สีหน้าของลูกคัส ฌองมืดมน เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าฮาร์วีย์ ยอร์กจะรู้เรื่องของเขาจากฝีมือการยิงปืนของเมซี่ ฮาเวิร์ดไม่ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์อย่างมากกับชาวเกาะหรือมีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับประเทศ J...นี่เป็นความลับของลูคัสเพราะสิบตระกูลแรกเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของแวดวงสูงสุดของประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่คนในแวดวงนี้มักทำตัวไร้ยางอาย อย่างไรก็ตาม บางอย่างสามารถทำได้แต่พูดถึงไม่ได้เช่น การสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังของต่างประเทศเมื่อสิ่งต่าง ๆ ถูกเปิดเผย ผู้คนจากหน่วยมังกรลับจะเข้ามาในทันที รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่สามารถทนต่อเขาได้อีกต่อไปด้วยแม้แต่ตระกูลฌองเองก็ไม่เต็มใจให้เรื่องอื้อฉาวดังกล่าวถูกเปิดเผยฮาร์วีย์เมินเมซี่ เขามองไปที่ลูคัสซึ่งเพิ่งโดนเขาปล่อยตัวจากการบีบคอและพูดอย่างเฉยเมยว่า “เจ้าชายฌอง คุณรู้ไหมว่าทำไมผมถึงปล่อยคุณ?“เพราะตอนนี้ผมไม่ต้องการคุณเป็นตัวประกันแล้ว“สำหรับผม พวกคุณทุกคนก็ไม่ต่างอะไรกับแมวและสุนัขจรจัดข้างถนน“ดังนั้น ผมจึงขอแนะนำให้คุณอย่าตั้งความหวังกับสถานการณ์ในตอนนี้“คุกเข่าและชี้แจงเรื่องของคุณซะ ใครจะไปรู้? ผมอาจจะปล
เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์ ยอร์กตบชายในชุดสูทด้วยหลังมือและทำให้เขากระเด็นออกไปทันทีเพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!เสียงร้องดังขึ้น ผู้ชายในชุดสูททั้งหมดเป็นเหมือนปืนใหญ่ที่ถูกฮาร์วีย์ส่งลอยออกไปเมื่อตกลงมาบางคนที่โชคดีอาจนอนหมดสติอยู่กับที แต่บางคนที่โชคร้ายจะคอหักไปสามร้อยหกสิบองศามีชายในชุดสูทหลายสิบคน แต่ก็ไม่มีใครสามารถหยุดฮาร์วีย์ได้ความได้เปรียบที่ลูคัส ฌองคิดว่าเขามีในตอนแรกนั้นไร้ประโยชน์กับฮาร์วีย์สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้คนจากตระกูลวอล์คเกอร์ได้ออกไปเพราะพวกเขามีบางสิ่งที่ต้องสะสาง ไม่อย่างนั้นเขาอาจพยายามขอความช่วยเหลือจากพวกเขาได้ในขณะนี้ ลูคัสอยู่ในสถานการณ์ที่เขาไม่สามารถขอความช่วยเหลือใครได้เลยเมซี่ ฮาเวิร์ดอดทนต่อความเจ็บปวดและรีบไปหาลูคัส เธอพูดเบา ๆ ว่า “เจ้าชาย รีบออกไปเร็ว ฉันจะจัดการที่เหลือเอง!”ลูคัสจ้องฮาร์วีย์อย่างเคร่งขรึมในขณะที่เปลือกตาของเขากระตุกไม่หยุดแม้ว่าเขาจะนับถือฮาร์วีย์ เขาไม่คิดเลยว่าฮาร์วีย์จะอยู่ในระดับเทพเจ้าแห่งสงครามจริง ๆผู้เชี่ยวชาญในระดับนั้นแทบจะอยู่ยงคงกระพันในโลกภายนอกเว้นแต่ว่าเขาจะสามารถเชิญเทพเจ้าแห่งสงครามของกองทหารมาได้ เขาก็จะไม่
ฮาร์วีย์ ยอร์กยิ้มและพูดอย่างเฉยเมยหลังจากที่ดูสีหน้าที่บูดบึ้งของลูคัส ฌองว่า “ผมเชื่อแล้วว่าคุณไม่กลัวตายจริง ๆ ผมเองก็คิดว่าการทรมานคุณจะไม่มีผลอะไร“แต่ผมรู้ด้วยว่าคุณไม่เต็มใจที่จะตายเลย”หลังจากที่ได้ยินดังนั้นตาของลูคัสก็กระตุก สีหน้าของเขาหวาดกลัวเหมือนดั่งที่ฮาร์วีย์พูด เขาไม่เต็มใจที่จะตายแต่อย่างใดเขาเป็นหนึ่งในหกเจ้าชายแห่งมอร์ดู ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีเส้นสายมากมายและไพ่ที่ซ่อนอยู่อีกมากมายที่เขาสามารถใช้ได้เขาเชื่ออย่างแท้จริงว่าเขาจะสามารถเอาชนะฮาร์วีย์ได้หากเขาได้มีโอกาสตั้งตัว ในตอนนี้ผู้ชนะยังไม่ถูกกำหนดอย่างไรก็ตาม วันนี้เขามาตามไคท์ วอล์คเกอร์ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พาคนมาด้วยมากนักนอกจากนี้ เขาได้จัดเตรียมคนส่วนใหญ่ไว้ที่สาขาหลงเหมิน ในตอนแรกเขาวางแผนที่จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้จัสติน วอล์คเกอร์ได้รับตำแหน่งหัวหน้าสาขาในวันนี้ทั้งหมดนี้ยังนำไปสู่การขาดการป้องกันในด้านของเขา ประกอบกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของฮาร์วีย์ และข้อเท็จจริงที่ว่าแองเจลีน่า จอห์นไม่สามารถจัดการกับเขาได้ทำให้ลูคัสรู้สึกสับสนอยู่พักหนึ่งเขาแพ้ฮาร์วีย์เพราะความบังเอิญทั้งหมดที่เกิดข
“เจ้าชายฌอง ผมต้องยอมรับจริง ๆ ว่าโชคของคุณค่อนข้างดี”ฮาร์วีย์ ยอร์กหยิบปืนพกขึ้นมาและหัวเราะเบา ๆ จากนั้นเขาก็ยิงอีกนัดที่ขมับด้วยมือขวาว่างเปล่าอย่างไรก็ตาม สีหน้าของลูคัส ฌองเปลี่ยนไปอีกครั้งฮาร์วีย์พ่นใส่ปืนพก จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดอย่างเฉยเมยว่า “ดูเหมือนว่าโชคของผมก็ดีมากเช่นกัน”รูม่านตาของลูคัสหดตัวเมื่อฮาร์วีย์ส่งปืนพกให้เขาในครั้งนี้มือที่เขาใช้หยิบปืนพกอีกครั้งสั่นเล็กน้อยคนที่คิดค้นปืนลูกโม่ในตอนนั้นอาจไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีใครบางคนใช้มันเพื่อเล่นเกมที่น่ากลัวเช่นนี้เกมดังกล่าวเป็นการทดสอบความมั่นใจในตนเอง ความอดทน และลักษณะนิสัยของบุคคลอย่างแท้จริงมีเพียงคนที่กล้าหาญเท่านั้นที่จะกล้าเหนี่ยวไกอย่างเฉยเมยอย่างน้อย จากมุมมองของลูคัส เขาได้แพ้ฮาร์วีย์ในเรื่องนี้อย่างแน่นอนฮาร์วีย์สามารถกดยิงได้อย่างง่ายดาย ยิ่งกว่านั้นเขายังกล้าเหนี่ยวไกถึงสองครั้ง อย่างที่ลูคัสไม่สามารถทำได้เขาไม่กล้าทำแบบนั้นแน่นอน นี่อาจเป็นความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างเขากับฮาร์วีย์ความกล้าหาญและความเยือกเย็นที่ระบุตัวตนของลูคัสกลายเป็นเรื่องไร้ความหมายทันทีที่ต้องเผชิญกับความ
แกร๊ก!เสียงปืนนัดสุดท้ายดังขึ้น ทว่ามันยังคงว่างเปล่า ฮาร์วีย์ ยอร์กยังคงไม่ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามมือขวาของลูคัส ฌองสั่นอย่างรุนแรงและกล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขากระตุก“แก!“กล้าดียังไงถึงหลอกฉัน!“ไอ้สารเลว!“แกกำลังล้อฉันเล่นเหรอ!”ลูคัสโกรธมากในขณะนี้ เขาเข้าใจทันทีว่าในปืนไม่มีกระสุนอยู่ตั้งแต่แรกนี่เป็นเกมที่ฮาร์วีย์เป็นคนสร้างตั้งแต่ต้นจนจบ เกมที่ทำให้เขามองเห็นความไร้ความสามารถและความกลัวได้อย่างชัดเจนฮาร์วีย์ดูเฉยเมย จากนั้นเขาก็ยื่นมือขวาออกมาจับคอของลูคัสด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า“เจ้าชายฌอง แย่หน่อยนะ“ไม่ว่าคุณจะเหนี่ยวไกปืนครั้งสุดท้ายใส่ตัวเองหรือคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตา ผมก็จะไม่ฆ่าคุณ“แต่คุณทำให้ผมผิดหวังมากเกินไป“คุณบอกผมไว้อย่างชัดเจนเองว่าคนอย่างคุณไม่สนใจกฎของเกม“ถ้าผมไม่ฆ่าคุณในวันนี้ สิ่งที่รอผมในวันพรุ่งนี้ก็คือการล้างแค้นที่นองเลือดของคุณ“เพราะฉะนั้นผมควรจะฆ่าคุณเดี๋ยวนี้ เจ้าชายฌอง“นับจากวันนี้เป็นต้นไปจะมีเจ้าชายแห่งมอร์ดูเพียงห้าคนในโลก”แกร๊ก!ฮาร์วีย์ฟาดมือขวาอย่างแรงหลังจากที่เขาพูดจบสีหน้าที่เหลือเชื่อปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลูคัส
ด้านหลังประตูมีพื้นที่เปิดโล่งกว้างขวางและมีวงแหวนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางวงแหวนนั้นล้อมรอบด้วยที่นั่ง ทำให้ที่นี่ดูเหมือนโรงยิมขนาดเล็กมีคนหลายร้อยคนจากทั้งสองฝ่ายรวมเป็นหนึ่งพันคนที่นี่และทำให้ผู้คนต่างเกะกะมาก บวกกับที่ทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรูกันยังทำให้สถานที่นี้เหมือนถังเชื้อเพลิงที่อาจระเบิดได้ทุกเมื่อในขณะนี้มีคราบเลือดจำนวนมากอยู่ตรงกลางของวงแหวน ทั้งสองฝ่ายน่าจะต่อสู้กันไปหลายรอบแล้วตอนนี้คนสองคนกำลังต่อสู้กันอยู่บนเวทีฝ่ายหนึ่งใช้ดาบสั้นในขณะที่อีกฝ่ายใช้ดาบยาว ประกายไฟปะทุขึ้นเมื่อดาบของทั้งสองกระทบกันฮาร์วีย์หรี่ตาและเห็นว่าไทสัน วูดส์คือคนที่อยู่ในวงราชาแห่งท้องถนนแห่งเซาท์ไลท์ ผู้ซึ่งมักจะเดินโซเซอยู่เสมอ กำลังสูบบุหรี่และแกว่งดาบของเขาในเวลาเดียวกันวิชาดาบของเขาเป็นแก่นแท้ของค่ายศัสตราวุธที่ไม่มีทักษะพิเศษใด ๆ มีเพียงใช้ความเร็วคู่ต่อสู้ของเขาก็เป็นปรมาจารย์เช่นกัน อย่างไรก็ตาม เขากลับคอยถอยห่างออกไปในขณะที่เผชิญหน้ากับไทสันการต่อสู้เช่นนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคนในฝูงชนทั้งสองด้านของวงแหวนมีเสาตั้งอยู่สูงสองอันราเชล ฮาร์ดี้และไอเดน บาวเออร์นั่งอยู่ในหนึ
ทันทีที่เขานึกถึงเรื่องนี้ ฮาร์วีย์ ยอร์กก็เข้าใจทันทีว่าคนของเขาคงจะทำความสะอาดในคฤหาสน์วอล์คเกอร์อย่างมีประสิทธิภาพดังนั้นในขณะนี้หลายคนจึงยังไม่ทราบว่าลูคัส ฌองเสียชีวิตไปแล้วแองเจลีน่า จอห์นก็สังเกตเห็นเขาเช่นกัน เธอเดินมาด้วยขายาว ๆ ของเธอและพูดกึ่งยิ้มว่า “นายน้อยยอร์กเหรอ?“ฉันได้ยินว่าคุณไปที่คฤหาสน์วอล์คเกอร์และเอะอะโวยวายเมื่อเช้านี้และโดนเจ้าชายฌองห้ามเอาไว้ ฉันไม่คิดว่าคุณจะยังมีชีวิตอยู่อีก ยินดีด้วย”แองเจลิน่าจ้องหน้าฮาร์วีย์อย่างระมัดระวังเมื่อเธอพูดแบบนั้นพลางพยายามค้นหาว่ามีอะไรแปลก ๆ กับเขาหรือไม่เธอรู้ว่ามันยากที่จะจัดการกับฮาร์วีย์หลังจากที่เผชิญหน้ากับเขามาแล้วหลายครั้งลูคัสควรที่จะฆ่าเขาในวันนี้ อย่างไรก็ตาม เขากลับไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เลย สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามมากมายฮาร์วีย์มองดูผู้หญิงคนนี้ด้วยความสนใจอย่างมากเช้านี้เขารีบมากและไม่มีเวลาได้สนใจเธออย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้ เธอสามารถมาอยู่ที่นี่ได้และสร้างปัญหาอีกครั้งฮาร์วีย์ทำท่าทางเล่นมือถือด้วยนิ้วของเขา จู่ ๆ ใบหน้าของแองเจลิน่าก็เปลี่ยนไปอย่างมากและเธอก
ฮาร์วีย์ ยอร์กมองอย่างเย็นชาไปที่แองเจลิน่า จอห์นและเพื่อนสาวของเธอ“เห่าเสร็จแล้วหรือยัง?”“ถ้าเสร็จแล้วก็ถอยไป”ไคท์ วอล์คเกอร์ ไม่รู้ว่าฮาร์วีย์ ยอร์กกำลังจะทำอะไร แต่เธอไม่ได้หยุดเขาแองเจลิน่ามองฮาร์วีย์ด้วยสายตาแปลก ๆ แล้วอุทานเบา ๆ ว่า “หยุดมาวุ่นวายได้แล้ว คุณยอร์ก นี่ไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะเข้ามายุ่งย่ามได้นะ“นายรู้ความลับของฉันแล้วมันทำไมล่ะ?“ความลับนี้ทำอะไรจัสติน วอล์กเกอร์ไม่ได้ด้วยซ้ำ!“ถ้าคิดที่จะขวางการขึ้นสู่อำนาจของเขาต้องขอบอกเลยว่าคุณน่ะมันฝันกลางวัน!แองเจลิน่ารู้จักจัสตินดีเกินไปจัสตินตั้งใจแน่วแน่ที่จะเข้ารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าสาขาคนใหม่นั่นคือเหตุผลที่เขาจะได้รับสิ่งที่เขาต้องการในวันนั้นอย่างแน่นอน ถ้ามีใครมากขวางไม่ให้เขาทำเช่นนั้น เขาก็จะข้ามศพคนพวกนั้นไป ฮาร์วีย์มุ่งความสนใจไปที่ทิศทางของจัสติน ชายผู้ซึ่งฆ่าภรรยาของตัวเองเพื่อไม่ให้มีอะไรมาฉุดรั้งตัวเองไว้ กำลังเหล่มองสังเวียนตรงหน้า และดูราวกับไม่มีอะไรที่จะทำให้เขาประทับใจได้ ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ตอบว่า “ในเมื่อผมบอกว่าเขาไม่สามารถรับตำแหน่งนี้ไว้ได้เขาก็ทำไม่ได้“เพร
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข