงซะความจริงก็คือความจริง” เขาตอบด้วยเสียงคำรามอันเงียบสงบ“ในตอนนี้ นายทำให้ชื่อเสียงของเทพสงครามต้องเสื่อมเสีย“นายกำลังดูถูกอัศวินเทมพลาร์และดินแดนพระอาทิตย์ฯ!“แม้ว่ากฎหมายจะเมตตานาย แต่ฉันไม่มีวันทำแบบนั้นแน่!”เจสันแสดงท่าทีชอบธรรมและส่งสัญญาณมืออย่างโกรธ ๆ"เอาเลย! ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ!“พวกแกหูหนวกหรือไง?!“ฆ่าเขาเดี๋ยวนี้!”เจสันยกอาวุธปืนของตัวเองขึ้นก่อนที่จะเหนี่ยวไกออกไปอีกครั้ง“นายน้อยยอร์ก ระวัง!”บอดี้การ์ดตระกูลยอร์กสองสามคนพุ่งตัวไปปกป้องวินซ์ที่ด้านหน้าทันทีหลังอีกฝ่ายสาดกระสุนเข้
ขณะที่วินซ์กระโดดลงไป อัศวินเทมพลาร์ก็ไล่ตามเขาได้ทันเหล่าบอดี้การ์ดถูกเล่นงานในทันที เพราะอัศวินเทมพลาร์มีปืนมากกว่าพวกเขาเหล่าบอดี้การ์ดใช้กำลังทั้งหมดที่มีในการสกัดกั้นฝ่ายตรงข้ามเพื่อซื้อเวลาให้วินซ์ได้หลบหนีไปโยอาน่ายืนขึ้นจากฝูงชนและมองไปที่ฮาร์วีย์ รอให้เขาออกคำสั่งในการกำจัดวินซ์ฮาร์วีย์ส่ายหน้า ขอเพียงพวกเขารออยู่เฉย ๆ พวกเขาก็จะชนะ ดังนั้นหากเขาลงมือทำอะไรไม่เข้าท่าลงไปมันคงไม่ดีนัก ในตอนนี้ พวกเขาเพียงแค่ต้องนั่งดูการแสดงอย่างเงียบ ๆ เท่านั้นบรืน!เสียงเครื่องยนต์ดังมาจากด้านนอก วินซ์เข้าไปในรถของเขาทันที หลังจากหนีจากมอร์ดู คาสิโน พาเลซได้“เจสัน! ฮาร์วีย์! ฉันจะไม่มีวันลืมเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้แน่!“ไม่ช้าก็เร็วฉันจะกลับมาคิดบัญชีกับพวกนาย!”ไอสังหารปะปนอยู่ในน้ำเสียงโกรธเคืองของวินซ์ฮาร์วีย์ยักไหล่ ดูไร้เดียงสาอย่างสมบูรณ์แบบ“ผมไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะ นายน้อยยอร์ก ใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้อย่างนั้น“ถ้าคุณคิดจะเล่นงานผมเพราะเรื่องนี้…“ผมก็จำเป็นจะต้องมีมาตรการในการป้องกันตัวเอง”หลังจากได้ยินเช่นนั้น วินซ์ก็เกือบจะกระอักเลือดออกมาเขาไม่เคยคิดว่าฮาร์วีย
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข