ยิ่งฮาร์วีย์ดื่มมากเท่าไหร่ ใบหน้าของเขาก็ยิ่งแดงมากขึ้นเท่านั้นฮิวจ์มองดูภาพนี้พร้อมกับหัวเราะเบา ๆ‘โง่เง่าอะไรอย่างนี้! เขายังมีหน้ามาเพลิดเพลินเช่นนี้ได้ แม้จะถูกบังคับให้กระดกไวน์จำนวนมากอย่างนี้ลงคอ'จากประสบการณ์ในการดื่มของฮิวจ์ ฮาร์วีย์คงจะล้มพับไปหลังจากดื่มอีกไม่กี่แก้วถ้าฮาร์วีย์ไม่อายุสั้นลงครึ่งหนึ่งเพราะดื่มมากเกินไป อย่างน้อยที่สุดเขาก็ต้องไปล้างท้องที่โรงพยาบาลในขณะเดียวกันทริสตันก็จ้องมองที่ฮิวจ์ด้วยความชื่นชมหากเป็นไปตามที่นายน้อยเบเกอร์คาดไว้ เขาก็จะได้รับชัยชนะอย่างง่ายดาย!เขาคิดถูกแล้วที่หลอกคนงี่เง่าอย่างฮาร์วีย์ทริสตันคว้าไวน์อีกแก้วและเดินไปข้างหน้าทันทีหลังจากนั้นไม่นานขวดไวน์ก็หมดลงอย่างรวดเร็วซีนเธียร์ลากฮาร์วีย์และร้องออกมาว่า “พี่เขย เลิกดื่มได้แล้ว! กลับบ้านกันเถอะ ตกลงไหม?”“ผู้หญิงอย่างเธอนี่ไม่เข้าใจอะไรเลย! ผู้ชายอย่างเราจะดื่มเหล้ากัน มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเธอ!”ร่างกายของฮาร์วีย์เซไปมา ดวงตาของเขาพร่ามัว ดูราวกับกำลังจะล้มลงทุกนาที"ใช่ ใช่ ใช่ นายท่านยอร์กพูดถูก ถ้าเมาเราก็จะกลับบ้านกันเอง!”“มา เอาไวน์มาเพิ่มอีก!”ไวน์อีก
ปังหลังจากดื่มไปอีกหนึ่งแก้ว ฮิวจ์ก็ล้มลงไปกับพื้นคนอื่น ๆ ล้มลงเกือบจะพร้อมกัน เหลือเพียงฮาร์วีย์และซีนเธียร์เท่านั้นที่ยังยืนอยู่ฮาร์วีย์โยนแก้วไวน์ในมือทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ สีหน้าของเขากลับมาเป็นปกติ“พี่เขย พี่ไหวไหม?!”“พี่ดื่มไวน์คนเดียวไปสิบโหลจริงเหรอ?!”ซีนเธียร์ตกใจมากฮาร์วีย์ทำได้เพียงหัวเราะเบา ๆ“ฉันยังดื่มได้อีกหลายรอบเลย”“เมื่อตอนที่พี่ไปหาลูกค้ากับพี่สาวฉันครั้งล่าสุด พี่แกล้งทำเป็นเมานี่!”“ถ้าฉันไม่จุ้นจ้าน พี่คงหาวิธีนอนกับพี่สาวฉัน!”ซีนเธียร์กลอกตาเมื่อนึกถึงฉากนั้นใบหน้าของฮาร์วีย์หม่นลงและขยี้ผมด้านหน้าของซีนเธียร์“พูดอะไร?! ฉันเป็นพี่เขยของเธอ เป็นเรื่องปกติที่จะนอนกับพี่สาวของเธอไม่ใช่เหรอ?!”“ฉันไม่อนุญาต ไม่ว่ายังไงก็ไม่!”ซีนเธียร์เดือดดาลด้วยความโกรธ“เธอนี่มันตัวปัญหาหน่อย ๆ เหมือนกันนะ”ฮาร์วีย์ทำอะไรไม่ถูก น้องภรรยาของเขาเป็นคนที่คาดเดาอะไรไม่ได้อย่างแน่นอน“เอาล่ะ ออกไปรอฉันข้างนอก ฉันยังต้องจัดการกับคนพวกนี้ก่อน”ซีนเธียร์เห็นด้วย ก่อนออกจากโถงไปอย่างเชื่อฟังเมื่อซีนเธียร์จากไป สายตาของฮาร์วีย์ก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันเขาเดินไป
“พวกรัฐบาลบอกแบบนั้นเหรอ?”วอลเลซหรี่ตาลง"ใช่ครับ!"ปีเตอร์พยักหน้าอย่างรีบร้อน“คุณคงต้องรู้ว่าคู่ต่อสู้ของเราคือใคร?”“แน่นอนว่าเป็นผู้ชายที่ชื่อฮาร์วีย์ ยอร์ก!”“จากข้อมูลของตระกูลฟลินน์แห่งฮ่องกง ตัวตนที่แท้จริงของฮาร์วีย์น่าจะเป็นเจ้าชายยอร์ก ชายอันดับต้น ๆ ของเซาท์ไลท์!”“เขาเป็นคนที่ควบคุมสกาย คอร์ปอเรชั่น เขาควบรวมทรัพย์สินทั้งหมดจากตระกูลเยตส์ และสตาร์ แชโบลในเซาท์ไลท์!”“และตอนนี้บริษัทสกาย คอร์ปอเรชั่นกำลังเตรียมที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาด!”“หมอนั่น!”สายตาของวอลเลซเปลี่ยนไป และคำรามออกมา “ฉันคิดว่าคู่ต่อสู้ของเราเป็นคนที่ไม่ธรรมดา แต่เขากลับเป็นแค่เจ้าชาย!”“ประเทศ J จะสามารถจัดการกับเขาได้อย่างแน่นอน!”“ในเมื่อรัฐบาลเต็มใจที่จะปกป้องเขา เราก็จะใช้พลังของเราเล่นงานเขากลับไปเช่นกัน!”“ผมอยากให้คุณจัดการกับเจ้าชายยอร์ก และบริษัทสกาย คอร์ปอเรชั่นอย่างนับครั้งไม่ถ้วน!”“ผมไม่ต้องการให้สกาย คอร์ปอเรชั่นเข้าจดทะเบียน และผมก็ต้องการให้เจ้าชายยอร์กล้มละลายไปซะ!”“เราจะเดินทางไปที่บัควู้ดทันที!”เมื่อได้ยินคำพูดของวอลเลซ ปีเตอร์ก็ยิ้มกว้างเนื่องจากวอลเลซได้ประกาศเช่
ทันทีที่ฮิวจ์พูดจบ ผู้ติดตามของเขาที่อยู่ข้างหลังก็ลุกขึ้นยืนและจ้องมองแมนดี้อย่างคุกคามสีหน้าของแมนดี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เธอก็มีประสบการณ์ขึ้นเล็กน้อยหลังจากเรื่องราวที่ผ่านมาของเธอเธอตั้งสติได้ในเวลาไม่นานและตอบอย่างใจเย็นว่า “ฉันสงสัยว่าสามีไม่เอาถ่านของฉันไปทำอะไรให้คุณเหรอคะ นายน้อยเบเกอร์?”“ไม่เอาถ่านงั้นเหรอ?”ฮิวจ์หัวเราะ“สามีคุณค่อนข้างสมชายชาตรี ทำไมคุณถึงเรียกเขาอย่างนั้น?”“เขายังกล้าหลอกผม ไม่รู้ว่าเขาเป็นพวกแข็งแกร่งหรือเป็นแค่คนโง่เง่า”“สามีของฉันทำอะไรคุณ?” แมนดี้ถามอีกครั้งอย่างสงบทริสตันซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแมนดี้ และฮิวจ์จับบั้นท้ายของเขาโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าของเขาน่าสยดสยองอย่างที่สุดทั้งคู่เป็นนายท่านที่มีชื่อเสียง พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ต่อฮาร์วีย์เมื่อคืนก่อนสิ่งสำคัญที่สุดคือพวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะแสดงความอัปยศอดสูที่พวกเขารู้สึกออกมาได้!พวกเขาทรมานใจ!สุดแสนจะทรมาน!คงจะดีถ้าแมนดี้ไม่พูดอะไร แต่ฮิวจ์ก็ระเบิดความโกรธทันทีที่เธอพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมาสีหน้าของฮิวจ์เปลี่ยนเป็นเย็นชา “ซีอีโอซิมเมอร์ขอสรุปสั้น ๆ”“ในเมื่อเราไ
ทริสตัน และคนอื่น ๆ หัวเราะออกมา นายน้อยเบเกอร์กำลังข่มขู่อยู่แน่ ๆ!เพี๊ยะ!แมนดี้เหวี่ยงฝ่ามือลงไปที่ใบหน้าของฮิวจ์ “นายน้อยเบเกอร์ กรุณาให้เกียรติกันด้วย!”"ให้เกียรติเหรอ?!"ฮิวจ์จับไหล่ของแมนดี้แล้วส่งยิ้มชั่วร้ายให้เธอ“ผมรู้แค่วิธีให้เกียรติคนบนเตียงเท่านั้น!”“ก็ได้ ผมจะบอกอะไรคุณให้”“ผมโทรหาพ่อบุญธรรมของผมเมื่อเช้านี้ เขาบังเอิญมาทำธุรกิจที่นี่พอดี ดังนั้นเขาก็จะมาช่วยผมอีกแรงด้วย”“ผมรู้ว่าคุณก็ไม่ธรรมดา เพราะได้รับการสนับสนุนจากเจ้าชายยอร์ก!”“น่าเสียดายที่เจ้าชายยอร์กไม่มีความหมายอะไรต่อหน้าพ่อบุญธรรมของผม!”“ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะเชื่อฟังคำสั่ง ผมอาจจะอ่อนโยนลงอีกหน่อยถ้าคุณเชื่อฟัง”ปัง!ในขณะนี้ ประตูห้องถูกเปิดออก“ฮิวจ์ เบเกอร์! ถ้าฉันเป็นแก ฉันจะคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้ ถ้าแกยอมทำ แกก็จะรอด!”เสียงเยือกเย็นสะท้อนออกมาจากทางเข้าห้องฮาร์วีย์อยู่ที่นั่นพร้อมกับไทสัน เขาเข้าไปในห้องอาหาร สีหน้าของเขายังคงเรียบเฉยไม่นานมานี้ คนที่ไทสันมอบหมายให้ปกป้องแมนดี้ส่งข่าวมาว่าเธอกำลังพบกับฮิวจ์ด้วยเหตุนี้ ฮาร์วีย์จึงรีบเดินทางมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้"อย่างนี้สิ! ใ
หลังจากที่ผู้คุ้มกันของแมนดี้พาเธอออกจากห้องอาหารนั้น ฮาร์วีย์ก็หันไปพูดกับฮิวจ์และพวกพ้องของเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฮิวจ์ เบเกอร์ แกไม่กลัวว่าจะต้องตายในบัควู้ดเพราะสิ่งที่แกพูดกับฉันงั้นสิ?”“ตายในบัควู้ดเหรอ?”ฮิวจ์หัวเราะออกมา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม“นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”“แม้ว่านายจะไม่ได้ค้นหาตัวตนของฉันในฐานะนายน้อยลำดับที่สองของตระกูลเบเกอร์แห่งซานฟรานซิสโก แต่นายไม่กลัวพ่อบุญธรรมของฉันเหรอ? คุณไม่กลัวหลงเหมินรึไง?”“นายควรรู้ว่าการที่โยเอล เกรฮัมสนับสนุนนาย เทียบอะไรไม่ได้กับหลงเหมินของเรา!”หลงเหมินเป็นองค์กรใต้ดินในประเทศ Hตำนานกล่าวว่าชายผู้เป็นเจ้าของหลงเหมินนั้นเป็นบุคคลสำคัญจากโวลซิ่ง ตัวตนของเขานั้นน่ากลัว และเขาก็เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสอีกด้วยหลังจากเกษียณแล้วเขาก็ก่อตั้งหลงเหมินขึ้นมาหลงเหมินมีสาขาในทุกหัวเมืองใหญ่ ตัวอย่างเช่น โอลิเวอร์ บาวเออร์ หัวหน้าสาขาในมอร์ดูนั่นเองด้วยมุมมองนี้ ตัวตนของฮิวจ์จึงดูน่าหวาดกลัวทีเดียว“หลงเหมิน?”ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ“แม้แต่ผู้นำของหลงเหมินยังต้องให้ความเคารพฉัน”“แกคิดจะใช้หัวหน้าสาขามาขู่ให้ฉั
ในที่สุด ทริสตัน ควินแลนก็ตอบโต้และตะโกนออกไปได้ “ฆ่าเขาซะ!”กลุ่มลูกน้องและผู้คุ้มกันรีบเข้ามาล้อมฮาร์วีย์ ยอร์กในทันทีไทสัน วูดส์ที่ไม่เคยปริปากขยับไปด้านข้าง เขาก้าวไปข้างหน้า และในทันใดนั้นคอของทริสตันก็ถูกกระชากปัง!ทริสตันล้มลงกับพื้น จากนั้นไทสันก็เหยียบหน้าเขาแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ซีอีโอยอร์กกำลังทำธุระอยู่ ใครกล้าขวางเขา!“ใครก็ตามที่กล้าก้าวมาอีกเพียงก้าวเดียว ฉันจะกระทืบมันให้ตาย!”ไทสันเป็นราชาแห่งท้องถนน เขาเคารพฮาร์วีย์เป็นอย่างมากแต่เมื่อเขาเคลื่อนไหวขึ้นมา เขากลับมีบุคลิกเฉกเช่นชายจากท้องถนนในขณะนี้ ความดุร้ายของไทสันทำให้เหล่าลูกน้องและผู้คุ้มกันเหล่านั้นลังเลทันที ไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการก้าวไปข้างหน้าหรือไม่ยิ่งกว่านั้น ต้นกำเนิดของทริสตันก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ถ้าเขาถูกกระทืบจนตายล่ะ?ในขณะเดียวกัน ฮาร์วีย์ก็คว้าขวดเบียร์ขวดที่สองแล้วทุบมันอย่างเงียบ ๆเพล้ง!เสียงกรีดร้องของฮิวจ์ เบเกอร์ดังขึ้นอีกครั้ง ในตอนแรกเขาพยายามจะลุกขึ้น ทว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือดและกรีดร้องออกด้วยความเจ็บปวดอย่าห้ามไม่ได้สาว ๆ ของเขาต่างถอยหนีด้วยความตกใจ เขาล้มลงกับพื้
ในทางกลับกัน ฮิวจ์ เบเกอร์กำลังสั่นสะท้านไปทั้งตัว จากนั้นเขาก็ตะโกนว่า “โทรหาพ่อบุญธรรมของฉันและให้เขาส่งทุกคนที่มีมาที่นี่!”“ทริสตัน โทรหาลูกพี่ลูกน้องของนาย!”ในขณะนี้ มีคนกระซิบว่า “นายน้อยลำดับที่สอง คุณต้องการเรียกนายน้อยมาที่นี่หรือไม่?”“ทำไมนายถึงอยากโทรหาเขา? นายอยากให้ฉันอับอายต่อหน้าเขาหรือไง?”ปัง! ฮิวจ์เตะลูกน้องของเขา“ใครกล้าบอกเรื่องนี้กับพี่ฉัน ถือว่ามันเป็นศัตรูกับฉัน!”ใบหน้าของฮิวจ์เหยเก แม้ว่าเขาจะมาที่บัควู้ดครั้งนี้เพราะได้รับโทรศัพท์จากแซม เบเกอร์...แต่เขากับแซมไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในตระกูลเบเกอร์แห่งซานฟรานซิสโก ทั้งคู่แข่งขันกันเพื่อแย่งตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลเบเกอร์ถ้าเขาขอความช่วยเหลือจากแซมในตอนนี้ เขาตายจะดีกว่า!ถึงกระนั้นเขาก็ไม่กลัว ไม่ใช่แค่ทริสตัน ควินแลนมาจากตระกูลควินแลนซึ่งค่อนข้างมีอิทธิพลในเซาท์ไลท์แค่พ่อบุญธรรมของเขา โอลิเวอร์ บาวเออร์ ยังหัวหน้าสาขาขององค์กรหลงเหมินในมอร์ดู ชื่อนี้อาจทำให้ผู้คนกลัวจนหัวหด!สำหรับคำพูดของฮาร์วีย์ ยอร์กที่ท้าทายหลงเหมินนั้น ในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในความสนใจของฮิวจ์ในโลกนี้ มีเพียงผู้ที่อยู่บ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข