ในตอนนี้หลายคนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาค้นหาข้อมูล และพยายามพิสูจน์ตัวตนของโอลิเวอร์ บาวเออร์หลังจากนั้นทุกคนก็อ้าปากค้างฮิวจ์ เบเกอร์น่าทึ่งขนาดนี้เลยเหรอ?เขาสามารถเรียกหัวหน้าสาขาของหลงเหมินมาที่นี่ได้ด้วย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน!ใบหน้าของคาร์ล ควินแลนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน เขาเริ่มเสียใจเล็ก ๆ ที่เขาเข้าข้างฮาร์วีย์ ยอร์กหุนหันเกินไป เขาอาจจะถึงคราวตายแล้วสำหรับสาว ๆ ของฮิวจ์ พวกเธอแทบรอที่จะเข้าไปกอดเขาไม่ไหวนายน้อยเบเกอร์ยอดเยี่ยมมาก!เมื่อโอลิเวอร์มาถึงไม่ว่าใครก็ต้องหลีกทางให้!เป็นที่คาดกันว่าในทั้งเซาท์ไลท์มีเพียงเชลดอน ซาเวียร์และเบลลามี่ เบลค ผู้บัญชาการสูงสุดเท่านั้นที่ยังคงดูดีต่อหน้าโอลิเวอร์สำหรับบุคคลหมายเลขหนึ่งของเซาท์ไลท์อย่างเจ้าชายยอร์ก เขาอาจไม่ได้รับความเคารพต่อหน้าโอลิเวอร์เลยแม้แต่น้อยถึงอย่างนั้นโอลิเวอร์ บาวเออร์ก็เป็นหัวหน้าสาขาของหลงเหมินแห่งมอร์ดูสำหรับฮาร์วีย์ผู้หยิ่งยโส หากคืนนี้เขาไม่ตายอย่างน้อยเขาจะต้องถูกถลกหนังออก!”หลายคนตื่นเต้นมาก พวกเขาทั้งหมดอยากเห็นฮาร์วีย์กลายเป็นตัวตลก“ไอ้ยอร์กส*รเลวนั่น ฉั
หลังจากนั้นสักครู่ โอลิเวอร์ บาวเออร์ก็โบกมือบอกให้ลูกน้องหยุด จากนั้นเขาก็จ้องมองฮาร์วีย์ ยอร์กอย่างเย็นชา “แกเป็นคนทำร้ายฮิวจ์ เบเกอร์ลูกชายของฉันหรือเปล่า?”"ใช่!"ฮาร์วีย์กล่าวอย่างเฉยเมย เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น"ยอดเยี่ยม แกมันเก่งมาก ยอดเยี่ยมมาก!”โอลิเวอร์เย้ยหยันหลังจากเห็นความเย่อหยิ่งของฮาร์วีย์ในตอนนี้ “แกรู้ไหมว่าผลของการทำร้ายลูกชายของฉันคืออะไร”ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น “คุณไม่อยากรู้ว่าทำไมผมถึงทำร้ายเขา”หลายคนหัวเราะเยาะเมื่อได้ยินสิ่งนี้ มาถึงขนาดนี้แล้สฮาร์วีย ยังต้องการที่จะให้เหตุผลกับเขาและคุยเรื่องกฎหมายอีกหรือ?เขาต้องเสียสติแน่!“ฉันไม่อยากรู้ ไม่จำเป็นต้องรู้!”โอลิเวอร์เอามือไพล่หลังและจ้องมองที่ฮาร์วีย์อย่างเย็นชา “ฉันแค่ต้องรู้ว่าแกเป็นคนทำร้ายลูกชายของฉัน ก็เท่านั้น!"ฮิวจ์เก็บข้าวของไว้ข้าง ๆ แล้วพูดว่า “พ่อบุญธรรม เมื่อกี้เขายังพูดอย่างหยิ่งยโสว่าถึงเป็นพ่อ พ่อก็ต้องคุกเข่าให้เขา!”ทริสตัน ควินแลน และคนอื่น ๆ ส่งเสียงเสริมทัพ “ใช่ เขาพูดแบบนั้น!”“ให้ฉันคุกเข่าเหรอ?!”“รู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา?!”โอลิเวอร์โกรธมากจนหัวเราะออกมา“ไอ้ส*รเลว แกร
ฝูงชนตกใจ!ทุกคนอ้าปากค้างขณะมองดูฉากนี้ พวกเขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ พวกเขาไม่สามารถยอมรับได้โอลิเวอร์ บาวเออร์อยู่ที่นี่ และมีลิ่วล้อมากมายอีกต่างหาก ฮาร์วีย์ ยอร์กกล้าตบฮิวจ์ เบเกอร์ได้อย่างไร?เขาไม่กลัวว่าตัวเองจะตายอย่างน่าอนาถหรือ?โอลิเวอร์ตะลึงยิ่งกว่า เป็นเพราะในความคิดของเขา คนที่ฉลาดเพียงเล็กน้อยจะยอมจำนนต่อเขาเพราะเขาเป็นหัวหน้าสาขาของหลงเหมินแห่งมอร์ดู เขามีตำแหน่งสูงและมีพละกำลังมหาศาล การเหยียบย่ำฮาร์วีย์จนตายนั้นง่ายเหมือนเหยียบมดเพราะอย่างนั้นจึงไม่มีใครคิดว่าฮาร์วีย์จะเมินเฉยต่อการดำรงอยู่ของเขาและตบหน้าฮิวจ์ในที่สาธารณะ เขาถึงกับเหยียบหน้าอกของฮิวจ์ไว้ใต้ฝ่าเท้าด้วยซ้ำนี่ไม่เป็นเพียงแต่ตบหน้าโอลิเวอร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการตบหลงเหมินในเวลาเดียวกันด้วย!“ฆ่าเขาซะ! ถ้าเขาตาย ฉันรับผิดชอบเอง!”โอลิเวอร์โกรธมากจนกระโจนเข้าใส่หลายคนลืมหายใจในขณะที่เห็นฉากนี้อันธพาลสามสิบหกคนพุ่งเข้ามาจากทั้งซ้ายและขวา แม้ว่าพวกเขาจะกลัวเล็กน้อยที่เห็นฮาร์วีย์เหยียบฮิวจ์อย่างนั้น แต่พวกเขาก็ยังคิดจะฆ่าฮาร์วีย์ทันทีในขณะนี้ ฮาร์วีย์หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างสงบและกดหมายเ
ฮาร์วีย์ ยอร์กเพิกเฉยต่อคนเหล่านั้นและพูดอย่างใจเย็นว่า “ผู้อาวุโสบาวเออร์ ผมไม่กล้ารบกวนให้คุณทำอะไรหรอก แต่ผมแค่อยากจะถามว่าความตั้งใจเดิมของคุณในตอนที่คุณตัดสินใจก่อตั้งหลงเหมินคืออะไร?”ซามูเอล บาวเออร์นึกอะไรบางอย่างได้ แต่เขาก็ยังยิ้มและตอบว่า “เพื่อปกป้องประเทศเพื่ออธิปไตย!”“แน่นอน มันเป็นเพราะเรื่องนั้น!”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“หัวหน้าสาขา ลูกน้องของคุณทำตามอำเภอใจและรังแกประชาชนอย่างหยิ่งยโส คุณทำทั้งหมดเพื่อปกป้องประเทศเหรอ?”“ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมรู้สึกว่าเขาไม่จำเป็นสำหรับหลงเหมินเลย!”ซามูเอลเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ“ฮาร์วีย์ เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ผมจะให้คำชี้แจงที่ยุติธรรมแก่คุณอย่างแน่นอน”ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็นว่า “ไม่มีอะไรมากหรอก แค่หัวหน้าสาขาคนหนึ่งของคุณกำลังวางแผนที่จะฆ่าผม”“แม้ว่าผมอยากจะจัดการกับเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ผมก็ยังต้องถามว่าคุณสนับสนุนเขาหรือไม่ ผู้อาวุโส”“เพราะถ้าคุณทำเช่นนั้น ฉันก็ยินดีที่จะไปโวลซิ่งด้วยตัวเอง!”จากนั้นซามูเอลตอบอย่างรวดเร็วว่า “น้องชายยอร์ก หากเป็นไปได้ก็ส่งโทรศัพท์ให้ออลิเวอร์ที ผมสัญญาว่าฉันจะมีคำตอบให้คุณ”“อย่างนั้นก
ฝูงชนตกใจ สับสน และหวาดกลัว!หัวหน้าสาขาของหลงเหมินคุกเข่าต่อหน้าคนที่อายุน้อยกว่าและถูกตบไปมาอยู่อย่างนี้ คงไม่มีใครเชื่อถ้าไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง!ไม่สำคัญว่าฮาร์วีย์ ยอร์กจะมีภูมิหลังอย่างไรหรือเขาโทรหาใครแต่ชัยชนะได้ถูกกำหนดไว้แล้ว!เมื่อโอลิเวอร์ บาวเออร์คุกเข่า ความภาคภูมิใจและศักดิ์ศรีทั้งหมดของเขาหายไปแล้วและชายทั้งสามสิบหกคนนั้นก็คุกเข่าลงบนพื้นเช่นกัน โดยไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นพูดได้อย่างเต็มปากว่าเขาน่าสังเวชพอ ๆ กับคนที่เคยถูกเขาข่มขู่มาก่อนผู้คนที่ออกมายืนหยัดเพื่อฮิวจ์ เบเกอร์ต่างก็หวาดกลัวสุดขีดเมื่อเห็นภาพตรงหน้า และจากนั้นก็ถอยห่างไปอย่างเงียบ ๆแม้ว่าพวกเขาจะหนีไปไหนไม่ได้ แต่ทุกคนก็มีความคิดเดียวกัน นั่นคือการอยู่ให้ห่างจากฮิวจ์และแสร้งทำเป็นว่าไม่รู้จักฮิวจ์ฮิวจ์ และทริสตัน ควินแลนเต็มไปด้วยความแค้น พวกเขาอยากจะบีบคอฮาร์วีย์ให้ตายทำไมการบดขยี้ลูกเขยแต่งเข้าบ้านถึงยากขนาดนี้?ความบ้าคลั่งปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกเขาเป็นเวลาหนึ่งวินาทีไม่สำคัญว่าฮาร์วีย์จะโทรหาใครแต่ฮิวจ์เชื่อว่าด้วยนิสัยของพ่อบุญธรรมแล้ว เขาจะต้องแก้แค้นให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่
ณ การ์เด้นส์ เรสซิเด้นซ์ฮาร์วีย์ ยอร์กเดินเข้าไปข้างในอย่างระมัดระวัง เขากำลังจะเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำแต่ด้วยการเปิดไฟครั้งเดียว ห้องนั่งเล่นทั้งห้องที่มืดมิดเหมือนกลางคืนก็สว่างขึ้นแมนดี้ ซิมเมอร์และซีนเธียร์ ซิมเมอร์สวมชุดนอนนั่งอยู่บนโซฟา พวกเธอกอดอกในขณะที่จ้องมองไปที่ ฮาร์วีย์นายท่านยอร์กซึ่งเพิ่งทำให้หัวหน้าสาขาของหลงเหมินพิการ รู้สึกมึนหัวเขาต้องฝืนยิ้มและถามว่า “แมนดี้ ซีนเธียร์ ทำไมคุณสองคนยังไม่เข้านอนอีก?”“คุณออกไปทำอะไรข้างนอก? แล้วทำไมกลับมาดึกแบบนี้?”แมนดี้ขมวดคิ้วฮาร์วีย์ตอบว่า “ไม่มีอะไรหรอก ผมเพิ่งไปคุยกับพ่อบุญธรรมของฮิวจ์มา”“แล้วเกิดอะไรขึ้น?”“สองพ่อลูกก็ตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง พวกเขาสัญญาว่าจะไม่มาเหยียบบัควู้ดอีก จากนั้นก็จับมือกันและแยกย้าย” ฮาร์วีย์กล่าวด้วยความมั่นใจแมนดี้และซีนเธียร์มองหน้ากันอย่างไม่อยากเชื่อ แต่พวกเธอเห็นว่าฮาร์วีย์ไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เลย ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ออกไปมีเรื่องกับใครจากนั้นฮาร์วีย์ก็พูดต่อ“อ้อ ต่อไปคุณไม่ควรกินข้าวกับคนแปลกหน้าอีก หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกอย่าลืมโทรหาผม!”“และอย่าออกไปข้างนอกใ
ในวันถัดไปฮาร์วีย์ ยอร์กได้รับข่าวว่า โอลิเวอร์ บาวเออร์ถูกลอบสังหารในตอนเช้าตรู่หลังจากโทรหายานนิค บิสสันแล้ว ฮาร์วีย์ก็ไปที่ห้องจัดงานศพสถานะของโอลิเวอร์นั้นพิเศษเกินไป นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนอกจากยานนิคแล้ว โยเอล เกรแฮมก็อยู่ที่นั่นด้วยภายในห้องเก็บศพมีศพที่ซีดราวกับกระดาษ ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโอลิเวอร์เอง แต่บนหน้าผากของเขามีจุดสีแดงแต่งแต้มอยู่ฮาร์วีย์พิเคราะห์ศพตรงหน้าและถามอย่างใจเย็นว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ยานนิคหายใจเข้าลึก ๆ แล้วตอบว่า “หลังจากที่โอลิเวอร์และพรรคพวกออกจากที่จอดรถเมื่อคืน พวกเขาไปที่โรงพยาบาลเอ็ดเวิร์ดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ จากนั้นพวกเขาก็ขับรถไปที่สนามบินนานาชาติบัควู้ด ทันที”“ในช่วงระยะห่างจากสนามบินประมาณ 12 ไมล์ โอลิเวอร์ขอให้เปิดกระจกรถทันทีที่ออกจากเขตเมือง จากนั้นกระสุนที่ไม่ทราบที่มาก็พุ่งเข้าใส่ศีรษะของเขา เป็นการฆ่าด้วยการยิงเพียงนัดเดียว!”“มือปืนมีความแม่นยำมาก ไม่มีคนธรรมดาที่ไหนสามารถยิงได้หากพวกเขาไม่ได้เข้ารับการฝึกทหารมาเป็นเวลาหลายปี”“เราพบจุดที่น่าจะเป็นจุดซุ่มยิงในอาคารที่พักอาศัยใกล้กับสถานีตำรวจบัควู้ด จากรูปการของสิ่งต่าง ๆ
ฮาร์วีย์ ยอร์กดูไม่แยแสยานนิค บิสสันที่ยืนอยู่ด้านข้างจู่ ๆ ก็พูดขึ้นว่า “ซีอีโอยอร์ก คุณคิดว่าอะไรคือแรงจูงใจของฆาตกรในการลอบสังหารโอลิเวอร์ บาวเออร์?”ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็นว่า “ไม่ใช่เพื่อเงิน และไม่ใช่เพื่อแก้แค้น เช่นนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์เท่านั้น”“มันอาจไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อต่อต้านผม แต่อย่างน้อยฆาตกรก็พยายามที่จะทำให้สิ่งต่าง ๆ ในบัควู้ดสั่นคลอนด้วยเหตุผลบางอย่าง อย่างไม่ต้องสงสัยเลย”“ตอนนี้บัควู้ดก็กลายเป็นปราการเหล็กแล้ว แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนนอกจะเข้านอกออกในได้ตามที่ต้องการ”“แต่หากพวกเขาผลักดันให้ผมเข้าสู่สนามรบนั้น รัฐบาลของเซาท์ไลท์คงต้องไล่ผมออกเพื่อแทนคำชี้แจงที่ยุติธรรมแก่ซามูเอล บาวเออร์ ซึ่งพวกเขาก็มีสิทธิ์จะทำเช่นนั้น”ฮาร์วีย์พูดต่อโดยไม่ได้คิดอะไรอีก“ถ้าเราคิดแบบนี้ แรงจูงใจของฆาตกรคงไม่ใช่แค่ฆ่าโอลิเวอร์ และแน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อจัดการกับผมด้วย”“พวกเขาอาจต้องการใช้ประโยชน์ในตอนที่หลงเหมินกำลังวุ่นวายเพื่อตั้งจุดยืนของตัวเองใหม่”“นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังมาหาเจ้าชายยอร์ก ไม่ก็หัวหน้าผู้ฝึกสอน…”รอยยิ้มที่เยือกเย็นดุจน้ำแข็งผุดออกมาจ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข