“ไม่ใช่แบบนั้นเสียหน่อย!“สเตซี่โชคร้าย!“ผู้อำนวยการมิลเลอร์แค่ต้องการหาคนที่จะด้วยความผิดให้ และซีอีโอคีตันก็ไม่มีเหตุผลเลยสักนิด! พวกเขาโกรธซีนเธียร์เพราะเรื่องแบบ!“ซีอีโอคีตันไม่ใช่มนุษย์นั้นด้วยซ้ำ! เขาวางแผนใส่ร้ายซีนเธียร์อยู่ตลอด!”สาว ๆ ไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป และเริ่มอธิบายทุกอย่างให้ฮาร์วีย์ฟังอย่างรวดเร็วพวกเธอยังบอกกับฮาร์วีย์ว่าเซธเกือบจะล่วงเกินซีนเธียร์ไปแล้วถ้าไม่ใช่เพราะนิสัยใจเด็ดของซีนเธียร์ เธอคงอยู่ในสภาพที่แย่กว่านี้มากในตอนแรกฮาร์วีย์โกรธมาก แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็สงบลงเขาเข้าใจและได้แทบจะทันทีว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการจัดฉากขึ้นเพื่อเล่นงานซีนเธียร์สเตซี่ได้รับบาดเจ็บและความรุนแรงของเซธต้องเป็นส่วนหนึ่งของแผนทั้งหมดแต่ไม่ว่าใครเป็นตัวต้นเรื่อง เซธและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดยังต้องถูกลงโทษสำหรับการกระทำของพวกเขาอยู่ดีก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้พูดอะไร เจ้าหน้าที่หญิงของสถานพยาบาลก็จ้องมองตวาดเหวใส่สาว ๆ“พวกนักแสดงโสโครก! กล้าวิจารณ์ผู้อำนวยการมิลเลอร์และซีอีโอคีตันได้ยังไง?!“หลังจากที่ฉันบอกทุกอย่างที่พวกเธอพูดให้เขาทั้งสองคนฟัง
เมื่อประตูรถถูกเปิดออกก็เผยให้เห็นผู้ตรวจการในเครื่องแบบจำนวนหนึ่งโหลเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองสามคนรอบ ๆ สถานที่พยายามขวางพวกเขาเอาไว้ แต่ผู้ตรวจการที่เป็นผู้นำกลุ่มได้เตะพวกเขาลงไปกองที่พื้นจากนั้นพวกเขาก็เดินตรงไปยังสถานพยาบาลอย่างเป็นระเบียบ ผู้ตรวจการที่นำกลุ่มทำความเคารพต่อฮาร์วีย์ “คุณยอร์ก! ผมเจย์ บอร์น สารวัตรสถานีตำรวจมอร์ดูจากเขตเฮงเดียน คุณลินช์ได้โทรหาผมก่อนหน้านี้”“โปรดสั่งมาได้เลย!”“เราจะทำสิ่งต่าง ๆ ตามกฎหมายอย่างแน่นอน!”พนักงานสาวสั่นเล็กน้อยเมื่อได้เห็นผู้ตรวจการอาวุธครบมือปรากฏตัวขึ้น ความหยิ่งผยองของเธอมลายหายไปสิ้นเธอไม่คาดคิดว่าตำรวจจากเขตเฮงเดียนจะปรากฏตัวที่นี่เพียงเพราะฮาร์วีย์เรียกหา“โทรศัพท์แอปเปิลของซีนเธียร์ กระเป๋าแอร์เมส นาฬิกาคาเทียร์ แหวนและเงินก็หายไปด้วย… เหนือสิ่งอื่นใด”ก่อนหน้านี้ฮาร์วีย์ได้ถามสาว ๆ เกี่ยวกับของที่หายไปของซีนเธียร์และยังถามด้วยใครเป็นคนเอาไป“หาของพวกนั้นนั้นให้เจอ”“จับกุมหัวขโมยและจัดการกับพวกเขาตามกฎหมาย”ฮาร์วีย์ชี้ไปที่พนักงานผู้สูงส่งและเย่อหยิ่งแล้วพูดอย่างใจเย็น “นี่ก็คนหนึ่ง เธอขโมยโทรศัพท์”หางตาต
เฟร็ดหยิ่งผยองอย่างมากเขาไม่เพียงแต่เป็นผู้กำกับเท่านั้น แต่เขายังมาจากฮ่องกงอีกด้วย บ่อยครั้งที่เขากอบกุมอำนาจสำคัญในประเทศ H และแม้แต่ตำรวจก็ไม่กล้าแตะต้องเขาด้วยเหตุนี้ เขาจึงมั่นใจว่าเขาจะสามารถเหยียบย่ำเหล่าข้าราชการที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาได้“คุณเป็นผู้กำกับเหรอ?” ฮาร์วีย์ถามอย่างใจเย็น“ถูกต้องแล้ว! คุณคือ…?"เพี๊ยะ!ก่อนที่เฟร็ดจะพูดจบ ฮาร์วีย์ก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วตบหน้าเขาอย่างแรงแค่ตบธรรมดา ๆ ใบหน้าของเฟร็ดก็บิดเบี้ยวและบวมเป่งเสียแล้วเฟร็ดตัวแข็งทื่อและร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เขายกมือขึ้นกว่ากุมใบหน้าและกรีดร้อง “ไอ้ส*รเลว! กล้าดียังไงมาตบฉัน?!“แกไม่รู้จักความตายงั้นสินะ?!”ผู้ติดตามข้างหลังเขากำลังเดือดดาล“รู้หรือเปล่าว่าที่นี่ที่ไหน? ไอ้ส*รเลว! กล้าดียังไงมาตบคนที่นี่?!“แกคิดว่าฉันจะจัดการแกไม่ได้หรือไง!“ผู้กำกับมิลเลอร์เป็นชนชั้นสูง แกกล้าดียังไงมาตบเขา? แกจบเห่แน่!”ฝูงชนที่ติดตามพุ่งขึ้นด้วยความโกรธในขณะที่ฮาร์วีย์เดินไปข้างหน้าอย่างเมินเฉยเพี๊ยะ!“ผมจะตบแล้วมันจะทำไมล่ะ?!“คุณนี่ช่างสูงส่งจริง ๆ จะสอนให้ผมรู้จักความตายงั้นเหรอ! มาเลยสิ! มาสอนห
เฟร็ดตัวแข็ง เขากัดฟันและโทรออกอย่างรวดเร็วหลังจากผ่านไปประมาณสิบนาที ก็จะได้ยินเสียงส้นสูงกระทบพื้นดังมาจากทางเข้า หญิงสาวสวยที่มีเรือนร่างน่าหลงใหลและการแต่งหน้าที่ประณีตงดงามก็ก้าวเข้ามาพร้อมกับผู้คุ้มกันของเธอผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาด้วยรองเท้าส้นสูง ท่าทางของเธอทั้งเย็นชาและหยิ่งยโส “เฟร็ด ฉันได้ยินมาว่ามีคนไม่รู้จักที่ต่ำที่สุดสร้างปัญหาในเฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอ“มั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้รับความยุติธรรม นายน้อยฟลินน์ขอให้ฉันไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ด้วยตัวเอ“ฉันอยากจะรู้นะว่าใครในมอร์ดูที่กล้าจะต่อกรกับนายน้อยฟลินน์?!”ผู้หญิงที่มีเสน่ห์คนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแม่ม่ายดำ เฟย์ ก็อดดาร์ดนั่นเองไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะปรากฏตัวในมอร์ดูหลังจากถูกไล่ตะเพิดออกจากบัควู้ด และเธอยังคงทำงานให้กับแมทธิว ชายผู้เป็นผู้นำของสี่นายน้อยแห่งฮ่องกงเธอกอดอกและเดินตรงไปที่กลางห้อง สายตาของเธอจับจ้องไปที่ฮาร์วีย์ฮาร์วีย์นั่งอยู่ในบริเวณที่แสงส่องไม่ถึง ดังนั้นเฟย์จึงไม่สามารถมองหน้าเขาได้ชัดเจนเธอเย่อหยิ่ง จองหอง และอหังการ“ใครกันที่มาก่อปัญหาที่นี่ เฟร็ด? เขาต้องเป็นคนที่ค่อนข้างหยิ่งยโสน่าดู!
ฮาร์วีย์เดินไปข้างหน้าอย่างไม่ยี่หระและตบหน้าเฟย์เบา ๆ เขาถามอย่างใจเย็นว่า “เธอคือผู้สนับสนุนของเฟร็ดใช่ไหม?”“ช ใช่… ไม่…”เพี๊ยะ!ฮาร์วีย์เหวี่ยงมือของเขาใส่หน้าเฟย์อย่างเกรี้ยวกราดและตวาดว่า “พูดให้มันดัง ๆ ! ไม่ได้กินข้าวมาหรือไง?”"ไม่ค่ะ!"เฟย์ตัวสั่นเมื่อดึงสติกลับคืนมาได้ เธอคุกเข่าลงกับพื้น และหวาดกลัวอย่างไร้สติ“คุณยอร์ก ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนนี้!”'คุณยอร์ก?!'ฝูงชนตะลึงเมื่อได้ยินว่าเธอพูดกับฮาร์วีย์สุภาพเพียงใดไม่มีใครคาดคิดว่าผู้หญิงที่ดุร้ายและจองหองอย่างเฟย์จะคุกเข่าต่อหน้าฮาร์วีย์ได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เธอเรียกเขาว่าคุณยอร์ก!นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!“เธอไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยหรอ?”“แล้วมาทำอะไรที่นี่?” ฮาร์วีย์ถามอีกครั้ง“ฉันมาที่นี่เพื่อทักทายคุณด้วยตัวเองค่ะ คุณยอร์ก ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้… ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย…!”เฟย์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเธอจะไม่ได้มาที่นี่ตั้งแต่แรกชายคนตรงหน้าเธอนี้กล้าเตะแมทธิวจนกระเด็น เป็นที่แน่ชัดว่าสำหรับเขาแล้วเธอก็ไม่ต่างอะไรจากเหลือบไร!ต่อหน้าชายผู้นี้ เธอเทียบกับหมาจรจัดยังไม่ได้เลย!“ฉันบอกใ
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!แลรี่ไร้ความเมตตา เขาเหวี่ยงฝ่ามือลงไปที่ใบหน้าของเฟร็ดอย่างโหดเหี้ยม เขายังตบต่อไปอีกหลายสิบครั้ง การตบแต่ละครั้งเต็มไปด้วยพลัง ในแต่ละครั้งที่เฟร็ดโดนตบ เขาจะร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวดฮาร์วีย์มองทุกอย่างด้วยสายตาที่หรี่ลงโดยไม่พูดอะไร เขาอยากรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไปขณะที่แลรี่พูดเขายังคงตบเฟร็ดอยู่เช่นเดิม “การที่มีคนมาสร้างปัญหาที่นี่มันไม่ใช่ปัญหาหรอก”“ปัญหาก็คือนายมันไร้ประโยชน์เกินไป! นายไม่เพียงแต่ปล่อยให้ผู้คนมาทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ ที่นี่เท่านั้น แต่นายยังปล่อยให้พวกไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้านอกออกใหม่ที่นี่ได้ตามต้องการอีกด้วย! ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?!”แลรี่ดูถูกคนอื่นอย่างเปิดเผยเช่นนี้เป็นปกติเจย์อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาเสียงดังว่า “นี่คุณ…”ฮาร์วีย์ส่งสัญญาณมือให้เจย์เงียบ เขาอยากจะดูว่าแลรี่จะทำอะไรได้อีก“แล้วฉันบอกนายไปกี่ครั้งแล้ว?! ว่าให้อยู่ให้ห่างจากผู้หญิงคนนี้ให้มากสุดเท่าที่จะทำได้!“เธอเป็นแค่นังจิ้งจอกที่นอนกับคนไปทั่ว! เธอจะวางก้ามได้ก็ตอนที่เจอแต่พวกตาสีตาสาเท่านั้นแหละ แต่ถ้าเธอได้พบกับคนใหญ่คนโตเข้าเธอจะทำอะไรได้?“นายไปขอให
“จริงอยู่ ซีนเธียร์ถูกทำร้าย แต่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงอะไรนี่ ก็แค่บาดแผลภายนอก เธอไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลด้วยซ้ำ“เซธค่อนข้างโหดเหี้ยม แต่ความโหดเหึ้ยมของเขาก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล เขาแค่พยายามจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับภรรยาของเขาก็เท่านั้น“อีกอย่างตอนนี้สเตซี่ก็ยังไม่ได้สติ การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาย่อมไม่เหมาะสมนัก!“ความจริง ฉันเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว นี่เป็นเพียงเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด“ถ้างั้นพ่อหนุ่ม วันนี้ฉันจะแสดงความเคารพนายบ้าง“เราต้องถอยกันคนละก้าว เพื่อที่ต่อไปเราจะเดินหน้าไปด้วยดี ว่าไหมล่ะ?“นายเข้าใจที่ฉันพูดไหม?”แลรี่ยังไม่สามารถระบุตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์ได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกใช้ไม้อ่อนมากกว่าไม้แข็งเขาจะไม่รังเกียจที่จะจ่ายเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ หากฮาร์วีย์ตกลงที่จะรักษาความสงบหลังมีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง หากสิ่งต่าง ๆ บานปลาย หุ้นของเฮงเดียน เวิร์ล สตูดิโอก็จะได้รับผลกระทบเช่นกันฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็นว่า “จะเอายังไงก็ว่ามาเลย?”แลรี่หรี่ตา“หนึ่งหมื่นห้าพันดอลลาร์“ฉันจะให้เงินนายหนึ่งหมื่นห้าพันดอลลาร์ เพื
ฮาร์วีย์เคาะโต๊ะด้วยมือขวา เขาเอียงศีรษะเล็กน้อยแล้วพูดว่า “งั้น…“คุณก็หมายความว่าคุณจะไม่ตกลงตามเงื่อนไขของผม?“แล้วก็หมายความว่าคุณจะไม่ให้ความยุติธรรมแก่ผมด้วย?”แลรี่ยิ้ม"พ่อหนุ่ม ยุคนี้เงินมันก็ทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ…“นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันไม่สามารถเห็นด้วยกับสิ่งที่นายเรียกว่าความยุติธรรมได้“แน่นอน ถ้านายยังรู้สึกไม่พอใจนายจะจัดการทุกอย่างตามวิธีการของนายและจะให้บทเรียนฉันก็ได้“ถ้านายทำอย่างนั้นได้ ฉันอาจจะร้องขอความยุติธรรมให้กับนายได้เลยด้วยซ้ำ ใครจะรู้"ความดูถูกเหยียดหยามถูกเขียนขึ้นทั่วใบหน้าของแลรี่ สำหรับเขาแล้ว การที่ฮาร์วีย์มีเส้นสายกับตำรวจนั้นถือว่าน่าประทับใจทีเดียวแม้จะมีความสามารถนี้ แต่แลรี่รู้สึกว่าฮาร์วีย์ยังเด็กเกินกว่าที่จะมาขัดแข้งขัดขาเข้าได้ “เก่งจริง ๆ!"น่าประทับใจ!"ฮาร์วีย์พยักหน้าเล็ก ๆ“นับตั้งแต่ผมมาเหยียบที่มอร์ดู นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนไม่ให้เกียรติผมแบบนี้“ผมหวังว่าพรุ่งนี้คุณจะไม่มาคุกเข่าร้องขอความเมตตาต่อหน้าผม“เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นมันคงน่าเบื่อตายเลย!“ตอนนี้ ลาก่อน!”ฮาร์วีย์เตะโต๊ะข้าง ๆ และเหยียบซิการ์ที่แลรี่ให้เขา ก่อ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข