ฮาร์วีย์ ยอร์กเหล่สายตาเล็กน้อยหลังจากได้ยินชื่อ เขารู้สึกว่านี่อาจเป็นแผนการของใครบางคนโยอาน่า เมนโดซาตอบอย่างเย็นชาว่า “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้จำเป็นต้องมาบอกฉันด้วยหรือไง“ในสาขาของวังมังกรมีบุคลากรระดับทองที่รับผิดชอบเรื่องนี้มากมาย ให้พวกเขาจัดการไปสิ!”ผู้หญิงคนนั้นกระวนกระวาย“ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ หัวหน้าเมนโดซา! ชาวประเทศหมู่เกาะเหล่านั้นมีสถานะพิเศษ พวกเขามาจากชินคาเงะเวย์…“ เป็นหนึ่งในหกโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ในประเทศหมู่เกาะ พวกเขามีชื่อเสียงเท่าเทียมกันเมื่อเทียบกับชินดัน เวย์!“ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเรา เราไม่คู่ควรกับชินคาเงะเวย์!“เราไม่อาจรับมือกับเขาได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เราต้องการความช่วยเหลือจากคุณเพื่อดูว่าพวกเขาจะเห็นหัวเราบ้างหรือเปล่า หัวหน้าเมนโดซา”ผู้หญิงคนนั้นสังเกตการกระทำของโยอาน่าขณะที่เธอพูดอย่างเร่งเร้า ราวกับว่าเธอต้องการเห็นปฏิกิริยาของโยอาน่าฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ โดยไม่พูดอะไร เขาต้องการดูว่าโยอาน่าจะจัดการกับสถานการณ์อย่างไรถ้าเขาเดาถูก นี่เป็นกับดักแรกที่บุคลากรระดับทองวางไว้ให้กับโยอาน่าถ้าเธอไม่สามารถแม้แต่จะแก้ไขเรื่องเล็ก ๆ น้
“โสโครก!”โยอาน่า เมนโดซาเยาะเย้ยเย้ยหยันอย่างเย็นชาก่อนที่จะดึงปืนกระบอกสวยออกมาจากรองเท้าบูทยาวของเธอและเดินเข้าไปในห้องรับรองเกียวโต"พวกโง่!"แกเป็นใคร?! กล้าดียังไงถึงเข้ามาถึงนี่!“แกไม่รู้หรือว่าเจ้านายของเรากำลังเล่นสนุกกับสาวสวยอยู่?!”“แต่ผู้หญิงคนนี้ก็สวยดีเหมือนกันนะ อยากเล่นกับเราด้วยไหมล่ะ”นักดาบแห่งประเทศหมู่เกาะเงยหน้าขึ้นมองโยอาน่า ครั้งแรกพวกเขาไม่สบอารมณ์เลยสักนิด แต่หลังจากนั้นไม่นานก็รู้สึกยินดี ราวกับว่าใบหน้าที่สวยงามของโยอาน่าทำให้พวกเขาหลงเสน่ห์เข้าอย่างจังปัง ปัง ปัง!โยอาน่าไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไปและเหนี่ยวไกปืนทันที นักดาบแห่งประเทศหมู่เกาะที่ฉีกยิ้มน่าสมเพช ทรุดตัวลงกับพื้นในขณะที่กอบกุมบาดแผลที่ขาของพวกเขาฝูงชนหนังตากระตุกอย่างรุนแรงสมาชิกจากสาขาของวังมังกร คนตระกูลยอร์กแห่งฮ่องกง แก๊งบรีวู้ด และแม้แต่เจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจฮ่องกงและลาสเวกัสพวกเขาทั้งหมดต่างมาที่นี่เพื่อดูว่าโยอาน่าจะจัดการกับสถานการณ์อย่างไรแต่ไม่มีใครคาดคิดว่าโยอาน่าจะโหดเหี้ยมและกระหายเลือดขนาดนี้ เธอไม่ไว้หน้าใครเลยแม้แต่ปัง!โยอาน่าลงมือและเตะประตูบานสวย ภายใต้สายต
แม้ว่าคำพูดจากปากเขาจะดูคล้ายว่าจะยอมรับในตัวของหญิงสาว แต่ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามเมื่อเขาเอ่ยชื่อของหัวหน้าออกมาท้ายที่สุดแล้ว สาขาของวังมังกรที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากวังมังกรนั้นดูเป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งและดูไม่เข้าท่าในสายตาของผู้คนมากมาย พวกเขารู้สึกว่ากิ่งไม้ที่ไร้รากอาจพังลงได้ทุกเมื่อคนคุมบังเหียนที่คนเรียกกันอาจไม่มีอำนาจมากนักฮาร์วีย์ ยอร์กเหล่ไปที่ชาวประเทศหมู่เกาะคนดังกล่าวอย่างไม่แยแสชายชราคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกลจากชาวประเทศหมู่เกาะ เขาดูเหมือนคนผอมธรรมดา ๆ ที่มีศีรษะล้านแบบผู้ชายทั่ว ๆ ไป...แต่เมื่อฮาร์วีย์เห็นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาใส่“คุณอากิ คิตากาวะ”โยอาน่า เมนโดซาหรี่ตาลงหลังจากที่เธอเห็นใบหน้าของชาวประเทศหมู่เกาะ“ฉันสงสัยว่าใครกันที่ก่อความวุ่นวายในอาณาเขตของสาขาวังมังกร ด้วยการเอาเปรียบหญิงสาวผู้ใจดีคนนั้น“เป็นคุณนั่นเอง นายน้อยแห่งตระกูลคิตากาวะศิษย์ของชินคาเงะเวย์…“แต่ถ้าฉันจำไม่ผิด รัฐบาลฮ่องกงและลาสเวกัสได้ออกคำสั่งเนรเทศคุณไปแล้วนี่ พวกสารเลวจากตระกูลคิตากาวะควรจะจากไปได้แล้วนี่“ทำไมคุณยังอยู่ที่ฮ่องกงล่ะ? อยากตายนักหรือไง
ปัง!อากิ คิตากาวะยืนขึ้นหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นและเตะโต๊ะกลางตรงหน้าเขา จากนั้นเขาก็หยิบถ้วยสาเกขึ้นมาจิบอย่างตั้งใจ“คำอธิบาย?” เขาถามด้วยความสนใจ“หัวหน้าเมนโดซา คุณล่ะคิดจะให้คำอธิบายอะไรแก่ผม”“ผมเป็นถึงนายน้อยของตระกูลคิตากาวะและเป็นศิษย์ของชินคาเงะเวย์ ผมมาเล่นสนุกกับผู้หญิงจากประเทศ H แบบนี้ก็เพราะผมนับถือพวกคุณนะ“คุณบ้าหรือไง? กล้าดียังไงมาขอคำอธิบาย!“อีกอย่าง สาขาของวังมังกรก็เป็นแค่องค์กรไร้ราก คุณคิดว่านอกพรมแดนแบบนี้คุณยังคงเป็นวังมังกรที่สูงส่งอยู่อีกเหรอ?“เป็นแค่สาขาของวังมังกรกล้าที่จะเรียกร้องให้ผมหาคำอธิบายตัวเองมาให้อย่างนั้นเหรอ?“อะไรทำให้คุณกล้าถึงขนาดนั้น?“ปืนในมือคุณหรือไง?“หรือตระกูลชั้นหนึ่งของคุณ? รัฐบาลของพวกบัญชาการลำดับแรกของลาสเวกัส?“ถ้าคุณกล้าก็ยิงผมเลยสิ!”อากิชี้ไปที่หน้าผากของเขาในขณะที่แสดงใบหน้าที่หยิ่งยโสอย่างมากออกมาเพื่อนทุกคนของเขาหัวเราะออกมาหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้นในสายตาของพวกเขา ต่อหน้าอากิโยอาน่าทำได้แค่เพียงคุกเข่าลงเท่านั้น เธอไม่มีสิทธิ์พูดคุยกับเขาอย่างกับคนที่อยู่ในระดับเดียวกันได้“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมสา
อากิ คิตากาวะเย้ยหยัน“แล้วจะทำไมล่ะ?“ถ้าเป็นหัวหน้าสาขาวังมังกรคนก่อน บางทีผมอาจจะต้องยำเกรงเขาอยู่บ้าง!“แต่คุณไม่ได้รับสิทธิ์นั้นหรอก!“คุณไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคุกเข่าและอ้าปากพูดกับผมเลยด้วยซ้ำ! คุณเข้าใจไหม?!"โยอาน่า เมนโดซาก้าวไปข้างหน้าในขณะที่แสดงสีหน้าเย็นชาบนใบหน้าของเธออย่างพร้อมที่จะเหนี่ยวไกฮาร์วีย์ ยอร์กบังเธอไว้ด้านหลังอย่างรวดเร็ว ก่อนส่งสัญญาณให้เธอถอยออกไป จากนั้นเขาก็เดินไปข้างหน้าอย่างใจเย็นและพินิจมองอากิอย่างถ้วนถี่“พวกชาวประเทศหมู่เกาะกล้าอวดตัวเองในดินแดนของประเทศ H แบบนี้ด้วยเหรอ?”เขาไม่เคยคิดที่จะแสดงตนมาก่อน แต่เนื่องจากชินคาเงะเวย์เป็นหนึ่งในหกโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ของประเทศหมู่เกาะ เมื่อตัดสินจากภูมิหลังดังกล่าวตระกูลเมนโดซาจึงไม่สามารถจัดการกับสถานการณ์เช่นนี้ได้นั่นเป็นเหตุผลที่ฮาร์วีย์รู้สึกว่าเขาต้องออกโรงจัดการกับสถานการณ์ด้วยตัวเองอากิพินิจฮาร์วีย์และหัวเราะเบา ๆ อย่างเย็นชาหลังจากเห็นร่างกายที่อ่อนแอและซีดเซียวของเขา"อะไรของนาย? หัวหน้าของนายทำอะไรฉันไม่ได้ ถึงได้ขอให้ลูกน้องมาจัดการฉันแทนงั้นเหรอ?“ฉันจะโอ้อวดตัวเองแล้วจะทำไมล่ะ? แ
"เอาล่ะ คุยกันมามากพอแล้ว ไป! จัดการเขาซะ!”อากิ คิตากาวะดูแคลนฮาร์วีย์ ยอร์ก เขาไม่ได้คาดหวังว่าฮาร์วีย์จะมีอะไรแสดง“ฮ้าาา!”คิโนชิตะเหวี่ยงมือของเขาไปทางข้อมือของฮาร์วีย์ทันที เห็นได้ชัดว่าเขากำลังวางแผนที่จะทำให้ฮาร์วีย์พิการเพี๊ยะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงฝ่ามือไปข้างหน้าโดยไม่แม้แต่จะหลบและลงมือโจมตีก่อนไม่มีศิลปะการต่อสู้ใดที่ยืนยงตลอดไป และความเร็วต่างหากคือหนทางเดียวสู่ชัยชนะ ด้วยเสียงตบที่ดังสนั่น ดวงตาของคิโนชิตะก็ดับวูบลง เขาถูกส่งตัวให้ลอยออกไปทันทีหลังจากที่เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงบนใบหน้าของเขาปัง! ร่างของเขากระแทกเข้าที่มุมห้อง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปหมด'เป็นไปได้ยังไง?!'อากิและคนอื่น ๆ ตกตะลึงอย่างมากคิโนชิตะเป็นยอดฝีมือของชินคาเงะเวย์! แม้ว่าเขาจะไม่ใช่เทพแห่งสงคราม แต่เขาก็อยู่ในระดับสูงสุดของเหล่าทหารชั้นสูงทั้งหมด!ทหารชั้นสูงอันดับต้น ๆ ของรุ่นถูกส่งให้ลอยออกไปด้วยการตบเพียงครั้งเดียว?!เขาแข็งแกร่งอะไรขนาดนั้น?!ในขณะที่อากิยืนตัวแข็งทื่อ คิโนชิตะก็เซถอยหลังไปชนกำแพงในขณะที่ร่างกายของเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว'เทพแห่งสงคราม?!'ยอดฝีมืออย่างคิโนชิต
โยอาน่า เมนโดซา และสมาชิกสาขาวังมังกรคนอื่น ๆ ตกใจเป็นอย่างมาก...ชาวประเทศหมู่เกาะที่อยู่ที่นั่นเริ่มชะงักค้างในขณะที่แสดงสีหน้าน่ากลัวออกมาพวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบุคคลที่ทรงพลังอย่างคิโนชิตะจะไม่กล้าแม้แต่จะตอบโต้กลับ เขาถูกฮาร์วีย์ ยอร์กตกไปถึงขนาดที่ใบหน้าของเขาบวมจนเสียรูปและฟันของเขาก็หลุดออกจากปากสำหรับคิโนชิตะแล้ว แม้แต่ฟันของเขาก็ไม่มีค่าอะไรเลย เขาดูแลฟันเรานั้นอย่างกับมันเป็นลูกในไส้ ใครก็ตามที่กล้าออกปากว่าฟันของเขาเหลืองจะถูกเขาเฆี่ยนจนรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็นแต่ทั้งที่ฟันของเขาหลุดออกจากปากแบบนี้แล้วเขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะโกรธ?เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติเลยสักนิด!ผู้คนจากชินคาเงะเวย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังแม้กระทั่งในประเทศหมู่เกาะ ทำไมพวกเขาถึงมาทำตัวหงอในสถานที่เล็ก ๆ อย่างฮ่องกง?ทุกคนรู้ว่าผู้อาวุโสคิโนชิตะแข็งแกร่งเพียงใด นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาทั้งหมดต่างตกใจ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาทั้งหมดจึงถึงกับทำอะไรไม่ถูกเช่นนี้โยอาน่ารู้สึกประหลาดใจในตอนแรก แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็สงบสติอารมณ์ได้ ดวงตาของเธอก็สว่างขึ้นหลังจากนั้นไม่นานเธอไม่สา
ชื่อนั้นมีน้ำหนักเป็นอย่างมาก มีทหารชั้นสูงมากมายในโลก แต่เทพแห่งสงครามนั้นหายากมากพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตในตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่คงเป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นเทพแห่งสงครามตามถนนทั่วไปหากไม่ใช่ในกองกำลังทหารโดยปกติแล้วคิโนชิตะซึ่งเป็นทหารชั้นสูงระดับสูงจะสามารถทำทุกอย่างได้ตามอำเภอใจแต่เมื่อเทียบกับเทพแห่งสงคราม เขาทำได้เพียงคุกเข่า ไม่มีทางทำอะไรได้อีกแล้ว“นายเป็นเทพแห่งสงครามจริง ๆ เหรอ?”อากิจ้องมองฮาร์วีย์อย่างเย็นชาด้วยความไม่เชื่อฮาร์วีย์หันกลับมามองโดยไม่ให้คำตอบตรง ๆ“คุกเข่าแล้วค่อยพูด”อากิตัวสั่นก่อนจะกรีดร้องอย่างโกรธเกรี้ยว “กล้าดียังไงล่ะ-?”ปัง! คิโนชิตะไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลาและกระแทกเข่าลงกับพื้น จากนั้นวางดาบยาวของประเทศหมู่เกาะไว้ข้างหน้าเขา แสดงว่าเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายชาวประเทศหมู่เกาะคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นการคุกเข่าไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับชาวประเทศหมู่เกาะเหล่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด นี่คือกระบวนท่าที่รู้จักกันดีของพวกเขาศักดิ์ศรีสำหรับคนเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องไร้สาระไม่มีใครรู้สึกละอายเมื่อต้องคุกเข่าลงบนพื้น ตราบเท่าท
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข