“ที่รัก…มันเป็นความผิดของผม…ผมไม่ควรออกไปข้างนอก…คุณโอเคไหม? คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” ฮาร์วีย์ตัวสั่นขณะที่เขาพูดด้วยความเสียใจที่เขาลุกออกไปข้างนอกแมนดี้แทบจะลืมตาไม่ขึ้น เธอมองไปที่ฮาร์วีย์ที่ยืนอยู่ต่อหน้าเธอ มันทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย เธอยิ้มตอบ“ที่รัก…ฉัน…ฉันไม่เป็นไร”นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอพูดแบบนั้นในรอบสามปีของการแต่งงานระหว่างทั้งสองสน แต่ฮาร์วีย์ยังไม่รู้ตัวเขาค่อย ๆ อุ้มแมนดี้ขึ้นจากพื้นดิน ใบหน้าของเขามืดมนทันทีพวกนักเลงที่จับเซซิเลีย และแองเจิลผลักพวกหล่อนออกไปเมื่อพวกเขาเห็นหนึ่งในตัวพวกมันเองถูกทำร้ายเช่นนั้น พวกมันพุ่งเข้าหาฮาร์วีย์พวกนักเลงตรงหน้าหัวเราะ“ไอ้ขยะ นายยังคงปกป้องเมียนายแม้จะนายมีรูปร่างแบบนี้งั้นเหรอ? เราจะทำมันต่อหน้านาย! ฮ่า ๆ ๆ... ”นักเลงอีกคนหัวเราะอย่างเย็นชา พวกเขาเป็นลูกน้องของเลียม ไอ้ลูกเขยขยะนี่น่ะเหรอ พวกเขาไม่ชายตาแลแน่นอนฮาร์วีย์ไม่ได้สนใจพวกนักเลงเลย เขาปลอบใจแมนดี้แล้วคว้าขวดเบียร์เปล่าจากโต๊ะเพล้ง!ฮาร์วีย์เหวี่ยงแขนและตีหัวนักเลงคนนั้นด้วยขวด มันเจ็บปวดอย่างมากจนนอนเป็นอัมพาตอยู่ที่พื้น“ฉัน…”นักเลงอีกคนพุ่งเข้าหาฮาร์ว
“ขยะอย่างนายมีอะไรให้ประหลาดใจริง ๆ แต่นายลืมคิดไปหรือไงว่าที่นี่มันถิ่นของใคร? นายจะไม่สามารถออกไปจากที่นี่ทั้งที่มีลมหายใจได้แน่นอน!”เจมี่ยิ้มเยาะเย้ย เขาสังเกตเห็นว่าเลียมนั่งอยู่ที่พื้นทางเข้าแต่มีใบหน้าซีดราวกับกระดาษฮาร์วีย์ปล่อยให้เซซิเลีย และแองเจิลดูแลแมนดี้ และเขาเดินตรงเข้าไปหาเจมี่ด้วยสีหน้าเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง เขาเขวี้ยงที่เขี่ยบุหรี่ใส่ใบหน้าของเจมี่พลั่ก!ใบหน้าของเจมี่ปูดบวม ฟันของเขาก็หลุดร่วงออกจากปาก“แก…แกกล้าทำร้ายฉันได้ยังไง? ลูกเขยขยะอย่างแกอยาากตายใช่ไหมฮะ?!”เจมี่กุมใบหน้าทันที เขาทั้งตกใจและประหลาดใจในเวลาเดียวกัน“แกกล้าทำร้ายผู้ชายของฉันแบบนั้นได้อย่างไร?! ไอ้ถังขยะไร้ค่า แกกล้ามาก!”นีอาพุ่งเข้าหาฮาร์วีย์เหมือนคนบ้าพร้อมที่จะตบหน้าฮาร์วีย์ให้จมดินฮาร์วีย์เหวี่ยงมือขวาฟาดไปที่ใบหน้าของนีอาจนเธอล้มลงกับพื้น“ฉันไม่เคยทำร้ายผู้หญิงมาก่อน แต่ถ้าใครกล้ามาแตะต้องเมียของฉัน ฉันจำเป็นต้องฝ่าฝืนกฎนั้นของตัวเอง!”ในช่วงจังหวะนั้นเขาเตะเข้าที่กลางท้องของนีอาจนเธอกระเด็นกลิ้งไปหาเจมี่คนอื่น ๆ ต่างตกะลึง ฮาร์วีย์ไม่เพียงแต่จัดการกับพวกนักเลง แต่เขายัง
ใบหน้าที่ถูกศัลยกรรมของนีอาถูกทุบตีอย่างรุนแรงและบิดเบี้ยวไปหมดเคนเดินเข้าไปหาเธอและเหลือบมองอย่างรวดเร็ว ความโกรธเริ่มก่อตัวขึ้นภายในตัวเขาเขาอยากสนุกที่บ้านของเจมี่ในคืนนี้ แต่ใครจะไปคิดว่านีอาจะกลายเป็นแบบนี้? อารมณ์ของเคนถูกพังทลายสายตาของเคนจับจ้องไปที่เจมี่ คนที่ไร้ซึ่งความสามารถคนหนึ่ง“เกิดอะไรขึ้น?” เคนถามอย่างเย็นชา“มันจบแล้ว! มันจบแล้ว! นั่นคือ เคน บรู๊ค จากตระกูลบรู๊ค!”“ฮาร์วีย์ ไอ้คนโง่! ตอนนี้เขาไม่สามารถหนีไปได้แล้ว!”“เคนเป็นคนที่มีนิสัยไม่ดีมีความคิดผิดเพี้ยนมาโดยตลอด ไม่เพียงแต่ฮาร์วีย์จะต้องเผชิญกับผลที่ตามมา แต่แมนดี้และสาว ๆ ก็ต้องแปดเปื้อนไปด้วย…”คนอื่น ๆ เนื้อตัวสั่นเทาเหมือนใบไม้บนกิ่งไม้ที่สั่นไปตามลม เคนจากตระกูลบรู๊คเป็นคนที่โหดเหี้ยม ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักกันดี เพียงแค่เอ่ยชื่อออกมาก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คนส่วนใหญ่กลัวจนตาย ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าที่เขายืนอยู่ที่นี่ที่เต็มไปด้วยความโกรธนี้“เฮ้อ นี่คือสาเหตุที่คนอื่น ๆ ต้องเข้าใจว่าตัวเองมีความสามารถอะไร เขาควรรู้ว่าอะไรทำได้และทำไม่ได้ จริงไหม?”“ใครบอกให้เขาหยิ่งผยองอย่างนั้น? เขามีโอกาส
“นายใหญ่เลียม ฉันจ่ายเงินตามกำหนดของเดือนนี้ ที่คุณทำคืออะไร…"เคนรู้สึกหวาดกลัว เขาไม่กลัวที่จะทำตัวโอ้อวดต่อหน้าฮาร์วีย์ แต่ต่อหน้าเลียม สโตน เขาแค่คนธรรมดาดวงตาของเลียมเย็นชาราวกับน้ำแข็งและน่ากลัวยิ่งกว่าเคนเสียอีก เลียมไม่พูดอะไรและเตะเคนจนล้มลงไปที่พื้น“นายใหญ่เลียม คุณเป็นอะไร…”เคนตกใจมาก เขาอ้าปากค้างไม่รู้ว่าการกระทำนี้จะนำซึ่งความตายมาให้เขา“พวกแกสองคนกำลังจะฆ่าฉัน!”เลียมคำรามลั่น จากนั้นก็เดินไปหาเจมี่แล้วเตะเขาไปที่ท้องจนเจมี่ล้มกลิ้งไปกับพื้นร้องโหยหวนไม่หยุดนีอาตัวแข็งทื่อ เธอรีบเอาตัวเข้าไปขวางตรงหน้าเจมี่“นายใหญ่เลียม คุณจัดการผิดคนหรือเปล่า? เราไม่ใช่คนที่ทำร้ายคนของคุณ…”เลียมหยุดชะงักแต่แล้วก็กระชากผมของนีอา ใช้มืออีกข้างของเขาตบหน้าเธอซ้ำ ๆ สองสามครั้ง“ผู้หญิงหน้าไม่อาย! อ้างชื่อฉันไปทุกที่ทั้งที่ตัวเองก็แค่คนต่ำ ๆ จากตระกูลบรู๊คที่ใบหน้าเต็มไปด้วยซิลิโคนศัลยกรรมงั้นเหรอ? เธอคิดว่าเธอใหญ่โตมาจากไหนฮะ?”“เธอเป็นแค่ผู้หญิงสำส่อนที่ไม่รู้อะไรเลย แล้วยังกล้าปีนขึ้นไปบนเตียงของฉันอีกเหรอ?น่าสมเพช! และแก!"เลียมยั้งอารมณ์ไม่อยู่อีกต่อไป เขาระเบิดอารมณ์
ตอนนี้เลียมเป็นน้องชายร่วมสาบานของไทสัน พูดตามตรงเขาไม่มีสิทธิ์เป็นน้องชายของฮาร์วีย์ มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะมีชีวิตอยู่ เขารู้ว่าเขาควรจะทำอะไรและสิ่งใดที่เขาไม่ควรทำในตอนนี้ฮาร์วีย์ไม่เปิดเผยตัวตนของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเปิดเผยเช่นกัน เขารู้แล้วว่าเขาควรจะจัดการกับตระกูลบรู๊คอย่างไร ถ้าเขาไม่ตอบสนองความต้องการของฮาร์วีย์ในวันนี้ เขานึกไม่ออกเลยว่าจะต้องเจอกับความตายแบบไหน…“กะ...เกิดอะไรขึ้น? เลียม คุณจะทิ้งตระกูลบรู๊คงั้นหรือ?”“เป็นไปไม่ได้! เลียมปกป้องตระกูลบรู๊คมานานหลายปี เรามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมั่นคงต่อกัน เขาจะทิ้งพวกเราแบบนี้ได้อย่างไร?”“เป็นไปได้ไหมที่ฮาร์วีย์เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังนี้?”“ไม่มีทางเขาเป็นขยะไร้ค่านี้แน่ เขาจะทำได้อย่างไร? ฉันรู้สึกว่าเลียมย้ายฝั่งมาเป็นคนตระกูลซิมเมอร์…”“ตระกูลซิมเมอร์เป็นตระกูลเดียวที่ได้ร่วมลงทุนจากท่านประธานคนใหม่ของ ยอร์ก อ็นทอร์ไพรส์และแมนดี้เป็นคนรับผิดชอบโครงการนั้น เลียมต้องทำสิ่งนี้เพื่อให้เกียรติเธอแน่นอน…”“แมนดี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีและยังมีเอกสิทธิ์ที่ได้รับเงินลงทุนจาก ยอร์ก เอ็นเทอร์
แมนดี้รู้สึกสับสนเล็กน้อยที่เห็นเลียม สโตน ให้เกียรติเธอ เธอคิดไม่ออกว่าทำไมเลียมถึงปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพอย่างนี้ อาจเป็นเพราะฮาร์วีย์ใช่ไหม?แต่เลียมไม่ได้ปฏิบัติต่อฮาร์วีย์ด้วยอะไรเป็นพิเศษ เธอคิดว่าเธอแค่คิดมากไปเลียมต้องทำแบบนี้เพราะตระกูลซิมเมอร์ในขณะที่แมนดี้ยังคงครุ่นคิดถึงสถานการณ์ตรงหน้า ฮาร์วีย์ก็พูดอย่างเย็นชาว่า “มีคนทำร้ายภรรยาของฉัน และยังคิดที่จะสร้างความหายนะให้กับภรรยาและเพื่อนของเธอ คน ๆ นี้ยังต้องการให้ฉันคุกเข่าและคลานออกไปจากที่นี่…”เสียงอื้ออึงดังออกมาจากฝูงชนฮาร์วีย์พูดแบบเรียบนิ่งและไม่ไยดี เลียมกำลังจะคุกเข่า แต่ไม่กล้าทำเช่นนั้นเมื่อเขาเห็นคำเตือนผ่านแววตาของฮาร์วีย์ เขาจำคำสั่งของไทสันได้ ฮาร์วีย์เป็นคนทำตัวเงียบ ๆ ไม่เปิดเผยตัวตน ถ้าเขากล้าเปิดเผยตัวตนของฮาร์วีย์นั่นเท่ากับว่าเขากำลังรนหาที่ตายหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ เลียมก็พูดเสียงเบาว่า “มิสเตอร์ยอร์ก มิสซิมเมอร์ ไม่ต้องกังวล ครั้งนี้เป็นความผิดของผมเอง ผมจะอธิบาย…”จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนหลังจากพูดและจ้องมองเคนและเจมี่ เขาพูดอย่างเยือกเย็น “แกทั้งสองคลานออกไปจากที่นี่ ถ้าแกกล้าที่จะยืนขึ้นโ
“นี่คือ…?” แมนดี้มองการแสดงออกของเอลล่าและไม่สามารถอดกลั้นจนตองถามออกมา“จริงสิ คุณทั้งสองยังไม่เคยเจอกันมาก่อน” ฮาร์วีย์ตบหัวตัวเองเบา ๆ เพราะความขี้ลืมของเขาและแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน “นี่คือด็อกเตอร์เกรฟส์จากแผนกฉุกเฉิน เราเคยพบกันมาแล้วครั้งหนึ่ง”“ด็อกเตอร์เกรฟส์ นี่คือภรรยาของผม ผมอยากขอความช่วยเหลือจากคุณ”แม้ว่าสีหน้าของผู้หญิงทั้งสองจะดูผิดปกติ แต่ฮาร์วีย์ก็กังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของแมนดี้มากกว่าและไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องตรงหน้าเมื่อเอลล่าได้ยินคำว่า ‘ภรรยา’ เธอก็ตกใจ ในช่วงเวลาต่อมาเธอสามารถดึงสติและยิ้มออกมาเล็กน้อย “มิสเตอร์ยอร์ก คุณยังหนุ่มและมีความสามารถ แม้แต่ภรรยาของคุณก็ยังสวยจนน่าทึ่ง ไม่ต้องกังวลค่ะ ฉันสัญญาว่าเธอจะไม่มีแม้แต่รอยแผลเป็นหลงเหลืออยู่”“เยี่ยมมาก ผมคงสบายใจมากที่ได้ยินจากปากของคุณ” ฮาร์วีย์ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขามั่นใจกับทักษะทางการแพทย์และจริยธรรมของเอลล่า เอลล่ารับปากกับเขาจึงสามารถผ่อนคลายได้ในไม่ช้า แมนดี้ เซซิเลีย ละแองเจิลก็ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อรับการรักษาบาดแผลจู่ ๆ ฮาร์วีย์ก็นึกถึงอาการบาดเจ็บของเชน ไนส์เวลล์ แล้วเขาก็ตัด
ผิวของแองเจิลเปลี่ยนเป็นสีซีดเมื่อเธอเห็นฉากที่เกิดขึ้นตรงหน้าเธอ เธอมองไปที่ท่าทางของแมนดี้ และสัญชาตญาณทำให้เธอต้องพยายามที่จะทำให้ทุกอย่างราบรื่น “เซซิเลีย พอได้แล้ว มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด ด็อกเตอร์เกรฟส์รักษาบาดแผลของเราอย่างดีก่อนหน้านี้ เธอควรจะทำตัวเป็นสุภาพสตรีที่ดี”“แองเจิล เธอออกตัวแทนคนอื่นได้อย่างไร?” เซซิเลียหัวเราะอย่างเย็นชา “ทั้งหมดที่เธอทำก็แค่ใช้ยากับเราและเธอลืมไปหรือเปล่าว่าเราเกือบตายเพราะเศษขยะไร้ค่านี้? ฮาร์วีย์ฉันเตือนนายแล้ว อย่าคิดว่าเราจะลืมมันเพียงเพราะนายพาเรามาโรงพยาบาล”“ถ้าแค่คุณมีความสามารถบ้าง แม้จะเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไปเราก็คงไม่ถูกทำร้ายจากนีอาแบบนั้นหรอก ฉันแนะนำให้นายหย่ากับแมนดี้โดยเร็วที่สุด! การที่เธอแต่งงานกับแมวหรือหมาข้างถนนก็ยังดีกว่าแต่งงานกับขยะไร้ค่าอย่างนายเป็นร้อยเท่า!”เธอต้องการแยกฮาร์วีย์จากแมนดี้มาโดยตลอด ที่ผ่านมาเธอใช้วิธีเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการทำเรื่องนี้ แต่เธออยากจะทำให้มันชัดเจนในวันนั้นบรรยากาศความอึดอัดครอบคลุมไปทั่วสีหน้าของฮาร์วีย์ดูไม่พอใจเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อเขาแค่พาแมนดี้และพวกเธอมารับการ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข