ฮาร์วีย์ ยอร์กหรี่ตามองขบวนรถที่หายไปก่อนจะหันกลับมามองที่เล็กซี่ ยอร์ก“คุณวางแผนทั้งหมดนี่เพื่อให้เลดี้จัดด์เห็นเหรอ?” เขาเอ่ยปากอย่างเย็นชา"อะไรกัน? การแสดงจบลงแล้ว แต่คุณยังคิดจะขังผมไว้กับคุณอีกเหรอ?“ไม่กลัวโดนผมตบจนตายเหรอไง?”ฮาร์วีย์พินิจมองหญิงสาวตรงนับตั้งแต่วิธีแรกที่เขาขึ้นรถมาก็เพราะเขาต้องการที่จะเล่นตลกกับเล็กซี่หวังจะสร้างความวุ่นวายและความระส่ำระสายให้กับวินซ์เล็กซี่มีแผนเดียวกันในใจ เธอต้องการให้มิตรภาพอันอ่อนแอระหว่างฮาร์วีย์และเซลีน่า จัดด์พังทลายพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจทีเดียว กลยุทธ์ดังกล่าวเพียงพอที่จะพิสูจน์ความฉลาดของเธอได้แล้วน่าเสียดายที่กลวิธีเหล่านั้นเป็นเพียงเรื่องน่าขันสำหรับฮาร์วีย์“เซลีน่าจากไปแล้ว และคุณก็ตามเธอไปไม่ทันด้วย อีกอย่าง ข้างนอกฝนก็ยังตกอยู่เลย คุณไม่กลัวเป็นหวัดเหรอคุณยอร์ก?”เล็กซี่กลับมานั่งที่เดิม ความอ่อนโยนบนใบหน้าของเธอหายไปอย่างสิ้นเชิงเธอมองกลับไปที่ฮาร์วีย์ด้วยสายตาเหนือกว่า“คิดว่ามันจะได้ผลเหรอ?”ฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ลง“นายหญิงจัดด์กับผมร่วมมือกันเพราะผลประโยชน์ของแต่ละฝ่ายเท่านั้น“เธอย
“ไหนล่ะหลักฐานของคุณ?”ฮาร์วีย์ ยอร์กยังคงไม่แยแส“คงไม่คิดว่าแค่เพราะผมเข้ามาในรถคุณจะใช้เป็นหลักฐานได้ว่าเราสองคนมีความสัมพันธ์กันหรอกใช่ไหม?“พี่ชายคนที่สี่ของคุณเป็นหัวหน้าของตระกูลยอร์ก! คุณคิดว่าเขาไร้เดียงสาขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ?”“เขาต้องเชื่อแน่”เล็กซี่ ยอร์กเผยรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา“ฉันรู้ว่าเขาเกลียดฉันเข้ากระดูก แต่เขาก็สนใจชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลเป็นที่สุด“ถ้าฉันไปร้องไห้ต่อหน้าเขาเรื่องผู้ชายเลว ๆ ที่พยายามทำให้ฉันแปดเปื้อนและบังคับให้เซลีน่า จัดด์ตกหลุมพราง!“แม้จะมีหลักฐานเพียงน้อยนิด ฉันก็มั่นใจว่าเขาจะต้องมาจัดการคุณแน่!“และคุณยอร์ก คุณก็น่าจะรู้ดีนี่ว่าฉันสามารถสร้างหลักฐานได้ไม่ยากเลย!“เว้นเสียแต่ว่าคุณจะยอมคุกเข่าอ้อนวอนฉันแล้วมาเป็นคนรับใช้ของวินซ์ ยอร์ก...“หรือไม่ก็ตายไปซะ!”ฮาร์วีย์ยกมือขึ้นและมองไปที่ฝ่ามือของเขาก่อนที่จะขยับสายตาไปที่เล็กซี่ในขณะที่แสดงท่าทางขี้เล่นออกมาบนใบหน้า“เล็กซี่ คุณเคยได้ยินคำว่าฉลาดเกินไปภัยจะมาถึงตัวหรือเปล่า?“ผมรู้ดีว่าคุณเป็นคนประเภทไหน“ด้วยวิธีจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ของคุณไม่มีทางที่คุณจะยอมรับว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นแ
“คุณนี่ไม่ใช่เล่นเลย คุณยอร์ก!”สีหน้าของเล็กซี่ ยอร์กแย่ลงหลังจากเห็นฮาร์วีย์ ยอร์กทำลายอุปกรณ์แอบถ่ายทุกสิ่งที่เธอมีเธอขมวดคิ้วขณะที่เหล่ไปที่ฮาร์วีย์“ไม่แปลกใจเลยที่วินซ์ ยอร์กพ่ายแพ้ให้กับคุณไม่รู้กี่หนต่อกี่หน” เล็กซี่อุทานอย่างเย็นชา“ความเฉลียวฉลาด ทักษะ และโชคของคุณโดดเด่นมาก แม้แต่คนธรรมดาก็เทียบคุณไม่ได้เลย “ฉันยั่วยุและกวนประสาทคุณอยู่เรื่อย ๆ แต่คุณก็สามารถมองออกอยู่ตลอด"ฉันต้องขอยอมรับเลย เราประเมินคุณต่ำไป"แต่ก็ถือว่าดีนะ ถ้าฉันได้บดขยี้ผู้ชายที่แข็งแกร่งและมีความสามารถอย่างคุณก็คงจะสนุกดีไม่น้อย”เล็กซี่เหยียบคันเร่งและขับรถไปที่ทางออกของทางด่วนหัวเฉิงก่อนจะปลดล็อกประตู“ออกไปได้แล้ว!”ฮาร์วีย์เปิดประตูก่อนจะมองไปที่เล็กซี่“ไม่เอาน่า นายหญิงยอร์ก” เขาพูดอย่างสนุกสนาน“ในเมื่อเราอยู่ที่นี่ด้วยกันแล้ว ผมก็ยินดีที่จะเล่นกับคุณต่ออีกสักหน่อย“ก็อย่างที่ผมบอกคุณค่อนข้างแก่แล้ว คุณคงจะมีตัวช่วยอยู่บ้างนะ...“ไม่อย่างนั้น คุณคงไม่เหลือแรงเล่นสนุกกับผม!”หลังจากได้ยินว่าฮาร์วีย์ว่าเธอแก่ สีหน้าของเล็กซี่ก็แย่ลงในทันทีฮาร์วีย์ลงจากรถก่อนจะเดินไปที่เบาะคนขับ
ฮาร์วีย์ ยอร์กชำเลืองมองคนขับอย่างใจเย็นก่อนจะนั่งด้านหลังขณะทบทวนสถานการณ์ทั้งหมดที่อยู่ในมือทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นถูกวางแผนโดยเล็กซี่ ยอร์ก สิ่งนี้ค่อนข้างน่าตกใจสำหรับฮาร์วีย์แต่ดีที่ฮาร์วีย์ก็มีแผนของเขาเองเมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้น ฮาร์วีย์มีแต้มต่ออยู่ในขณะนี้ท้ายที่สุดแล้วการตบนั้นไม่ใช่แค่เพื่อให้ฮาร์วีย์ระบายความโกรธเท่านั้น จะยังเป็นการชี้แจงให้แกเซลีน่า จัดด์อย่างชัดเจนอีกด้วยการตบครั้งนั้นกำลังบอกเป็นนัยว่าเขากับวินซ์ ยอร์กเข้ากันไม่ได้โดยสิ้นเชิงสิ่งนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะเล่นงานวินซ์ครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยวิธีนี้ ผู้หญิงที่หมกมุ่นอยู่กับความซื่อสัตย์อย่างเซลีน่าจะร่วมมือกับเขาต่อไปข่าวคราวนี้จะไปถึงหูของเซลีน่าได้อย่างไรนั้น ฮาร์วีย์ไม่สนใจเลยเขาเชื่อว่าเซลีน่าคงถูกกระตุ้นทันทีที่เห็นเขาและเล็กซี่บนทางด่วนนั่นบอดี้การ์ดของเธอสองสามคนอาจคอยจับตาดูในตอนที่เขาตบเล็กซี่อยู่แล้วถ้าเซลีน่าไม่มีแผนสำหรับเรื่องนี้ เธอคงเป็นพวกมีตาหามีแววไม่หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเพื่อพิสูจน์จุดยืนของเขา ฮาร์วีย์ตัดสินใจกดหมายเลขโทรออกคนขับที่อยู่
ฮาร์วีย์ ยอร์กแสดงรอยยิ้มจาง ๆ“ผมจะขอบอกคุณตามตรงนะนายหญิงจัดด์ นอกเหนือจากความจริงแล้ว คุณยังต้องการอีกสองอย่าง”“ฉันจะยังต้องการอะไรอีก!”ในอีกด้านของโทรศัพท์ เซลีน่า จัดด์ต้องขมวดคิ้วอยู่อย่างแน่นอน“อย่างแรก คุณต้องการความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากนายท่านยอร์ก คุณกับผมเราต่างก็รู้ว่าตระกูลชั้นสูงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อสิบปีก่อน“ถ้าคุณไม่ได้รับการสนับสนุนจากยอร์กอย่างเต็มที่ แม้ว่าคุณจะได้ล่วงรู้ความจริงมันก็ไม่มีประโยชน์! คุณอาจต้องเอาชีวิตไปทิ้งเปล่า ๆ!“อย่างที่สอง คุณต้องมีแผนสำรอง“ทันทีที่วินซ์ ยอร์กถูกปลดจะต้องมีคนมาแทนที่เขา หากคุณมีแผนสำรองไว้ตระกูลยอร์กจะไม่วุ่นวายในภายหลัง คุณและนายท่านยอร์กจะสามารถบริหารตระกูลได้ดีขึ้นอีกด้วย“คุณทั้งคู่ยังอายุไม่มาก ผมเชื่อว่าอีกยี่สิบปีข้างหน้า คุณจะมีเลือดเนื้อเชื้อไขเติบโตมาแทนคุณ”ฮาร์วีย์แอบบอกเป็นนัยว่าวินซ์คือต้นเหตุของเหตุการณ์เมื่อสิบปีที่แล้วเซลีน่าเงียบไปนาน“คุณยอร์ก ฉันมาคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณพูดดูแล้ว“คุณเองก็ต้องดูแลตัวเองให้ปลอดภัยด้วย“เล็กซี่เป็นสตรีลำดับที่ห้าแห่งตระกูลยอร์ก แต่เธอก็เป็นนายหญิ
ขณะที่ฮาร์วีย์ ยอร์กกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องของวินซ์ ยอร์ก เขารู้สึกว่ารถสั่นอย่างรุนแรงถนนเรียบเป็นหลุมเป็นบ่ออย่างกะทันหันฮาร์วีย์ลืมตาก่อนจะมองไปรอบ ๆ“ผมอยู่ที่ไหนกันแน่?” เขาพูดหลังจากหัวเราะเบา ๆ“ผมถามให้เจาะจงกว่านั้น คุณทำงานให้ใคร?“คุณจะพาผมไปไหน?”ถนนที่ไม่ได้รับการบำรุงรักษามานานหลายปีปรากฏขึ้นตรงหน้า มีป้ายเตือนมากมายรอบถนน แต่ป้ายเหล่านั้นก็ค่อนข้างเป็นสนิมแล้วขณะที่ฮาร์วีย์กำลังถามคำถาม คนขับก็เหยียบคันเร่งทันที เขาพุ่งชนสิ่งกีดขวางบนถนน และพุ่งไปข้างหน้าฮาร์วีย์ยังคงวางเฉย แม้จะได้เห็นสีหน้าพร้อมพลีชีพของคนขับ"คุณไม่รู้เหรอ?“ก็พาคุณไปตายไงล่ะ!”คนขับรถหัวเราะอย่างชั่วร้ายก่อนที่เลือดสีดำจะไหลออกมาจากมุมปากของเขา“ทันทีที่คุณก้าวเข้ามาในรถ ชะตากรรมของคุณก็ถูกกำหนดไว้แล้ว!“ความตายกำลังมาหาคุณแล้ว!“ผมจะไปส่งคุณเดี๋ยวนี้แหละ คุณยอร์ก!“นายหญิงยอร์กฝากแสดงความนับถือมาด้วย!”คนขับเหยียบคันเร่งสุดกำลังก่อนที่ศีรษะของเขาจะเอียงลง ร่างของเขาไร้ลมหายใจแล้วในขณะนั้นรถพุ่งออกจากถนนลงน้ำไปในทันทีฮาร์วีย์ส่ายหน้าเขารู้ว่าเล็กซี่ ยอร์กต้องการให้เขาตาย แต่เ
ฮาร์วีย์ ยอร์กม้วนตัวของเขาใต้น้ำอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะพุ่งตัวขึ้นไปหาเรือยอร์ชด้วยความเร็วสูงไม่ถึงสิบวินาทีเขาก็อยู่ท้ายเรือยอร์ชแล้วด้วยการสัมผัสเบา ๆ เขาก็สามารถขึ้นไปบนดาดฟ้าได้ในเวลาเดียวกัน เขาก็เหวี่ยงหอกไปข้างหน้าฉึก!เลือดสาดกระจายไปทั่วพลปืนสองคนที่ตามหาฮาร์วีย์กุมลำคอของพวกเขาและล้มลงกับพื้นในขณะที่แสดงท่าทางไม่เชื่ออย่างที่สุดฮาร์วีย์กลิ้งไปข้างหน้าและแทงทั้งคู่บนดาดฟ้าเรือด้วยหอกอันเดียวกัน“แม่งเอ๊ย!”พลปืนคนอื่น ๆ เริ่มรู้สึกตัวพลปืนหลายสิบคนสวมหน้ากากดำพุ่งตัวไปข้างหน้าเซฟตี้ของอาวุธปืนในมือถูกปลดไปตั้งนานแล้ว เมื่อพวกเขาเห็นฮาร์วีย์พวกเขาเริ่มเหนี่ยวไกอย่างไม่เกรงกลัวปัง ปัง ปัง!กระสุนจำนวนมากกระจายไปทั่วบริเวณทำลายสถานที่ทั้งหมดดาดฟ้าขนาดเล็กกลายเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดของโลกในทันทีกลิ่นฉุนของดินปืนคลุ้งไปทั่ว ฮาร์วีย์รู้สึกเหมือนได้กลับไปอยู่ในสงครามอีกครั้ง...โดยทั่วไปแล้ว คนธรรมดาทั่วไปคงรอดไปจากสถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้หากเกิดอะไรขึ้น ร่างกายของพวกเขาคงเต็มไปด้วยรูพรุนพลปืนแสดงสีหน้าพอใจหลังจากคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ปัง ปัง ปัง!ฮ
พลปืนที่เหลือกระตุกตาอย่างรุนแรงหลังจากเห็นฮาร์วีย์ ยอร์กปิดฉากอย่างรวดเร็วพวกเขาต้องการล่าถอยไปยังระยะที่ปลอดภัย แต่มันก็สายเกินไปบางคนเตรียมมีดสั้นของพวกเขา แต่ฮาร์วีย์เดินผ่านพวกเขาไปก่อนที่พวกเขาจะทันได้ตอบโต้ฟุ่ว ฟุ่ว ฟุ่ว!พลปืนสั่นด้วยความกลัว บางคนถูกส่งให้ล่วงลงไปในทะเล ในขณะที่คนอื่นล้มลงกับพื้นด้วยใบหน้าที่ตกตะลึงพวกเขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะแข็งแกร่งขนาดนี้การเคลื่อนไหวแบบสบาย ๆ เช่นนั้นก็เพียงพอที่จะจัดการกับพวกเขาได้อย่างอยู่หมัดหลังจากจัดการกับพวกตัวเล็กตัวน้อยได้แล้ว ฮาร์วีย์ก็หยิบผ้าเช็ดตัวสะอาดมาเช็ดผมให้แห้งโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองศพของพวกเขาก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องโดยสารเรือยอร์ชลำนี้หรูหรามาก การตกแต่งภายในก็สวยงามเช่นกันบรรยากาศภายในให้ความรู้สึกสดชื่น ต่างกับเหตุการณ์นองเลือดภายนอกโดยสิ้นเชิงการตกแต่งเป็นสไตล์ของชาวประเทศหมู่เกาะนอกจากโต๊ะสูงสิบนิ้วแล้ว ยังมีมอสสีเขียววางอยู่ทั่วสถานที่ พร้อมด้วยรูปปั้นมนุษย์อันสง่างามยากที่จะเชื่อว่าจะมีคนใส่ใจในรายละเอียดถึงขนาดตกแต่งเรือยอร์ชลำเล็ก ๆ ด้วยสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดที่ด้านหลังของห้องโดยสาร พื้นถู
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข