แมนดี้รู้สึกสับสนเล็กน้อยที่เห็นเลียม สโตน ให้เกียรติเธอ เธอคิดไม่ออกว่าทำไมเลียมถึงปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพอย่างนี้ อาจเป็นเพราะฮาร์วีย์ใช่ไหม?แต่เลียมไม่ได้ปฏิบัติต่อฮาร์วีย์ด้วยอะไรเป็นพิเศษ เธอคิดว่าเธอแค่คิดมากไปเลียมต้องทำแบบนี้เพราะตระกูลซิมเมอร์ในขณะที่แมนดี้ยังคงครุ่นคิดถึงสถานการณ์ตรงหน้า ฮาร์วีย์ก็พูดอย่างเย็นชาว่า “มีคนทำร้ายภรรยาของฉัน และยังคิดที่จะสร้างความหายนะให้กับภรรยาและเพื่อนของเธอ คน ๆ นี้ยังต้องการให้ฉันคุกเข่าและคลานออกไปจากที่นี่…”เสียงอื้ออึงดังออกมาจากฝูงชนฮาร์วีย์พูดแบบเรียบนิ่งและไม่ไยดี เลียมกำลังจะคุกเข่า แต่ไม่กล้าทำเช่นนั้นเมื่อเขาเห็นคำเตือนผ่านแววตาของฮาร์วีย์ เขาจำคำสั่งของไทสันได้ ฮาร์วีย์เป็นคนทำตัวเงียบ ๆ ไม่เปิดเผยตัวตน ถ้าเขากล้าเปิดเผยตัวตนของฮาร์วีย์นั่นเท่ากับว่าเขากำลังรนหาที่ตายหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ เลียมก็พูดเสียงเบาว่า “มิสเตอร์ยอร์ก มิสซิมเมอร์ ไม่ต้องกังวล ครั้งนี้เป็นความผิดของผมเอง ผมจะอธิบาย…”จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนหลังจากพูดและจ้องมองเคนและเจมี่ เขาพูดอย่างเยือกเย็น “แกทั้งสองคลานออกไปจากที่นี่ ถ้าแกกล้าที่จะยืนขึ้นโ
“นี่คือ…?” แมนดี้มองการแสดงออกของเอลล่าและไม่สามารถอดกลั้นจนตองถามออกมา“จริงสิ คุณทั้งสองยังไม่เคยเจอกันมาก่อน” ฮาร์วีย์ตบหัวตัวเองเบา ๆ เพราะความขี้ลืมของเขาและแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน “นี่คือด็อกเตอร์เกรฟส์จากแผนกฉุกเฉิน เราเคยพบกันมาแล้วครั้งหนึ่ง”“ด็อกเตอร์เกรฟส์ นี่คือภรรยาของผม ผมอยากขอความช่วยเหลือจากคุณ”แม้ว่าสีหน้าของผู้หญิงทั้งสองจะดูผิดปกติ แต่ฮาร์วีย์ก็กังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของแมนดี้มากกว่าและไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องตรงหน้าเมื่อเอลล่าได้ยินคำว่า ‘ภรรยา’ เธอก็ตกใจ ในช่วงเวลาต่อมาเธอสามารถดึงสติและยิ้มออกมาเล็กน้อย “มิสเตอร์ยอร์ก คุณยังหนุ่มและมีความสามารถ แม้แต่ภรรยาของคุณก็ยังสวยจนน่าทึ่ง ไม่ต้องกังวลค่ะ ฉันสัญญาว่าเธอจะไม่มีแม้แต่รอยแผลเป็นหลงเหลืออยู่”“เยี่ยมมาก ผมคงสบายใจมากที่ได้ยินจากปากของคุณ” ฮาร์วีย์ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขามั่นใจกับทักษะทางการแพทย์และจริยธรรมของเอลล่า เอลล่ารับปากกับเขาจึงสามารถผ่อนคลายได้ในไม่ช้า แมนดี้ เซซิเลีย ละแองเจิลก็ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อรับการรักษาบาดแผลจู่ ๆ ฮาร์วีย์ก็นึกถึงอาการบาดเจ็บของเชน ไนส์เวลล์ แล้วเขาก็ตัด
ผิวของแองเจิลเปลี่ยนเป็นสีซีดเมื่อเธอเห็นฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้าเธอ เธอมองไปที่ท่าทางของแมนดี้ และสัญชาตญาณทำให้เธอต้องพยายามที่จะทำให้ทุกอย่างราบรื่น “เซซิเลีย พอได้แล้ว มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด ด็อกเตอร์เกรฟส์รักษาบาดแผลของเราอย่างดีก่อนหน้านี้ เธอควรจะทำตัวเป็นสุภาพสตรีที่ดี”“แองเจิล เธอออกตัวแทนคนอื่นได้อย่างไร?” เซซิเลียหัวเราะอย่างเย็นชา “ทั้งหมดที่เธอทำก็แค่ใช้ยากับเราและเธอลืมไปหรือเปล่าว่าเราเกือบตายเพราะเศษขยะไร้ค่านี้? ฮาร์วีย์ฉันเตือนนายแล้ว อย่าคิดว่าเราจะลืมมันเพียงเพราะนายพาเรามาโรงพยาบาล”“ถ้าแค่คุณมีความสามารถบ้าง แม้จะเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไปเราก็คงไม่ถูกทำร้ายจากนีอาแบบนั้นหรอก ฉันแนะนำให้นายหย่ากับแมนดี้โดยเร็วที่สุด! การที่เธอแต่งงานกับแมวหรือหมาข้างถนนก็ยังดีกว่าแต่งงานกับขยะไร้ค่าอย่างนายเป็นร้อยเท่า!”เธอต้องการแยกฮาร์วีย์จากแมนดี้มาโดยตลอด ที่ผ่านมาเธอใช้วิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการทำเรื่องนี้ แต่เธออยากจะทำให้มันชัดเจนในวันนั้นบรรยากาศความอึดอัดครอบคลุมไปทั่วสีหน้าของฮาร์วีย์ดูไม่พอใจเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อเขาแค่พาแมนดี้และพวกเธอมารับการ
ห้องฉุกเฉินตกอยู่ในความเงียบงันแมนดี้ตกตะลึงเล็กน้อย ฮาร์วีย์ไม่เคยตะโกนออกมาแบบนี้ไม่ว่าเซซิเลียและแองเจิลจะทำให้เขาอับอายแค่ไหนก็ตาม เขาแสดงท่าทีแบบนี้เพราะอะไร?แมนดี้ทำได้เพียงยืนนิ่งไม่พูดอะไรออกมา แม้ตอนนี้เธอจะไม่เข้าใจความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจของเธอก็ตามเธอบอกไม่ได้ว่าเธอโกรธ อิจฉา หรือกำลังโดนพรากคนรักไปสมองของเธอพร่ำบอกเธอว่าเป็นเรื่องปกติที่ฮาร์วีย์จะมีผู้หญิงอีกคน นั่นเป็นเพราะเธอที่ไม่เคยยอมให้เขาแตะต้องแม้แต่ปลายนิ้วตั้งแต่แต่งงานกันมาสามปีแต่เมื่อมันเกิดขึ้นจริง หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน“เซซิเลีย พอได้แล้ว” แมนดี้หายใจเข้าลึก ๆ “ฉันจะไปส่งเธอทั้งสองกลับบ้าน”จากนั้นเธอก็ยื่นมือออกมาและรับกุญแจจากมือของฮาร์วีย์และออกไปกับเซซิเลียและแองเจิลแมนดี้ไม่เข้าใจว่าเธอจะโกรธทำไม เธอไม่ควรมีความรู้สึกใด ๆ ต่อฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ที่ถูกทิ้งก็พูดไม่ออกเมื่อเห็นทั้งสามคนจากไป เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรไม่นานเอลล่าก็เดินเข้ามาหา เธอพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “มิสเตอร์ยอร์ก ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันทำให้เกิดความเข้าใจผิด”ฮาร์วีย์เคยช่วยเธอเมื่อเธอกำลังจะถูกทำลาย เขาช่วย
“ไม่อยากจะเชื่อเลย ฉันฝันไปหรือเปล่า? ด็อกเตอร์เกรฟส์อยู่ในชุดลำลองเหรอ?”“นายเห็นใช่ไหม? ฉันคิดว่าฉันตาฝาดเสียอีก”“เอลล่าเสียสติไปแล้วเหรอ? ทำไมเธอไม่นั่งรถสปอร์ต แต่กลับนั่งซ้อนท้ายจักรยานไฟฟ้า มันเป็นรถสาธารณะนะ! ก็แค่สองดอลลาร์ต่อชั่วโมง!”“มันเหมือนกับที่คนเคยพูดไว้ไง บางคนใฝ่ฝันอยากนั่งจักรยานไฟฟ้า มีความสุขมากกว่านั่งรถหรูแต่ต้องแลกด้วยน้ำตา... ”“ถ้ารู้ว่าด็อกเตอร์เกรฟส์ชอบผู้ชายแบบเขา เราคงไม่ซื้อรถตั้งแต่แรก…”ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเจ้าหน้าที่ผู้ชายของโรงพยาบาลเปลี่ยนมาใช้จักรยานไฟฟ้าและไม่ขับรถส่วนตัวไปทำงาน อีกเหตุผลหนึ่งนั่นเพราะไม่มีที่จอดรถเพียงพอในที่จอดรถของโรงพยาบาล ***ในขณะที่อยู่บนท้องถนน เอลล่าบอกว่าเธออยากกินอาหารตะวันตกที่มีชื่อเสียงที่สุดของโรงแรมแกรนด์นิอัมมี่ ฮาร์วีย์ก็โทรหาอีวอนน์เพื่อให้จองโต๊ะให้พวกเขาเมื่อพูดถึงอีวอนน์เขาก็นึกได้ว่าเขาไม่ได้เข้าออฟฟิศมาสองวันแล้ว แต่เขาก็ไม่กังวลอะไรที่จะปล่อยให้เธอดูแลบริษัทแทนเอลล่าที่นั่งซ้อนท้ายอยู่ด้านหลังสังเกตเห็นว่ามีหลายคนจ้องมองมาที่เธอ เธอรู้สึกไม่สบายใจและพูดว่า “มิสเตอร์ยอร์ก เราค่อยไปทานข้าวกัน
ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะได้รับอาหารตาจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เล็ก ๆ เช่นนี้ ประเด็นสำคัญที่สุดคือผู้หญิงแต่ละคนมีไหวพริบของตัวเอง หากพวกเขาสามารถใช้เวลากับพวกหล่อนทั้งคืนได้ พวกเขาก็ยินดีที่จะตัดชีวิตของพวกเขาให้สั้นลงไปคนหนึ่งมีใบสาวอ่อนหวาน การได้เห็นเธอทำให้พวกเขานึกถึงช่วงวัยที่พวกเขามีความรักที่ไร้เดียงสา อีกคนก็เป็นความงามที่สง่างาม อาจถูกดึงเข้าสู่ความฝันได้ทุกเมื่อเมื่อมองไปที่เธอในขณะที่ทุกคนกำลังฝันกลางวัน ฮาร์วีย์ก็ตกตะลึงและพูดออกมาโดยไม่รู้ตัวว่า “เชอร์ลีย์ ไรอันเหรอ?”ฮาร์วีย์รู้จักสาวงามที่ลงจากรถ MPV เธอเป็นเพื่อนร่วมโต๊ะทำงานของฮาร์วีย์ในมหาวิทยาลัย เธอเคยออกตัวแทนเขาในระหว่างงานเลี้ยงรุ่น มันเป็นเรื่องบังเอิญมากที่ได้พบเธอที่นี่“ฮาร์วีย์?” เชอร์ลีย์ก็ประหลาดใจเช่นกันเพื่อนมหาวิทยาลัยคนอื่นดูถูกฮาร์วีย์ในตอนที่งานเลี้ยงรุ่นแถมยังเรียกเขาขี้แพ้ เขากลายเป็นลูกเขยที่ไร้ค่าและยากจน เขาเป็นขยะไร้ค่าในสายตาของพวกเขา ตอนแรกเธอไม่เชื่อและช่วยพูดแทนฮาร์วีย์ อย่างไรก็ตามเธอเปลี่ยนความคิดแล้วเมื่อเธอเห็นฮาร์วีย์ในสภาพนี้ในวันนี้“ฮาร์วีย์ ทำไมนายถึง…” เชอร์ลีย์ถอนหายใจและเ
ฮาร์วีย์ยิ้ม “เชอร์ลีย์ ทำไมเธอถึงทำตัวเหมือนกลับมาเรียนมหาวิทยาลัยล่ะ? ให้บทเรียนชีวิตกับผมเหรอ?”“หยุดล้อเล่นน่ะ! เพื่อนของเราคิดแบบนั้นกับนายจริง ๆ ตั้งแต่ล่าสุดที่เราเจอ ทำไมนายไม่หางานที่ดีแทนที่จะมัวทำตัวไร้สาระไปวัน ๆ” เชอร์ลีย์รู้สึกกังวล “นายคิดว่าตอนนี้นายมีความสุขไหม? นายยินดีที่จะรับเงินไม่กี่ดอลลาร์ ทำไมนายไม่หางานที่ดีกว่าเพื่อให้อุ่นใจบ้างล่ะ”เชอร์ลีย์ปฏิบัติต่อฮาร์วีย์เป็นอย่างดี เธอยังคงเป็นห่วงฮาร์วีย์แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพที่น่าหดหู่นี้ก็ตามฮาร์วีย์ตอบสนองแบบเดียวกับที่เขามักจะทำในอดีต เขายื่นมือออกมาและกุมใบหน้าของเชอร์ลีย์ไว้ในมือ “จริง ๆ แล้วผมเสียใจที่ไม่ฟังคุณตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมไม่ได้เรียนรู้บทเรียนนั่นเลย แต่ตอนนี้ผมสบายดี”แม้ว่าเขาจะเป็นลูกเขยที่ไร้ค่ามาตลอดสามปี แต่เขาก็ไม่ได้ละทิ้งตัวตนนี้ไป เขากลายเป็นซีอีโอของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ และไม่เคยไม่มีความสุขเลยสักครั้งเขามีความสุขแม้ว่าเขาจะมีความขัดแย้งบ้างเล็กน้อยกับแมนดี้ที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้“นาย…” เชอร์ลีย์ขมวดคิ้ว “นายไม่มีอะไรดีขึ้นเลย”เชอร์ลีย์รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเธอต้องพูดแบบนี้ เธ
ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างไม่สนใจและไม่สนใจเจอร์รี่ที่กำลังฟึดฟัดพร้อมที่จะฟาดฟันเขา เขากำลังจะออกไปให้พ้นจากที่เกิดเหตุนี้เจอร์รี่ก้าวไปข้างหน้าและขวางทางฮาร์วีย์หลังจากเห็นว่าเขาขยับตัว เขาตะคอกทันที “รีบจ่ายค่าเสียหายมาเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นฉันจะโทรร้องเรียนนายทันที!”เชอร์ลีย์ยืนอยู่ข้างหลังเขา พูดด้วยความเศ้าใจว่า “ฮาร์วีย์ ถ้านายหาเงินไม่ได้จริง ๆ ฉันจะให้นายยืม”หัวใจของเธออ่อนลงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าฮาร์วีย์ไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่ต้องการให้ฮาร์วีย์ตกงานเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้เอลล่าซึ่งเงียบมานานก็เข้าใจแล้วว่าชายและหญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอคืออดีตรุ่นพี่ของฮาร์วีย์และเพื่อนร่วมโต๊ะของเขาอย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีเหตุผลเลยหรือไง? เพียงเพราะพวกเขาเป็นรุ่นพี่ของฮาร์วีย์งั้นหรือ?ในตอนนี้เธอไม่สามารถทนต่อไปได้อีกและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ทำไมคุณถึงไม่มีเหตุผลแบนี้? คุณมาชนเราก่อน แล้วทำไมเราต้องจ่ายค่าเสียหาย?”เจอร์รี่ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “เฮ้ คนสวย ผมมีเหตุผลมากแล้ว เพื่อนของคุณก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น ทำไมคุณถึงเป็นเพื่อนกับคนขี้แพ้อย่างเขาล่ะ? คุณจะได้ประโยชน์อะไรจากการเป็นเพื่อนกับเขา? คุณได้แค่ซ้
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข