“ตระกูลอีแวนส์?”“ตระกูลฮอแรนแห่งประเทศ H อันเกรียงไกรหรือตระกูลอีแวนส์จากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน?”ฮาร์วีย์ไม่พอใจ “เมอร์ฟี่ ราชวงศ์ชิงล่มสลายไปนานแล้ว ประเทศชาติเจริญขึ้นนานแล้ว สำหรับคนที่ไม่รู้ประวัติศาสตร์ของประเทศอย่างนายยอมคุกเข่าและถือชาวต่างชาติเป็นบรรพบุรุษของนายได้จริง ๆ หรือ“ถ้าคิดจะทำลายฉัน… แน่จริงก็ลองดูสิ!“แต่น่าเสียดายหน่อยนะ เพราะฉันคิดว่านายไม่อาจทำอย่างที่พูดได้ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้า“คนอย่างนายที่รู้แต่วิธีประจบประแจงชาวต่างชาติไม่มีวันประสบความสำเร็จหรอก ไม่ใช่ตอนนี้ ยังไม่มีทางด้วย”จากนั้นฮาร์วีย์ก็จับแขนของเลสลี่ ขณะที่เขาหันกลับมา พร้อมที่จะจากไปเลสลี่หันไปหาฮาร์วีย์ มองเขาด้วยสายตาชื่นชมผู้ชายคนนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหนือใครเมื่อเปรียบเทียบกับเมอร์ฟีคนไร้ยางอายที่เอาแต่ประจบประแจงอำนาจต่างชาติ ฮาร์วีย์ต่างหากที่สมชาย“ไอ้สารเลว! ระวังปากของนายไว้ให้ดีเถอะ!“นายไม่มีสิทธิ์มาพูดจาแบบนี้กับคนรักของฉัน!“นายไม่มีสิทธิ์มาดูแคลนอารยธรรมตะวันตก!”ชารอนที่นิ่งเงียบในขณะที่เธอมองด้วยสายตาเหยียดหยาม ในที่สุดก็เอ่ยปากพูดขึ้นและก้าวไปข้างหน้า
ฮาร์วีย์หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างเฉยเมย จากนั้นเขาจึงมองไปยังชารอนและพูดอย่างเอื่อยเฉื่อยว่า “ในเมื่อเธอขอร้อง ถ้าฉันมาไม่ทำตามที่เธอพูดก็จะถือว่าเป็นการหยามเกียรติเธอ”เขาเลื่อนดูโทรศัพท์และพบหมายเลขที่เขาไม่ได้โทรออกมาเป็นเวลาหลายปี เขาถึงกดโทรออกสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้นสามครั้งก่อนที่อีกฝ่ายก็รับสายอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงน่ารักของหญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูประหลาดใจ “ยอร์กที่รัก ในที่สุดคุณก็โทรหาฉัน!”“คุณจะยอมรับคำขอแต่งงานของฉันแล้วหรือ?”“วิคตอเรีย” ฮาร์วีย์พูด น้ำเสียงของเขาห่างเหิน “วันนี้ผมโทรหาคุณเพราะมีบางอย่างที่ผมต้องการให้คุณช่วย“มีคนชื่อ ชารอน เพิร์ล จากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน เธอกล่าวว่าเธอเป็นสืบสันตติวงศ์ลำดับที่สี่สิบเก้าและมีบุคลิกที่แย่มาก“การมีอยู่ของเธอจะส่งผลกระทบต่อมิตรภาพของเราและความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่และดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน“โปรดช่วยผมจัดการเรื่องนี้ด้วย”ฮาร์วีย์วางสายทันทีหลังจากพูดจบ ไม่ต้องรอคำตอบจากวิคตอเรีย จากนั้นเขาก็ส่งรอยยิ้มไร้อารมณ์ขันให้ชารอนและพูดว่า “ชารอน ตอนนี้คุณถูกถอดจากราชวงศ์แห่งดินแดนพระอ
เมอร์ฟีและคนอื่น ๆ รู้สึกโกรธเมื่อเห็นฮาร์วีย์ดึงแขนเลสลี่จากไปไม่มีใครคาดคิดว่าชารอนจะถูกถอดออกจากราชวงศ์ของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน!ยิ่งกว่านั้นมันเกิดขึ้นด้วยการโทรศัพท์เพียงสายเดียวเท่านั้น!โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่กำลังอยู่ในอาการลุกลี้ลุกลน พวกเขาต่างรู้ว่าดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินยิ่งใหญ่เพียงใด ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกหวาดกลัวพวกเขาหายใจติดขัดหลังจากเห็นชายคนหนึ่งต่อสายโทรศัพท์เพียงสั้น ๆ ก็สามารถถอดท่านหญิงคนนั้นออกจากราชวงศ์ได้ฮาร์วีย์ทำได้อย่างไรทำให้ดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินต้องสั่นสะเทือนได้ด้วยการโทรศัพท์เพียงครั้งเดียว?ช่างเป็นเรื่องน่าขัน!“ชารอน หยุดคิดเรื่องไร้สาระแบบนั้นได้แล้ว ข้อมูลมันอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้!”หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เมอร์ฟี่ก็พูดต่อไปว่า “เขาเป็นแค่สามัญชนคนธรรมดา เขาจะมีอิทธิพลต่อราชวงศ์อันทรงเกียรติของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินได้ยังไง?“จากข้อมูลที่ผมได้รับ เขาไม่เคยไปต่างประเทศมาก่อน! เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามารยาทสากลคืออะไร!“คนโง่เขลาแบบนี้จะมีอิทธิพลต่อราชวงศ์อันสูงส่งของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินได้ยังไง?“ถ้าเรา
"ก็ได้! ฉันจะเชื่อในความสามารถของคุณ!“อีแวนส์ คุณบอกว่าตระกูลอีแวนส์เป็นราชาแห่งฮ่องกง งั้นก็พิสูจน์ให้ฉันเห็นหน่อยสิ!”ชารอนพอใจการประจบสอพลอของเมอร์ฟี และพยักหน้าอย่างเย่อหยิ่ง "โอ้ใช่ เราต้องได้สิ่งที่ราชวงศ์ปรารถนาในการประมูลคืนนี้ด้วย!”“ตราบใดที่ของชิ้นนั้นถูกถวายแด่ราชินี ฉันก็จะสามารถปีนกลับเข้าไปในตำแหน่งเดิมของตัวเองได้ และฉันอาจจะก้าวหน้าในสายบัลลังก์ก็ยังได้!”เมอร์ฟี่ดูตื่นเต้น “ชารอน ไม่ต้องกังวล ผมจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปแน่!”เขาคิดว่าหากชารอนสามารถเลื่อนตำแหน่งทางราชวงศ์ของเธอและก้าวหน้าในสายบัลลังก์ได้ เขาก็จะได้เข้าใกล้บัลลังก์ไปอีกก้าวหนึ่งหลังจากที่เขาแต่งงานกับเธอดังนั้นเขาจึงมีความกระตือรือร้นสูงมากปึก ปึก! เขาตบหน้าอกและอุทานเสียงดัง “ผมค่อนข้างสนิทกับผู้จัดงานประมูล! พวกเขาจะช่วยเหลือผมอย่างแน่นอน!”“เราจะได้ของชิ้นนั้นในราคาต่ำสุดอีกต่างหาก!”ในความเป็นจริง เมอร์ฟีไม่รู้เรื่องมูลค่าของสิ่งของที่ชารอนต้องการเลยแม้แต่น้อยแต่ถึงรู้ไปข้อมูลนั้นก็ไร้ประโยชน์สำหรับเขาตราบใดที่ของสิ่งนั้นมีความหมายต่อดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน นั่นก็พอแล้วเขาไม่
“ที่เมอร์ฟีย์กลับมากะทันหันเพราะมีอีกเหตุผล ต้องเป็นเพราะงานประมูลที่จัดโดยวิหารคุณธรรมทั้งห้านี้แน่ ๆ“การประมูลนี้จะจัดขึ้นเป็นครั้งคราว ของที่นำมาประมูลล้วนแต่เป็นสมบัติหายาก!“ดังนั้น การประมูลดังกล่าวจึงดึงดูดชนชั้นสูงจากทั่วทุกมุมโลก“มีการกล่าวกันว่าเชื้อพระวงศ์บางส่วนจากทั้งตะวันตกและตะวันออก ตลอดจนทายาทของมหาเศรษฐีรายใหญ่ในอเมริกาจะเข้าร่วมการประมูลนี้อย่างไม่เปิดเผยตัวตน”"น่าสนใจดี"ฮาร์วีย์ยิ้ม“เดิมทีผมก็ไม่อยากไปหรอก แต่เพราะว่าวิหารคุณธรรมทั้งห้าเป็นคนจัด เพราะงั้นคุณช่วยพาผมไปด้วยได้ไหม”***ฮาร์วีย์และเลสลี่เปลี่ยนเป็นชุดทักซิโดและชุดราตรีตอนหนึ่งทุ่ม จากนั้นพวกเขาก็เดินไปที่ชั้นบนสุดของโรงแรม ทรี ซีซั่นฮาร์วีย์สนใจวิหารคุณธรรมทั้งห้าอย่างมากอย่างไรเสีย วิหารคุณธรรมทั้งห้าก็เป็นสถานที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อันสูงส่ง ก่อนหน้านี้ สการ์เลตต์ ลีโฮลด์แห่งวิหารคุณธรรมทั้งห้าเข้าข้างวินซ์ ยอร์กและโจมตีตระกูลแฮมิลตันโรงฝึกศิลปะการต่อสู้มีเกียรติอย่างสูงเช่นนี้ แต่พวกเขากลับเข้าไปพัวพันกับศึกการแข่งขันระหว่างตระกูลมหาเศรษฐี นั่นไม่เข้าท่าเลยสักนิดตอนนี้พวกเขายังจัด
แต่ฮาร์วีย์ขมวดคิ้วหลังจากฟังคำพูดของเธอ “พวกเขายังประมูลสมบัติเก่าของชาติและศิลปะการต่อสู้ของประเทศ H ผู้ยิ่งใหญ่ด้วย“วิหารคุณธรรมทั้งห้าไม่ได้ทำอะไรเกินตัวไปใช่ไหม?”เลสลี่ถอนหายใจ “แต่เพราะเขายังฉลาดอยู่บ้าง ตำราศิลปะการต่อสู้ที่พวกเขานำออกมานั้นล้วนเป็นของที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้นและเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ไม่มีผู้สืบทอด“ดังนั้นจึงไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าเป็นของใคร แต่ก็บอกเป็นนัยว่าล้วนเป็นของวิหารคุณธรรมทั้งห้าเท่านั้น!“เนื่องจากพวกเขาค้าขายมันในการประมูลสิ่งของ เพราะเขาจึงสามารถขายมันให้ใครก็ได้ และใครจะเข้ามาควบคุมเรื่องนี้ได้ล่ะ”ฮาร์วีย์พยักหน้า แต่ดวงตาของเขากลับเย็นชาการส่งเสริมวัฒนธรรมของประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่ในต่างประเทศเป็นสิ่งที่ดีแต่การขายรากเหง้าของประเทศ H มันออกจะล้ำเส้นฮาร์วีย์ไปเสียหน่อยเลสลี่ไม่ได้สังเกตเห็นความเย็นชาเล็ก ๆ ในดวงตาของฮาร์วีย์ เธอพูดต่ออย่างสบาย ๆ “นี่คือเหตุผลว่าทำไมการประมูลครั้งนี้จึงสามารถดึงดูดผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกมาได้ทุกปี!“ที่นั่งในการประมูลของทุกปีมีเพียงสามถึงห้าร้อยที่นั่งเท่านั้น!“ฉันได้ยินมาว่าราคาของหนึ่งที่นั่
บัตรเชิญสำหรับตระกูลดอนดูเหมือนจะถูกละเลย เนื่องจากพวกเขาได้รับที่นั่งที่แย่ที่สุดเห็นได้ชัดว่ามีคนจากแวดวงสังคมชั้นสูงของฮ่องกงและลาสเวกัสมาอย่างล้นหลามแม้ว่าตระกูลดอนจะเป็นตระกูลชั้นหนึ่งและเป็นผู้ว่าราชการ แต่พวกเขาก็ยังถูกมองว่าไม่ดีพอสำหรับสองเมืองนี้ตระกูลแฮมิลตันและตระกูลเมนโดซาน่าจะส่งตัวแทนมาที่นี่ด้วย แต่เพราะมีคนจำนวนมากเกินไปและฮาร์วีย์ก็หาพวกเขาไม่พบ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เข้าไปทักทายพวกเขาเมอร์ฟีและชารอนยังคงคุยกันอย่างมีความสุขและใช้เสียงดังสนั่น แม้ว่าพวกเขาจะนั่งอยู่ที่ใจกลางของสถานที่ก็ตาม ไม่มีใครแน่ใจว่าพวกเขาจงใจใช้เสียงที่ดังลั่นแบบนั้นหรือเปล่าพวกเขานั่งตรงกลางเพื่อให้กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนได้ง่าย ๆฮาร์วีย์มองดูคู่รักคู่นี้ด้วยความเฉยเมยเขาสงสัยว่าสิ่งของชนิดใดที่สามารถดึงดูดความสนใจของดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินได้จากนั้นฮาร์วีย์ก็มองผ่านแคตตาล็อกในมือขณะที่เขาครุ่นคิดเรื่องนี้เมื่อเขาเห็นของชิ้นหนึ่ง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป***"ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตีทุกท่าน! การประมูลของวิหารคุณธรรมทั้งห้าได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว”นักบวชสาวสีหน้าเย
ในปัจจุบัน ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ว่าดาบยาวเล่มนั้นเป็นของใครกันแน่มันดูค่อนข้างผุพังและดูเหมือนจะไม่มีค่าเท่าไหร่ในฐานะของสะสมหลังจากพิจารณาอย่างใกล้ชิด ลูกค้าผู้มั่งคั่งหลายคนก็รู้สึกว่าดาบยาวเล่มนี้ไม่คุ้มที่จะประมูลโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาเริ่มต้นของมันอยู่ที่หนึ่งล้านห้าแสนดอลลาร์ในขณะนั้นฮาร์วีย์รู้สึกได้ว่าชารอนตัวสั่นอยู่บนที่นั่งของเธอ เธอมองไปที่ดาบยาวด้วยสายตาที่หลงใหล ราวกับว่าเธอกำลังมองบิดาผู้ให้กำเนิดของตัวเองฮาร์วีย์เข้าใจทันที เธอรู้ดีว่าดาบยาวเล่มนั้นเป็นของใครในที่สุดก็เป็นไปตามคาด ถ้าใครรู้ว่าตำนานที่มีชีวิตของประเทศ H เคยใช้ดาบนี้มาก่อน ผู้คนนับไม่ถ้วนหาทางครอบครองมันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดมันจะดีกว่าถ้าดาบยาวเล่มนั้นไม่ตกไปอยู่ในมือของคนอื่นฮาร์วีย์แตะไหล่เลสลี่อย่างไม่ลังเล“เราจะซื้อดาบเล่มนี้”เลสลี่ชำเลืองมองฮาร์วีย์ เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอไม่รู้ว่าทำไมฮาร์วีย์ถึงอยากได้ของชิ้นนี้ แต่เธอก็ชูป้ายขึ้นโดยไม่รีรอ“หนึ่งร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์”สภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายกลายเป็นน้ำแข็งในทันทีผู้ประมูลหลายคนมองมาด้วยความสงสัย พวกเขาไม่เข้าใจ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข