หลังจากนั้น ฮาร์วีย์ ยอร์กก็ขอคนงานเพิ่มเพื่อเร่งกระบวนการปรับปรุงใหม่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ มีเพียงส่วนเล็ก ๆ ของวิลล่าเท่านั้นที่ยังต้องปรับปรุง หากจัดการอย่างง่าย ๆ เพียงสองสามวันก็คงเสร็จแต่ราเชลยืนกรานที่จะติดตั้งกระจกและประตูกันกระสุนในกรณีที่มีการบุกรุกเข้ามาอีกหลังจากได้ยินเรื่องทั้งหมดนี้ ฮาร์วีย์ก็ถึงกับพูดไม่ออกเลยจริง ๆวิลล่าหมายเลข 1 ได้รับความเสียหายอย่างหนักในทันทีที่ฮาร์วีย์เริ่มเข้ามาอยู่อาศัย ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมามันก็พังไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วนวิลล่าจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยวัสดุคุณภาพสูง มันคงจะน่ารำคาญไม่น้อยหากต้องมานั่งปรับปรุงใหม่ทุกครั้งที่ได้รับความเสียหายและเนื่องจากชินดัน เวย์ออกคำสั่งล่าค่าหัวฮาร์วีย์ เขาจึงอาจไม่สามารถมีชีวิตที่สุขสบายได้อีกต่อไปฮาร์วีย์อยากที่จะท้าทายวิชาเคนโด้ของชินดัน เวย์ในมอร์ดูสักหน่อยแต่หลังจากพิจารณาแล้วว่าการฆ่าไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาไปเสียทุกเรื่อง ฮาร์วีย์ก็ยั้งตัวเองไว้ฮาร์วีย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากจัดการกับเรื่องต่าง ๆ ในมือ หลังจากอาบน้ำเสร็จ และเปลี่ยนมาใส่ชุดนอนก็มีคนมาเคาะประตูห้องของเขาฮาร์วีย์ตัว
ฮาร์วีย์ ยอร์กถึงกับพูดไม่ออก ใครต้องการการดูแลพิเศษที่แม้แต่พี่ชายตัวยงบนลีดเดอร์บอร์ดก็ไม่ได้รับจากเธอกันล่ะ?ดูเหมือนว่ามิวะ ฟุจิฮาระจะรู้สึกได้ถึงความเคอะเขินของฮาร์วีย์ เธอยังคงโยกย้ายร่างกายของเธอต่อไปพร้อมกับหัวเราะอย่างเอียงอาย“โถ่ คุณยอร์ก คุณก็น่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรนี่นา ในขณะที่ผู้ชายกำลังเสพสุข ผู้หญิงมักเป็นฝ่ายที่ต้องยอมรับความทุกข์ระทมเอาไว้เอง"คุณกลัวงั้นเหรอ? หรืออาจเพราะ…“คุณไม่มีน้ำยา?!” มิวะพูดด้วยน้ำเสียงยั่วยุเห็นได้ชัดว่าเธอรู้ว่าบางครั้งการยั่วยุอาจได้ผลดีกว่าการล่อลวงผู้ชายบางคนมักอดไม่ได้ที่จะสอนบทเรียนให้สาว ๆ หลังจากถูกยั่วยุเพื่อแสดงให้เห็นว่าใครที่อยู่เหนือกว่า!ฮาร์วีย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วขมวดคิ้ว“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่คุณลืมอะไรไปหรือเปล่า? ผมเป็นผู้คุ้มกันของอีวอนน์ ซาเวียร์“ผมมาที่นี่ตามหน้าที่ของผม ก็แค่นั้น”มิวะหัวเราะเบา ๆ“ผู้คุ้มกัน? ฉันไม่คิดว่างานของคุณจะมีความจำเป็นกับเธออีกต่อไปแล้ว“ก่อนที่ฉันจะไปอาบน้ำ ฉันเห็นแกรี่ ดันเคนมาเคาะประตู“ยามดึกดื่นที่ยากจะหลับได้ลง ชายและหญิงย่อมเกิดความหลงใหลในกันและกันเป็นธรรมดา คุณ
ฮาร์วีย์ ยอร์กรู้สึกอายที่จะอธิบายว่าเขาบุกเข้าไปในห้องเพราะเขาเป็นห่วงอีวอนน์ ซาเวียร์จริง ๆ เขาทำได้เพียงยิ้มอย่างเคอะเขินออกมาเท่านั้น“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมจะไปก่อน”อีวอนน์ส่ายหน้า“ฉันว่าจะบอกคุณพรุ่งนี้ ซีอีโอยอร์ก แต่ไหน ๆ ตอนนี้คุณอยู่ที่นี่แล้ว ฉันว่าฉันน่าจะบอกคุณตอนนี้เลย”"เรื่องอะไร?"ฮาร์วีย์รู้ว่าอีวอนน์จะไม่พูดอะไรที่ไม่สำคัญ ดังนั้นในตอนนี้ความสนใจของเขาจึงพุ่งทะยานถึงขีดสุดอีวอนน์หยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋าถือของเธอและส่งมันให้ฮาร์วีย์“นี่คือที่ดินเชิงพาณิชย์บริเวณหาดมอร์ดู ก่อนหน้านี้มันเคยอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลใหญ่จากฮ่องกง“แต่เนื่องจากที่ดินบริเวณนี้ไม่มีการพัฒนามาสามสิบปีแล้ว ที่ดินจึงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลอีกครั้ง“รัฐบาลของมอร์ดูตัดสินใจจะเปิดประมูลที่ดิน“ซึ่งจะมีขึ้นที่เพอร์ดูในวันพรุ่งนี้“มูลค่าของที่ดินนั้นเรียกได้ว่ามีมูลค่ามหาศาล หากเราสามารถรักษาความปลอดภัยและสร้างศูนย์กลางการค้าที่นั่นได้ มันจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งการขยายตัวของสกาย คอร์ปอเรชั่นในมอร์ดูและอาจรวมไปถึงกังนัมด้วย“นั่นคือเหตุผลที่ฉันแนะนำให้คุณได้ครอบครองที่ดินผืนนี้
หลังจากทั้งสองคุยกันเสร็จ บรรยากาศก็เปลี่ยนไปในทางพิลึกพิลั่นทั้งสองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะพูดอะไรกันต่อไปดีอีวอนน์ ซาเวียร์เริ่มกระพริบตาสองสามหน“ซีอีโอยอร์ก คุณมาถีบประตูห้องฉันอย่างนี้ แล้วฉันจะนอนได้ยังไง?”ฮาร์วีย์ครุ่นคิดแล้วตอบว่า “เอาแบบนี้ดีไหม? คุณไปนอนห้องผม แล้วผมจะนอนห้องคุณแทน“ไม่ใช่แค่ปลอดภัยกว่าเท่านั้น แต่การสลับห้องของเรา จะทำให้คนอื่น ๆ สับสนด้วย แม้ว่าคืนนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น ไม่ว่าอย่างไรคุณก็จะปลอดภัยอย่างที่สุด”ฮาร์วีย์ ยอร์กเก็บข้าวของของอีวอนน์ให้เธอ ก่อนที่ทั้งสองจะมุ่งหน้าไปยังห้องของฮาร์วีย์"หืม?"อีวอนน์ยืนตัวแข็งอยู่ในห้องของฮาร์วีย์ฮาร์วีย์รู้สึกสับสน“มีอะไรเหรอ?”"ไม่มีอะไรหรอก!"อีวอนน์งุนงง เธอได้กลิ่นหอมบางอย่าง แต่มันไม่ใช่กลิ่นของผู้ชายบ้านหลังนี้ยังใหม่ มีกลิ่นหอมแบบนี้ได้ยังไง?หลังจากเห็นสีหน้าสับสนของอีวอนน์ ฮาร์วีย์ก็หัวเราะออกมา"อะไร? คุณคิดว่าผมซ่อนผู้หญิงไว้ที่นี่งั้นหรอ?”อีวอนน์ขมวดคิ้ว“ซีอีโอยอร์ก ถึงคุณจะทำอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันอยู่ดี” อีวอนน์กล่าวฮาร์วีย์พูดไม่ออก เขานึกอยากจะถามว่าอีวอนน์เธออยากจะมีควา
“บอกมาตามตรงเลยดีกว่า คุณจงใจอวดวิลล่าหมายเลข 1 ของคุณให้มิวะ ฟูจิฮาระเห็นล่ะสิท่า เพราะคุณต้องการให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ก็มีชื่อเสียงมากมายยอมพลีกายให้คุณ ใช่ไหม?”“แถมคุณยังบอกว่าจะขึ้นบัญชีดำเธออีก! คุณอยากให้เธอเข้าหาคุณและมาพูดคุยกับคุณใช่หรือเปล่า!”อีวอนน์หรี่ตาและเดินไปรอบ ๆ ห้องราวกับว่าเธอกำลังค้นหาหลักฐานของอาชญากรรมฮาร์วีย์รู้สึกว่าสิ่งที่เธอทำนั้นไร้สาระสิ้นดี ถ้าแมนดี้มาและพยายามตรวจสอบหา "หลักฐานทางคดี" ของเขาก็ดูสมเหตุสมผลอยู่ แต่อีวอนน์กำลังทำอะไรอยู่กันแน่?เขาถอนหายใจและพูดทันทีว่า “อีวอนน์ คุณก็รู้จักผมดี ผมเกลียดคนต่างชาติที่สุด แล้วผมจะสนใจมิวะ ฟูจิฮาระได้ยังไง?”"ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ระหว่างเราไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน”“หยุดทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ได้แล้ว”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าอีวอนน์รู้อยู่เต็มอกในความจริงที่ว่าเขาจะไม่มีวันคบหากับมิวะ ฟูจิฮาระอีวอนน์ค่อนข้างหึงหวงเพราะมิวะ แต่ถึงอย่างนั้นคน ๆ นั้นกลับไม่ได้สังเกตเห็นความหึงหวงของเธอเลยดังนั้นความขุ่นข้องหมองใจระหว่างอีวอนน์และฮาร์วีย์ก็ยิ่งน่าอึดอัดมากขึ้นไปอีกอีวอนน์ย่นจมูกด้วยความไม่พอใจ “ซีอีโอยอร์ก
เช้าวันต่อมา เวลาสิบโมงตรงโรงประมูลเพอร์ดูเป็นองค์กรประมูลกึ่งทางการ ว่ากันว่านอกจากเจ้าหน้าที่รัฐของมอร์ดูแล้ว ตระกูลชั้นนำทั้งหมดในมอร์ดูก็มีส่วนได้ส่วนเสียกับกิจการนี้ด้วยพูดง่าย ๆ ก็คือ โรงประมูลแห่งนี้เป็นตัวแทนผลกำไรของชนชั้นสูงทั้งหมดของมอร์ดูดังนั้นจึงไม่เคยมีใครกล้าสร้างปัญหาในโรงประมูลแห่งนี้แม้แต่ผู้นำมาเฟียที่มีอำนาจจากโลกใต้ดินเมื่ออยู่ที่นี่แล้วก็ยังต้องทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตน หากมีความขัดแย้งใดเกิดขึ้น พวกเขาจะแก้ไขมันอย่างรวดเร็วโดยไม่ทำให้เรื่องวุ่นวายไปใหญ่โตหากพวกเขาทำตัวเย่อหยิ่งและโดดเด่นมากเกินไป พวกเขาจะไม่อาจรับรองความปลอดภัยของตัวเองได้อีวอนน์มาถึงโรงประมูลในตอนเช้าตรู่ เธอนั่งที่มุมหนึ่งแล้วรออย่างเงียบ ๆสำหรับการประมูลครั้งนี้ฮาร์วีย์ตั้งใจที่จะได้ที่ดินในลู่เจียจุ่ยไว้ในครอบครองนอกเหนือจากการใช้ที่ดินเพื่อการขยายธุรกิจให้กับสกาย คอร์ปอเรชั่นในมอร์ดูแล้ว เหตุผลพื้นฐานอีกประการหนึ่งก็คือการประมูลครั้งนี้อาจถือเป็นการเผชิญหน้ากับนายน้อยเฮกเตอร์ ทอมป์สันไปในตัวฮาร์วีย์อยากที่จะเห็นเสน่ห์และความสามารถของนายน้อยทอมป์สันอย่างที่สุด เขาเป็นถึงหนึ่งในสี
การเตะประตูเข้ามาในห้องประมูล การขัดจังหวะการประมูล และการนั่งลงที่แถวหน้า การกระทำทั้งหมดของเขาบ่งบอกถึงความรู้สึกยิ่งใหญ่และเย่อหยิ่งอย่างไรก็ตาม ไม่มีใครกล้าต่อว่าเขาเลย หลายคนยังลุกขึ้นยืนและทักทายเขาด้วยความเคารพแม้แต่ผู้จัดงานประมูลสาวสวยที่อยู่บนเวทีก็โค้งคำนับด้วยความเคารพ รอยยิ้มที่ประจบสอพลอปรากฏบนใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของเธออีวอนน์หรี่ตาลงเมื่อเห็นดังนั้น แต่เธอยังคงเฉยเมยอย่างไรก็ตาม มีสุภาษิตโบราณกล่าวไว้ว่า “ต้นไม้จะชอบความสงบในขณะที่ลมจะไม่ยอมสงบ” อีวอนน์ไม่ต้องการเปิดเผยตัวเอง แต่ดูเหมือนเฮกเตอร์ ทอมป์สันจะเห็นอีวอนน์ก่อนแล้วสายตาของเขาจับจ้องไปที่อีวอนน์ เขายิ้มและโบกมือให้เธอ “คุณค่อนข้างเจ้าเล่ห์เลยนะอีวอนน์ ผมได้ยินมาว่าวันนี้คุณมาที่นี่เพื่อที่ดินในลู่เจียจุ่ย“คุณต้องการจะต่อต้านผมขนาดนั้นเลยเหรอ?”เฮกเตอร์ได้อ่านเอกสารการประมูลของอีวอนน์แล้วแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่รู้ว่าอีวอนน์ต้องการจะซื้ออะไรประโยคง่าย ๆ นั้นเพียงพอที่จะแสดงถึงความสามารถและอำนาจของเฮกเตอร์หลายคนที่เห็นสีหน้าที่กึ่งยิ้มของเฮกเตอร์ต่างพากันตากระตุกผลของการยั่วยุนายน้อยจากโวซิ
อาจกล่าวได้ว่าสิ่งที่มีค่าที่สุดเกี่ยวกับไข่มุกเก้ามังกรคือลายดอกยางที่สลักไว้บนพื้นผิวของมันมันเป็นสิ่งที่หายากมากบนโลกนี้ และการจะหาไข่มุกเม็ดที่สองได้ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย“31.4 ล้านดอลลาร์”เฮกเตอร์ยกแผ่นป้ายของเขาอย่างลวก ๆ แล้วเสนอราคาราคา 31.4 ล้านดอลลาร์ถือว่าไม่แพงเกินไปสำหรับเขา ท้ายที่สุดแล้วโลกนี้ก็มีไข่มุกเรืองแสงตามธรรมชาติไม่มากนักและเดิมทีมันก็เป็นสมบัติที่ล้ำค่าอย่างไรก็ตาม มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งทุกคนรู้จักตัวตนของเฮกเตอร์หมดแล้ว เมื่อเขาเสนอราคาไปจึงไม่มีใครกล้าประมูลกับเขาการกระทำของเขาแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะครอบครองไข่มุกเก้ามังกรไม่ว่าใครก็ตามที่สนใจไข่มุกเก้ามังกรก็ไม่กล้าที่จะทำให้นายน้อยเฮกเตอร์ ธอมป์สันขุ่นเคืองเฮกเตอร์เองก็คิดว่าจะไม่มีใครกล้าเสนอราคามากกว่าราคาของเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงโยนแผ่นป้ายในมือลงบนโต๊ะหลังจากที่เสนอราคาไป“31.4 ล้านดอลลาร์! มีคนเสนอราคา 31.4 ล้านดอลลาร์!“นับครั้งที่หนึ่ง!“ครั้งที่สอง!“ครั้งที่สาม…”แม้ว่าผู้จัดงานประมูลจะแจ้งราคาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่ลึก ๆ แล้วเธอรู้สึกเบื่อเ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข