“ดูเหมือนว่าจะมีงานประมูลครั้งใหญ่ที่นี่ มีคนส่งคำเชิญมาให้ฉันด้วย คุณจะซื้ออะไรเหรอ?”แมนดี้ ซิมเมอร์รู้ว่าฮาร์วีย์ ยอร์กมีความสามารถพิเศษในการประเมินวัตถุโบราณ เธอจึงถามด้วยความอยากรู้“ก็ไม่เชิงหรอก ผมแค่อยากมาดู แค่อยากมาเปิดหูเปิดตาก็เท่านั้น” ฮาร์วีย์ตอบอย่างคลุมเครือหากนายน้อยฟลินน์ในตำนานจากร้านขายวัตถุโบราณของตระกูลฟลินน์ขายสมบัติของชาติให้กับชาวต่างชาติจริง ๆ ฮาร์วีย์ก็จะมอบบทเรียนที่ยากจะลืมเลือนให้กับเขาอยากไม่รังเกียจเลยทีเดียวภายในโรงประมูลดาร์เรน ฟลินน์ ถือโทรศัพท์ของเขาไว้ในมือขณะที่ยืนด้วยนอบน้อมเสียงเย็นยะเยือกดังก้องมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์“ตัวแทนลีจากบริษัทสตาร์ แชโบลโทรหาผมเมื่อคืนนี้ เขาบอกว่าเขาจับตาดูสินค้าสามรายการที่จะออกประมูลวันนี้อยู่”“เพื่อเป็นของขวัญในการพบกัน ผมต้องการให้ของทั้งสามรายการนี้ส่งไปยังบริษัทสตาร์แชโบล เตรียมของให้พร้อม”เหงื่อเย็นหยดลงบนใบหน้าของดาร์เรนในตอนที่เขาตอบกลับไป “นายน้อยฟลินน์วางใจได้เลย ผมจะจัดการเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้เอง ผมเลือกคนที่จะเข้าร่วมการประมูลไว้แล้ว และยังได้พบกับคนที่มีเงินพอจะประมูลของทั้งสามรายการน
ดาร์เรน ฟลินน์ยืนขึ้นและปรบมือ“ทุกคนโปรดเงียบและฟัง!”“งานประมูลที่ร้านค้าวัตถุโบราณตระกูลฟลินน์จัดขึ้น มีสมบัติหายากที่เปิดให้ประมูลเพียงสามชิ้นเท่านั้นและมีรายการดังต่อไปนี้ คือหนึ่งในผลงานของแจสเปอร์ ฮิกกินส์ เครื่องลายคราม และตราประทับของแม่ทัพ!”“นายน้อยฟลินน์กล่าวว่าวัตถุโบราณสามชิ้นนี้เป็นสมบัติของทางร้าน หากต้องแยกจากกันพวกมันคงไร้ความหมาย!”“แล้วถ้าเราประมูลทั้งสามรายการพร้อมกันในคืนนี้ล่ะ?!”ดาร์เรนพูดด้วยน้ำเสียงที่เถรตรงราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกที่ควรด้วยความสัตย์จริง เขากำลังวางแผนที่จะยกสิ่งของเหล่านั้นทุกชิ้นให้ตกไปอยู่ในมือของรอยได้ตามที่เขาต้องการ"นี่มัน…"หลายคนตกตะลึงหลังจากได้ยินคำพูดของเขา แต่ไม่นานคนที่ดาร์เรนจัดเตรียมไว้ก็ยืนขึ้นทันที“ร้านค้าวัตถุโบราณตระกูลฟลินน์เป็นเจ้าบ้านจัดงานประมูลในวันนี้ คุณจะตั้งกฏเช่นนี้ก็ไม่ผิดหรอก!”“ผมเคยได้ยินเรื่องวัตถุโบราณสามชิ้นนี้มาก่อน พวกมันเป็นสมบัติของร้านวัตถุโบราณตระกูลฟลินน์ คงจะน่าเสียดายมากหากต้องแยกของทั้งสามชิ้นออกจากกัน!”“มันจะมีค่าก็ต่อเมื่อคุณได้รับทั้งสามรายการนี้!”“ใครก็ตามที่กระเป๋าหนักมากพอ
ปะทะกับสตาร์แชโบล?นั่นไม่ต่างกับการฆ่าตัวตาย!เมื่อมองไปที่คนส่วนใหญ่ที่อุทานการประมูลของพวกเขาแล้ว รอย การ์ฟิลด์ก็ชูป้ายของเขาอย่างใจเย็นและพูดว่า “สตาร์ แชโบลจากประเทศ J จะเสนอราคาหนึ่งร้อยเจ็ดสิบล้านเหรียญ!”ฝูงชนตัวแข็งเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดของรอยแม้ว่าสตาร์ แชโบลจะล้มเหลวอย่างน่าสังเวชในเซาท์ไลท์มาก่อน แต่ก็มีคนไม่มากที่รู้เรื่องนี้ มีเพียงคนในแวดวงสังคมของบัควู้ดเท่านั้นที่รู้อีกทั้งยังไม่มีใครกล้ากระจายข่าวเพราะสตาร์ แชโบลมีอำนาจมากเกินไปนั่นเป็นสาเหตุที่ข่าวนั้นยังคงถูกซุกไว้ใต้พรมเมื่อผู้คนได้ยินการเสนอราคาอันแสนทรงพลังของสตาร์แชโบล ก็ไม่มีใครในหมู่ฝูงชนกล้าเป็นคู่แข่งและคนที่อยู่ที่นี่แค่เพื่อทำให้งานคึกคักเหล่านั้นก็จากไปอจนหมด เป้าหมายของพวกเขาสำเร็จแล้ว!ตัวแทนฝูงชนมองรอยด้วยความชื่นชม“ฉันจำเขาได้ เขาคือรอย การ์ฟิลด์ เป็นรองตัวแทนคนใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากสตาร์ แชโบลในสาขาของประเทศ H!”“ว่ากันว่าเขาเป็นศิษย์ที่แท้จริงของวอลเลซ พาร์ค นักเทควันโดมืออาชีพชั้นนำ!”“ตระกูลการ์ฟิลด์นั้นทรงพลังในประเทศ J!”ผู้คนที่จำรอยได้ต่างพากันอ้าปากค้างหนักขึ้นเข
เหวอ!ฝูงชนทั้งหมดอ้าปากค้าง พวกเขามองไปที่ฮาร์วีย์ ยอร์กด้วยสีหน้าเหลือเชื่อนี่มันบ้าไปแล้ว!มีใครกล้าเผชิญหน้ากับสตาร์ แชโบลในสถานการณ์แบบนี้บ้าง?มันไม่ง่ายเหมือนการต่อสู้เพื่อทรัพย์สินเสียหน่อยฮาร์วีย์ กำลังต่อสู้กับ สตาร์ แชโบลแบบถวายชีวิต!ผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้ว!“ไอ้บ้า! นายกำลังรนหาที่ตายอยู่นะ!”รอย การ์ฟิลด์เดือดดาลด้วยความโกรธเขาเป็นคนตัวใหญ่ที่คำพูดฟังมีน้ำหนักมาก ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะต่อต้านเขา สิ่งเหล่านี้เองที่ปลูกฝังความเย่อหยิ่งในตัวเขาแต่ที่โรงประมูลเล็ก ๆ ในวันนี้ กลับมีคนกล้าท้าทายเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่ารอยอยากจะบีบคอฮาร์วีย์ให้ขาดใจตายไปเสียเดี๋ยวนี้และตามงบประมาณจำนวนหนึ่งร้อยเจ็ดสิบล้านเหรียญน่าจะเพียงพอสำหรับการประมูลสมบัติหายากทั้งสามชิ้น แต่เพราะผู้ชายที่มาจากไหนไม่รู้คนนี้ รอยจึงต้องควักกระเป๋าออกมามากกว่าเดิมถึงสองเท่า!แม้ว่าจะไม่ใช่เงินของรอยแต่ปัญหาคือนี่เป็นงานแรกของเขาในฐานะรองผู้แทนเขาทำให้งบประมาณหมดไปตั้งแต่งานแรก เขาจะมีหน้าอยู่ในสตาร์ แชโบลหรือประเทศ J ต่อไปได้อย่างไร?“สี่ร้อยล้าน!”รอยจ้องฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าเย็นชาราวกับน้ำแข็ง“สี่ร
หลังจากได้ยินคำอธิบายของดาร์เรน ฟลินน์ ใบหน้าของ แมนดี้ซิมเมอร์ก็เปลี่ยนสีไปในทันทีเธอรู้อยู่แล้วว่าร้านค้าวัตถุโบราณตระกูลฟลินน์กำลังร่วมมือกับสตาร์ แชโบล เพื่อให้พวกเขาเป็นผู้ซื้อแต่เธอไม่คิดว่าหลังจากฮาร์วีย์ ยอร์กชนะการประมูล ร้านค้าวัตถุโบราณตระกูลฟลินน์จะไร้ยางอายถึงขนาดนี้ พวกเขาเปลี่ยนสกุลเงินเป็นปอนด์หลังจากการประมูลจบลงอย่างนั้นหรือ?ทว่าในอีกด้านหนึ่ง ฮาร์วีย์กลับดูความสงบอย่างน่าทึ่งในคืนนั้น ตระกูลฟลินน์จากฮ่องกงเป็นผู้จัดการประมูล อีกทั้งยังมีสตาร์ แชโบลที่ร่วมมือกับพวกเขา พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่รับมือได้ง่าย“ใครบอกว่าสกุลเงินจะคำนวณเป็นปอนด์?” ฮาร์วีย์ถามอย่างใจเย็น"ผมเอง ผมเป็นเจ้าของร้านค้าวัตถุโบราณตระกูลฟลินน์ คำพูดของผมถือเป็นสิทธิ์ขาด ผมจะใช้สกุลเงินใดก็ได้ที่ผมเห็นว่าเหมาะสม ถ้าคุณโกรธจะกัดผมหรืออะไรก้ได้”จากนั้นชายร่างผอมเพรียวก็เดินออกมาจากหลังเวที และยิ้มจาง ๆ ให้กับฮาร์วีย์ดาร์เรนตัวสั่นเมื่อเห็นชายคนนั้น ก่อนรีบเข้าไปหาเขาทันทีและพูดว่า “นายน้อยฟลินน์!”ฮาร์วีย์เหล่ตามองไปครู่หนึ่ง แล้วถามอย่างใจเย็นว่า “นายน้อยฟลินน์? แมทธิว ฟลินน์จากตระกู
ก่อนที่แมนดี้ ซิมเมอร์จะโกรธจัด ฮาร์วีย์ยอร์กก็ก้าวไปข้างหน้าทันที ก่อนตอบอย่างเย็นชาว่า “ออกไป!”แมทธิว ฟลินน์เงยหน้าขึ้นสูงและจ้องไปที่ฮาร์วีย์"อะไร? นายบ้าไปแล้วเหรอ? ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าฉันให้นายไปหลายตัวเลือก”จู่ ๆ ฮาร์วีย์ก็เตะแมทธิวจนล้มลงกับพื้น จากนั้นพูดอย่างเย็นชาว่า “ช่างหัวตัวเลือกนายสิ!”ใบหน้าที่หล่อเหลาของแมทธิวดูน่ากลัวในขณะนี้ เขาไม่คิดว่าฮาร์วีย์จะกล้าทำแบบนี้ในที่สาธารณะรอยยิ้มที่น่าสมเพชเผยออกมาจากใบหน้าของเขา“ฉันจะไม่ปล่อยให้นายหลุดมือไปง่าย ๆ หรอกฮาร์วีย์ ยอร์ก ผู้หญิงของแกจะตกอยู่ในกำมือของฉัน! แกปกป้องเธอไปตลอดไม่ได้หรอก!”ฮาร์วีย์ตอบอย่างเย็นชาว่า “นายลองพูดอีกครั้งสิ!”รอยยิ้มของแมทธิวดูหม่นหมองยิ่งกว่าเก่า“ผู้หญิงของแกจะตกอยู่ในกำมือของฉัน!”พลั่ก!ฮาร์วีย์ส่งแมทธิวออกไปด้วยการเตะอย่างแรงทันทีเสียงดังกล่าวดึงดูดความสนใจของผู้คนภายนอก บอดี้การ์ดกลุ่มใหญ่ของแมทธิวรีบเข้ามาฮาร์วีย์เดินไปข้างหน้าโดยที่สีหน้ายังคงไม่เปลี่ยนไปแต่อย่างใด“ฮาร์วีย์ อย่าผลีผลาม”แมนดี้ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดฮาร์วีย์บอกว่าเขาจะไม่ก่อเรื่องวุ่นวายอีก แต่เขากลับทำม
ที่โรงประมูลสีหน้าของแมทธิว ฟลินน์และดาร์เรน ฟลินน์นั้นดูเลวร้ายมากหลังจากนั้นไม่นาน แมทธิวก็ถามว่า “เขาโอนเงินกว่าห้าร้อยแปดสิบล้านเหรียญมาแล้วจริงหรือ?”"ใช่เขาโอนมาแล้ว มันอยู่ในบัญชี”"ไม่ เดี๋ยวก่อน เงินถูกอายัดไปแล้ว!”ดาร์เรนมีท่าทีลนลาน นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้“เขาอายัดเงินเหรอ? ดูเหมือนว่าที่ปรึกษายอร์กของเราจะมีใครซักคนอยู่เบื้องหลัง!”สีหน้าของแมทธิวเย็นชาราวกับน้ำแข็ง“แต่ไม่เป็นไร สถานการณ์นี้มีคนไม่สบอารมณ์ยิ่งกว่าเรา มารอดูการแสดงกันเถอะ”***สามวันต่อมาที่การ์เด้น เรสซิเด้นท์รถเบนซ์ที่จอดอยู่ในจุดจอดรถเป็นเวลาสามวันเต็ม ๆ สตาร์ทเครื่องช้า ๆ คนหนุ่มสาวสองคนที่ดูธรรมดามากนั่งอยู่ในรถหากพวกเขาเดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน จะไม่มีใครสามารถแยกแยะคนสองคนนั้นออกได้เลย แม้แต่ระบบจดจำใบหน้าที่ก้าวหน้าที่สุดก็ไม่อาจตรวจพบนี่เป็นเพราะพวกเขามีใบหน้าที่ดูธรรมดาซึ่งได้มาจากการศัลยกรรมใบหน้าที่ทันสมัยและทั่วทั้งโลก มีเพียงประเทศ J ประเทศเดียวที่สามารถทำเช่นนี้ได้นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา แม้แต่หัวหน้านักเลงที่มีหน้าที่ปกป้องแมนดี้ ซิม
‘ฮาร์วีย์ ยอร์กคือเจ้าชายยอร์กเสียเอง!’คำพูดเหล่านั้นราวกับเสียงฟ้าฝ่า มันทำให้ทุกคนตกใจรอย การ์ฟิลด์ ยิ้มและตอบว่า “ดี! คุณทำได้ดี สุนัขหลง! ที่หาข้อมูลได้ละเอียดขนาดนี้!”“แม้ว่าคุณจะยังไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ในตอนนี้ แต่เราควรเตรียมตัวอย่างมีสติกับข้อมูลสำคัญนี้!”“เนื่องจากฮาร์วีย์อาจเป็นเจ้าชายยอร์กจริง ๆ ซึ่งก็สมเหตุสมผลแล้วที่เขาจะสามารถจ่ายเงินห้าร้อยแปดสิบล้านเหรียญและอายัดเงินพวกนั้นในภายหลังได้” แมทธิว ฟลินน์พูดอย่างใจเย็นขณะที่เขาครุ่นคิดอยู่“เจ้าชายยอร์กถือเป็นจุดสูงสุดของเซาท์ไลท์ เป็นยอดมนุษย์ของบัควู้ด ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะหยิ่งผยองได้ขนาดนี้!”“ในตอนนี้ เจ้าชายยอร์กค่อนข้างรับมือยาก รองผู้แทนรอย คุณมีแผนอะไรรึเปล่าครับ?”รอยยิ้มขี้เล่นเผยออกมาจากใบหน้าของรอย“เจ้าชายยอร์กอาจดูน่ากลัวในสายตาคนอื่น แต่ถึงยังไงเมื่ออยู่ต่อหน้าสตาร์ แชโบลแล้ว เขาก็ไม่มีความหมายอยู่ดี”แมทธิวยิ้มและตอบว่า “อย่าลืมสิ สตีฟ ลี น้องชายของคุณในสตาร์ แชโบลตายด้วยน้ำมือของเขา ผมได้ยินมาว่าสี่ในแปดราชาแห่งสวรรค์ก็ตายเพราะเขาเช่นกัน”รูม่านตาของรอยหดลงเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข