ภาพที่เห็นทำให้สุนัขหลงหน้าถอดสีด้วยความลนลาน เขาไม่รู้ว่าฮาร์วีย์ ยอร์กมีแผนสำหรับเหตุการณ์นี้อยู่ก่อนแล้วจากนั้นเขาก็ตะโกนอย่างเย็นชา “ช่างหัวคนอื่น หยิบปืนของนายแล้วฆ่าเขา!”ตามคำสั่งของสุนัขหลงทาง ชายทั้งสามสิบคนที่สวมชุดลายพรางชักปืนออกจากเอวปัง ปัง ปัง!เสียงปืนดังก้องอยู่ในตรอก ผู้ชายทุกคนที่เล็งปืนไปที่ฮาร์วีย์ล้มลงกับพื้นอย่างเงียบเชียบบนศีรษะของพวกเขาสามารถมองเห็นรูกระสุนขนาดเล็กที่ทะลุผ่านไปได้สุนัขหลงทางไม่อาจคุมสีหน้าของตัวเองได้ เขาหันศีรษะไปรอบ ๆ โดยไม่รู้ตัวนักสู้ในชุดดำล้วนหลีกทาง จากนั้นชายหน้าตาดุร้ายคนหนึ่งก็เดินออกมาจากกลางซอยทันทีที่เห็นชายคนนั้น สีหน้าของสุนัขหลงทางก็เปลี่ยนไป“ไทสัน วูดส์เหรอ? คนของฉันล้อมนายไว้แล้วไม่ใช่หรือไง? นายออกมาได้ยังไง?”สุนัขหลงได้ส่งคนร้อยคนไปล้อมไทสันไว้แล้ว แต่เขาก็ยังมาปรากฏตัวที่นี่ได้ ตอนนั้นเองที่สุนัขหลงเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีกับเรื่องนี้“ซีอีโอยอร์กรู้อยู่แล้วว่านายกำลังคิดจะทำอะไร นายคิดจริง ๆ เหรอว่าตอนนี้ฉันต้องกำลังถูกคนของนายล้อมอยู่?”ไทสันเป่าใส่ปากกระบอกปืนเก็บเสียงของเขา“ฉันเป็นคนใจกว้าง คนที่ถูกล้อม
“วันนี้ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ไปไหนทั้งนั้น!”นักดาบส่งไทสัน วูดส์ไปทางฮาร์วีย์ ยอร์กด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว“ซีอีโอยอร์ก ผมทำให้คุณผิดหวัง!”ไทสันเช็ดเลือดออกจากปาก จากนั้นก็พยายามลุกขึ้น“คุณควรไปซะ ผมจะดูแลข้างหลังให้คุณเอง”“คุณอยู่ในค่ายศัสตราวุธเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ยังมีอีกหลายอย่างที่คุณยังไม่ได้เรียนรู้ สำหรับสิ่งที่คุณทำที่นี่ คุณค่อนข้างทำได้ดีแล้ว”ฮาร์วีย์เอื้อมมือไปตบไหล่ไทสัน“ในโอกาสที่หายากแบบนี้ ผมจะสอนบทเรียนให้คุณเอง”ไทสันตัวสั่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเบิกบานใจ สิ่งหนึ่งที่เขาเสียใจที่สุดในชีวิตคือการออกจากค่ายศัสตราวุธก่อนกำหนดแต่เมื่อได้มีโอกาสในการเรียนรู้หนึ่งในบทเรียนจากหัวหน้าผู้ฝึกสอน ไทสันไม่เสียใจอีกต่อไป!จากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ สุนัขหลงหัวเราะอย่างเย็นชาจากข้างหลัง“เจ้าชายยอร์ก นายไม่มีสมองรึไง?”“นายก็รู้ว่าเขาคือใคร? เขาเป็นราชาแห่งดาบของสตาร์ แชโบล หนึ่งในแปดราชันย์แห่งสวรรค์ของสตาร์ แชโบลในประเทศ H!”“นายจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ยังไง? เขาสามารถฟันนายขาดครึ่งได้ในครั้งเดียว!”ราชันย์แห่งเพลงดาบมองไปที่ฮาร์วีย์อย่างใจเย็นและพูดว่า
ทันทีที่ฮาร์วีย์ ยอร์กสังหารราชันย์แห่งเพลงดาบลงที่บริเวณทางเข้ามหาวิทยาลัยเซาท์ไลท์มีร่างที่เดินออกมาด้วยความกระวนกระวายในขณะนี้ซีนเธียร์ ซิมเมอร์ มองดูเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์และโทรหาฮาร์วีย์ติดกันสองสามครั้ง แต่ไม่มีใครรับสาย“พี่เขยใจร้ายจัง! เขากล้าไม่รับโทรศัพท์ได้ยังไง?!”ซีนเธียร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ฮาร์วีย์ตกลงที่จะไปที่มหาวิทยาลัยกับเธอแล้ว แต่เขายังไม่ได้ไปที่นั่นด้วยซ้ำ“สวัสดี คุณคือคุณซีนเธียร์ใช่ไหม?”ชายร่างสูงหล่อเดินเข้าไปหาซินเทียและถามอย่างสุภาพ“ใช่ค่ะ และคุณเป็น…”“ผมเป็นหนึ่งในนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเซาท์ไลท์ อาจารย์ขอให้ผมพาคุณเดินดูรอบ ๆ…” ชายคนนั้นตอบขณะยิ้มซีนเธียร์รู้สึกสงสัยเล็กน้อย“ทำไมฉันไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย?”ชายคนนั้นมองไปรอบ ๆ แล้วหัวเราะเบา ๆ“นี่คือจดหมายแนะนำตัว คุณจะรู้เมื่อคุณอ่านมัน…”ซีนเธียร์แอบดูจดหมายอย่างอยากรู้อยากเห็น แต่ในวินาทีต่อมา ชายคนนั้นก็หยิบผ้าขนหนูออกจากมืออย่างรวดเร็วและปิดมันลงบนหน้าของซีนเธียร์ซีนเธียร์ดิ้นไปมา ขณะที่สายตาของเธอค่อย ๆ พร่ามัวลง ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปหมด แต่เธอไม่อาจแม้แต่จะส่งเสียงอะไรออกไป
ในวิลล่าย่านฮาร์ท ริเวอร์ เบย์ในบัควู้ดนี่เป็นย่านที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วเป็นเวลาหลายปี มีวิลล่าเพียงแห่งเดียวทั้งทั้งเขต ตัววิลล่านั้นตั้งอยู่บนคาบสมุทร ถนนโดยรอบสูงชันราวกับเป็นป้อมปราการตามธรรมชาติที่ด้านนอกของวิลล่า มีกำแพงที่แคบและยาวล้อมรอบ ทั้งยังมีสายไฟฟ้าติดตั้งไว้ทั่วกำแพง ถือเป็นการป้องกันที่แน่นหนามากมีคนประมาณสิบกว่าคนคอยเฝ้าทางเข้า พวกเขาล้วนเป็นชายฉกรรจ์ร่างกำยำ ที่สวมเครื่องแบบลายพราง พวกเขาดูเหมือนทหารเกษียณจากประเทศ Jรถเพิ่งมาถึงและจอดอยู่ที่ทางเข้าวิลล่า ฮาร์วีย์ ยอร์กและอีธาน ฮันต์ เดินออกจากรถโดยทิ้งเสื้อแจ็คเก็ตเอาไว้พวกเขาวางแผนที่จะสร้างเหตุนองเลือดในคืนนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องทิ้งเสื้อผ้าที่ยังสะอาดบางส่วนไว้ข้างหลังแม้แต่ฝักดาบของอีธานก็ยังถูกทิ้งไว้ในรถ เขาถือดาบด้วยมือเพียงข้างเดียวในขณะที่เดินตามหลังฮาร์วีย์ไปอย่างใกล้ชิดด้วยสีหน้าเย็นชาในวันนี้ เทพสงครามรู้สึกราวกับกำลังติดตามหัวหน้าผู้ฝึกสอนไปช่วงชิงดินแดนในสนามรบยูโร-อเมริกันเมื่อครั้งก่อนเขาไม่ใช่คนที่เป็นผู้นำค่ายศัสตราวุธ เขาเป็นเพียงทหารธรรมดาเท่านั้น“นี่คือสถานที่ส่วนบุคคล ผู้บุก
พวกฝีมือดีในอาคารหลักพากันตื่นตระหนก ชายหลายคนปรากฏตัวขึ้นจากทุกทิศทาง พวกเขาหยิบอาวุธปืนและแท่งเหล็กเย็นเฉียบออกมา และเริ่มตะโกนเตือนกันไปทีละคนขวับ ขวับ ขวับ…!อีธาน ฮันต์เผชิญหน้กับชายเหล่านี้ สีหน้าของเขาเย็นชา ดาบของเขาสาดแสงไปมาราวกับแสงจันทร์ และเขาก็ล้มทุกคนที่พยายามเล็งปืนไปที่ฮาร์วีย์เพียงหนึ่งนาทีต่อมา คนเกือบห้าสิบคนก็ล้มลงข้างกายฮาร์วีย์และอีธานมีศพอยู่ทุกหนทุกแห่ง และทั่วทั้งสถานที่ก็ฉาบไปด้วยเลือดฮาร์วีย์และอีธานมาถึงทางเข้าอาคารหลักภายในสามนาทีเมื่อถึงเวลานั้น ยอดฝีมือในวิลล่าทั้งหมดก็กรูกันเข้ามา ทันใดนั้น อาวุธปืนและดาบทั้งหมดก็เล็งไปทางฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ไม่แยแส “บอกให้รอย การ์ฟิลด์ออกมา!”“สามหาว! แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”ชายคนหนึ่งสวมชุดคลุมเดินออกมาจากฝูงชน ชี้และตะโกนไปที่ฮาร์วีย์“แกกล้าเข้ามาเหยียบถิ่นของสตาร์ แชโบลและทำตัวอันธพาล! นายกล้ามากนะ!”เพี๊ยะ!แต่ก่อนที่ชายคนนี้จะพูดจบ ฮาร์วีย์ก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วตบเขาทันทีสีหน้าของชายผู้นี้เปลี่ยนไปอย่างมาก และร่างของเขาก็ถอยหลังไปอย่างรวดเร็วทว่าเขาก็ยังเร็วไม่พอเมื่อฮาร์วีย์ตบหน้าเขา หัวของเขาก
หลังจากการตบของฮาร์วีย์ หัวหน้าที่ประกาศว่าตัวเองเป็นราชันย์แห่งสวรรค์ทั้งแปด ราชันย์มังกรแห่งประเทศ J ก็ล้มลงเธอตายอย่างเสียเปล่า!เธอเป็นราชันย์แห่งยุคและเคยโลดโผนในประเทศ J แต่ในตอนนี้เธอกลับถูกผู้ชายคนเดียวตบจนตายยอดฝีมือของประเทศ J ต่างหน้าซีดกันไปหมดเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้านี้ตอนนี้พวกเขาไม่มีความกล้าที่จะยกอาวุธขึ้นต่อกรกับฮาร์วีย์อีกต่อไปฮาร์วีย์ไม่แยแส เขาหยิบทิชชู่ออกมาเช็ดนิ้วมือ “ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ให้รอย การ์ฟิลด์ออกมา”“สำหรับพวกนายที่เหลือ หยุดเอาชีวิตมาทิ้งได้แล้ว”ความเงียบงันแผ่กระจายไปทั่วฝูงชนพวกเขาเงียบราวกับคนตายพวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีใครกล้าบุกเข้ามาทางประตูหน้าและฆ่าคนของพวกเขาในบัควู้ดกระจัดกระจายอย่างนี้ชายคนนี้ยังกล้าเรียกชื่อรอยออกมาด้วยซ้ำ!บรรยากาศยังคงนิ่งงันและปราศจากการเคลื่อนไหวบางคนตกใจ บางคนเคร่งขรึม และบางคนกัดฟันด้วยความหงุดหงิด แต่ไม่มีใครกล้าขยับกายหรือแม้แต่พูดอะไรสักคำหากเป็นสถานการณ์ปกติ พวกเขาจะถือว่าใครก็ตามที่กล้าท้าทายรอยอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ล้วนสติฟั่นเฟือนทั้งนั้นรอย การ์ฟิลด์เป็นศิษย์คนสนิทของวอลเลซ พาร์
รอยตบมืออย่างแผ่วเบา ทันทีที่เขาพูดจบขณะที่เขาทำเช่นนั้น ยอดฝีมือของประเทศ J เกือบร้อยคนก็กรูกันออกไปคนเหล่านี้คือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรอย แต่ละคนสวมเสื้อคลุมเทควันโด เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นปรมาจารย์เทควันโดพวกเขาล้อมรอบรอยอย่างแคล่วคล่อง โดยให้ผู้เป็นนายอยู่ตรงกลางฝูงชนพวกเขาพุ่งออกมาด้วยเจตนาฆ่า พวกเขาปลดล็อกเซฟตี้ของปืน ราวกับว่ากำลังเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจหลังจากนั้น ชายในชุดคลุมเทควันโดสีดำก็เดินออกจากบ้านพักไปอย่างเชื่องช้าในมือของเขามีผ้าพันม้วนหนึ่ง ซึ่งเขาพันมันที่รอบมือทั้งสองข้างเขามองปราดไปที่ฮาร์วีย์ ใบหน้าแสดงออกอย่างเคร่งขรึมจนไม่อาจบรรยายได้เขาคือกิลเบิร์ต พาร์ค หนึ่งในสามเซียนแห่งเทควันโด ในเวลาเดียวกัน ชายอีกคนในชุดคลุมเทควันโดก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังฮาร์วีย์และอีธาน นิ้วหนาของเขาพันรอบขวดแอลกอฮอล์ เขาดูเอื่อยเฉื่อยเช่นเดียวกับกิลเบิร์ต เขาก็แสดงเจตนาฆ่าเช่นกันฉายาของเขาปรมาจารย์หมัดเมา เป็นอีกหนึ่งในสามเซียนแห่งเทควันโดเช่นกันเขาและกิลเบิร์ตเป็นที่รู้จักในฐานะสามเซียนแห่งเทควันโด และมีความแข็งแกร่งระดับเดียวกับเทพสงคราม
รอยยิ้มบิดเบี้ยวน่าขยะแขยงปรากฏบนใบหน้าของรอยเขามีตำแหน่งสูงในประเทศ J และมีสถานะพิเศษในสตาร์ แชโบลแต่ฮาร์วีย์พังชื่อเสียงของเขาในคืนนั้นจนย่อยยับฮาร์วีย์ฆ่าปรจารย์ซึ่งเป็นราชันย์แห่งสวรรค์ที่รอยพามาด้วยไปสี่คน ก็เท่ากับทำให้เขาอับอายขายหน้าตอนนี้รอยมีโอกาสที่จะกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา และเขาจะไม่รั้งรออะไรอย่างแน่นอนซีนเธียร์ปิดหน้าของเธอด้วยท่าทางกังวลใจ เธอไม่รู้ว่าทำไมคนชั่วพวกนี้นี้ถึงต้องการตัวเธอทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เป็นประกายราวกับว่าพบที่พึ่งสุดท้าย เธอมองไปที่ฮาร์วีย์และเรียกเขาเสียงต่ำว่า “พี่เขย!”ดวงตาของฮาร์วีย์เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าเมื่อเขาเห็นรูปลักษณ์ของซีนเธียร์ฮาร์วีย์ไม่เคยคิดจะทำให้น้องภรรยาเป็นอะไรไปแม้แต่ปลาบเล็บ รอยกำลังเล่นกับไฟ!ฮาร์วีย์หายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดอย่างแผ่วเบาว่า “ซีนเธียร์ ไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม?”ซีนเธียร์ฝืนยิ้ม “ฉันไม่เป็นอะไร พี่เขย”ฮาร์วีย์พิเคราะห์ซีนเธียร์อย่างระแวงระวัง เมื่อรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร เขาก็รู้สึกสบายใจ"ดี ฉันจะพาเธอกลับบ้าน”ซีนเธียร์ยิ้มให้เขา ทั้งยังมีน้ำตาไหลอาบแก้มทันที เธอรู้สึกทั้งเสียใจและมีความสุขในเ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข