“แกรี่ ดันแคน?!”“แชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานในตำนานของประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่เหรอ?!”“เขาเป็นยอดฝีมือของรุ่นน้อง ๆ! ฉันได้ยินมาว่าเขาเก่งมาก!”เมื่อผู้คนได้ยินชื่อ 'แกรี่ ดันแคน' พวกเขาก็พึมพำอย่างตื่นเต้นทันทีท้ายที่สุดแกรี่ก็เป็นอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังที่ดูริน เขามักจะแสดงโลดโผน เช่น ผ่าก้อนอิฐด้วยมือข้างเดียว และทุบก้อนหินด้วยหน้าอก ดังนั้นชื่อเสียงของเขาจึงดีมากในตอนแรกเฮเซลกลัวหัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์ อย่างไรก็ตาม เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีเมื่อเห็นแกรี่ก้าวออกมาข้างหน้า“อีวอนน์ ไม่ต้องห่วงนะ นายน้อยดันแคนเคยสามารถปกป้องเราเมื่อเรามีปัญหาครั้งก่อนแล้ว“แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะเลยเถิดไปหน่อย แต่หัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์จะต้องไว้หน้าแกรี่อยู่บ้าง“แค่ว่าเราอาจปกป้องฮาร์วีย์ไม่ได้“ปล่อยให้เขาตาย ๆ ไปเถอะ!”เฮเซลดูพอใจและภูมิใจในตัวเอง เธอรู้สึกว่าตราบใดที่เธอมีแกรี่คอยช่วยก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอฮาร์วีย์ไม่รู้จุดยืนของตัวเองเลยและไม่ยอมฟังคำแนะนำของเธอ ไม่ว่าเขาจะลงเอยอย่างไร เขาก็สมควรที่จะได้รับมันแล้ว!“หัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์มาแล้ว!”เกือบทันทีที่เฮเซลพูดจบ หัวหน้าลี
หัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์โบกมือให้เหล่าสาวกช่วยพวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อนที่เขาจะหรี่ตามองแกรี่และพูดอย่างใจเย็น “คุณใช่คนที่ทำร้ายคนของผมหรือเปล่า?”“ถ้าผมบอกว่าใช่แล้วจะทำไม?“ต่อให้ผมทำร้ายคนของคุณแล้วจะยังไง?“มีปัญหาอย่างนั้นเหรอ?”แกรี่กล่าวอย่างมั่นใจพลางยืนเอามือไพล่หลังหัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์หรี่ตาเล็กน้อยและไม่พูดอะไร อย่างไรก็ตาม สาวกที่อยู่ข้างหลังเขาต่างก็จ้องมองไปที่แกรี่พร้อมกับกัดฟันแน่นแม้ว่าแกรี่จะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในฐานะแชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานของประเทศ H…ในสายตาของสาวกเหล่านี้ เขาเป็นเพียงนักสู้ธรรมดา ๆ แต่เขากลับมักจะโอ้อวดทักษะเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขาต่อหน้าคนทั่วไปอยู่ทุก ๆ วันหากมีโอกาส เหล่าสาวกก็จะไม่รังเกียจที่จะเหยียบย่ำแกรี่ตรงนั้นเดี๋ยวนั้นแกรี่จัดการเรื่องนี้อย่างหล่อเหลาและดูราวกับว่าเขาสามารถจัดการทุกอย่างได้...ตรงกันข้ามกับฮาร์วีย์ที่ยังคงมีสีหน้าเฉยเมย...ทันใดนั้นเฮเซลก็รู้สึกทุกข์ใจและโกรธ เธออดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้าและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “หัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์ ฉันในฐานะพยาน ขอชี้แจงความจริงให
“จบที่นี่เหรอ?!”เมื่อทุกคนคิดว่าเรื่องนี้จะจบลงแล้ว…จู่ ๆ แกรี่ก็ส่งเสียงเย้ยหยันและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ“หัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์ คุณรู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น?“หลานชายของคุณไม่เคารพคุณซาเวียร์ นั่นคือสาเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้!“คุณคิดว่ามันจะจบหลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยอย่างนั้นเหรอ?“คุณคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องให้คำอธิบายสำหรับการกระทำของเขาเหรอ?”หัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์ไม่สนใจแกรี่ เขาเพียงแต่เดินไปหาอีวอนน์และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม ๆ ว่า “คุณซาเวียร์ หลานชายผู้ไร้ความสามารถของผมยั่วยุคุณ ดังนั้นเขาจึงสมควรที่จะได้รับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขา!“เพื่อแสดงความจริงใจของผม ผมจะจัดการเขาเอง!”เมื่อพูดจบ หัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์ก็แสดงท่าทาง สาวกคนหนึ่งของเขาก้าวออกมาและใช้เท้าของเขาหักเท้าข้างหนึ่งของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนผมสั่นทันที“อ๊าก!”เสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวดดังขึ้น อย่างไรก็ตาม หัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์ยังคงยิ้ม เขาแอบมองฮาร์วีย์ในเวลาเดียวกันโดยไม่รู้ตัวเขากลัวว่าฮาร์วีย์จะโกรธอีวอนน์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับเหตุการณ์ที่พลิกผัน อย่างไร
“นายทำร้ายหลานชายห่าง ๆ ของหัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์ และคนของเบรย์ เทมเปิลมากมาย!“ถ้านายน้อยดันแคนไม่ออกตัวช่วย นายคิดว่านายจะยังสามารถยืนอยู่โดยไม่ได้รับบาดเจ็บได้เหรอ?”เฮเซลหงุดหงิดใส่ฮาร์วีย์“ฮาร์วีย์ นายควรรู้จุดยืนของนาย!“นายคิดว่านายจะรับมือได้ไหมถ้าหัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์ลงมือ?“ไม่ว่านายจะเชื่อหรือไม่ แต่ถ้าชายชราคนนั้นลงมือ เขาจะสามารถตบนายกระเด็นได้ง่าย ๆ!”ฮาร์วีย์ไม่แยแส “คุณลองถามนายน้อยดันแคนดูก่อนไหมว่าเขาแน่ใจหรือเปล่าว่าเขาเป็นคนที่ทำให้หัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์ยอมจำนน?“ทำไมเขาถึงได้หน้าด้านขนาดนั้น?”เฮเซลสั่นด้วยความโกรธทันทีหลังจากที่ได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ “นายหมายความว่ายังไงฮาร์วีย์?“นายกำลังจะบอกฉันว่านายน้อยดันแคนไม่ใช่คนที่ทำให้หัวหน้าลีโอนาร์ด เบรย์เกรงกลัวอย่างนั้นเหรอ? นายกำลังจะบอกว่าเป็นนายอย่างนั้นเหรอ?“นายไร้ยางอายขนาดนี้ได้ยังไง?!”แกรี่โบกมือและพูดอย่างใจเย็นว่า “คุณมาโลน คุณไม่ต้องจริงจังกับคนประเภทนี้มากหรอก“อย่าเสียเวลากับคนงี่เง่าเลย“คนอย่างเขาไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าเขาสร้างปัญหามากแค่ไหน!“การเถียงกับเขาจะทำลายชื่อเสียงของพวกเราเท่าน
ฮาร์วีย์หยิบโทรศัพท์ออกมากดเล่นวิดีโอแล้วส่งให้อีวอนน์ เขากระซิบว่า “เราจะไปที่นี่”อีวอนน์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู วิดีโอแสดงให้เห็นแม่ของเธอที่ถูกพาเข้าไปในอาคารหลังใหญ่และไม่ปรากฏตัวอีกเลยหลังจากนั้นอีวอนน์หรี่ตาลงเล็กน้อยขณะที่เธอสำรวจอาคาร เธอพูดเบา ๆ ว่า “นี่หมวกของไซฟูโดใช่ไหม?”ฮาร์วีย์พยักหน้าและพูดว่า “ใช่ นี่คือตึกไซฟูโดที่ลู่เจียจุ่ย ดูเหมือนว่าตระกูลสมิธจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”อีวอนน์พยักหน้าเช่นกัน “ไซฟูโดถูกก่อตั้งโดยไมค์ เทย์เลอร์ ผู้มีชื่อเสียงมาจากท้องถนน หน้าร้านเป็นคลินิกยาจีน แต่หลาย ๆ คนในมอร์ดูรู้ดีว่าธุรกิจนี้ดำเนินกิจการอะไรกันแน่“เหตุผลที่ไซฟูโดสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงเป็นเวลาหลายปีก็เพราะการสนับสนุนของเทอร์รี่ สมิธ…“ดังนั้นไมค์จึงสามารถแสดงอำนาจในมอร์ดูได้เป็นเวลานานหลายปี“แม้ว่าตระกูลสมิธจะเป็นหนึ่งในสิบอันดับตระกูลแรก แต่พวกเขายังคงดำเนินการธุรกิจของตระกูล ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีกำลังคนมากนัก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงขาดคนอย่างไมค์ เทย์เลอร์ไม่ได้“ฉันไม่คาดคิดมาก่อนว่าแม่ของฉันจะถูกจับตัวไว้ที่ตึกไซฟูโด“แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็
ณ เวลา 14.30 น.ฮาร์วีย์และอีวอนน์ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขาปรากฏตัวที่ประตูของไซฟูโดไซฟูโดเป็นคลินิกที่ขายยาจีน อย่างไรก็ตาม หลายคนที่มาที่นี่เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของพวกเขาเป็นพวกอันธพาลข้างถนนที่ได้รับบาดเจ็บมาจากการต่อสู้แน่นอนว่าหลายคนจะมาเพื่อรักษาบาดแผลจากใบมีดและกระสุนปืน อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะเข้ามาทางห้องใต้ดินที่ซ่อนอยู่แทนที่จะเข้ามาทางห้องโถงอย่างเปิดเผยเมื่อฮาร์วีย์และอีวอนน์ก้าวเข้าไป พวกอันธพาลก็มองพวกเขาด้วยสายตาแปลก ๆ ราวกับว่าพวกเขาเห็นกระต่ายเดินเข้ามาในถ้ำของสุนัขจิ้งจอก“เฮ้ คนสวย มีอะไรให้ช่วยไหม?”“เราเป็นมืออาชีพมากในทุกสิ่งที่เราทำ!”นักเลงหัวล้านคนหนึ่งเดินออกไปด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ ดูเหมือนว่าเขากำลังสนใจในตัวอีวอนน์แต่แล้วก็มีชายในชุดจีนเดินเข้ามา ในมือของเขามีลูกเหล็กสองลูก เขาตบหัวนักเลงหัวล้านและกล่าวว่า “ขยะ! โง่จริง ๆ!“ไม่เห็นเหรอว่านี่คือคุณหญิงของตระกูลสมิธ อีวอนน์ ซาเวียร์“เธอเป็นหลานสาวของเทอร์รี่ สมิธ! ถ้าแกยั่วยุเธอแกจะรับผลที่ตามมาได้ไหม?”เมื่อพวกอันธพาลได้ยินชื่อเจ้าชายเทอร์รี่ สมิธ แววตาของพวกเขาก็ฉายแววหวาดกลัวอีวอนน
ไมค์พ่นควันหนาทึบออกมา เขาแสร้งทำเป็นประหลาดใจและพูดว่า “คุณซาเวียร์! คุณกำลังจะบอกผมว่าแม่ของคุณหายไปอย่างนั้นเหรอ?“เธอเป็นคนสำคัญจากตระกูลสมิธ ถ้าเธอหายไปจริง ๆ คุณควรจะแจ้งตำรวจ!“ผมเกรงว่าการที่คุณมาหาผมเพราะการหายตัวไปของเธอจะไม่เหมาะสม เพราะคลินิกของผมขายยาสมุนไพรจีน ไม่ใช่สำนักงานนักสืบเอกชน ถูกไหม?”มีเสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้นจากรอบด้านหลังจากที่เขาพูดคำเหล่านี้อีวอนน์พูดอย่างเย็นชา “ไมค์ จำเป็นต้องพูดแบบนั้นเลยเหรอ?“ไม่ว่าแม่ของฉันจะอยู่ที่ตึกไซฟูโดหรือไม่ คุณควรจะรู้ดีที่สุด“ปล่อยตัวเธอก่อนที่ฉันจะอารมณ์เสีย แล้วเราจะถือว่าจบกัน!“ถ้าไม่ ฉันจะแจ้งตำรวจ เมื่อถึงตอนนั้นทุกอย่างจะสายเกินไป!”อีวอนน์หยิบโทรศัพท์ออกมาขณะที่เธอพูด เธอกดเลขสามตัวและพร้อมที่จะโทรออกได้ทุกเมื่อด้วยสีหน้าเย็นชาไมค์ยักไหล่เมื่อเห็นดังนั้น เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “ถ้าคุณซาเวียร์ต้องการที่จะแจ้งตำรวจก็ตามสบายเลย“เราพร้อมให้การสอบสวน“แต่ถ้าคุณไม่เจออะไรละก็…“ผมก็ต้องขอโทษไว้ก่อน เพราะแม้ว่าคุณจะเป็นคนชนชั้นสูงจากตระกูลสมิธ คุณก็จะต้องชดใช้“เช่นด้วยการหักนิ้วหรือกรีดหน้า”ไมค์ขู่อีวอนน
อีวอนน์ไม่แยแส “ฮาร์วีย์จัดการเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง เขาไม่ต้องให้ใครมาช่วยหรอก”“ไม่ต้องอย่างนั้นเหรอ?!“เธอบ้าไปแล้ว!“ฮาร์วีย์เป็นแค่คนบ้านนอก! เขาจะจัดการอะไรได้?“รอดูเถอะ! เขาจะถูกตีจนตายแน่นอน!”เฮเซลโกรธมาก เธอลืมไปนานแล้วว่าตระกูลของเธอและฮาร์วีย์รู้จักกันมาหลายชั่วอายุคนได้อย่างไรแม้ว่าฮาร์วีย์จะถูกทำร้ายจนตายในตอนนี้มันก็จะไม่เกี่ยวอะไรกับเธออีวอนน์ไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงแต่มองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยความกังวลเล็กน้อยเธอไม่เข้าใจว่าฮาร์วีย์กำลังพยายามจะทำอะไร เขาจะสามารถช่วยแม่ของเธอได้ด้วยการเคลื่อนไหวแบบสุ่ม ๆ ในไซฟูโดเหรอ?อีวอนน์เชื่อใจฮาร์วีย์เสมอมา แต่เธอรู้สึกงุนงงเล็กน้อยกับการกระทำในตอนนี้ของเขาเช่นกัน“หยุดเดี๋ยวนี้! พวกคุณกำลังทำผิดกฎหมายกลางวันแสก ๆ เลยนะ!”ผู้ตรวจการหยิบปืนด้ามสั้นออกมาจากเอวและกำลังจะยิงขู่ อย่างไรก็ตามฮาร์วีย์คว้าปืนนั้นในขณะที่ผู้ตรวจการกำลังจะหยิบมันออกมา“ไป!”พวกอันธพาลกลุ่มหนึ่งรีบออกมาในเวลานี้โดยต้องการทำร้ายฮาร์วีย์จนตายในช่วงเวลาวิกฤตนี้ ฮาร์วีย์ก้าวไปข้างหน้าและเล็งปืนไปที่หน้าผากของไมค์เขาปลดล็อคตัวล็อกปืนด้วย“บอกให้พว
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข