ไม่มีใครคาดคิดว่าฮาร์วีย์จะยังคงจับมือของซีนเธียร์ เขายืนตัวตรงและตอบฮิวจ์ด้วยน้ำเสียงขี้เล่นว่า “การลงทุนเจ็ดร้อยห้าสิบล้านเหรียญได้ผลตอบแทนสามร้อยล้านต่อปี นั่นกำไรงามทีเดียว”“เอาอย่างนี้ดีไหม? ส่งข้อเสนอโครงการมา แล้วฉันจะให้ทีมประเมินแผน หากมันมีแนวโน้มว่าจะเป็นไปได้ฉันจะคิดเกี่ยวกับการลงทุนนี้”“แน่นอน เราจะต้องได้ลงนามในข้อตกลง”เห็นได้ชัดว่าฮิวจ์พยายามเยาะเย้ยฮาร์วีย์ ดังนั้นฮาร์วีย์ก็ไม่รังเกียจที่จะเยาะเย้ยฮิวจ์กลับไปเช่นกันนอกจากนี้ ฮาร์วีย์จะไม่รังเกียจที่จะซื้อหุ้นเพื่อซีนเธียร์ หากโครงการสวนสนุกทำกำไรได้"ข้อเสนอโครงการ?"“ลงทุนเจ็ดร้อยห้าสิบล้านเหรียญ?”"ข้อตกลง?"ฝูงชนไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้อีกต่อไป ท้องของพวกเขาใกล้จะระเบิดแล้วขณะที่พวกเขาหัวเราะออกมาดัง ๆงานสังสรรค์คืนนี้น่าสนใจมากเกินไป!ไม่เพียงแค่มีผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างซีนเธียร์เท่านั้น แต่ยังมีตัวตลกอย่างฮาร์วีย์อยู่ด้วย!เห็นได้ชัดว่านายน้อยเบเกอร์กำลังแกล้งฮาร์วีย์แต่ฮาร์วีย์ไม่เพียงแต่เพิกเฉย แต่เขายังทำตัวราวกับว่าเป็นคนใจกว้างณ จุดนี้ เขาเองก็คงเชื่อในคำโกหกของตัวเองไปแล้วซีนเธียร์ซึ่งตอ
ฮิวจ์และทริสตันรู้สึกงุนงงเหมือนกับคนอื่น ๆ แต่เมื่อเอวาพูดเช่นนั้นทั้งคู่ก็แสดงสีหน้าประหนึ่งว่ารู้ความจริงแล้ว"ฉันเข้าใจแล้ว นายเตี๊ยมกับเพื่อนมาล่วงหน้างั้นสินะ?”“ฉันต้องยอมรับว่านั่นเป็นวิธีที่ดีจริง ๆ!”“น่าเสียดายที่นายดันใส่เสื้อผ้าที่ซื้อจากแผงลอย ดูไม่เหมือนมหาเศรษฐีเลยสักนิด!”“ถ้านายกล้าพอก็บอกมาเลยว่านายคือเจ้าชายยอร์ก! ถ้าเป็นในเซาท์ไลท์ การพูดจาเพ้อเจ้อแบบนี้จะทำให้นายตายได้เลย!”"ใช่! ดูสารรูปตัวเองหน่อยสิ! นายยังจะเสแสร้งเป็นเจ้านายจากตระกูลมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยอยู่อีกหรือ?”“นายรู้หรือเปล่าว่าในพันล้านมีศูนย์อยู่กี่หลัก?”“นายน้อยเบเกอร์และนายท่านทริสตันปฏิบัติกับนายไม่ต่างจากพวกโง่เง่าคนหนึ่งหรอก! คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ขนาดนั้นจริงเหรอ?!”เหล่าลิ่วล้อของฮิวจ์ผุดตัวขึ้นด้วยความโกรธ พวกเขาชี้ไปที่ฮาร์วีย์ขณะที่เยาะเย้ยเขาอย่างไม่ลดละพวกเขาเกือบจะถูกคนโง่น่าสมเพชคนนี้หลอกเข้าให้แล้ว!ฮาร์วีย์มองดูฝูงชนที่ตื่นตระหนกด้วยความสนใจอย่างมาก“ฉันไม่ยอมให้พวกคุณมาพูดกับพี่เขยของฉันแบบนี้!”“เขาไม่ได้โกหกพวกคุณ! เขามีเงินสามพันล้านเหรียญในบัญชีธนาคารของเขาจริง ๆ!”“เขา
"ดี!"“นายมันกล้าดีจริง ๆ!”ทริสตันเริ่มร้อนรนเมื่อก่อน หากเขาเอ่ยชื่อตระกูลควินแลนขึ้นมา แม้แต่พวกเจ้าชายและเจ้านายยังต้องให้ความเคารพเขานี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับคนหัวร้อนอย่างฮาร์วีย์ทริสตันตะโกนด้วยความโกรธ “ฮาร์วีย์ ยอร์ก! ในเมื่อนายอยากตายนัก ฉันจะทำให้ความปรารถนาของนายเป็นจริง!”“ฉันจะทำให้นายเสียใจที่เกิดมาบนโลกใบนี้!”เนื่องจากฮาร์วีย์ดูไม่ให้เกียรติทริสตัน เขาจึงยินดีที่จะใช้เส้นสายของเขาในบัควู้ด เพื่อหยุดฮาร์วีย์ในทันทีผีเสื้อสังคมสองสามคนที่อยู่ห่างออกไปเฝ้ามองฮาร์วีย์ด้วยรอยยิ้มเหยียดหยามในสายตาของพวกเธอ คนอวดดีอย่างฮาร์วีย์ที่เอาแต่คุยโวโอ้อวดไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะขัดรองเท้าให้กับเจ้านายของตระกูลที่ร่ำรวยอย่างฮิวจ์และทริสตัน'ยังคิดจะอวดอ้างตัวเองอยู่อีกหรือ?''เขากำลังคิดอะไรอยู่?!''ฮิวจ์ไม่จำเป็นต้องลงมือจัดการกับฮาร์วีย์เองด้วยซ้ำ!''ถ้าทริสตันต้องการให้ฮาร์วีย์ตาย เขาก็ทำอะไรไม่ได้!'เหล่าผีเสื้อสังคมเชื่อว่าการแสดงครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น ดังนั้นพวกเธอจึงเฝ้ารออย่างเงียบ ๆฮาร์วีย์และทริสตันพูดกันด้วยน้ำเสียงที่ไม่ลงรอยนัก แต่พวกเขาก็ยังนั่งด้ว
ฮาร์วีย์พูดอย่างใจเย็น “ในเมื่อนายน้อยเบเกอร์ให้เกียรติผมขนาดนี้ ผมก็จะดื่มด้วย!”“แต่คุณรู้ไหมว่าซีนเธียร์แพ้แอลกอฮอล์? อย่าทำให้เธอลำบากเลย”“เอาอย่างนี้ดีไหม? ผมจะดื่มแทนเธอเอง”“ผมเป็นทั้งพี่เขยและคนรักของเธอ เป็นเรื่องปกติที่ผมจะดื่มแทนเธอ!”ขณะที่ฮาร์วีย์พูด เขายกแก้วไวน์ขึ้นและลุกขึ้นยืนฮิวจ์และทริสตันสบตากันและยิ้มทริสตันเดินเข้าไปหาฮาร์วีย์แล้วพูดว่า “นายท่านยอร์ก คุณเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ! ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เราจะมองคุณผิดไป!”“มา มา มา ขอดื่มแทนคำขอโทษจากผม ไชโย!”ทริสตันรินไวน์อีกแก้วให้ฮาร์วีย์ทันทีหลังจากที่เขาพูดจบสีหน้าซีนเธียร์เปลี่ยนไปอย่างลนลาน เธอบีบขาของฮาร์วีย์จนแน่นเพื่อส่งสัญญาณไม่ให้เขาตามน้ำไปซีนเธียร์ไม่ได้โง่ เธอรู้ว่าฮิวจ์และคนอื่น ๆ มีเจตนาร้ายต่อฮาร์วีย์แต่ฮาร์วีย์ไม่รู้ร้อนรู้หนาวต่อการหยิกของเธอ เขากลับหัวเราะออกมาแทน“คุณเป็นคนฉลาด นายท่านทริสตัน ไชโย!”จากนั้นฮาร์วีย์ก็ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มฮิวจ์เดินไปข้างหน้าและสรรเสริญออกมาอีกครั้ง“นายท่านยอร์กเป็นคนตรงไปตรงมา มา มา มา! ทุกคนมาดื่มอวยพรให้นายท่านยอร์ก!”ฮิวจ์หรี่ตาลง คำพูดของเขาสุ
ยิ่งฮาร์วีย์ดื่มมากเท่าไหร่ ใบหน้าของเขาก็ยิ่งแดงมากขึ้นเท่านั้นฮิวจ์มองดูภาพนี้พร้อมกับหัวเราะเบา ๆ‘โง่เง่าอะไรอย่างนี้! เขายังมีหน้ามาเพลิดเพลินเช่นนี้ได้ แม้จะถูกบังคับให้กระดกไวน์จำนวนมากอย่างนี้ลงคอ'จากประสบการณ์ในการดื่มของฮิวจ์ ฮาร์วีย์คงจะล้มพับไปหลังจากดื่มอีกไม่กี่แก้วถ้าฮาร์วีย์ไม่อายุสั้นลงครึ่งหนึ่งเพราะดื่มมากเกินไป อย่างน้อยที่สุดเขาก็ต้องไปล้างท้องที่โรงพยาบาลในขณะเดียวกันทริสตันก็จ้องมองที่ฮิวจ์ด้วยความชื่นชมหากเป็นไปตามที่นายน้อยเบเกอร์คาดไว้ เขาก็จะได้รับชัยชนะอย่างง่ายดาย!เขาคิดถูกแล้วที่หลอกคนงี่เง่าอย่างฮาร์วีย์ทริสตันคว้าไวน์อีกแก้วและเดินไปข้างหน้าทันทีหลังจากนั้นไม่นานขวดไวน์ก็หมดลงอย่างรวดเร็วซีนเธียร์ลากฮาร์วีย์และร้องออกมาว่า “พี่เขย เลิกดื่มได้แล้ว! กลับบ้านกันเถอะ ตกลงไหม?”“ผู้หญิงอย่างเธอนี่ไม่เข้าใจอะไรเลย! ผู้ชายอย่างเราจะดื่มเหล้ากัน มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเธอ!”ร่างกายของฮาร์วีย์เซไปมา ดวงตาของเขาพร่ามัว ดูราวกับกำลังจะล้มลงทุกนาที"ใช่ ใช่ ใช่ นายท่านยอร์กพูดถูก ถ้าเมาเราก็จะกลับบ้านกันเอง!”“มา เอาไวน์มาเพิ่มอีก!”ไวน์อีก
ปังหลังจากดื่มไปอีกหนึ่งแก้ว ฮิวจ์ก็ล้มลงไปกับพื้นคนอื่น ๆ ล้มลงเกือบจะพร้อมกัน เหลือเพียงฮาร์วีย์และซีนเธียร์เท่านั้นที่ยังยืนอยู่ฮาร์วีย์โยนแก้วไวน์ในมือทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ สีหน้าของเขากลับมาเป็นปกติ“พี่เขย พี่ไหวไหม?!”“พี่ดื่มไวน์คนเดียวไปสิบโหลจริงเหรอ?!”ซีนเธียร์ตกใจมากฮาร์วีย์ทำได้เพียงหัวเราะเบา ๆ“ฉันยังดื่มได้อีกหลายรอบเลย”“เมื่อตอนที่พี่ไปหาลูกค้ากับพี่สาวฉันครั้งล่าสุด พี่แกล้งทำเป็นเมานี่!”“ถ้าฉันไม่จุ้นจ้าน พี่คงหาวิธีนอนกับพี่สาวฉัน!”ซีนเธียร์กลอกตาเมื่อนึกถึงฉากนั้นใบหน้าของฮาร์วีย์หม่นลงและขยี้ผมด้านหน้าของซีนเธียร์“พูดอะไร?! ฉันเป็นพี่เขยของเธอ เป็นเรื่องปกติที่จะนอนกับพี่สาวของเธอไม่ใช่เหรอ?!”“ฉันไม่อนุญาต ไม่ว่ายังไงก็ไม่!”ซีนเธียร์เดือดดาลด้วยความโกรธ“เธอนี่มันตัวปัญหาหน่อย ๆ เหมือนกันนะ”ฮาร์วีย์ทำอะไรไม่ถูก น้องภรรยาของเขาเป็นคนที่คาดเดาอะไรไม่ได้อย่างแน่นอน“เอาล่ะ ออกไปรอฉันข้างนอก ฉันยังต้องจัดการกับคนพวกนี้ก่อน”ซีนเธียร์เห็นด้วย ก่อนออกจากโถงไปอย่างเชื่อฟังเมื่อซีนเธียร์จากไป สายตาของฮาร์วีย์ก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันเขาเดินไป
“พวกรัฐบาลบอกแบบนั้นเหรอ?”วอลเลซหรี่ตาลง"ใช่ครับ!"ปีเตอร์พยักหน้าอย่างรีบร้อน“คุณคงต้องรู้ว่าคู่ต่อสู้ของเราคือใคร?”“แน่นอนว่าเป็นผู้ชายที่ชื่อฮาร์วีย์ ยอร์ก!”“จากข้อมูลของตระกูลฟลินน์แห่งฮ่องกง ตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์น่าจะเป็นเจ้าชายยอร์ก ชายอันดับต้น ๆ ของเซาท์ไลท์!”“เขาเป็นคนที่ควบคุมสกาย คอร์ปอเรชั่น เขาควบรวมทรัพย์สินทั้งหมดจากตระกูลเยตส์ และสตาร์ แชโบลในเซาท์ไลท์!”“และตอนนี้บริษัทสกาย คอร์ปอเรชั่นกำลังเตรียมที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาด!”“หมอนั่น!”สายตาของวอลเลซเปลี่ยนไป และคำรามออกมา “ฉันคิดว่าคู่ต่อสู้ของเราเป็นคนที่ไม่ธรรมดา แต่เขากลับเป็นแค่เจ้าชาย!”“ประเทศ J จะสามารถจัดการกับเขาได้อย่างแน่นอน!”“ในเมื่อรัฐบาลเต็มใจที่จะปกป้องเขา เราก็จะใช้พลังของเราเล่นงานเขากลับไปเช่นกัน!”“ผมอยากให้คุณจัดการกับเจ้าชายยอร์ก และบริษัทสกาย คอร์ปอเรชั่นอย่างนับครั้งไม่ถ้วน!”“ผมไม่ต้องการให้สกาย คอร์ปอเรชั่นเข้าจดทะเบียน และผมก็ต้องการให้เจ้าชายยอร์กล้มละลายไปซะ!”“เราจะเดินทางไปที่บัควู้ดทันที!”เมื่อได้ยินคำพูดของวอลเลซ ปีเตอร์ก็ยิ้มกว้างเนื่องจากวอลเลซได้ประกาศเช่
ทันทีที่ฮิวจ์พูดจบ ผู้ติดตามของเขาที่อยู่ข้างหลังก็ลุกขึ้นยืนและจ้องมองแมนดี้อย่างคุกคามสีหน้าของแมนดี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เธอก็มีประสบการณ์ขึ้นเล็กน้อยหลังจากเรื่องราวที่ผ่านมาของเธอเธอตั้งสติได้ในเวลาไม่นานและตอบอย่างใจเย็นว่า “ฉันสงสัยว่าสามีไม่เอาถ่านของฉันไปทำอะไรให้คุณเหรอคะ นายน้อยเบเกอร์?”“ไม่เอาถ่านงั้นเหรอ?”ฮิวจ์หัวเราะ“สามีคุณค่อนข้างสมชายชาตรี ทำไมคุณถึงเรียกเขาอย่างนั้น?”“เขายังกล้าหลอกผม ไม่รู้ว่าเขาเป็นพวกแข็งแกร่งหรือเป็นแค่คนโง่เง่า”“สามีของฉันทำอะไรคุณ?” แมนดี้ถามอีกครั้งอย่างสงบทริสตันซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแมนดี้ และฮิวจ์จับบั้นท้ายของเขาโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าของเขาน่าสยดสยองอย่างที่สุดทั้งคู่เป็นนายท่านที่มีชื่อเสียง พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ต่อฮาร์วีย์เมื่อคืนก่อนสิ่งสำคัญที่สุดคือพวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะแสดงความอัปยศอดสูที่พวกเขารู้สึกออกมาได้!พวกเขาทรมานใจ!สุดแสนจะทรมาน!คงจะดีถ้าแมนดี้ไม่พูดอะไร แต่ฮิวจ์ก็ระเบิดความโกรธทันทีที่เธอพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมาสีหน้าของฮิวจ์เปลี่ยนเป็นเย็นชา “ซีอีโอซิมเมอร์ขอสรุปสั้น ๆ”“ในเมื่อเราไ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข