คอร่า ลอยด์พูดอย่างไร้อารมณ์ร่วมว่า “นายน้อยยอร์ก คุณอย่าประเมินเทอร์รี่ สมิธต่ำไป“จากข่าวกรองที่ฉันได้มา แม้ว่าเทอร์รี่จะถือได้ว่าเป็นที่พูดถึงน้อยที่สุดในหมู่เจ้าชายทั้งหกแห่งมอร์ดู แต่อำนาจที่แท้จริงของเขาก็ไม่ควรถูกประเมินต่ำ“ยิ่งไปกว่านั้น มีข่าวลือในโลกของนักดาบเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่ามีนายน้อยผู้มั่งคั่งคนหนึ่งจ้างยอดฝีมือไปอยู่เคียงข้างเขามากมาย“ฉันเดาว่าคน ๆ นั้นคือเทอร์รี่ สมิธ“ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ฉันขอแนะนำอะไรคุณสักหน่อย“ระวังเทอร์รี่ สมิธเอาไว้ให้ดี“ถ้าเทอร์รี่ สมิธสู้เหมือนหมาจนตรอก อย่างไม่สนกฎหมาย คุณอาจหยุดเขาไม่ได้”ฮาร์วีย์ยิ้มและพูดว่า “ฉันไม่คิดที่จะเผชิญหน้ากับเทอร์รี่หรอก อย่างน้อยฉันก็จะไม่สนใจเขาถ้าเขาไม่มารนหาที่ตายถึงที่“สิ่งที่ฉันจะทำคือการสะสางความยุ่งเหยิงภายในตระกูลสมิธเท่านั้น“แน่นอน ถ้าต้นตอของความยุ่งเหยิงนี้อยู่ที่เทอร์รี่ ฉันก็ไม่คิดจะบดขยี้เขา ซึ่งเป็นหนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์ดูให้ตาย”คอร่าไม่เชื่อ หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็กินราวีโอลี่ชิ้นสุดท้ายอย่างระมัดระวังแล้วลุกขึ้นยืน เธอพูดอย่างเฉยเมยว่า “ระวังตัวด้วย มิฉะนั้นฉันจะไม่ล้างแค้น
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ โทรศัพท์ของเทอร์รี่ สมิธก็ดังขึ้น เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะมองดูชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ แต่เขายังคงกดปุ่มรับสายเสียงที่ไม่แยแสของเฮกเตอร์ ทอมป์สันดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ “เจ้าชายสมิธ ผมเพิ่งทราบข่าวว่าคุณจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ปู่ของคุณในคืนนี้ ผมสงสัยว่าคุณมีกำลังพลพอหรือเปล่า?”เห็นได้ชัดว่าเฮกเตอร์รู้จุดประสงค์ของเทอร์รี่ ดวงตาของเทอร์รี่สั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นายน้อยทอมป์สัน ฉันได้ยินมาว่ามีเรื่องเกิดขึ้นบนเรือสำราญของนาย นายควรจัดการเรื่องนั้นก่อนจะดีกว่า”“ฉันจัดการเรื่องของตัวเองได้”ติ๊ด! เทอร์รี่วางสายหลังจากพูดจบ ร่องรอยของความโศกเศร้าฉายผ่านดวงตาของเขาสักพักก็มีโทรศัพท์เข้ามาอีก คราวนี้เป็นน้ำเสียงไม่แยแสของเซค สมิธที่ดังมาจากอีกฝั่งของโทรศัพท์ทันทีที่กดรับสาย “คืนนี้มีงานเลี้ยงวันเกิดของตาแก่นั่น ฉันจะส่งคนไปรับพี่สาวกับลูกของเธอ“เดี๋ยวฉันจะไม่รู้ว่านายพยายามจะทำอะไร แต่ถ้านายกล้าสร้างปัญหาในงานเลี้ยงคืนนี้ ฉันจะเป็นคนแรกที่ฆ่านาย!”หลังจากพูดได้สองประโยคเซคผู้บัญชาการลำดับที่สองของรัฐบาลมอร์ดูซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่ง
ฮาร์วีย์ ยอร์กถอนหายใจขณะมองดูคนกลุ่มนั้น เขาอยากที่จะเมินเฉยต่อพวกเขาและกำลังจะมุ่งไปอีกทางแต่ไม่คิดเลยว่าเฮเซล มาโลนจะมองเห็นเขาและจำเขาได้ เธอผงะไปเล็กน้อย “ฮาร์วีย์?!“ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ที่ดินของตระกูลสมิธได้?”“นี่นายมารอเรานานแค่ไหนแล้ว!”“นายกำลังพยายามทำตัวเนียนไปเราและตามเรากลับเข้าไป?”เฮเซลเริ่มตระหนก นี่มันวันอะไร?ถ้าฮาร์วีย์แอบเข้ามาที่นี่จริง ๆ มันคงเป็นเรื่องน่าอายมาก!สำหรับอินฟลูเอนเซอร์เหล่านั้น พวกเธอทุกคนมองดูฮาร์วีย์ด้วยความรังเกียจที่สุดในขณะนี้พวกเธอเป็นคนจากวงสังคมชั้นสูง มันคงเป็นเรื่องน่าละอายที่จะปล่อยให้คนบ้านนอกอย่างฮาร์วีย์มาเกาะแกะกับพวกเธอไม่เลิกแม้แต่แกรี่ ดันเคนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับรู้สึกว่าฮาร์วีย์เป็นคนที่น่าสมเพชฮาร์วีย์ไม่มีทางเลือก เขาทำได้เพียงล็อกจักรยานและตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเชยเมยว่า “เลิกพูดเอาดีเข้าตัวสักทีได้ไหม? การที่ผมมาที่นี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกคุณทั้งนั้น!”“ทำไมจะไม่เกี่ยวอะไรกับเรา” เฮเซลเย้ยหยัน “นายต้องการเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดนี้โดยใช้ชื่อของนายน้อยดันเคนอย่างชัดเจน!"ทำไม? อีวอนน์ไม่ได้ส่งการ์ดเชิญ
ก่อนหน้านี้กลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ต่างก็เย้ยหยันเขา แต่เพราะอีวอนน์ ซาเวียร์ปรากฏตัวขึ้นในครั้งก่อนพวกเธอก็เลยกลัวอยู่หน่อย ๆ และพวกเธอก็จำเป็นต้องแสดงความเคารพต่อเขาเล็กน้อยแต่เมื่ออีวอนน์ไม่ได้อยู่แถวนี้ ทำไมพวกเธอยังต้องไว้หน้าไอ้บ้านนอกนี่อีก?ดังนั้นทัศนคติของพวกเธอมีต่อฮาร์วีย์จึงดูหยิ่งผยองมากขึ้น สำหรับเฮเซล มาโลน ตอนนี้เธอรู้สึกขยะแขยงญาติจากบ้านนอกผู้น่าสงสารเหลือทน หวังจะขับไล่เขากลับไปที่บัควู้ดให้เร็วที่สุดแกรี่ ดันเคนพูดอย่างเฉยเมยขณะยืนเอามือไพล่หลังโดยไม่รอให้ฮาร์วีย์พูดอะไร “พอเถอะ คุณมาโลน ไม่มีเหตุผลที่จะต้องต่อความยาวสาวความยืดกับตัวตลกอย่างเขา“งานเลี้ยงกำลังจะเริ่มแล้ว ไปกันเถอะ"เฮเซลและพรรคพวกของเธอต่างก็พยักหน้าหลังจากฟังคำพูดของแกรี่ จากนั้นเธอก็มองไปที่ฮาร์วีย์อย่างเย็นชาและพูดว่า “ฮาร์วีย์ หยุดตามพวกเรามาสักที!“ไม่อย่างนั้น นายจะเป็นคนที่ต้องอับอายหากถูกขับออกไปในภายหลัง”จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็เดินไปข้างหน้าพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นหลังจากพูดจบโดยไม่สนใจฮาร์วีย์ที่อยู่ข้างหลังอีกเฮเซลและคนอื่น ๆ รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นทั้งสองถนนข้างของที่ดินตร
พรืด!ฮาร์วีย์ ยอร์กที่ตามมาติด ๆ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านั้นอาจกล่าวได้เพียงว่าแกรี่ ดันเคนเกิดมาเพื่ออวดรู้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นในประเทศ H นี้เขาคงเป็นคนเดียวที่เป็นเลิศในด้านนี้อย่างแน่นอนมันวิเศษมากที่เขาโอ้อวดตัวเองได้ถึงขนาดที่หลอกตัวเองไปได้ด้วยเฮเซล มาโลนหันกลับมาโดยไม่รู้ตัว หลังจากที่เธอได้ยินเสียงหัวเราะจากด้านหลัง จากนั้นเธอก็เห็นฮาร์วีย์เดินตามกลุ่มของเธอมาอย่างไร้ยางอาย เธอโมโหในทันที “ยอร์ก ทำไมนายไร้ยางอายขนาดนี้?”“ฉันเตือนนายตั้งกี่ครั้งกี่หนแล้ว!“หยุดตามพวกเรามาสักที!“เราจะไม่พานายเข้าไปทำให้งานเลี้ยงนี้พังหรอก!“ทำไมนายถึงอวดดีขนาดนี้”“ทำไมหน้าด้านขนาดนี้”“แค่ไม่ได้เข้าไปหาอะไรกินข้างในจะตายให้ได้เลยหรือไง!"ฉันบอกนายไว้เลยนะ ต่อให้โทรไปฟ้องพ่อฉันก็ไม่มีประโยชน์!“เมื่อเราไปถึงประตู เราจะบอกรปภ.ว่าเราไม่รู้จักนาย ที่นี้ก็ขึ้นอยู่กับนายแล้วก็อยากจะทำให้ตัวเองอับอายขายขี้หน้าหรือเปล่า!”เฮเซลพูดด้วยท่าทีจริงจัง เธอแค่รู้สึกว่าการมีอยู่ของฮาร์วีย์เป็นเรื่องน่าขายหน้าสำหรับเธออินฟลูเอนเซอร์อีกหลายคนมองฮาร์วีย์ด้วยท่าทางนึกสนุ
ฮาร์วีย์ ยอร์กไม่ได้พูดอะไรให้มากความ เขากลับพยักหน้าให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนแล้วเดินเข้าไปในบริเวณนั้นเฮเซล มาโลน และคนอื่น ๆ ตกตะลึงขณะดูฉากนี้ พวกเขาต้องระงับแผนที่คิดจะเยาะเย้ยเขาลง ใบหน้าของพวกเธอมืดลงทันที นั้นทำให้พวกเธออึดอัดเป็นอย่างมากมีเพียงแกรี่ ดันเคนเท่านั้นที่มีใบหน้าดำคล้ำและพูดอย่างเคร่งขรึม “ให้ตายเถอะ เขาแอบใช้ชื่อของผมจริง ๆ สินะ!“ต้องเป็นอย่างนั้นแน่!“ไม่งั้นทำไมเจ้าหน้าที่ไม่ตรวจบัตรเชิญเขาล่ะ!“ไอ้เวร!”ในขณะนี้แกรี่รู้สึกโกรธ “ไอ้เวรนี่ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาเชี่ยวชาญเรื่องการเสแสร้งและอวดเก่งมากจริง ๆ!“แต่เขาไม่รู้สักนิดเลยเหรอว่าวันนี้มันเป็นงานแบบไหน? ครั้งนี้ฉันโกรธมากจริง ๆ”เมื่อเห็นความโกรธของแกรี่ เฮเซลและคนอื่น ๆ ก็เข้าใจสถานการณ์ในทันที พวกเธอตระหนักว่าฮาร์วีย์ได้รับการต้อนรับอย่างดีเช่นนั้นก็เพราะแกรี่ใบหน้าสวยของเฮเซลดูหม่นหมองเล็กน้อยในขณะนี้ เธอกระซิบว่า “ไม่หรอก ฮาร์วีย์หน้าด้านเกินไป และไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ!“เราต้องไล่เขาออกไป!“ไม่อย่างนั้น นายน้อยดันเคนจะต้องอับอายหากฮาร์วีย์ไปสร้างปัญหาในงาน!”อินฟลูเอน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนนั้นให้ความเคารพแก่เขาเป็นอย่างมาก การที่พวกเขามีทัศนคติเช่นนั้นก็เหมือนกับว่าเฮเซล มาโลนและคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นลูกสาวของเศรษฐีในวงสังคมชั้นสูงขึ้นมาจริง ๆท่าทีดังกล่าวทำให้เฮเซลและกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ดูตระหนก จากนั้นพวกเธอก็หันไปมองแกรี่ดันเคน ด้วยใบหน้าที่ประหลาดใจพวกเขาไม่เคยคิดว่าแกรี่จะไม่เพียงแต่มีสถานะที่สูงมากเท่านั้น แต่เขายังสามารถทำให้พวกเธอเพลิดเพลินไปกับการถูกปฏิบัติอย่างดีที่สุดได้ด้วยประโยคง่าย ๆ เพียงไม่กี่ประโยคด้วยเอกลักษณ์เช่นนี้ของเขา แม้แต่นายน้อยทั้งสี่แห่งโวลซิ่ง เจ้าชายทั้งหกแห่งมอร์ดู หัวหน้าสาขาของหลงเหมินก็เทียบไม่ได้!…จากการคาดเดาของเฮเซล เมื่อพิจารณาจากแกรี่คนปัจจุบัน มีเพียงหัวหน้าผู้ฝึกสอนในตำนานเท่านั้นที่จะมีศักดิ์ศรีเทียบเท่ากับแกรี่ในหมู่คนหนุ่มสาวของประเทศ H!ในขณะนี้ เฮเซลเอ่ยปากออกไปด้วยความชื่นชม “นายน้อยดันเคน ดูเหมือนว่าฉันจะประเมินตัวตนและสถานะของคุณต่ำเกินไป!”เธอยังคงกังวลเล็กน้อยในตอนแรกที่มาที่นี่ หากชื่อของแกรี่ใช้ไม่ได้ พวกเขาก็ต้องจากไปอย่างอัปยศอย่างไรก็ตาม เธอไม่เคยคิดว่าแกรี่จะมีชื่อเสีย
"อะไร?! จริงเหรอ?!”เฮเซล มาโลนและคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึง นี่เป็นเรื่องซุบซิบที่ทำให้โลกแตกได้เลยทีเดียว!คนที่ร่ำรวยที่สุดในกังนัมเหลือเวลาอยู่บนโลกนี้อีกไม่นานแล้ว?ถ้าเธอสามารถกระจายข่าวที่จะสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นโลกในระหว่างการถ่ายทอดสดคืนนี้ได้ มันไม่เพียงแต่จะพิสูจน์ได้ว่าเธอเป็นคนที่มีชื่อเสียงแค่ไหน แต่เธอจะมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นอีกมากมายด้วยแกรี่ ดันเคนทำท่าลึกลับและพูด “ข้อมูลนี้ถือเป็นความลับสุดยอด แค่ฟังและระวังคำพูดของตัวเองต่อจากนี้ด้วย“ผมได้ยินมาว่าตระกูลสมิธทำให้องค์กรนักฆ่าที่มีชื่อว่าลิตเติ้ล ดเวลลิ่งขุ่นเคืองใจเมื่อ ยี่สิบปีก่อน พวกเขายอมจ่ายเงินมหาศาลเพื่อทำลายองค์กรนี้“แต่องค์กรนี้ไม่ใช่จะถูกกำจัดได้ง่าย ๆ แม้ว่ามันจะถูกทำลายลง แต่บุคคลสำคัญขององค์กรก็รอดมาได้!“อีกฝ่ายอดทนต่อความยากลำบากมาตลอดยี่สิบปี และตอนนี้พวกเขาก็กลับมาแล้ว!“ตระกูลสมิธต่อกรกับพวกเขาไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชีวิตของจาเดน สมิธเป็นเดิมพันอีก“ดังนั้น ผมจึงเดาว่าจาเดนจะก้าวลงจากตำแหน่งของตัวเองและส่งต่อมันให้กลับเทอร์รี่ หลังจากงานเลี้ยงวันเกิดนี้“สำหรับเทอร์รี่ เขาจะก้า
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข