โควีย์ระเบิดเสียงหัวเราะ “เพื่อนที่ดี! คุณเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์จริง ๆ !” โควีย์ยื่นมือออกไปตบไหล่ของแซ็ค “นี่เป็นสิ่งที่ดีจริง ๆ ฉันต้องการให้ทุกคนรู้ว่านางฟ้าแห่งนิอัมมี่ตกเป็นของฉัน! นอกจากนี้ฉันต้องการให้ลูกเขยอย่างฮาร์วีย์ได้รู้ว่าผู้หญิงที่มันไม่ได้แม้แต่เข้าใกล้ยังต้องยอมจำนนต่อความปรารถนาของฉัน!”“คุณไม่ต้องกังวล ตราบใดที่ชื่อเสียงของแมนดี้ต้องพังทลาย เธอต้องอยู่กับฉันเท่านั้น ถ้าไม่ ฉันจะทำให้เธอเป็นของฉันตลอดไป” โควีย์พูดแล้วหัวเราะอย่างชั่วร้ายแซ็คยิ้ม “ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันจะทำตามแผน หลังจากพรุ่งนี้จะต้องมีผู้ชายอีกหลายคนที่ต้องอิจฉาพี่ชายอย่างแน่นอน ลูกพี่ลูกน้องของผมคนนี้ช่างเป็นนางฟ้าแห่งนิอัมมี่ที่แท้จริง! ผมควรจะเรียกคุณในฐานะพี่เขยของผมตอนนี้ได้เลยไหม? ผมจะขอให้คุณมีชีวิตแต่งงานที่มีความสุขและสนุกมาก!”เมื่อได้ยินว่าแซ็คอวยพร โควีย์ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ในขณะนั้นเขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และไร้ความปราณี เขาเดินกลับไปกลับมานั่นเพราะเขาไม่สามารถรอได้อีกต่อไป***เช้าวันรุ่งขึ้น แซ็คไปที่ออฟฟิศของแมนดี้“ฉันได้นัดหมายกับพวกเขารวมถึงเวลาและสถานที่แล้ว ฉันใช้พันธมิต
“คุณพ่อคิดว่าผมจะช่วยแมนดี้ด้วยความจริงใจจริง ๆ เหรอ?” แซ็คพูดอย่างนุ่มนวล“ลูกจะบอกว่ามันเป็นกับดักงั้นหรือ?” ฌอนถมกลับแซ็คไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรจากพ่อของเขา จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “ผมจะบอกความจริงกับคุณพอ ผมเป็นคนสั่งคนเหล่านั้นให้หาช่องโหว่ของซิมเมอร์ และก่อความความวุ่นวาย”ฌอนขมวดคิ้วและจ้องไปที่แซ็ค จากนั้นเขาก็บอกว่า “ลูกจึงใช้ประโยชน์จากคนนอกเพื่อหาข้อผิดพลาดกับแมนดี้ พ่อเข้าใจเรื่องนั้นได้ แต่ลูกไม่ควรก้าวเข้าไปยุ่งใช่ไหม? ทำไมลูกถึงยังต้องการช่วยแมนดี้?”“พ่อครับเราควรใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ แมนดี้ยังคงดูแลโครงการศูนย์กลางการค้าไว้ในมือของเธอ นั่นมีประโยชน์ต่อเราอย่างไร? สิ่งที่ลูกอยากทำคือลูกต้องการทำลายผู้หญิงคนนั้นให้สิ้นซาก เมื่อนั้นเราจะไม่ต้องระแวงใด ๆ เมื่อเราขึ้นสู่อำนาจ!”แซ็คทำตัวหยิ่งพยอง เขาไม่สามารถบอกคนอื่นเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นได้ นั่นเขาจึงไม่มีทางที่จะโอ้อวดเกี่ยวกับตัวเอง แต่ตอนนี้เขาสามารถบอกพ่อของเขาได้ว่าเขาทำอะไร เขาก็รู้สึกมีความสุขมากหลังจากทำลายแมนดี้แล้ว ไม่เพียงแต่เขาจะได้รับตำแหน่งผู้จัดการโครงการของศูนย์การค้าอย่างเป็นทางการ ก็จะไม่มีใค
บ่ายวันนั้นฮาร์วีย์ขับรถปอร์เช่และไปรับแมนดี้หลังเลิกงานเหมือนที่สัญญาไว้ ในตอนแรกเขาไม่ต้องการให้เป็นจุดเด่น แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถขี่มอเตอร์ไซค์ไปงานต่าง ๆ เช่น การเจรจาต่อรองนี้ได้หลังจากที่เขารับแมนดี้ฮาร์วีย์ก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังแหล่งชุมชนนั่นซึ่งตั้งอยู่ในเขตชานเมืองตามระบบ GPSแมนดี้รู้สึกกังวลเล็กน้อย ในช่วงเวลานั้นใบหน้าอันงดงามของเธอดูซีดลงเล็กน้อย จากนั้นเธอก็พูดว่า “ฮาร์วีย์วันนี้ฉันคิดเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว ฉันรู้สึกว่ามันค่อนข้างแปลก คุณคิดว่ามันเป็นกับดักที่แซ็ควางไว้หรือเปล่า? จะมีอะไรเกิดขึ้นกับเราหลังจากนี้ไหม?”ฮาร์วีย์ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่ผมอยู่ที่นั่นด้วย จะไม่มีใครทำร้ายคุณได้ เว้นแต่พวกเขาจะฆ่าผมก่อน”ในขณะที่เขากำลังพูดแววตาของเขาดูเหมือนจะฆ่าคนให้ตาย เขาไม่ว่าอะไรแม้ว่าคนอื่นจะปฏิบัติต่อเขายังไง แต่ถ้าใครกล้าทำร้ายแมนดี้ล่ะก็เขาคงไม่ปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ อย่างแน่นอนเมื่อได้ยินฮาร์วีย์พูดแบบนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้แมนดี้ก็หน้าแดงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าตราบใดที่ฮาร์วีย์อยู่ที่นั่นด้วย เหตุการณ์ไม่คาดฝันเหล่าจะถูกกำจัดออกไปเช่นนั
“นี่ฮาร์วีย์ เขาเป็นสามีของฉัน” แมนดี้พูดอย่างใจเย็นหลังจากที่เธอพูดแบบนั้นทุกคนก็ส่งเสียงหัวเราะรวมทั้งฮาร์วีย์ด้วย มันเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าฮาร์วีย์นั้นค่อนข้างเป็นคนน่าอับอายในอยู่ในฐานะลูกเขยที่เหมือนขยะไร้ค่า ความน่าอายของเขาเป็นที่รู้จักของทุกคนในนิอัมมี่โควีย์หัวเราะเยาะ “นายดูค่อนข้างน่าเกลียดเหมือนสุนัขรับใช้ แล้วนายยังดูเหมือนคนแมงดาที่เกาะผู้หญิงกินอีกด้วย ทำไมนายถึงทำอะไรให้เรื่องราวมันยุ่งยากและอยากเป็นลูกเขยของตระกูลซิมเมอร์ล่ะ? นายจะทำให้พวกเราอับอายขายหน้าด้วยวิธีนี้ได้อย่างไร? ไอ้สวะ นายก็เป็นได้ขันทีแค่นั้น” โควีย์พูดด้วยความหมายที่แฝงอยู่“บราเทอร์แชด ผู้ชายคนนี้น่ารังเกียจมาก ผมอยากจัดการเขาไปซะ!”“ให้ฉันจัดการ ฉันกลัวว่านายจะแข็งแกร่งเกินไปและฆ่าเขาด้วยหมัดเดียว ฉันอ่อนโยนกว่ามาก ให้ฉันทำเอง!”“จะให้ความอ่อนโยนไปเพื่ออะไร! มันไม่ใช่ผู้หญิง ทำไมคุณต้องอ่อนโยนกับมัน? ปล่อยให้ผมจัดการกับตุ๊ดนี่จะดีกว่า”เมื่อเห็นว่าลูกน้องของเขาเกิดความโกลาหล โควีย์โบกมือให้พวกเขาหยุด “พอแล้ว พวกนายจะทำอะไร? นายไม่เห็นเหรอว่าเขาเป็นแค่ผู้ชายตัวเล็ก ๆ ค่อนข้างขี้อาย จ
ยี่สิบห้าล้านดอลลาร์!สีหน้าของแมนดี้เปลี่ยนไป แม้ว่าทรัพย์สินของตระกูลซิมเมอร์จะมีมูลค่ามากกว่าสามล้านดอลลาร์ แต่หากพวกเขามีเงินทุนหมุนเวียนมากขนาดนั้นพวกเขาก็ไม่ต้องการการลงทุนจาก ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ ยิ่งไปกว่านั้น ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ โอนเงินงวดแระเพียง 7.6 ล้านดอลลาร์ โควีย์จะมาเรียกร้องเงินยี่สิบห้าล้านดอลลาร์ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ซึ่งเหมือนการปล้นเลยจริง ๆ เขาไม่ต้องการแม้แต่จะเจรจา“ถ้าตระกูลซิมเมอร์มีเงินให้คุณมากขนาดนั้นเราก็คงไม่ต้องหาเงินลงทุนจากภายนอก มิสเตอร์แชดคุณต้องการอะไร? บอกเราตรง ๆ เราไม่เคยทำให้คุณขุ่นเคืองแล้วทำไมคุณถึงจงใจพุ่งเป้ามาที่เรา” แมนดี้บังคับตัวเองให้พูดอย่างใจเย็น“แล้วไง? ผมมาตามนัดเพราะผมจริงจังกับคุณ เข้าใจไหม? ทำไมผมต้องให้เหตุผลหรือข้ออ้าง? ตระกูลซิมเมอร์คือใคร? คุณต้องการให้ผมอธิบายอีกงั้นเหรอ” โควีย์ขมวดคิ้วและมองไปที่แมนดี้อย่างไม่พอใจแมนดี้หายใจเข้าลึก ๆ และบังคับตัวเองให้ตัวเองสงบสติอารมณ์แล้วพูดต่อ “มิสเตอร์แชด ฉันมาที่นี่ด้วยความตั้งใจจริงดังนั้นฉันหวังว่าคุณจะทำเช่นเดียวกัน”“ก็ดี ผมชอบคนตรงไปตรงมา” โควีย์พยักหน้าช้า ๆ “เมื่อคุณบอก
ฮาร์วีย์ยิ้มอย่างเย็นชาจากนั้นเขาก็หยิบขวดเบียร์ขึ้นมาจากโต๊ะแล้วตีเข้าที่หัวอันธพาลนั่นชายคนนั้นตะลึงจนทรุดตัวลงกับพื้นไม่สามารถยืนต่อไปได้“ไอ้นี่มัน…”“โอ้ย! ดูเหมือนว่าไอ้ไร้ประโยชน์นี่เป็นคนที่โหดเหี้ยมจริง ๆ!”“มันเป็นไปได้ยังไงกัน? มันไม่ใช่แค่ขยะไร้ค่าหรอกเหรอ”“ไม่จำเป็นต้องไปกลัวมัน! มันคงจำมาจากโทรทัศน์ ก็แค่โชคดี…”ลูกน้องของโควีย์ทุกคนเริมก่นด่า แต่ไม่มีใครกล้าที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า พวกเขาไม่คิดว่าลูกเขยที่ไร้ประโยชน์นี้จะไม่กล้าที่จะต่อสู้กับพวกเขา สิ่งนี้แตกต่างจากที่พวกเขาเคยได้ยินมามากแมนดี้ก็ตะลึงเช่นกัน แม้ว่าฮาร์วีย์จะเอาชนะดอนมาก่อน แต่ในเวลานั้นเธอก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับมันมากนัก อย่างไรก็ตามพวกอันธพาลเหล่านี้ต่างออกไป พวกเขาคลุกคลีอยู่ในสังคมแก๊งอันธพาลและทุกคนมีความเชี่ยวชาญในทักษะการต่อสู้ เธอไม่คิดเลยว่าฮาร์วีย์จะสามารถเอาชนะหนึ่งในนั้นได้แมนดี้รู้สึกไม่สบายใจ เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าสามีที่ไร้ประโยชน์ของเธอมีด้านที่แข็งแกร่งเช่นนี้“ฮาร์วีย์ แกรู้หรือเปล่าว่านี่คือถิ่นของฉัน แกกำลังทำร้ายคนของฉันในถิ่นของฉัน แกอยากตายหรือไง?” โควีย์กัดฟันและคำราม ดูเห
“เพื่อนของผม ส่งมันมาให้ผม” ฮาร์วีย์อธิบายอย่างคลุมเครือจากนั้นพูดต่อว่า “ยังไงเราก็จะได้รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้แล้วเราก็จะออกไปอย่างปลอดภัย อย่างอื่นมันไม่สำคัญ โอเคไหม?”แมนดี้เม้มริมฝีปากแน่น แต่ไม่พูดอะไร แม้ว่าวิดีโอนั่นจะทำให้เธอสับสน แต่เธอก็แค่อยากจะออกไปเพราะเธอกลัวที่นี่สีหน้าของโควีย์เปลี่ยนไปและหลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “ฉันจะตกลงกับแกก็ได้ แต่ฉันต้องการยืนยันความจริงของเรื่องนี้ก่อนที่จะปล่อยแกไปฮาร์วีย์ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ ฉันจะยังอยู่ แต่แกต้องปล่อยภรรยาของฉันไปก่อน ฉันจะบอกคุณหลังจากที่เธอกลับบ้านอย่างปลอดภัย”โควีย์ดูไม่พอใจและจ้องไปที่ฮาร์วีย์แต่ไม่พูดอะไรฮาร์วีย์พูดอย่างไม่ทุกข์ร้อน “มิสเตอร์แชด ฉันยังอยู่ที่นี่ นายจะยังกังวลว่าฉันจะไม่บอกนายอีกหรือไง? นอกจากนี้นายรอจนกว่านายสามารถยืนยันความจริงก่อนที่จะบอกฉันว่าใครอยู่เบื้องหลังก็ได้ แต่ให้ภรรยาของฉันไปก่อนเพื่อที่ฉันจะได้สบายใจ ไม่อย่างนั้นฉันไม่เชื่อนาย”โควีย์เงียบแล้วหลังจากนั้นก็หัวเราะ “ตกลง ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันจะให้พี่สะใภ้ออกไปก่อน!”แม้ว่าโควีย์จะเคยมืดมนจากความคิดชั่วร้ายมาก่อนและวิธ
ไทสันเดินไปหาฮาร์วีย์ด้วยความเคารพพร้อมโค้งคำนับและพูดว่า “ท่านครับ จะให้ทำอย่างไรกับผู้ชายคนนี้ดีครับ?”โควีย์หัวเราะกับภาพที่เห็น “ไทสัน นายบ้าไปแล้วเหรอ? นายเรียกไอ้ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์นี่ว่าท่านงั้นเหรอ? เราทั้งคู่มีสถานะเดียวกันในเมืองนี้ นายไม่รู้สึกอายเหรอ? นายรู้ไหมว่าผู้ชายคนนี้เป็นแค่คนไร้ประโยชน์?”ไทสันเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยจากนั้นก็หัวเราะเยาะ “โควีย์ แกยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? ดูเหมือนว่าแกจะโง่มากทีเดียว”โควีย์หรี่ตา แม้ว่าไทสันจะมาที่นี่พร้อมกับลูกน้องมากมาย แต่เขาจะกล้าทำอะไร? ถ้าเขาทำเขาคงทำไปนานแล้ว ทำไมต้องรอจนถึงตอนนี้?“ไทสัน แกอย่าทำให้ฉันตกใจ ฉันมีคนคอยหนุนหลัง แต่ก็เหมือนกับว่านายจะยังไม่รู้เรื่องนี้! ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับฉันในวันนี้ แกก็จะมีจุดจบไม่ดี แกกล้าเข้ามายุ่งเรื่องของฉันหรือไง?” โวีย์หยิ่งพยองไทสันหัวเราะและไม่อธิบายอะไร มีเหตุผลที่เมื่อก่อนเขาไม่กล้าแตะต้องโควีย์ โควีย์มีคนหนุนหลังที่ทรงอำนาจและถ้ามันทำร้ายเขา เขาจะต้องเจอกับปัญหาร้ายแรงอย่างไรก็ตามตอนนี้มันแตกต่างออกไป ฮาร์วีย์พาเขาไปกำจัดเลียมเมื่อวานนี้ ดังนั้นจึงไม่น่ามีปัญหาในการกำจัดโควีย์ด้วย
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข