“ตอนนี้ฉันยังไปที่นั่นไม่ได้ เพราะยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องจัดการให้เรียบร้อย ฉันจะไปที่มอร์ดูได้เร็วที่สุดคือมะรืนนี้“ฉันขอโทษจริง ๆ แต่ฉันคงต้องปล่อยให้คุณดูแลพ่อแม่ของฉันไปก่อน”“ไม่มีอะไรที่คุณต้องขอโทษหรอก ผมจะเป็นคนขับรถพาพวกเขาไปรอบ ๆ มอร์ดูสักสองสามวันโดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย” ฮาร์วีย์กล่าวพร้อมยิ้มอย่างอบอุ่น"ไม่ ไม่ใช่แค่นั้น…”แมนดี้ดูเหนื่อยล้ายิ่งกว่าเดิม“คุณไม่ได้อยู่ในกลุ่มเพื่อนของแม่ฉัน คุณจึงยังไม่เห็น“เธอดันไปนัดแนะกับเพื่อนที่อยู่ในมอร์ดูที่เธอไม่เคยเจอด้วยซ้ำ“เท่าที่ฉันรู้ พวกเขาเป็นญาติห่าง ๆ จากตระกูลฌอง ซึ่งแต่ละคนหัวสูงด้วยกันทั้งนั้น แม่ของฉันได้ออกปากเชิญชวนใครสักคนหนึ่งมาที่วิลล่าแฟรเกรินท์ ฮิลล์ วิลล่า!“เธอยังบอกอีกว่าคุณจะเป็นคนไปรับแขกให้เธอ…”คำพูดของแมนดี้ทำให้ฮาร์วีย์ปวดหัวยิ่งกว่าเดิมการจัดการกับศัตรูทั่วมอร์ดู ไม่เป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาขึ้นมาทันทีที่ลิเลียนปรากฏตัว...“ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ได้โปรดอย่าโกรธแม่ฉันเลยนะ” แมนดี้ขอร้อง“ถ้าฉันเดาไม่ผิด เธอคงอยากไปที่มอร์ดูล่วงหน้าเพื่อเป้าหมายสำคัญอย่างการพยายามทำให้คุณหย่ากับฉั
ครึ่งชั่วโมงต่อมาฮาร์วีย์มาถึงเมืองปริมณฑลด้วยรถโตโยต้า อัลฟาร์ดของเขาในตอนแรกเขาไม่ยอมทำตามที่ลิเลียนสั่ง แต่หลังจากนึกถึงคำขอร้องของแมนดี้ เขาก็ไม่มีทางเลือกและต้องขับรถออกไปรับแขกของลิเลียนด้วยความไม่เต็มใจอย่างที่สุดเรื่องบางเรื่องให้แมนดี้เป็นคนจัดการจะดีกว่า ถ้าฮาร์วีย์มีปัญหากับลิเลียน แม้แต่แมนดี้ก็อาจจะแก้ปัญหานี้ไม่ได้เมื่อนึกถึงวิธีที่ลิเลียนยังคงพยายามทำให้เขาหย่ากับแมนดี้ งั้นก็ทำให้เขาได้แต่พูดไม่ออกอย่างเหลือเชื่อขณะที่ฮาร์วีย์ยังคงคร่ำครวญเกี่ยวกับสถานการณ์ของเขา แม่ลูกคู่หนึ่งที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนจากมอร์ดูมาก ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นผู้เป็นแม่ดูเหมือนจะอายุใกล้ห้าสิบแล้ว เธอสวมเสื้อผ้าไม่มียี่ห้อใบหน้าสูงวัยของเธอถูกโบกทับด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะ เธอมีกริยาเย่อหยิ่งไม่เหมือนใครตามแบบฉบับของชาวเมืองมอร์ดูเธอเป็นคนประเภทชอบดูถูกใครก็ตามที่ไม่ได้มาจากมอร์ดู เมื่อเทียบกับชาวเมืองมอร์ดูแล้ว คนอื่นๆก็เป็นแค่คนต่างเมืองที่ไม่ควรค่าในการชายตามองในทางกลับกัน ลูกชายของเธอดูเหมือนจะมีอายุเพียงอายุยี่สิบ เขาดูเหมือนเพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยเขามีทรงผมที่ทันสมัยที่สุดของฤดูก
ฮาร์วีย์ชำเลืองมองที่ข้อมือของลูซี่ โลว์อย่างสงบและเงียบงัน“คุณน้าโลว์ ถ้าผมจำไม่ผิด ปาเต็ก ฟิลีปป์ไม่เคยเปิดตัวนาฬิกาควอทซ์เลยสักเรือน“ผมสงสัยจังเลยว่า… คุณซื้อนาฬิกา ปาเต็ก ฟิลีปป์ ราคาแสนห้าหมื่นดอลลาร์เรือนนี้มาจากร้านไหน ผมขอถามหน่อยได้หรือเปล่า ผมควรโทรแจ้งตำรวจให้คุณด้วยไหม?“หากทางร้านทางขายนาฬิกาปลอมให้คุณ พวกเขาจะต้องจ่ายค่าชดเชยให้คุณเป็นจำนวนเป็นสิบเท่า“คุณจะได้เงินหนึ่งล้านห้าแสนดอลล่าห์เป็นการชดเชย”ฮาร์วีย์เริ่มกดหมายเลขสามหมายเลขบนหน้าจอโทรศัพท์ ทั้งยังยิ้มอย่างอบอุ่นให้ลูซี่ โลว์ขณะที่เขาทำเช่นนั้นลูซี่เอามือขวาปิดนาฬิกาของตัวเองโดยไม่รู้ตัว แต่ในการทำเช่นนั้น เธอตระหนักว่าเธอกำลังเผยไต๋ให้อีกฝ่ายได้รู้ เธอเริ่มกรีดร้องด้วยความโกรธใส่ฮาร์วีย์ด้วยความขุ่นเคืองและอับอาย“คนขับรถน่าสมเพชอย่างนายจะไปรู้อะไร“ฉันซื้อมันมาจากสวิสเซอร์แลนด์!“นายเคยไปที่นั่นเหรอ“นายเคยมีปาเต็ก ฟิลีปป์ใช้กับเขาด้วยหรือไง? แค่เพราะนายพูดว่าพวกเขาไม่ขายนาฬิกาควอทซ์ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่นายพูดเป็นเรื่องจริงนิ!“ทำไมคนขับรถอย่างนายถึงได้ทำตัวอวดดีแบบนี้“ขอบคุณพระเจ้าที่นายเป็
ฮาร์วีย์เม้มริมฝีปากอย่างหงุดหงิด น่าเสียดายที่เขาทำได้เพียงกลืนความหงุดหงิดและเปิดประตูรถให้ทั้งสอง“คนน้าโลว์ เชิญขึ้นรถ”ประตูที่เปิดออกเผยให้เห็นการตกแต่งภายในที่หรูหราดวงตาของ ลูซี่ โลว์และนิโคลัสเป็นประกายเมื่อเห็นเช่นนั้น ราวกับว่าพวกเขากำลังมองดูสวนที่ถูกตกแต่งหรูหราทันทีที่พวกเขาเข้าไปในรถ พวกเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเริ่มรัวชัตเตอร์ พวกเขาถ่ายภาพรวมหลายสิบภาพไปอวดในกลุ่มเพื่อนของตัวเอง แต่คนทั้งคู่เจ้าเล่ห์พอที่จะบล็อกลิเลียนและสมาชิกในครอบครัวของเธอไม่ให้เห็นโพสต์ของพวกเขาฮาร์วีย์เห็นข้อความของนิโคลัสผ่านหางตา ข้อความเหล่านั้นทำให้เขาพูดไม่ออก“ยิ่งทุ่มเทมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้ผลตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น โตโยต้า อัลฟาร์ด คันแรกของฉัน ใช้เงินไปตั้งสองแสนสามหมื่นดอลลาร์”ทันทีที่นิโคลัสอัปโหลดรูปภาพไปยังกลุ่มเพื่อนของเขา ยอดไลค์ก็เข้ามารัวเข้ามาในทันทีหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้รับข้อความเสียงจากหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามา ซึ่งเสียงอันไพเราะนั้นเป็นผลมาจากการทำศัลยกรรมพลาสติกอย่างหนัก“นี่นิโคลัส คืนนี้คุณมีเวลาว่างหรือเปล่า ถ้าฉันนั่งไปรอบ ๆ ชายหาดได้ไหม คืนนี้เรามาทำอะไรสนุก
ลูซี่ โลว์ผสมโรงและตะโกนใส่ฮาร์วีย์พร้อมกับลูกชายของเธอ"ใช่แล้ว! คนขับรถอย่างนายมาจู้จี้ใส่ลูกชายฉันทำไม!“นายเป็นคนรับผิดชอบรถคันนี้ใช่หรือเปล่า?“แต่ก็ไม่ได้ซื้อด้วยเงินของนายนี่! ปล่อยให้ลูกชายฉันสนุกกับมันสักหน่อยจะผิดตรงไหน!“อีกอย่าง นายได้รับอนุญาตให้ขับรถแบบนี้ก็เพราะเรา!“ถ้าไม่มีเรา คนอย่างนายก็คงได้แต่ขี่จักรยานไปตลอดชีวิต!“เลิกพูดมาก! แล้วจอดรถซะ!"ลูซี่ โลว์และนิโคลัสมั่นใจในการฝีปากของพวกเขามาก โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดฟังดูไร้สาระเพียงใด สำหรับพวกเขาเหตุผลของพวกเขาล้วนแล้วแต่สมบูรณ์แบบฮาร์วีย์หมดความอดทน เขาพร้อมที่จะโยนคนโง่ทั้งสองออกจากรถในตอนที่มีเสียงระเบิดดังอยู่ข้างหน้าไม่ไกลดึงความสนใจของเขาเอาไว้ หันกลับไปดู ก่อนจะเห็นว่าผู้คนรอบตัวเขาตื่นตระหนกเพียงใดฮาร์วีย์เลื่อนกระจกรถลงและโยกศีรษะออกไปดู เขาเห็นรถแลมโบกินี่ติดอยู่บนราวสะพานและห้อยลงมาอย่างล่อแหลม มันสามารถตกลงสู่แม่น้ำได้ตลอดเวลา"สาวน้อย! สาวน้อย! เธอไหวหรือเปล่า?!""มาช่วยเธอที! เรียกรถดับเพลิงเร็วเข้า!”"ไป! ทุกคนไป!”รถโรลส์รอยซ์จากด้านหลังหยุดลงอย่างรวดเร็ว ชายชราตัวเล็ก ๆ ที่ดูคล้ายจะเ
ฮาร์วีย์ไม่สนใจสองแม่ลูกและรีบวิ่งไปที่ด้านหน้าของฝูงชน เขาหรี่ตาขณะศึกษาสิ่งรอบข้าง โดยเฉพาะรถแลมโบกินีที่ห้อยอยู่เครื่องยนต์ของแลมโบกินีเริ่มถูกเผาไหม้แล้ว คนที่ยืนอยู่รอบ ๆ รถไม่กล้าเข้าไปใกล้แม้แต่ก้าวเดียว แม้แต่พ่อบ้านและผู้คุ้มกันของหญิงสาวก็ยังไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง อย่าว่าแต่จะเข้าไปช่วยคุณหนูของพวกเขาเลย พวกเขาอาจเสียชีวิตไปพร้อมกับเธอด้วยซ้ำฮาร์วีย์วิเคราะห์สถานการณ์ พยายามคิดแผน เขาอนุมานได้ว่าผู้หญิงจะรอดชีวิตได้ก็ต่อเมื่อแง้มประตูรถเปิดออกและตัดสายเข็มขัดนิรภัยออกได้ แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะต้องทำในระยะเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก็ตามในความเป็นจริง กระบวนการทั้งหมดต้องทำภายในเวลาไม่เกินสามวินาที ไม่อย่างนั้นคนที่พยายามจะช่วยก็จะถูกลากลงไปในแม่น้ำเช่นกันในกรณีที่เลวร้ายที่สุด แลมโบกินีจะระเบิดทันทีหลังจากตกลงไปในแม่น้ำ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ โอกาสที่ผู้หญิงจะรอดชีวิตเป็นศูนย์ฮือฮา!ขณะที่ฮาร์วีย์กำลังจะพุ่งไปข้างหน้าและกระโจนเข้าใส่ รถโตโยต้า พราโด้ก็ขับแซงหน้าและหยุดตรงหน้าฝูงชนที่ตื่นตระหนกชายหนุ่มร่างสูงหล่อโผล่ออกมาจากที่นั่งคนขับ เขามองแลมโบกินีด้วยส
ไม่นานแดเนียลก็นึกขึ้นได้ เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “พ่อบ้านทอมป์สัน คงคิดว่าคุณคงบอกได้อย่างชัดเจนว่าตรงหน้าคุณนี้เกิดอะไรขึ้น”“ฉันรับรองกับคุณเลยแล้วกันพ่อบ้านทอมป์สัน มีทางออกเพียงทางเดียวเท่านั้น เราต้องดันรถลงไปในแม่น้ำเพื่อหยุดการระเบิด“แต่การทำเช่นนั้นก็มีความเสี่ยงสูงมาก หากคุณหนูของคุณโชคไม่ดี รถอาจระเบิดทันทีที่ไหลลงสู่แม่น้ำไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งสถานการณ์อาจเลวร้ายถึงตายได้สำหรับเธอ!“นั่นเป็นเหตุผลที่คุณในฐานะพ่อบ้านของเธอต้องตัดสินใจว่าเราคงจะช่วยเธอดีหรือเปล่า!”แดเนียลมีสติพอที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ เมื่อเขารู้ว่าหากผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่คิดเขาจะต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เขาจึงรีบโยนความรับผิดชอบทั้งหมดไปให้พ่อบ้านทอมป์สันแทนหากแดเนียลช่วยชีวิตหญิงสาวผู้มั่งคั่งคนนี้ได้สำเร็จ เขาย่อมได้รับถังเกียรติและคำชื่นชมทั้งหมดในทางตรงกันข้าม หากเขาล้มเหลวและผู้หญิงคนนั้นต้องตายในกระบวนการการช่วยเหลือความรับผิดชอบก็จะตกไปอยู่ที่พ่อบ้านทอมป์สันแทนในขณะเดียวกันฮาร์วีย์ก็พร้อมที่จะจากไปทันทีที่พบว่าผู้หญิงที่ติดอยู่เป็นคนจากตระกูลทอมป์สัน เขาและเฮกเตอร์มีคว
“ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญประเภทไหน ถึงได้ไม่รู้ว่าสิ่งที่คุณกำลังจะทำนั้นเสี่ยงมาก” ฮาร์วีย์ท้าทายเขาอย่างพยายามควบคุมอารมณ์ แผนของแดเนียลนั้นเรียกได้ว่าอุกอาจ!“วิธีเดียวที่จะทำได้ในตอนนี้คือเปิดประตูรถและตัดเข็มขัดนิรภัยออกให้เร็วที่สุดก่อนที่จะพาคุณหนูทอมป์สันออกมา“แต่ทั้งหมดนั้นต้องทำภายในสามวินาที!“หากการช่วยเหลือล้มเหลว คนที่ช่วยจะถูกลากลงไปในแม่น้ำพร้อมกับเธอ!“ถ้าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ คุณก็น่าจะรู้ว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำได้!”“วิธีเดียว?”เมื่อฟังคำอธิบายของฮาร์วีย์แล้ว แดเนียลก็รู้ได้เลยว่าวิธีของฮาร์วีย์นั้นมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ แม้ว่ามันอาจจะดูเล็กน้อยก็ตามแต่ลูกผู้ชายตัวจริงยอมไม่มีทางยอมคนอื่นง่าย ๆ แดเนียลรู้ว่าการพยายามช่วยเหลือนี้จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเขา เขาจึงปฏิเสธที่จะทำตามแผนของฮาร์วีย์“จากที่ผมเห็น ไอ้ที่เรียกว่าวิธีเดียวของคุณไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะทำได้สำเร็จ เว้นแต่ว่านายจะยอมสละชีวิตของตัวเอง!“นายคิดจะให้ใครเข้าไปเปิดประตู ปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วพาผู้หญิงคนนั้นออกมาได้ภายในสามวินาที?“ใครกันที่จะทำเช่นนั้นได้?“สมมุติว่านายท
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข