ทันใดนั้นเจคก็ส่งข้อความหาเซซิเลียเซซิเลียเหลือบมองโทรศัพท์ของเธอ แม้ว่าตอนนี้เธอจะทำอะไรไม่ถูก แต่เธอก็ยืนขึ้น จากนั้นเธอก็ยิ้มและพูดว่า “แมนดี้อย่านั่งกับขยะไร้ค่านี้เลย เกรงว่าเธอจะติดเสนียดความจนและโชคร้ายจากเขา วันนี้เธอต้องโชคดี มาเปลี่ยนที่นั่งกับฉันสิ หลังจากนี้มิสเตอร์เซอร์เรย์จะพาเธอไปทำความรู้จักกับผู้บริหารระดับสูงของยอร์ก เอ็นเทอรไพรส์”แมนดี้ตอบกลับโดยไม่ลังเลเลยว่า “ลืมมันไปเถอะ ฉันจะนั่งตรงนี่”ในขณะนั้นแมนดี้อยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ แต่น่าแปลกที่เธอพบว่าตัวเองรู้สึกสบายใจและสงบขึ้นเมื่อนั่งอยู่ที่นั่นกับฮาร์วีย์มากกว่าเมื่อเทียบกับตอนที่เธอนั่งข้างเจคความรู้สึกสบายใจแบบนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความร่ำรวยเลย มันเป็นความรู้สึกเหมือนได้กลับไปบ้านของตัวเองและตอนนี้เธอเหมือนได้นอนอยู่บนเตียงเล็ก ๆ ของตัวเองแมนดี้ไม่สามารถอธิบายความรู้สึกนั้นได้ว่ามันมาจากไหนหรือเกิดขึ้นได้ แต่ในขณะนั้นเธอยังคงปฏิเสธเซซิเลียออกไปเซซิเลียโกรธมากจึงระบายลงด้วยการกระทืบเท้าแรง ๆ อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถทำอะไรได้มากนักและพยายามที่จะไม่แสดงอาการเคืองโกรธของเธอ เธอจึงนั่งลงและจ้องมองไ
"ที่รัก ดูเหมือนว่าคืนนี้คุณคงคงจะไม่ต้องจากคนโกหกหลอกลวงคนนี้อีกต่อไปแล้ว ล่ะ เนื่องจากเขาไม่รู้จักท่านประธานของยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ เขาจึงไม่มีประโยชน์อะไร พรุ่งนี้ให้ผมพาคุณไปพบอีวอนน์เพื่อนร่วมชั้นของผมไหม? อาจจะได้ผลมากกว่า” ฮาร์วีย์ ยอร์ก กล่าวกับ แมนดี้"จริงเหรอ? มันดีจริง ๆ!" แมนดี้ดูมีความสุขมาก อีวอนน์เป็นเลขาของท่านประธานของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ หากพวกเขาสามารถติดต่อกับเธอได้ มันคงจะง่ายกว่าในการเข้าถึงผู้บริหารระดับสูงของที่นั่นสีหน้าของเจคย่ำแย่ลง เซซิเลียส่ายหัวบ่งบอกว่าเขาพลาดไปเสียแล้วกับการพลั้งปากพูดออกไป เขาไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้อีกไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกมาในช่วงเวลานั้นคนนับพันเริ่มทะยอยเข้าร่วมการประมูลเมาน์เทนท็อป ซึ่งนั่นบ่งบอกว่างานประมูลนี้เป็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากหลังจากนั้นไม่นานการประมูลก็เริ่มขึ้นสินค้ารอบแรกเป็นนาฬิกาและเครื่องประดับแบบคลาสสิก แม้ว่าพวกมันจะค่อนข้างหายาก แต่ผู้คนที่นั่นก็ไม่ได้หลงไหลไปกับมันสิ่งเหล่านั้นมีตั้งแต่พันดอลลาร์ไปจนถึงแสนดอลลาร์ แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ยังไม่สามารถดึงดูดผู้คนในงานแต่เมื่อมี
สีหน้าของเซซิเลียเปลี่ยนไป เธอก็สนใจเจคอยู่บ้าง แต่เจคกลับสนใจแมนดี้เท่านั้นและเขาก็ไม่ได้เป็นมิตรกับเธอเท่าไหร่ นั่นทำให้เธอเจ็บปวดมาโดยตลอด ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนั้นเธอคงถีบส่งตัวเองให้กับผู้ชายที่ร่ำรวยและหล่อเหลาอย่างเขาไปตั้งนานแล้ว ทำไมเธอถึงต้องแนะนำเขาให้รู้จักกับแมนดี้ด้วยล่ะ?“ฮาร์วีย์ คุณไม่สามารถให้สิ่งที่ภรรยาของคุณต้องการได้ คุณช่วยหยุดแสร้งทำตัวอวดรวยได้ไหม คุณน่ารำคาญซะมัด!” เซซิเลียยิ้มเยาะและสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที“ฮาร์วีย์ เซซิเลีย หยุดพูดได้แล้ว” เมื่อเห็นว่าฉากตรงนี้มันทำให้แมนดี้ก็ตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เซซิเลียรังเกียจฮาร์วีย์ ฮาร์วีย์ไม่ได้โต้กลับเธอมาก่อนเลย เธอจะพูดประณามเขาไปเรื่อย จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ฮาร์วีย์ทำตัวแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างชัดเจนและเซซิเลียต้องทะเลาะกับเขาหลายครั้งเจคที่นั่งข้าง ๆ พวกเขายิ้มจาง ๆ ในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่างในตอนนั้นเอง“9.1 ล้าน!”“10.6 ล้าน!”“12.1 ล้าน!”เจครู้สึกไม่พอใจ แต่ในเวลานั้น มูลค่าของ แหวนเพชรรักนิรันดร์ เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า"เกิดอะไรขึ้น?" เจครู้สึกประหลาดใจ ‘ผู้หญิงพวกนี้ขาดสติไป
สีหน้าของแมนดี้บ่งบอกถึงความเบื่อหน่าย ในตอนแรกเธอรู้สึประทับใจที่เจคมีเงินมากมายและสามารถทำเพื่อเธอได้ แต่ตอนนี้เธอรู้สึกไม่พอใจและรู้สึกรำคาญใจอย่างมากเพราะ เจคล้อเลียนฮาร์วีย์ตลอดเวลาแม้ว่าฮาร์วีย์จะยากจนและเขาก็เป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ แต่เขาก็ทำงานบ้านทุกอย่างในช่วงสามปีที่ผ่าน เขาสละตัวเองให้กับความยากลำบากนั้นมาตลอด แม้ว่าแมนดี้จะไม่สามารถยอมรับเขาได้ในตอนแรก แต่ตอนนี้เธอก็เริ่มรับรู้ถึงสิ่งที่ดีในตัวเขานอกจากนี้เธอจะรู้สึกอับอายมากถ้าสามีของเธอถูกประณามในที่สาธารณะไม่ว่าสามีของเธอจะเป็นคนที่แย่แค่ไหนก็ตามในขณะนั้นแมนดี้ขมวดคิ้วมุ่นและพูดว่า “มิสเตอร์เซอร์เรย์ ฉันหวังว่าคุณไม่ตั้งใจที่จะพูดแบบนั้น ขอโทษฮาร์วีย์ด้วยนะคะ”“คุณต้องการให้ผมขอโทษเขางั้นหรือ?” เจคระเบิดเสียงหัวเราะ “ที่จริงผมทำเพื่อประโยชน์ของคุณเอง แมนดี้ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนมุมานะ เขาอาจจะนำพาปัญหามาให้คุณไม่ช้าก็เร็ว ผมเป็นคนใจกว้างพอดังนั้นผมจะไม่คิดโกรธแค้นเขาเพราะเรื่องนี้ ผมเพียงแค่จะให้คำแนะนำแก่เขาเท่านั้น ถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาอาจจะจัดการเขาไปแล้วก็ได้!”ไวแอตต์สนับสนุนในสิ่งที่เจคพูด “ใช่ แมนดี้ คุณไร้เ
แมนดี้ไม่ปฏิเสธและเธอพยักหน้าตอบรับฮาร์วีย์ยื่นมือออกไปวางบนมือเล็ก ๆ ของเธอ จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นในฐานะสามีของคุณ ผมจะมอบสิ่งนั้นให้คุณเป็นของขวัญ!”แมนดี้ตะลึงไปชั่วขณะเพราะเธอไม่รู้ว่าเธอจะต้องตอบสนองต่อสิ่งนั้นอย่างไร โรซาลีมองไปที่ฮาร์วีย์และเธอก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้‘ไม่เป็นไรถ้าเขาจะเป็นคนไร้ความสามารถ แต่เขาทำตัวเสแสร้งได้แย่มาก! แหวนนั้นมันตกไปอยู่ในมือของคนตระกูลยอร์กไปแล้ว ใครสามารถไปแย่งมาได้?’‘คุณเป็นแค่ลูกเขยไร้ประโยชน์ คุณจะไปมีสิทธิ์อะไร?***“หลังจากนี้ เราจะมีการประมูลอีกหกรอบ ในรอบต่อไปนี้แม้แต่ผู้ประเมินของเราก็ไม่สามารถระบุจำแนกได้ว่าคือของจริงหรือไม่ แต่เราได้ยินมาว่าที่มาของสินค้ารอบนี้นั้นยอดเยี่ยมมาก ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีสามารถเข้ามาประเมินได้ จากนั้นคุณสามารถตัดสินใจได้ว่าคุณต้องการประมูลสินค้านี้หรือไม่…”ในขณะนั้นดวงตาขอหญิงสาวในงานก็เปล่งประกายขึ้น บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก หลังจากนั้นเธอก็ปรบมือส่งสัญญาณ จากนั้นไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งผลักชั้นไม้สูงและใหญ่ออกจากด้านหลังเวทีประมูลอย่างช้า ๆทุกคนจับจ้องไปที่ชั้นไม้ขนาดให
“แน่นอนว่าภาพวาดนี้ไม่ได้แตกต่างจากของจริงมากนัก ผมรู้สึกว่ามันเป็นแบบจำลองที่ยอดเยี่ยมมากซึ่งสร้างขึ้นโดยคนในรุ่นหลัง ๆ เป็นไปได้ที่จะผลิตในรุ่นเรา และอาจจะเป็นสินค้าที่ขายทางออนไลน์ มันอาจจะไม่ถึงสิบห้าดอลลาร์ด้วยซ้ำ…” ไวแอตต์พูดชัด ๆ ทีละคำในเวลาเดียวกันเขามองไปที่ผู้ดำเนินการประมูลและพูดว่า “คุณผู้หญิง ผมไม่ได้พยายามทำลายความน่าเชื่อถือของงานประมูลนี้ ผมแค่พูดความจริง ผมหวังว่าคุณจะไม่ว่าอะไร”ผู้ดำเนินการประมูลคนนั้นยิ้มและพูดว่า “ผู้ประเมินของเราก็ไม่กล้ายืนยันหรือรับประกันด้วยเช่นกัน ภาพวาดของจริงถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนเมื่อนานมาแล้ว ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่ามันเป็นเพียงภาพวาดที่จำลองขึ้นมาอย่างดี ดังนั้นผู้ประเมินจึงไม่กล้ายืนยันความถูกต้อง เราไม่จำเป็นต้องประเมินคุณภาพและเราสามารถยืนยันได้ว่าไม่ใช่ของแท้”“ตอนนี้ทุกคนเข้าใจตรงกันหรือยัง? ภาพวาดนี้ไม่มีค่าแม้แต่สิบห้าดอลลาร์” ไวแอตต์พูดด้วยน้ำเสียงดูถูกหลังจากที่เขาพูดแบบนั้นเขาก็ได้รับการยกย่องจากผู้คนมากมาย‘ผู้เชี่ยวชาญ! เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแน่นอน!’‘ชายหนุ่มคนนี้ไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์ของจริงของปลอมของ “ยอดเขาแลนเดอร์ เ
ฮาร์วีย์ไม่ได้พูดอะไรไร้สาระ เขาหาเงินในกระเป๋า หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เจอเงินเพียงสิบห้าดอลลาร์ จากนั้นเขาก็ให้เงินแก่ผู้ดำเนินการประมูลซึ่งดูเหมือนจะยากเหลือเกินที่จะรวบรวมเงินช่วยไม่ได้ เขามีเงินสดเพียงสิบห้าดอลลาร์อยู่กับเขาในตอนนี้เสียงหัวเราะคำรามดังขึ้น“มันช่างตลกจริง ๆ ! มีคนซื้อ “ภาพวาดยอดเขาแลนเดอร์ เทือกเขาร็อกกี” ด้วยเงินเพียง 15 ดอลลาร์เท่านั้น!”“ไม่แปลกใจที่คุณกลัวว่าเงินมันจะหาย ดูเหมือนว่าตอนนี้คุณมีเงินติดตัวแค่สิบห้าดอลลาร์ไม่ใช่เหรอ?”“ฮาร์วีย์ คุณต้องดูแลภาพวาดนี้ให้ดี ๆ เราจะไปเยี่ยมคุณเมื่อเราว่างนั่นเพียงเพื่อประเมินภาพวาดนั่น ท้ายที่สุดแล้วมันจะเป็นภาพวาดระดับโลกที่มีชื่อเสียงในตำนานซึ่งมีมูลค่าถึงสิบห้าดอลลาร์!” คนนั้นก็หัวเราะออกมาดัง ๆทั้งเจคและไวแอตต์ ต่างส่งเสียงหัวเราะ ‘ฮาร์วีย์เป็นคนที่น่าขบขันมากทีเดียว เขาเป็นนักแสดงละครหรือเปล่า? 'ในตอนแรกฮาร์วีย์ไม่อยากยุ่งกับพวกเขา แต่หลังจากที่เขาสังเกตเห็นสีหน้าของแมนดี้แย่ลง เขาทำได้เพียงแค่ถอนหายใจและพูดอย่างใจเย็นว่า “ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็สามารถประเมินมูลค่าของสมบัติบางชิ้นแบบสุ่มเดาได้ แค่เพียงพวกเขารู้
เจคพูดแบบนั้นดูเหมือนว่าแผนการอันชาญฉลาดของเขาจะประสบความสำเร็จ ตราบใดที่มีโอกาสทำให้ฮาร์วีย์ถูกทำให้อับอายเขาก็จะคว้ามันไว้ฮาร์วีย์ยิ้มและพูดช้าๆ ไม่เร่งรีบ “ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่าน ผมมั่นใจว่าคุณรู้ว่าอัลเบิร์ต เบียร์แสต็ดท์ เป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งซึ่งรู้จักกันดีในด้านภาพวาดภูมิทัศน์ภูมิประเทศ ภาพวาดสีน้ำที่เขาวาดนั้นยอดเยี่ยมและดูเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง นอกจากนี้สไตล์ของเขาภาพวาดจะดูโรแมนติกและเร่าร้อน นั่นคือเทคนิคในตำนาน มันทำให้ภาพวาดของเขางดงามสง่างามอย่างไร้ขอบเขต... ดูนี่สิ ภาพวาดนี้ไม่เหมือนกับที่ผมอธิบายไว้หรือไง?คนอื่น ๆ ได้ยินว่าฮาร์วีย์พูดก็ฟังดูมีเหตุผล พวกเขาเหลือบมองภาพวาดนั่นทำให้รู้สึกว่าภาพวาดนั้นเหมือนกับที่ฮาร์วีย์อธิบายไว้ไวแอตต์เป็นคนเดียวที่หัวเราะออกมา‘ผู้ชายคนนี้กล้าพูดได้ยังไง? เขาไม่รู้หรือไงว่าภาพวาดส่วนใหญ่ที่ขายทางออนไลน์นั้นพิมพ์ออกมาโดยใช้เครื่องพิมพ์ความละเอียดสูง สามารถพิมพ์ภาพวาดได้ดีเหมือนต้นฉบับ 'ไวแอตต์เพียงแค่ยิ้มอย่างเย็นชา แต่ไม่ได้พูดอะไร เขามั่นใจว่าฮาร์วีย์แค่อยากโอ้อวด เขาคิดว่าฮาร์วีย์คงอยากทำให้เงินสิบห้าดอลลาร์ที
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข