โควีย์ปกปิดใบหน้าที่มีเลือดไหลออกมาจากจมูกและคร่ำครวญโหยหวนอย่างน่าสงสารถ้าแซ็คเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเขาคงจะมีอาการสั่น อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าฮาร์วีย์จะเขวี้ยงที่เขี่ยบุหรี่ใส่เขา ฮาร์วีย์ไม้แต่จะสนใจภูมิหลังของเขาเลยตอนนี้โควีย์กำลังสงสัยว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นลูกเขยที่ช่วยภรรยาล้างเท้าและช่วยแม่ยายล้างห้องน้ำอย่างที่ข่าวลือจริงไหมสถานะของลูกเขยในตำนานของตระกูลซิมเมอร์นั้นเลวร้ายยิ่งกว่าสุนัข แต่เขาทรงพลังอย่างนี้ได้อย่างไร?“ใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้?” ฮาร์วีย์ถามอย่างเยือกเย็น เขาโยนที่เขี่ยบุหรี่ทิ้งและบีบคอของโควีย์ด้วยมือซ้ายใบหน้าของโควีย์กลายเป็นซีดเซียว แต่เขาก็ยังคงพูดเสียงแหบแห้งว่า “ฮาร์วีย์ พวกเรามีกฎของตัวเองในวงการของเรา แกฆ่าฉันตอนนี้ดีกว่า ไม่เช่นนั้นฉันจะให้ตระกูลซิมเมอร์ทุกคนตายไปพร้อมกับแกในวันพรุ่งนี้ซะ!”“นายเป็นคนไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ฉันบอกนายแล้วว่าใครเป็นคนฆ่าเลียม แต่นายไม่ได้บอกฉันว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ ฉันผิดหวังในตัวนายจริง ๆ” ฮาร์วีย์ส่ายหัวและปล่อยคอของโควีย์ “จัดการมันซะ จนกว่ามันจะพูดออกมา!”ไทสันพยักหน้าแ
โควีย์ตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว เขาไม่ได้กลัวไทสัน แต่เขารู้สึกว่าไม่ควรทำให้ฮาร์วีย์ขุ่นเคือง เขามีความรู้สึกว่าฮาร์วีย์น่ากลัวกว่าไทสันร้อยเท่าเขาสั่นเล็กน้อยก่อนที่จะพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “มันเป็นความคิดของแซ็ค เขาจ่ายเงินฉันสามแสนดอลลาร์เพื่อทำสิ่งนี้…”แซ็ค!มันเป็นเขา!ฮาร์วีย์เงียบ แม้ว่าเขาจะเดาได้ว่าแซ็คต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่เขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าแซ็คจะเป็นผู้บงการเบื้องหลังเรื่องนี้ทั้งหมด เด็กรวยคนนั้นไม่ได้เก่งอะไรเลย แต่บางครั้งเขาก็ดูฉลาดมากในการวางแผนนี้ฮาร์วีย์เปิดโทรศัพท์แล้วโยนให้โควีย์จากนั้นพูดอย่างเย็นชา “พูดให้ชัด ๆ และอย่าพลาดสักคำ”โควีย์ก้มหน้าลงเพราะเขาไม่กล้ามองสบตาไปที่ฮาร์วีย์ จริง ๆ แล้วเขาวางแผนจะใช้อำนาจให้ได้แมนดี้มา ถ้าฮาร์วีย์รู้เรื่องนี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา มันอาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าการตายอย่างทรมาน“ถ้ามันไม่พูดอะไรก็จัดการเขาไปต่อเรื่อย ๆ ”“ฉันจะพูด ฉันจะพูด!” โควีย์ดูลุกลี้ลุกลนและพูดอย่างรวดเร็วว่า “แซ็คต้องการให้ฉันขัดขวางการก่อสร้างศูนย์กลางการค้า นอกจากนี้เขายังต้องการให้ฉันนอนกับแมนดี้และกระจายข่าวไปทั่วเมืองนิอัมมี
ในคฤหาสน์ซิมเมอร์ แมนดี้กระวนกระวายลิเลียนหัวเราะเยาะ “ลูกกังวลเรื่องอะไร? มันเป็นเพียงลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ แม้ว่าตอนนี้มันจะตายไปแล้ว แต่ก็ยังดีที่มันยังห่วงในความปลอดภัยของลูก ในความเป็นจริงมันก็ดีกว่าที่เขาจะตายคุณไม่ต้องผ่านขั้นตอนการหย่าร้างในตอนนั้น”“คุณแม่ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ลูกคงไม่สามารถกลับมาได้ในวันนี้…” แมนดี้รู้สึกกลัวมาก ถ้าฮาร์วีย์ไม่คิดหาวิธีที่จะให้เธอออกมาได้ เธอก็นึกไม่ออกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ“แล้วไง? แม้ว่ามันจะช่วยลูกในวันนี้ แต่เรื่องเกี่ยวกับศูนย์กลางการค้ายังไม่ได้แก้ปัญหา หากลูกยังไม่แก้ปัญหา ความปลอดภัยของลูกก็เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น!” ลิเลียนเป็นคนใจร้าย แต่ไม่โง่ เธอชี้ให้เห็นปมของปัญหาทันทีซีนเธียร์เห็นด้วยและพูดว่า “พี่คะ ไม่ต้องกังวล ฉันคิดว่าฮาร์วีย์สร้างเรื่องทั้งหมดขึ้นมา เขากลัวว่าพี่จะหย่ากับเขา เขาจึงหาคนมาก่อเรื่องเพื่อให้พี่รู้สึกขอบคุณเขา พี่จะต้องไม่หลงกล บางทีเขาอาจจะใกล้กลับมาแล้ว”ในจังหวะเดียวกันประตูก็ถูกผลักเปิดออก ฮาร์วีย์ก็เดินเข้ามาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆซีนเธียร์ตะโกนลั่นว่า “ดูเหมือนว่าฉันเดาถูก!”ลิเลียนยังดูเหยียดหยา
ก่อนที่แมนดี้จะพูดอะไรออกมา ลิเลียนก็ขัดจังหวะ“ฮาร์วีย์ อย่างน้อยนายควรจะมีเหตุผลพอที่จะตำหนิคนอื่นได้จริงไหม? โควีย์คอยคุ้มครองตระกูลของเรา แซ็คจะได้อะไรถ้ามันเกิดขึ้น?” ลิเลียนล้อเลียนฮาร์วีย์“เป้าหมายของเขาคือการไล่แมนดี้ออกจากซิมเมอร์” ฮาร์วีย์ตอบพร้อมด้วยขมวดคิ้ว“ช่างเป็นเรื่องตลก! ถ้าเขากำจัดแมนดี้ใครจะเป็นคนจัดการโครงการนี้ แซ็คก็ไม่ได้โง่ทำไมเขาถึงทำแบบนั้นกับลูกพี่ลูกน้องของเขา?”“เลิกบ้าจี้ได้แล้ว นายคงจัดฉากเพื่อหลีกเลี่ยงการหย่าร้าง นายมันน่ารังเกียจ!”“ฉันเบื่อจะพล่ามกับนายแลเว ไสหัวไปซะ!”ลิเลียนปฏิเสธที่จะเชื่อในสิ่งที่ฮาร์วีย์พูดและพยายามตำหนิฮาร์วีย์ในสิ่งที่เกิดขึ้น“ตระกูลซิมเมอร์สจะไม่สนใยคนที่มีความคิดที่น่ารังเกียจเช่นนี้ดังนั้นไสหัวไปซะ ฉันยังสงสัยว่าทำไมคุณยายซิมเมอร์ถึงพาคุณเข้ามา” ซีนเธียร์เข้าร่วมเพื่อทำให้ฮาร์วีย์อับอาย“ไปซะฮาร์วีย์” แมนดี้พูดด้วยท่าทางผิดหวังขณะที่เธอก็เริ่มเชื่อว่าฮาร์วีย์มีอะไรเกี่ยวข้องกับมันฮาร์วีย์มองแมนดี้และถอนหายใจเมื่อเขารู้ว่าอธิบายไปจะไม่ได้ผลดีในตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องขอความช่วยเหลือไปพักพิงที่อีวอนน์อีกครั้ง
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระ!”“คุณปู่ยังอยู่ที่นี่ระวังพูดของเธอด้วย!”“ระวังคำพูดด้วย!”กลุ่มญาติจำนวนมากที่เห็นด้วยกับแผนของแซ็คเริ่มส่งเสียงของพวกเขาเพื่อบอกว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรเปิดเผยแซ็ครู้จักผู้อาวุโสซิมเมอร์เป็นอย่างดี เขาให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของซิมเมอร์มากและด้วยเหตุนี้เขาจึงตั้งใจจัดให้ญาติบางคนเข้าร่วมแผนการนี้แซ็คมั่นใจเพราะเขาคิดว่าโควีย์จัดการแมนดี้ขึ้นเตียงกับเขาแล้ว“เอะอะอะไรกัน? ดูเหมือนฉันล้อเล่นงั้นหรือ” ควินน์ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาและใบหน้าที่จริงจังหลังจากได้ยินคำโต้แย้งของควินน์แม้แต่คนที่ไม่รู้แผนของแซ็คก็ตกใจ‘ถ้าเธอไม่ได้ล้อเล่นนั่นหมายความว่ามันเป็นเรื่องจริงงั้นหรือ?’‘แมนดี้มีชู้จริง ๆ เหรอ? ช่างน่าขายหน้าเสียจริง!’“ควินน์ เธอพูดอะไร?” ผู้อาวุโสซิมเมอร์ถามอย่างจริงจังหากตระกูลชนชั้นสองอย่างซิมเมอร์ต้องการให้ตัวเองเข้าสู่ชนชั้นที่สูงขึ้นพวกเขาจะต้องใช้เงินและอำนาจรวมถึงภาพลักษณ์ที่ดีชาวซิมเมอร์จะไม่ยอมให้เกิดความอับอายขายหน้า พวกเขาจะไล่แมนดี้ออกไปหากเธอทำสิ่งนี้จริง ๆ โดยไม่คำนึงถึงการที่มีเธอมีส่วนร่วมช่วยเหลือต่าง ๆ ต่อตระกูล“คุณปู่ หลานไ
“คุณปู่ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานนี้ แต่เมื่อคืนแมนดี้ไม่ได้กลับบ้าน” แซ็คพูดในขณะที่ทำตัวเหมือนดูเป็นกังวล“คุณปู่ ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไรตั้งแต่แมนดี้ไปเจรจาโครงการนี้เพื่อเรา ผมไม่คิดว่าเราควรจะโทษ…” แซ็คยังคงตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จให้แมนดี้เพล้ง!ผู้อาวุโสซิมเมอร์เขวี้ยงแก้วของเขาลงบนพื้น“ฉันไม่สนใจว่ามันจะเกี่ยวกับโครงการของเราหรือไม่ถ้าเธอทำให้ตระกูลของเราต้องอับอาย ฉันจะไม่ให้อภัยเธอ!” ผู้อาวุโสซิมเมอร์ขู่ตะคอก“อย่าพูดแบบนั้นเลยครับ แม้ว่าเธอจะทำอะไรลงไปแบบนั้น เธอก็ทำเพื่อเรา!”“ใช่ คุณปู่ เราควรพยายามเข้าใจเธอเพราะเธอมีปัญหากับสามีที่ไร้ประโยชน์อยู่แล้ว”“หยุด! พูดถึงฮาร์วีย์มันทำให้ฉันแทบคลั่ง มันเป็นเรื่องน่าขายหน้าที่สิ่งเหล่านี้ยังคงเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ บางทีโชคร้ายก็มาจากไอ้ขยะไร้ค่านั่น!”“ผมบอกแล้วว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะทำอะไรได้สำเร็จ นี่เธอยังอยากเป็นผู้จัดการโครงการของบริษัทของเราอยู่หรือเปล่า? ช่างเป็นเรื่องตลกสิ้นดี!”“สามีของเธอไร้ค่า เธอก็ไร้ค่ากว่าเขาเสียอีก!”“เราควรปล่อยให้แซ็คจัดการเรื่องนี้ เขาคือความหวังเดียวจริง
“เธอกำลังพยายามจะพูดอะไรควินน์” แมนดี้ถามในขณะที่เธอเพิ่งผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมา แมนดี้จ้องมองไปที่ควินน์“ฉันคิดว่าเธอรู้ว่าฉันพยายามจะพูดอะไร ไม่ใช่เหรอ?” ควินน์ตอบพร้อมยิ้มเยาะ“ฉันสงสารเธอที่มีสามีที่ไร้ประโยชน์แบบนี้ แต่ใครจะไปรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบนั้นด้วย”“ฉันได้ยินมาว่าสามีของเธอไม่เคยได้แตะต้องมือของเธอเลยในช่วงสามปีที่ผ่านมา ตอนแรกฉันสงสัยนะ แต่ตอนนี้ฉันเริ่มเชื่อแล้วเพราะเธอมีพฤติกรรมบางอย่าง!” ควินน์เยาะเย้ย‘เรื่องอะไร?’แมนดี้รู้สึกไม่พอใจเมื่อเธอได้ยินเรื่องนี้ เธอคิดว่าควินน์ดูถูกความบริสุทธิ์ของเธอ“ควินน์ เมื่อเช้าเธอแปรงฟันหรือยัง? คำพูดของเธอเหม็นคาวมาก! เธอไม่รู้หรือว่าการหมิ่นประมาทเป็นความผิดทางอาญา” แมนดี้พูดด้วยความโกรธ“ว้าว มีคนไม่กล้าพอที่จะยอมรับสิ่งที่เธอทำ! บอกฉันมาสิว่าเธอแก้ปัญหาของโครงการศูนย์การค้าได้หรือไม่?” ควินน์ถามกลับอย่างมั่นใจ“แน่นอน ฉันทำได้!” แมนดี้ตอบ“โอ้ งั้นเหรอ? แล้วบอกฉันมาสิว่าต้องจ่ายไปเท่าไหร่?” ควินน์ถามพร้อมยิ้มเยาะ“มัน…ไม่…เสียค่าใช้จ่ายอะไร…” แมนดี้พูดติดอ่างและตอบอย่างไร้สติ เธอนึกถึงความสงสัยที่มีต่อฮาร์วีย์เม
“แมนดี้ เธอควรบอกฉันทุกอย่าง!” ผู้อาวุโสซิมเมอร์สั่งขณะที่เขาตบโต๊ะเสียงดังในขณะนั้นแมนดี้เหลือบไปมองที่ควินน์และแซ็ค เธอมั่นใจว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นก่อนที่เธอจะมาถึง และคิดว่าเป็นฝีมือ ไม่งั้นผู้อาวุโสซิมเมอร์จะไม่ได้แสดงท่าทีเย็นชากับเธออย่างนี้เดิมทีเธอสงสัยว่าเป็นฝีมือฮาร์วีย์แทนที่จะเป็นแซ็ค แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ดูเหมือนว่าแซ็ค น่าจะเป็นคนที่ต้องการกำจัดเธอมากที่สุด“คุณปู่ หลานแก้ปัญหาได้แล้ว” แมนดี้ตอบในขณะที่เธอสูดหายใจลึก ๆ และพยายามทำให้ตัวเองสงบลง“เรารู้ว่าเธอแก้ปัญหาได้แล้ว แต่สิ่งที่เราอยากรู้คือเธอแก้ได้อย่างไร!” ควินน์แทรก“เมื่อคืน เธอไม่ได้ออกจากแหล่งกบดาลของโควีย์ แชดใช่ไหม? ฉันจะบอกเธอนะว่าไม่เป็นไรถ้าเธอไม่ต้องการอยู่กับสามีที่ไร้ประโยชน์ของเธอ ก็ดีถ้าเธอต้องการหาคนอื่นแทน แต่อย่างน้อยเธอก็อย่าทำให้ชื่อเสียงของเราเสื่อมเสียได้หรือไม่? หย่าก่อนที่เธอจะไปหาคนอื่นไม่ได้เหรอ? เธอกำลังทำให้ภาพลักษณ์ตระกูลของเรามัวหมอง” แซ็คดุหลังจากได้ยินข้อกล่าวหาของแซ็ค มันก็ชัดเจนแล้วว่าคนที่ต้องการก่อความวุ่นวายให้เธอคือแซ็คแน่นอน เขาคงคิดว่าแมนดี้แก้ปัญหาด้วยการหลับนอ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข