ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขามองว่าฮาร์วีย์เป็นคนที่พยายามเดิมพันชีวิตผู้หญิงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง!'มีคนที่กล้าล้อเล่นกับชีวิตคุณทอมป์สันเสียด้วย! เขาต้องตายแน่ๆ!'สาวสวยหลายคนไม่อาจซ่อนความรังเกียจในใจของพวกเธอไว้ได้ พวกเขาปราดมองไปที่ฮาร์วีย์ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความดูถูกเหยียดหยาม'คนขี้โม้คนนี้ประเมินตัวเองสูงเกินไปจริง ๆ! เขากำลังพยายามขโมยความดีความชอบไปจากผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการความปลอดภัยด้วยซ้ำ!'“ถึงคุณจะตัดสินใจทำตามแผนของเขาก็เถอะ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ควรเข็นรถด้วยมือเปล่า ร่างกายของมนุษย์มีไฟฟ้าสถิตอยู่ มีความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะเป็นคนจุดระเบิดทันทีที่เขาสัมผัสกับตัวรถ…”ฮาร์วีย์เตือนด้วยความกรุณา เขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะกดดันอีกฝ่าย เพราะไม่ต้องการที่จะเห็นผู้หญิงคนนั้นตายไปโดยเปล่าประโยชน์“เลิกจู้จี้ได้แล้วพ่อหนุ่ม!”ก่อนที่ฮาร์วีย์จะพูดจบ พ่อบ้านทอมป์สันก็ตัดบทเขาทันทีและห้ามเขาไว้“ถ้าคุณยังเอาแต่พูดถ่วงไม่ให้เราช่วยชีวิตคุณทอมป์สัน เราคงต้องใช้กำลังกับคุณแล้ว!”ตามคำเตือนของพ่อบ้านทอมป์สัน ผู้คุ้มกันสองคนก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทีคุกคามและจับจ้องไปที่ฮาร์วีย์พวกเขาพร
ฝูงชนตกอยู่ในความโกลาหล และทุกคนต่างก็กลัวจนหัวหด ไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องจะบานปลายมาถึงจุดนี้หากจะบอกว่าสถานการณ์นี้เลวร้ายก็ดูจะไม่มากเกินไป คุณหนูทอมป์สันอาจตายได้ทุกเมื่อ!เหนือสิ่งอื่นใด เธอเพิ่งคืนสติ การต้องเห็นช่วงเวลาสุดท้ายของตัวเองนั้นถือเป็นความทรมานอย่างแท้จริง“คิดหาทางสักอย่างสิ!” พ่อบ้านทอมป์สันตะโกนอย่างสิ้นหวัง คว้าคอเสื้อของแดเนียลอย่างแรงแต่แดเนียลก็เปียกโชกไปด้วยน้ำตาของเขาเอง ชายผู้หยิ่งจองหองก่อนหน้านี้ร้องไห้น่าสมเพชราวกับลูกหมาถูกทิ้ง“หมดหวังแล้ว! เราช่วยชีวิตเธอไม่ได้หรอก!”“โทรหานักผจญเพลิง! เร็วเข้า! โทรหาพวกเขาเดี๋ยวนี้!”“เธอกำลังจะตาย! ต้องรีบแล้ว!”แดเนียลเกือบสลบเพราะความกดดัน เนื่องจากพ่อบ้านทอมป์สันพร้อมที่จะรับผิดชอบหากเขาล้มเหลว เขาจึงรู้สึกว่าเขาสามารถโยนความผิดไปที่ชายชราได้โชคไม่ดีสำหรับแดเนียล ไม่มีอะไรเป็นไปตามแผนที่วางไว้ตระกูลทอมป์สันแห่งโวลซิ่งเป็นหนึ่งในสิบตระกูลอันดับแรก ประสบความสำเร็จอย่างมากในโลกธุรกิจ และทั้งตระกูลก็เต็มไปด้วยคนที่มากความสามารถ หากพวกเขาหาผู้เชี่ยวชาญคนอื่นมาวิเคราะห์การกระทำของแดเนียล พวกเขาจะสามารถบอก
“หลีกทาง! รถอาจระเบิดอีกรอบ!”“อยู่ห่างจากรถเอาไว้! อย่าเข้ามาใกล้!”ฮาร์วีย์ใช้เวลาเพียงสิบวินาทีในการโผล่ออกมาจากฝูงชน เขายืนอยู่ต่อหน้าทุกคนในขณะที่เขาตะโกนเตือนหลายต่อหลายครั้ง“ใครก็ได้ขอยืมถุงมือหน่อย!”คนในฝูงชนขว้างถุงมือยางลงลงมาที่พื้น ฮาร์วีย์รีบคว้าพวกมันไว้อย่างรวดเร็ว เขาจับมันด้วยมือทั้งสองข้างแล้วพุ่งไปที่รถแลมโบกินี่ที่กำลังระเบิดในทันทีฝูงชนมองดูเขาและถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเทียบกับแดเนียลที่เพิ่งจะโอ้อวดตัวเอง พวกเขาสามารถบอกได้ว่าฮาร์วีย์กำลังพยายามช่วยชีวิตคุณหนูทอมป์สันจริง ๆ แม้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เขาก็ไม่ตื่นตระหนกและมีสติอยู่เสมอ“เขาไม่กลัวการต้องเผชิญหน้ากับอันตรายเลยสักนิด เรียกได้ว่าเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง นี่สิผู้เชี่ยวชาญตัวจริง!“ระวังตัวด้วยนะ คุณผู้เชี่ยวชาญ!“เลิกชมเขาสักที! หาวิธีขยับรถของพวกคุณได้แล้ว! หน่วยดับเพลิงกำลังจะมาถึงแล้ว!”“...”ฮาร์วีย์เมินเฉยต่อฝูงชนโดยสิ้นเชิง ไม่สนใจว่าคนอื่น ๆ จะพูดอะไร เขาเคลื่อนที่เร็วมากและไปถึงด้านข้างของแลมโบกินีที่ลุกเป็นไฟในทันทีเมื่อเขาเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของผู้หญิงที่ติดอยู่ภายในร
เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของ คุณหนูทอมป์สัน ฮาร์วีย์รีบเอื้อมมือไปกดที่หน้าอกของเธอ จากนั้นเขาก็เป่าลมเข้าไปในปากของเธอสองสามครั้งโดยไม่สนใจว่าการกระทำของเขาอาจดูไม่เหมาะสมเพียงใดฟู่วววว!หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นก็ส่งเสียงร้องออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะไออย่างหยุดไม่ได้เธอไอออกมาอีกครั้ง และมีเลือดไหลออกมาจากริมฝีปากของเธอ แต่เธอก็กลับมาหายใจได้ตามปกติและพ้นขีดอันตรายในที่สุดฮาร์วีย์ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นเช่นนั้น จากนั้นเขาก็ยืนขึ้นและหันไปหาพ่อบ้านทอมป์สัน"เอาล่ะ! เท่านี้ก็ไม่เป็นไรแล้ว“ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วคุณก็ควรพาเธอไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายในตอนที่รถพยาบาลมาถึง“อีกอย่าง ถ้าเธอหายป่วย ก็อย่าปล่อยให้เธอขับรถเร็วแบบนี้เอง ถ้าเธอไม่รู้วิธีควบคุมรถที่มีแรงม้าสูง เธอก็จะประสบอุบัติเหตุแบบนี้ได้ง่าย ๆ”“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว! ขอบคุณคุณมาก!”พ่อบ้านทอมป์สันพยักหน้าซ้ำ ๆ หัวของเขาขยับขึ้นลงไม่หยุด ความคิดที่เย่อหยิ่งและสูงส่งที่เขาแสดงต่อฮาร์วีย์เมื่อครู่หายไปนานแล้วพ่อบ้านทอมป์สันนึกถึงวิกฤตที่พึ่งผ่านพ้นมาได้อย่างหวุดหวิด แต่ยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่ฝูงชนโห่ร
“โถ่ ก็มีพระคุณของฉัน…”เทเรซ่า ทอมป์สัน ถอนหายใจอย่างโศกเศร้า เธอนึกอยากจะตามฮาร์วีย์ให้ทันก่อนที่เขาจะหายตัวไป แต่หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เธอก็เริ่มหอบเสียงดัง อุบัติเหตุทำให้เธออ่อนแอจนแทบจะเดินไม่ไหว“คุณหนู ไม่ต้องไล่ตามเขาไปหรอก”พ่อบ้านทอมป์สันเดินเข้ามาหาเธอและโชว์รูปของฮาร์วีย์บนโทรศัพท์ของเขา“ผมพึ่งถ่ายรูปของเขามาได้ มั่นใจได้เลยครับคุณหนู ด้วยอำนาจของตระกูลทอมป์สัน การตามหาใครสักคนนับว่าไม่ใช่เรื่องยากเลย!”“อีกอย่าง เนื่องจากเขามีความสามารถมากขนาดนี้ การตามหาเขาจึงยิ่งง่ายขึ้นไปอีก”เทเรซ่าถอนหายใจโล่งอกกับคำพูดของพ่อบ้านของเธอ เนื่องจากเธอเกิดและเติบโตในตระกูลที่มีอำนาจ เธอจึงมีจิตใจที่มีเหตุผล“พ่อบ้านทอมป์สัน เราต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างลับ ๆ” เทเรซ่ากระซิบ และหรี่ตาอย่างมีความหมาย“ผู้มีพระคุณของฉันมีตัวตนที่ไม่ธรรมดา หรือไม่เขาก็มีความลับที่ไม่ต้องการให้ใครรู้”“ถ้าเราคิดจะพยายามตามหาเขา เราต้องไม่สร้างปัญหาให้เขา”“ไม่ต้องกังวลคุณหนู ผมรู้ว่าต้องจัดการเรื่องนี้อย่างไร” พ่อบ้านทอมป์สันตอบอย่างเงียบ ๆ"อืม ฉันจะปล่อยให้มันเป็นหน้าที่คุณ”เทเรซ่ามองตามแ
ฮาร์วีย์เข้าไปในห้องโถง ข้างในมีผู้หญิงหลายคนซึ่งกำลังสวมเครื่องประดับและผู้ชายซึ่งกำลังสวมชุดหนังราคาแพง พวกเขาทั้งหมดเป็นสัญลักษณ์ของเศรษฐีไซม่อนและซีนเธียร์ซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้อง ดูเหนื่อยล้าอย่างที่สุดในทางกลับกัน ลูซี่และลูกชายของเธอกำลังโต้เถียงกับเจ้าของรถที่กำลังโกรธเคือง“จ่ายมา! คืนเงินมาให้เราเดี๋ยวนี้!”“อาศัยอยู่ในวิลล่า ในแฟรเกรินท์ ฮิลล์ วิลล่าแล้วยังไงล่ะ?! คิดจะขับรถเข้าไปในลานจอดรถของรีกัล วิลล่าแล้วชนรถของเราได้หรือไง?!”“จ่ายมาเดี๋ยวนี้เลยดีกว่า!”“ฉันไม่สนหรอกว่านายเป็นใคร! แต่ถ้านายไม่ยอมจ่าย ฉันจะแจ้งตำรวจ!”หลังจากฟังความโกลาหลอยู่ครู่หนึ่ง ฮาร์วีย์ก็เข้าใจสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าวิลล่าทุกหลังในแฟรเกรินท์ ฮิลล์ วิลล่ามีโรงจอดรถส่วนตัว แต่เนื่องจากนิโคลัสไม่เคยมาที่นี่มาก่อน เขาจึงไม่รู้ข้อนี้ดังนั้น เขาจึงลงเอยด้วยการจอดรถโตโยต้า อัลฟาร์ดไว้ที่ลานจอดรถของรีกัล วิลล่าซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน ในระหว่างที่กำลังจะจอดรถเขาก็ขับมันพุ่งไปชนรถหลายสิบคันและทำให้รถมากมายเสียหายในคราวเดียวผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณรีกัล วิลล่านั้นไม่เหมือน
ลูซี่ โลว์เริ่มร่างกายสั่นเทาอย่างเกรี้ยวกราด กระสับกระส่าย เธอเสียเปรียบอย่างมากในขณะที่โต้เถียงกับผู้อยู่อาศัยในรีกัล วิลล่าซึ่งกำลังโกรธเกรี้ยวจากนั้นฮาร์วีย์คนขับหน้าโง่อย่างเขาก็เข้ามาดูแคลนเธอซ้ำเข้าไปอีก!ถ้านึกอยากจะเอามือบีบคอฮาร์วีย์ให้เขาขาดใจตายไปเลย“อย่างน้อยคนก็ทำตัวให้มีเหตุผลหน่อยสิ คุณน้าโลว์!” ซีนเธียร์พูดขึ้นทันที เธอเงียบมาตลอดจนกระทั่งเธอไม่สามารถรั้งตัวเองไว้ได้อีกต่อไป“นั่นก็เพราะพี่นิโคลัสเป็นคนขับรถชนรถของทุกคน คุณน้าก็ควรเป็นคนขอโทษและชดใช้ค่าเสียหายสิ! ทำไมต้องคิดจะมาจำนองวิลล่าของเราด้วย! เราไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วยสักหน่อย!”“อีกอย่าง วิลล่าหลังนี้ยังเป็นของพี่เขยของฉัน…!”แต่ก่อนที่ซีนเธียร์จะพูดจบประโยค ดวงตาของลูซี่ก็ฉายแววเจ้าเล่ห์ ผู้หญิงคนนั้นเคาะหัวของตัวเอง และทำราวกับว่าเธอเพิ่งจำสิ่งที่สำคัญได้"พุทโธ่! ฉันนี่มัวแต่โกรธจนลืมนึกไปเลย!“ให้ฉันแนะนำทุกคนให้รู้จักกับผู้ชายคนนี้หน่อยแล้วกัน นี่คือฮาร์วีย์ ยอร์ก สามีของลูกสาวคนโตของตระกูลซิมเมอร์”ลูซี่ โลว์ได้รู้เรื่องตัวตนของฮาร์วีย์ในตอนที่เธอเดินทางมาถึงวิลล่า“โตโยต้า อัลฟาร์ดค
ลูซี่ โลว์และลูกชายของเธอจากไป หลังจากบังคับให้ฮาร์วีย์ยอมรับว่าเขาเป็นเจ้าของรถโตโยต้า อัลฟาร์ดที่แท้จริงในขณะนั้นฮาร์วีย์ได้ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคน ทุกคนต่างจ้องมองมาที่เขาเขาถูกผู้อยู่อาศัยในรีกัล วิลล่าซึ่งตั้งใจจะบังคับให้เขาจ่ายเงินและแก้ปัญหาลมร้อนในทันที พวกเขาต่างหิวกระหายเงินมากเสียจนจะไม่ให้อะไรกระเด็นไปได้แม้แต่สตางค์แดงเดียวเมื่อเทียบกับลูซี่และลูกชายของเธอ ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่มีเงินเลยแม้แต่เหรียญเดียว พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าฮาร์วีย์ซึ่งเป็นเจ้าของรถหรูและสัญญาซื้อขายหุ้นจะต้องมีปัญญาจ่ายค่าเสียหายอย่างแน่นอนซีนเธียร์ต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็ถูกฝูงชนผลักออกไปในทันที"พอแล้ว! ผมจะจัดการเรื่องทั้งหมดนี้เอง!”เมื่อถูกรบกวนอย่างหนัก หัวของฮาร์วีย์ก็กำลังจะระเบิด การจู้จี้และต่อว่าซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสถานการณ์ที่วุ่นวายไร้สาระเช่นนี้กำลังบั่นทอนความอดทนของเขาในตอนนี้ เขาไม่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดถูกยุยงโดยลิเลียน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขายังคงต้องรับมือกับฝูงชนที่กำลังคลุ้มคลั่งถ้าเขาไม่ทำเช่นนั้น เขาก็จะต้องเผชิญกับความวุ่นวายนี้ต่อไปอย่างไม่อาจก้าวผ่านม
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข