ซีน่าก็ผงะเล็กน้อยเช่นกันเมื่อเห็นฮาร์วีย์ เธอไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่อีกครั้ง เธอพูดด้วยความขยะแขยงอย่างโจ่งแจ้งว่า “ผู้อาวุโส นี่คือฮาร์วีย์ เขาเป็นเพื่อนของพ่อฉันเอง”จากนั้นซีน่าก็จ้องมองฮาร์วีย์ด้วยสายตาหยิ่งผยองและเหยียดหยาม “ฮาร์วีย์ นายมาทำอะไรที่นี่? นายคิดว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่นายนึกจะมาเมื่อไหร่ก็มาได้อย่างนั้นหรือ”ฮาร์วีย์ไม่สนใจที่เธอไม่ชอบเขาและตอบอย่างเฉยเมยว่า “พ่อของคุณโทรมาขอร้องให้ผมมาที่นี่”เพื่อพิสูจน์คำพูดของเขา เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและเปิดประวัติการโทรของเขาให้เธอดูซีน่าขมวดคิ้วไม่พอใจ เธอตะคอกอย่างเย็นชา “ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพ่อต้องโทรให้นายมาที่นี่ด้วย“แต่ตอนนี้ผู้อาวุโสของฉันอยู่ที่นี่แล้ว พวกเขาจะสามารถจัดการกับปัญหาของแฮมิลตันได้อย่างแน่นอน!“ที่นี่เราไม่ต้องการนายหรอก!“ฉันเดาว่าเราจะปล่อยให้นายกลับไปมือเปล่าไม่ได้เพราะเราเป็นคนโทรเรียกให้นายมาเอง เอานี่! หนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์สำหรับค่าเสียเวลาของนาย!”ซีน่าหยิบเช็คธนาคารออกมาและยัดใส่มือฮาร์วีย์ ทุกการกระทำของเธอแสดงออกได้ถึงความเย่อหยิ่งฮาร์วีย์ไม่มีอารมณ์จะเล่นกับความไม่รู้จักโตของอีกฝ่าย
สีหน้าของชายวัยกลางคนแย่ลงเมื่อเขาได้ยินคำว่า “มีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน”จอนยังคงหยิ่งยโสและไม่พูดอะไร แต่ดวงตาของเขากลับเฉียบคมขึ้นทันที เขาจ้องฮาร์วีย์ด้วยความประหลาดใจเงียบ ๆสการ์เลตต์ส่งสายตาแสดงความเกลียดชังไปยังฮาร์วีย์ เธอรู้สึกรังเกียจเขาอย่างที่สุด เธอรีบเข้าไปหาจอนเพื่อกระซิบกับเขาสองสามคำซึ่งทำให้เขาหรี่ตาลงจากนั้นสการ์เลตต์ก็พูดว่า “ฮาร์วีย์ คุณรู้ไหมว่าสถานการณ์ปัจจุบันนี้เป็นยังไง? นี่ไม่ใช่ที่ที่คุณคิดจะพ่นอะไรไร้สาระออกมาก็ได้นะ“อาจารย์ของฉันจอน เซอร์เรย์ เป็นที่รู้จักในฐานะปรมาจารย์ฮวงจุ้ยอันดับหนึ่งของฮ่องกง“ต้องขอบคุณเขา นายหญิงลำดับที่สี่ถึงสามารถกลับสู่สภาพปกติของเธอได้“นี่คุณกล้ากล่าวหาเขาอย่างไร้สาระได้ยังไง? เราจะฟ้องคุณข้อหาใส่ร้ายและปล่อยให้คุณเน่าอยู่ในคุกไปตลอดชีวิต!”ฮาร์วีย์หันหน้าหนี ไม่ยอมแม้แต่จะฟังในสิ่งที่เธอพูด เขามองไปที่จอนและเอ่ยปากว่า “คุณไม่รู้หรือว่าเครื่องรางของขลังเหล่านี้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้หรือเปล่า?”ชายวัยกลางคนจากเมื่อก่อนเป็นคนตอบ เขาคำรามด้วยความโกรธ “ไอ้สารเลว ไอ้เลว!“คุณได้ยินสิ่งที่คุณพูดกับอาจารย์ของฉันหรือเปล่า?!“ค
ในขณะเดียวกัน ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยจากฮ่องกงก็เข้ามาตรวจอาการของพอลลี่พวกเขาทั้งหมดถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นหมอกดำบนหน้าผากของเธอสลายไปและลมหายใจของเธอก็กลับมาสม่ำเสมออย่างที่ควรแม้แต่ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยอันดับหนึ่งอย่างจอน เซอร์เรย์ก็ยังประหลาดใจกับสิ่งนี้ เขารับรู้ได้ถึงอาการของพอลลี่ แต่การจะช่วยเหลือเธอนั้นถือเป็นงานที่ยากสำหรับเขาเนื่องจากต้องใช้พลังงานจำนวนมากเขาไม่เคยคาดหวังว่านอกจากเขาแล้วจะมีใครที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างง่ายดายซีน่าที่เข้ามาด้วยความรีบร้อน เมื่อเธอเห็นว่าปรมาจารย์ฮวงจุ้ยเงียบไป เธอพูดขึ้นอย่างกระวนกระวาย “อาจารย์เซอร์เรย์ มาดูแม่ของฉันเร็วเข้า!”“เธอดูไม่ดีเลย ตอนนี้เธอดูสงบ แต่เธออาจมีอาการชักได้ทุกเมื่อ”ใบหน้าของซีน่าเต็มไปด้วยความกลัวขณะที่เธอพูดแบบนี้จอนก้าวเข้ามาดูใกล้ ๆ จากนั้นเขาก็กระแอมและพูดอย่างสงบว่า “คุณหนูแฮมิลตัน นายหญิงลำดับที่สี่ ฟื้นตัวได้ดีมากในขณะนี้ เธอไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่กำลังทนทุกข์กับความทรมาน และเราไม่ต้องไล่ผีออกจากตัวเธอด้วย“ปล่อยให้หมอเป็นคนจัดการเถอะ“อีกอย่าง ให้เธอเก็บยันต์นี้ไว้ ด้วยสิ่งนี้ จะไม่มีอะไรผิดพลาด”
"หยุด!"เมื่อฮาร์วีย์ออกจากห้องโถง ผู้คุ้มกันหลายคนในชุดสูทสีดำก็ตามเขามาไม่ว่าพวกเขาจะแต่งตัวแบบไหนแต่ผู้ชายเหล่านี้ก็ไม่ใช่ผู้คุ้มกันตระกูลแฮมิลตัน ด้วยใบหน้าที่เย็นชา พวกเขามองปราดไปที่ฮาร์วีย์ชายที่เป็นผู้นำเป็นชายร่างกำยำและหัวโล้น ไม่มีผมสักเส้นบนศีรษะกลมใสของเขา เขาหรี่ตาและพูดกับฮาร์วีย์ด้วยน้ำเสียงถือตัว “นายคือฮาร์วีย์ใช่ไหม? ฉันคือผู้คุ้มกันของอาจารย์เซอร์เรย์ลีวายส์ เซอร์เรย์“อาการของนายหญิงลำดับที่สี่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน อาจารย์เซอร์เรย์คิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขาที่จะได้เห็นทักษะของพวกหน้าใหม่อย่างนาย เขาหวังว่านายจะกลับเข้าไปที่คฤหาสน์และแก้ปัญหาให้“นายต้องเข้าใจว่าอาจารย์เซอร์เรย์เป็นปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยอันดับหนึ่งในฮ่องกง นี่ถือเป็นเกียรติของนายที่จะให้เขาเป็นผู้รับรองทักษะของนายล่ะ!”แม้ว่าลีวายส์ต้องการให้ฮาร์วีย์กลับไปที่คฤหาสน์เพื่อช่วยพอลลี่แต่กิริยาท่าทางของเขากลับเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง เขามองว่าฮาร์วีย์เป็นคนที่มีทักษะต่ำต้อยกว่าเขาด้วยมุมมองที่ลีวายส์เห็น นี่ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับฮาร์วีย์“รับรองทักษะของฉัน?"แก้ปัญหาให้?"ฮาร์วีย์ย
จากมุมมองของลีวายส์ การที่ใครสักคนจะได้รับการยอมรับจากจอน เซอร์เรย์จะทำให้คน ๆ นั้นมีชีวิตที่หรูหราอยู่บนกองเงินกองทองและผู้หญิง ไม่สำคัญว่าเขาจะตาบอดหรือพิการ อย่างไรเสียอนาคตของคนผู้นั้นก็จะราบรื่น!ฮาร์วีย์ไม่อยากไขว่คว้าโอกาสทองเช่นนี้ไว้ได้อย่างไร?ในขณะนี้ลีวายส์รู้สึกอิจฉาฮาร์วีย์ยิ่งกว่าเก่า“ลูกกระจ๊อกอย่างนายอย่ามาขวางนะ หลีกทางไปได้แล้ว"อย่างไรก็ตามฮาร์วีย์ยังคงมึนตึงเช่นเคย เขาไม่มีทีท่าว่าจะกลับเข้าไปที่คฤหาสน์อย่างแน่นอน“ฉันต้องรีบกลับบ้านไปทานมื้อเย็น”“จุ๊ จุ๊ จุ๊ เราก็คงต้องใช้ไม้หนักกับนายสินะ!”ลีวายส์แค่นเสียงอย่างประชดประชัน ใบหน้าของเขาเย็นชา“ไอ้เวร! ทั้งที่อับจนหนทางขนาดนี้แต่นายก็ยังคิดว่าตัวเองจะทำตามอำเภอใจได้หรือไง! ต้องขออภัยด้วย แต่ดูเหมือนว่าฉันจะต้องใช้ไม้แข็งกับนายเท่านั้น!“นายคิดว่าแค่ทักษะธรรมดา ๆ ของนายจะทำให้นายหญิงดีขึ้นได้ถึงขนาดไหนกัน? ฝันไปเถอะ! ในเมื่อนายไม่คว้าโอกาสเอาไว้และอยากรนหาที่ตาย ก็อย่าโทษฉันแล้วกัน!”ลีวายส์โบกมือแล้วดีดนิ้วเป็นสัญญาณเนื่องจากฮาร์วีย์ไม่ฟัง เขาจึงต้องใช้กำลังบังคับฮาร์วีย์บอดี้การ์ดหลายคนดีดนิ้วก่อนจ
“นาย-นาย…”นิ้วที่สั่นเทาของซีน่าชี้ไปที่ฮาร์วีย์ เธอโกรธมาก ร่างกายของเธอสั่นด้วยความโกรธ“แม่ฉันกำลังจะตายแล้ว! รีบไปรักษาเธอเร็วเข้า!“ถ้าแม่ฉันตาย นายจะรับผิดชอบไหวไหม"ฉันจะบอกนายให้นะ ถ้าแม่ของฉันเป็นอะไรไปเพราะนาย ฉันจะฆ่านายและฝังนายไปพร้อมกับศพของเธอ!”ซีน่าจ้องฮาร์วีย์ รู้สึกว่าความคับข้องใจของเธอก่อตัวขึ้น“หยุดคิดที่จะถ่วงเวลาฉันเพราะหวังผลประโยชน์ที่มากไปกว่านี้เถอะ!"ฉันขอเตือนนายเอาไว้เลย ถ้านายไม่ช่วยเธอ นายจะไม่ได้อะไรสักอย่าง!”เนื่องจากคนอื่น ๆ หลายคน รวมทั้งจอนและสการ์เลตต์ต่างยอมรับความสามารถของฮาร์วีย์ในด้านฮวงจุ้ย ซีน่าจึงคิดว่าเขาจะสามารถช่วยพอลลี่ได้ฮาร์วีย์ควรจะรู้สึกขอบคุณ เพราะอย่างไรเสียนี่ก็เป็นโอกาสที่เขาจะสร้างชื่อให้กับตัวเอง!ดังนั้น ฮาร์วีย์ควรไปช่วยแม่ของเธออย่างเต็มใจแทนที่จะทำตัวเสแสร้งเช่นนี้เขาไม่รู้หรือไงว่าสถานะแม่ของเธอนั้นสูงส่งเพียงใด? มันควรจะถูกถือว่าเป็นพรจากสวรรค์ที่คนชั้นต่ำเช่นเขาได้รับโอกาสในการทำให้ใบหน้าอันสูงส่งของแม่ของเธอต้องแปะเปื้อน"คุณหนูแฮมิลตัน คุณคงเข้าใจอะไรผิดแน่ คุณไม่สมควรได้รับความเคารพนอบน้อมจากผมเลยด้ว
“ยอร์ก ฉันเตือนนายแล้วไง! นายจองหองเกินไป!”“ถ้าแม่...”ก่อนที่ซีน่าจะพูดจบประโยค โทรศัพท์ของเธอก็สั่นทันที เธอตกใจรีบนักกดรับในทันทีในชั่วพริบตา สีหน้าหยิ่งยโสของเธอก็ลดลง หลังจากที่เธอวางสาย เธอก็หลั่งน้ำตาออกมาอย่างน่าเกลียด“เกิดอะไรขึ้น?”เมื่อเห็นซีน่าดูคล้ายจะใจสลาย สการ์เลตต์รู้สึกประหม่าอย่างเห็นได้ชัดพอลลี่จะตายไม่ได้!เพราะถ้าเธอตาย แผนของวินซ์ก็พังจนหมด!วินซ์สัญญาว่าจะให้เธอปกครองฮ่องกงและลาสเวกัสในฐานะนายหญิงแห่งยอร์กนั่นคือกรณีที่แผนสำเร็จ ในขณะนี้สการ์เลตต์กังวลยิ่งกว่าซีน่าที่ร้องไห้สะอื้นเสียอีก“ตามหมอ! พวกเขาบอกว่าแม่ของฉันอยู่ในอาการวิกฤต ดังนั้นฉันควรเตรียมตัวให้พร้อม…”“จะทำยังไงดี? ทั้งคนทำยังไงดี?”ความเย่อหยิ่งถือดีของซีน่าหายไปในอากาศ ราวกับว่าบุคลิกที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของเธอไม่เคยมีมาก่อน ตอนนี้เธอสะอึกสะอื้น ลนลาน และตื่นตระหนก“แม่ฉันกำลังจะตาย! เธอกำลังจะตาย!“ไม่… ไม่ใช่แม่ของฉัน…”ปัง!เมื่อเห็นซีน่าร้องไห้อย่างประหม่า สีหน้าของสการ์เลตต์ก็เปลี่ยนไป เธอกัดฟันอย่างข้างแขนและในที่สุดก็ตัดสินใจยอมจำนนต่อฮาร์วีย์ เธอคุกเข่าลงบนพื้นส
“ช่วยพวกเขาที! เราต้องรีบหาทางช่วยพวกเขา!”เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนบุกเข้ามาในห้องโถงทันที เสียงกรีดร้อง ความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขาอย่างชัดเจนพวกเขาตกใจกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน พวกเขาทั้งหมดหันไปมองฮาร์วีย์โดยอัตโนมัติ เพราะพวกเขารู้ว่าชายหนุ่มเป็นคนเดียวที่จะช่วยพวกเขาได้ฮาร์วีย์เช็ดเลือดระหว่างนิ้วของเขาด้วยทิชชู่ ดูเย่อหยิ่งและสงบ เขาส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้สการ์เลตต์และพูดเบา ๆ ว่า “ถ้าจะให้ช่วยเรื่องนี้ด้วยต้องคุกเข่าอ้อนวอนกี่ครั้งกัน?”สการ์เลตต์กัดฟัน ใบหน้าของเธอซีด เมื่อไม่กี่วินาทีก่อน เธอสาบานว่าจะไม่คุกเข่าให้ฮาร์วีย์อีก ถึงกระนั้น ตอนนี้… เธอกลับไม่มีทางเลือก เธอทรุดตัวลงคุกเข่าและเอ่ยปากขอร้องเขานายหญิงและผู้สืบทอดรุ่นที่สองของตระกูลแฮมิลตันมีความสำคัญต่อแผนการของวินซ์ ดังนั้นพวกเขาจะต้องไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่ปลายเส้นผมสการ์เลตต์ได้แต่ทนรับความอัปยศอดสูเหล่านี้ไว้กับตัวเองเพื่อเห็นแก่วินซ์ เธอยอมลดตัวลงไปหาฮาร์วีย์ด้วยความเต็มใจในทางกลับกัน ฮาร์วีย์ก็รักษาคำพูดของเขา เนื่องจากเขาสัญญากับสการ์เลตต์เอาไว้แล้ว เขาจึงช่วยตระกูลแฮมิลตันผู้ก
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข