“ทำไมถึงพูดแบบนั้นละบราเทอร์ไทสัน? เราเคารพคุณและปฏิบัติต่อคุณอย่างจริงใจมาโดยตลอด” ผู้อาวุโสซิมเมอร์ตอบในขณะที่เขากังวลกับความคิดของไทสันผิดพลาดแค่ครั้งเดียวตระกูลซิมเมอร์อาจจะเผชิญกับปัญหาที่ใหญ่กว่า“เคารพงั้นเหรอ? ตระกูลซิมเมอร์วางแผนต่าง ๆ นี่แสดงถึงความเคารพงั้นเหรอ?” ไทสันถามด้วยความเยาะเย้ยขณะที่เขาดึงกระสอบออกจากหัวของชายคนนั้นทันทีที่แซ็คเห็นใบหน้าของชายคนนั้น ใบหน้าของเขาก็ซีดลง ชายคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโควีย์ เขาไม่รู้ว่าทำไมโควีย์ถึงอยู่ในมือของไทสัน“คุณสั่งให้คนในการดูแลของฉันไปยุ่งวุ่นวายกับธุรกิจของยอร์กใช่ไหม? ตระกูลซิมเมอร์อยากจะตายงั้นเหรอ แต่ฉันก็ยังอยากมีชีวิตอยู่” ไทสันพูดหลังจากที่เขาเตะโควีย์“บราเทอร์ไทสันเกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?” ผู้อาวุโสซิมเมอร์ถามด้วยเสียงสั่นเครือ“พูดสิ!” ไทสันสั่งโควีย์และเตะอีกครั้งเนื่องจากไทสันมีเวลาอยู่กับโควีย์เมื่อคืนนี้ โควีย์จึงยอมเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของไทสัน“บอส ผู้อาวุโสซิมเมอร์ ฉันเป็นคนที่ทำให้เกิดปัญหาในโครงการศูนย์การค้า ฉันไม่ได้ตั้งใจ แซ็คจ่ายเงินให้ฉันสามแสนดอลลาร์เพื่อทำมัน!” โควีย์ตอบโดยไม่มีอาการติดอ่าง
“แซ็ค แกทำอะไรที่น่ารังเกียจสำหรับตระกูลของแกแบบนี้ได้อย่างไร!”“แกจะวางแผนวุ่นวายกับแมนดี้สำหรับความพยายามของเธอได้อย่างไร?”“แกทำให้หมดความไว้วางใจ!”“ฉันผิดหวังในตัวนายมาก!”ทุกคนย้ายฝั่งทันที“คุณปู่ หลานไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หลานไม่รู้อะไรเลย!” ควินน์พยายามชี้แจงอย่างรวดเร็วเนื่องจากเธอรู้ว่าเธอจะมีปัญหาเช่นกันเนื่องจากเธอเป็นคนเริ่มหัวข้อนี้ขึ้นมา“คุณพ่อ ผมเชื่อว่าแซ็คเข้าใจผิด โปรดอย่าโกรธเขาเลย โชคดีที่ไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น ผมจะจัดการเขาเองเมื่อเรากลับถึงบ้าน” ฌอนถาม เขารู้ว่าเขาและลูกชายของเขาจะมีปัญหาหากพวกเขาถูกไล่ออกจากตระกูลจริง ๆผู้อาวุโสซิมเมอร์ทำท่าทางดุดันในขณะที่เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าเขาควรจะยุติความขัดแย้งอย่างไรเขารู้ว่าเขาควรแก้ปัญหาให้แมนดี้ ไม่เช่นนั้นชาวซิมเมอร์คนอื่น ๆ จะรู้สึกไม่ยุติธรรม แต่เขาไม่สามารถบังคับตัวเองให้ไล่แซ็คออกไปได้เพราะผู้หญิงคนหนึ่ง เพราะเขาคิดว่าผู้หญิงเป็นได้เพียงผู้แพ้อีกประการหนึ่งคือเขาควรหาคำอธิบายแก่ไทสันเนื่องจากซิมเมอร์ไม่สามารถยุ่งกับเขาให้ขุ่นเคืองได้อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสซิมเมอร์ค่อนข้างเข้าข้างแซ็คเนื่องจากเขา
แซ็คกำลังจะหัวเราะออกมาในขณะนั้น ขณะที่เขาคิดว่าจะต้องเจอกับการลงโทษที่ร้ายแรงมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์จะช่วยเขาอีกครั้งเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์แล้วตำแหน่งของแซ็คในซิมเมอร์ ยังคงไม่สั่นคลอน‘แมนดี้ เธอคิดว่าเธอสามารถต่อต้านฉันได้จริง ๆ เหรอ?’ แซ็คสาปแช่งแมนดี้ในความคิดของเขา“คุณปู่ หลานรู้ถึงความผิดพลาด หลานจะใช้เวลาไตร่ตรองตัวเองสักพักแล้วหลานจะกลับมาช่วยครอบครัวของเรา” แซ็คพูดในขณะที่ทำหน้าตาเสียใจ“ปู่ดีใจที่แกยังมีความคิดแบบนี้” ผู้อาวุโสซิมเมอร์กล่าวชื่นชม“ฉันไม่ต้องการให้สิ่งที่เกิดขึ้นรั่วไหลไปยังคนนอกถ้าฉันพบว่ามีใครพูดถึงเรื่องนี้ข้างนอกฉันจะจัดการกับพวกแกทุกคน” ผู้อาวุโสซิมเมอร์ขู่ในขณะที่เขามองไปที่ทุกคนเห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์เอนเอียงไปทางแซ็คโดยไม่มีการปิดบังแมนดี้อ้าปากค้างขณะที่เธอแทบคลั่งกับวิธีที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์จัดการกับสถานการณ์นี้หลังจากที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์จากไป ฝูงชนก็เริ่มเข้าหาแซ็คอีกครั้ง“แซ็คโปรดเข้าใจเราด้วยว่าเราไม่ได้จงใจพูดไม่ดีเกี่ยวกับนาย เราแค่ไม่ต้องการให้ผู้อาวุโสซิมเมอร์โกรธ”“ใช่ แซ็ค อาจจะแย่กว่านี้ถ้าเราทำตั
ฮาร์วีย์ขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำพูดนั้นและพูดว่า "ผู้อาวุโสซิมเมอร์ผ่อนปรนมากเกินไป แซ็คทำเรื่องที่ร้ายแรงเช่นนั้นอย่างน้อยอาวุโสซิมเมอร์ควรลดตำแหน่งของเขาในบริษัท เพื่อเป็นบทเรียนให้กับคนในซิมเมอร์คนอื่น ๆ ไม่ใช่เรื่องตลกที่จะให้เขาไตร่ตรองถึงสิ่งที่เขาทำลงไปเพียงนั้น”“ยิ่งไปกว่านั้นผู้อาวุโสซิมเมอร์ไม่เพียงแต่เข้าข้างแซ็ค แต่ยังไม่สนใจความรู้สึกของแมนดี้ด้วย…”“ดูนายวิเคราะห์สิ่งเหล่านี้ด้วยความฉลาด แล้วมันได้อะไร?” ลิเลียนพูดเสียงหลง “วันนี้นายทำอะไรบ้าง? ทำไมนายไม่ไปที่ บริษัทกับแมนดี้อย่างน้อยก็เพื่อช่วยเธอ! ไอ้ขยะไร้ค่า!”ฮาร์วีย์ไม่ได้พูดอะไร เขาคุ้นเคยกับท่าทีของลิเลียน สิ่งเดียวที่เขาทำคือถอนหายใจ ที่ว่าผู้อาวุโสซิมเมอร์วางแผนที่จะล้มแมนดี้เป็นความจริงอย่างแน่นอนฮาร์วีย์รู้ดีว่าแมนดี้ไม่กล้าสู้กับซิมเมอร์ “เอาล่ะ อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกต่อไปเลย” แมนดี้พูดหน้ามุ่ย “ไม่มีความหมายที่จะพูดเรื่องนี้ต่อไป…โอ้ ใช่ ขอโทษสำหรับความเข้าใจผิดเมื่อวานนี้นะคะ…”“เข้าใจผิด? มีอะไรจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับมัน? แม้ว่าแซ็คจะเป็นคนวางแผนเหล่านี้ทั้งหมด แต่แซ็คคนงี่เง่าคนนั้นก็ยังคงโจมตีลูกเมื่
เช้าวันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์ที่หลับถูกแมนดี้ปลุกให้ตื่นขึ้น “ฮาร์วีย์ คุณปู่ต้องการให้ทุกคนไปที่นั่นโดยด่วนและแม้กระทั่งคุณด้วย!”“โอเค” ฮาร์วีย์พยักหน้า เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่เขาสั่งให้อีวอนน์ทำเมื่อวาน เห็นแล้วว่าอีวอนน์เป็นคนมีประสิทธิภาพเพียงใด ตระกูลซิมเมอร์คงได้รับจดหมายของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ เมื่อคืนวานนี้ใช่ไหม? เก้าโมงเช้า ซิมเมอร์ทุกคนอยู่ในห้องโถงของคฤหาสน์ ใบหน้าของผู้อาวุโสซิมเมอร์มืดมนและเคร่งขรึมขณะที่เขานั่งบนเก้าอี้ขนาดใหญ่เมื่อคืนวานนี้ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ได้ส่งจดหมายทางกฎหมายพร้อมขอคำชี้แจงที่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่าตระกูลซิมเมอร์กล้าที่จะทำลายโครงการระหว่างยอร์กและซิมเมอร์ นั่นดูเหมือนว่าซิมเมอร์ต้องการได้เงินจากยอร์กเท่านั้นตอนนี้ยอร์กต้องการให้ซิมเมอร์รับผิดชอบเรื่องนี้ซึ่งหมายถึงการจ่ายค่าปรับสิบเท่าของเงินลงทุนซึ่งเป็นเงินห้าร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์และความจริงที่ว่าผู้บริหารคนใหม่บริหารงานอยู่นั่นหมายความว่าท่านประธานผู้ลึกลับคนนี้ต้องโกรธมากแค่ไหนกันด้วยคำตอบที่เย็นชาที่ซิมเมอร์ได้รับแต่ถ้าใครคิดว่าตระกูลชนชั้นสองกล้าหลอกลวงเอาเงินไปจากพวกเ
“ถูกต้องแมนดี้ ในตระกูลซิมเมอร์ไม่มีใครสามารถเจรจากับยอร์กได้นอกจากเธอ ถ้าเธอไปที่นั่นทุกอย่างก็น่าจะคลี่คลายได้มากที่สุด”“เธอเป็นผู้รับผิดชอบโครงการศูนย์กลางการค้า เธอจะไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบหรือ?”“แมนดี้ ฉันคิดว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา ทำไมเธอไม่ไปที่ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์อีกครั้งล่ะ?”พวกเขาทั้งหมดมุ่งไปที่แมนดี้ พวกเขาคาดหวังให้เธอแก้ปัญหาใหญ่นี้เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ล้มละลายแมนดี้พูดไม่ออก เธอไม่เคยคิดเลยว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะนำไปสู่สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในตอนนี้สิ่งที่ตลกที่สุดก็คือคนเหล่านั้นชัดเจนว่าแซ็คคือความหวังสำหรับอนาคตของซิมเมอร์ แล้วตอนนี้ล่ะ? พวกเขาต้องการให้เธอแก้ปัญหาอีกครั้ง? เธอไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะกับเรื่องนี้อีกต่อไปดี“แมนดี้ เธอไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ใช่ไหม? โครงการศูนย์กลางการค้านี้เป็นของเธอและมันกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้าย เธอจะละมือจากสิ่งนี้เหรอ?” ควินน์พูดอย่างเย็นชา เธอยังคงไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แน่นอนว่าเธอจะทำทุกอย่างเพื่อโทษแมนดี้ลิเลียนไม่ได้ลุกขึ้นโต้แย้งเพื่อแมนดี้แม้ว่าเธอจะนั่งอยู่ข้าง ๆ เธอก็
ทุกคนคล้อยตามสิ่งที่แซ็คพูดเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถทำอะไรเพื่อแก้ปัญหาได้ เท่าที่จะทำได้คือให้กำลังใจผู้อาวุโสซิมเมอร์ด้วยคำพูดที่ดีแมนดี้ซิมเมอร์เดือดพล่าน แซ็คช่างไร้ยางอายแค่ไหนกัน ทั้งหมดนี้เกิดขึ่นเพราะเขา ไม่เพียงแต่เขาไม่สามารถพลิกสถานกาณ์ได้ เขายังพยายามทำตัวราวกับว่าเขาเป็นคนชอบธรรม เธออยากจะตบเขาเสียจริงถ้าทำได้“ในกรณีนี้ งั้นทายาทแห่งซิมเมอร์ของเราโปรดดำเนินการแก้ไขปัญหานี้นะคะ” แมนดี้พูดอย่างเยือกเย็น“โฮ่ โฮ่ ฉันไม่ได้เป็นผู้จัดการโครงการของศูนย์การค้าทำไมฉันถึงเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้! บอกสิแมนดี้ ถ้าเธอทำอะไรไม่ได้เธอต้องเป็นคนที่จะต้องไปกู้เงินห้าร้อยห้าสิบล้านดอลลาร์!” แซ็คตอบอย่างดุเดือดด้วยท่าทางดุร้ายเห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถแก้ไขข้อพิพาทกับยอร์กได้ ดังนั้นทางออกเดียวคือให้แมนดี้รับผลที่ตามมาทั้งหมดด้วยความคิดนั้นในใจแซ็คก็อดไม่ได้ที่จะชมเชยตัวเองให้กับความเจ้าเล่ห์และความฉลาดของเขา“นี่เป็นความคิดที่ดี!”“ใช่! ตราบใดที่เราไม่เป็นหนี้ใคร!”“ถ้าโครงการมันเลวร้ายไปกว่านั้นให้แมนดี้รับผิดชอบทั้งหมด! นี่คือความรับผิดชอบของเธอ!”“สัญญานี้ลงนามโดยเธอ ดังนั้นจึง
ทุกคนต่างตกตะลึงและจ้องไปที่ฮาร์วีย์อย่างไม่อยากจะเชื่อ พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าฮาร์วีย์จะทำเช่นนั้นในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้และโดยไม่ต้องคิดซ้ำสองเขาหยิบบางส่วนขึ้นมาแล้วโยนไปที่ใบหน้าของแซ็คอีกแซ็คโชคร้ายที่เขาไม่สามารถหลบขี้เถ้าที่ฮาร์วีย์ขว้างใส่เขาได้หลายครั้ง!แต่ฮาร์วีย์บ้าไปแล้ว ใครจะรู้ว่าเขาสามารถทำแบบนั้นได้? เขาไม่ควรได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการประชุมนี้ตั้งแต่แรก!“ฮาร์วีย์ แกคิดว่าฉันไม่สามารถเตะก้นแกได้จริง ๆ เหรอ? ฉันจะเรียกคนมาต่อยแกให้ตาย!” แซ็คตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวขณะที่เอาผ้าปิดจมูกไว้“ใคร โควีย์ แชดงั้นเหรอ?” ฮาร์วีย์ถาม“ใช่ บราเทอร์แชด! ฉันกับเขา แกไม่รู้หรอกว่าเราสนิทกันแค่ไหน เขาจะ ... ” ในขณะที่เขาโกรธเขาก็ไม่สามารถกรองคำพูดของเขาได้ แต่ในขณะนั้นเองที่เขารู้ว่าเขาพูดอะไรออกไป สีหน้าของเขาก็ซีดลงทันที“บราเทอร์แชด ดูเป็นกันเองมาก” ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ “อย่าลืมว่าทั้งหมดนี้เกิดจากความสัมพันธ์ของนายกับแชด พี่ชายของนายและแทนที่จะพยายามแก้ปัญหาด้วยมือของนายเอง นายยังแนะนำให้ทิ้งโครงการของศูนย์กลางการค้า อย่าบอกนะว่านายเป็นสายลับที่แฝงตัวในซิมเมอร์ส…ใช่ไหม?”
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข