เฟย์ ก็อดดาร์ดยังเอ่ยปากพูดว่า "นายยอร์ก นายเกาะผู้หญิงกินมานาน ก็เลยเผลอคิดไปว่าตัวเองยิ่งใหญ่อย่างนั้นสิ?”“นายคิดว่าตำแหน่งในฐานะที่ปรึกษาของนายยอดเยี่ยมขนาดนั้นเลยเหรอ?”“ฉันเคยบอกนายมานานแล้ว ว่าต่อหน้าผู้ยิ่งใหญ่ตัวตนของนายก็ไม่มีค่าอะไร!”ฮาร์วีย์ ยอร์กตอบอย่างไม่แยแสว่า “อีกไม่นานคุณจะรู้ว่าสถานะของผมมันมีค่าหรือไม่”"โอ้อวด! โอ้อวดต่อไปเถอะ!” เฟย์เย้ยหยัน “ลูกเขยแต่งเข้าบ้านที่ทำตัวเหมือนราชา!”เฮนรี่ ฟลินน์พูดอย่างดุเดือดว่า “นายยอร์กมันไม่มีประโยชน์หรอก ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายที่ตลาดค้าวัตถุโบราณแห่งนี้!“ต่อให้คุณ มีโยเอล เกรฮัม เป็นผู้บังคับบัญชา ผมก็ยังจะฆ่าคุณอยู่ดี!”“โยเอล เกรฮัม คุณคู่ควรกับเขาเหรอ?” ฮาร์วีย์กล่าวอย่างเฉยเมยเป็นภาพที่ค่อนข้างแปลกตาเพราะโดยปกติแล้วจะไม่มีใครกล้าที่จะเอ่ยอ้างชื่อผู้บัญชาการสูงสุดของบัควู้ดทันใดนั้นเอง รถหลายคันหยุดอยู่ที่ประตูของร้านวัตถุโบราณตระกูลฟลินน์อีกครั้งจากนั้นคนในเครื่องแบบสองสามคนก็ลงมาจากรถ ผู้นำคือชายสวมแว่นตากรอบสีทอง และเขายังมีรังสีที่ดูแข็งแกร่งอีกด้วย“คุณเกรฮัม ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่?”เมื่อเห็นชายสวมแว่น
ใบหน้าของเฮนรี่ ฟลินน์มืดลงทันที น้ำเสียงของฮาร์วีย์ ยอร์กคือน้ำเสียงของผู้บังคับบัญชาที่กำลังสั่งสอนลูกน้อง!สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่านั้นคือไมเคิล เกรฮัม ลดศีรษะลงในขณะนี้ “ซีอีโอยอร์ก ผมขออภัยครับ ผมสอนเขาไม่ดีเอง ผมจะให้คำอธิบายเรื่องนี้แก่คุณอย่างแน่นอน!”หลังจากพูดจบ เขาก็หันหลังกลับและเดินไปหาเฮนรี่และคนอื่น ๆ“คุณเกรฮัม ทั้งหมดนี้เป็นการเข้าใจผิด!”"ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าฮาร์วีย์รู้จักคุณ!”“ได้โปรดให้โอกาสเราอีกครั้ง!”เฮนรี่คุ้นเคยกับการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี เขาคุกเข่าร้องไห้ขณะที่กอดต้นขาของไมเคิลในทันที ไม่เหลือเค้าของความโอ้อ้วดอีกต่อไปไมเคิลเป็นผู้บังคับบัญชาของเขา ด้วยคำพูดเพียงคำเดียวก็สามารถทำลายอาชีพการงานของเขาได้อย่างง่ายดายเพียงแค่คำเดียวก็มาพอจะจบอาชีพของเขาได้เพี๊ยะ!“นักถลกหนังแห่งการจัดการวัตถุโบราณ!”เพี๊ยะ!“นายสุดยอดมาก!”เพี๊ยะ!“กักกันของคนอื่นโดยไร้เหตุผล!”เพี๊ยะ!“ปรับคนอื่น 15.4 ล้านหรียญ!”ไมเคิลตบเขาอย่างไม่ยั้งมือหลายครั้งไมเคิลตบเขาอย่างแรง จนทำให้เฮนรี่มีเลือดกำเดาไหลออกมาทันทีและแก้มของเขาก็เริ่มบ
น้ำเสียงของไคล์ ควินแลน ในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์เปลี่ยนไปหลังจากได้ยินว่าเฟย์ ก็อดดาร์ดถูกทำร้าย จากนั้นเขาก็พูดอย่างโหดเหี้ยมว่า “ใครกล้าทำแบบนั้นกับตัวแทนของนายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกง?”“เนื่องจากนายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกงต้องการลงทุนในเซาท์ไลท์ พวกเขาจึงเป็นแขกของรัฐบาลเซาท์ไลท์!”“การตบหน้าพวกเขาเท่ากับตบหน้ารัฐบาลเซาท์ไลท์ และฉันด้วย!”“มิสก็อดดาร์ด ให้พวกเขารอก่อน ฉันจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!”เฟย์พูดด้วยความพอใจ “คุณควินแลน ไม่ต้องกังวล พวกเขาหนีไปไหนไม่ได้ เราแค่รอให้คุณมาเป็นคนทวงความยุติธรรมให้!”หลังจากที่พูดจงบ เฟย์วางสายทันที จากนั้นเธอก็จ้องมองที่ฮาร์วีย์ ยอร์กอย่างอิ่มเอมใจและพูดว่า “โอ้อ้วดสิ! หยิ่งผยองต่อไป! ฉันอยากรู้ว่านายจะทำอย่างไร ตอนที่ผู้บัญชาการลำดับสองของเซาท์ไลท์มาถึงที่นี่!“นายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกงลงนามในข้อตกลงการลงทุนและการมีส่วนร่วมทางธุรกิจกับรัฐบาลเซาท์ไลท์ ตอนที่พวกเขาเข้าสู่ตลาดบัควู้ดในครั้งนี้!”“ด้วยข้อตกลงนี้ รัฐบาลเซาท์ไลท์จะต้องยืนหยัดเคียงข้างเรา!”“นายยอร์ก นายเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลบัควู้ดไม่ใช่เหรอ? นายทำได้ดีในระบบรัฐบาลบัควู้ดหรือเปล่า? ฉ
“ยอร์ก ยอร์ก ยอร์ก ยอร์ก…”ไคล์ ควินแลนพูดติดอ่างทันที เขาไม่เคยคาดคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคน ๆ นี้ฮาร์วีย์ ยอร์กพูดอย่างไร้อารมณ์ “อย่ามาทำเป็นเคารพผม ผมไม่เคยมีลูกน้องแบบคุณ!”ตู้ม!ฝูงชนตกอยู่ในความเงียบ!ฮาร์วีย์ยั่วโมโหไคล์อย่างไม่ต้องสงสัย!เมื่อทุกคนคิดว่าไคล์กำลังจะทำร้ายฮาร์วีย์จนตาย...ทว่ารังศีที่เย่อหยิ่งของไคล์ หายไปทันที และถูกแทนที่ด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ซีอีโอยอร์ก ผมขอโทษ ผทแยกแยะถูกและผิดไม่ออก ผทจะต้องให้คำอธิบายเรื่องนี้แก่คุณอย่างแน่นอน!”ใบหน้าของไคล์ ซีดลง นี่เป็นเพราะเขารู้เกี่ยวกับตัวตนของฮาร์วีย์ดีแม้ว่าเขาจะมาจากตระกูลควินแลนแห่งจอร์เจีย แต่เขาก็ไม่อาจสร้างความขุ่นเคืองให้คนตรงหน้าได้ นับประสาอะไรกับการเป็นผู้บังคับบัญชาลำดับที่สองแห่งเซาท์ไลท์เฟย์ ก็อดดาร์ดและคนอื่น ๆ ปิดปากแน่น กลัวเหลือเกินว่าพวกเขาจะกรีดร้องออกมาทำไมผู้บัญชาการลำดับสองแห่งเซาท์ไลท์ ถึงต้องก้มหัวให้ฮาร์วีย์?เบื้องหลังของฮาร์วีย์คืออะไร?!เขาเป็นใครกันแน่?!ฮาร์วีย์ตะคอกอย่างเย็นชาและพูดว่า “คุณจะอธิบายเรื่องนี้ให้ผมฟังอย่างไร?”“ในฐานะผู้บัญชาการลำดับสองแห่งเซาท์ไลท์อย่างคุณ เมื
ในฮ่องกง แม้ในช่วงฤดูหนาวก็ยังอบอุ่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิ ถ้าเทียบกับน้ำแข็งและหิมะในสามจังหวัดทางตอนเหนือที่ด้านบนสุดของอาคารสำนักงานข้างอ่าววิคตอเรีย มีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งร่อนลงมาอย่างช้า ๆในห้องนั่งเล่นด้านล่าง ร่างสูงโปร่งสองร่างเดินออกมาพวกเขาเดินไปที่ขอบลานจอดเฮลิคอปเตอร์ แม้ว่าจะมีตึกสูงระฟ้าอยู่แทบเท้าของพวกเขา แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะไม่สนใจเลยสักนิด พวกเขาเดินไปตามขอบตึกสูงเสียอย่างนั้นหากมีนักข่าวจากสื่อด้านการเงินอยู่ด้วย พวกเขาจะต้องหวาดกลัวกับฐานะของสองคนนี้อย่างแน่นอนคนแรกคือควินตัน ยอร์ก ที่เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหนึ่งในนายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกง ซึ่งเป็นตัวแทนของตระกูลลีโอแห่งฮ่องกงอีกคนคือแมทธิว ฟลินน์ ซึ่งมาจากตระกูลฟลินน์ ที่แสนหยิ่งผยองและมีอำนาจมากที่สุดในบรรดานายน้อยทั้งสี่แห่งฮ่องกงในขณะนี้ แมทธิวคาบบุหรี่ด้วยริมฝีปากของเขา สีหน้าเคร่งขรึมฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา"อะไร? เกิดอะไรขึ้น?"ควินตันมองดูเกาะลัมมาซึ่งอยู่ห่างออกไปอย่างสงบใจแมทธิว ยิ้มจาง ๆ และพูดว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพียงแต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรา บัควู้ด และเซาธ์ไลท์ถูกต
ขณะที่แมทธิว ฟลินน์เต็มไปด้วยอารมณ์ ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็สั่น เนื่องจากมีคนส่งข้อความมาหาเขารอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาหลังจากอ่านข้อความ “มีข่าวน่าสนใจ”“เจ้าชายยอร์กบังคับให้สตาร์ แชโบลแห่งประเทศ J โอนทรัพย์สินทั้งหมดของพวกเขาในเซาท์ไลท์ไปยังสกาย คอร์ปอเรชั่น”“ข่าวนี้ล่วงไปถึงสามมณฑลภาคเหนือแล้ว”“ตัวแทนของบริษัทสตาร์ แชโบลในประเทศ H อันยิ่งใหญ่ ปีเตอร์ ลีจะมาที่บัควู้ดและสังหารเจ้าชายยอร์กด้วยมือของเขาเอง”“สตาร์ แชโบล…”ดวงตาของควินตันเป็นประกายเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “เจ้าชายยอร์กผู้นี้ไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำอย่างแน่นอน หลังจากที่เขาทำให้เราขุ่นเคือง เขายังทำให้ปีเตอร์ ลีไม่พอใจอีก เขาคงอยากตายแน่ ๆ!”เป็นที่ชัดเจนว่าควินตันยอร์กและปีเตอร์พบกันหลายครั้งตัวแทนลีซึ่งกล่าวกันว่าพิชิตโลกธุรกิจของสามมณฑลทางตอนเหนือได้ไม่ใช่คนโง่เขลา เมื่อเขาต้องการจัดการกับใครสักคน แน่นอนว่าเขาจะทุ่มสุดตัวและไม่คิดอ่อนข้อให้แต่อย่างใด“ดูเหมือนว่าฮาร์วีย์ ยอร์กจะตายโดยที่เราไม่ต้องไม่ต้องขยับตัวเลยด้วยซ้ำ!”แมทธิวยิ้ม“ปีเตอร์ ลีเป็นนักธุรกิจในสามมณฑลทางตอนเหนือ ถ้า
ในประเทศ J บนยอดเขาไร้ชื่อชายชราผมหงอกยืนเอามือไพล่หลังอยู่บนขอบหน้าผาในขณะนี้เขาสงบและผ่อนคลายมาก และแสดงออกถึงท่าทางการวางตัวที่ยอดเยี่ยมชายชราคนนี้ดูเหมือนจะมีพลังเวทย์มนตร์บางอย่าง เมฆที่อยู่รอบ ๆ ลอยอ้อยอิ่งล้อมรอบเขาราวกับว่าพวกมันกำลังพล่านไปกับการหายใจของเขานี่คือสิ่งที่เรียกว่า "วิถีแห่งธรรมชาติ"ในขณะเดียวกัน มีเสียงฝีเท้าวิ่งตามมาข้างหลังเขา จากนั้นชายที่สวมเสื้อคลุมเทควันโดก็วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เขาพูดว่า “ท่านครับ มีบางอย่างเกิดขึ้น!”“สตีฟ ลี ลูกศิษย์คนสนิทของคุณถูกทรมานและสังหารในประเทศ H อันยิ่งใหญ่!”“หืม?!”ชายชราโบกมืออย่างรุนแรง เมฆและหมอกรอบตัวเขาระเบิดเหมือนระเบิดอากาศที่มองไม่เห็นข้างหลังเขาทันทีนกทุกตัวที่อยู่รอบ ๆ ตัวสั่นและตกลงสู่พื้นในขณะนี้ และใบไม้จำนวนนับไม่ถ้วนกำลังลอยละล่องไปทุกคนตะลึง!วอลเลซ พาร์ค นี่เหนือนอกโลกชะมัด!“คุณปีเตอร์ขอเชิญท่านไปยังประเทศ H ที่ยิ่งใหญ่!”“ประการแรกก็เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศของเรามากขึ้น!”“ประการที่สอง คือล้างแค้นให้คุณสตีฟ!”คนที่คุกเข่าอยู่ข้างหลังวอลเลซพูดด้วยสีหน้าเศร้าปึก!คนหลายร้อยคนท
ข่าวของวอลเลซ พาร์ค ที่ออกจากความสันโดษบนภูเขาและตัดสินใจจะมุ่งหน้าไปยังประเทศ H ถูกปกปิดโดยบริษัทสตาร์ แชโบลนี่ไม่ใช่เพราะสตาร์ แชโบลเป็นพวกสุขุมรอบคอบ ทว่าเป็นวอลเลซเองที่เอ่ยขอสิ่งนี้เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมในสมรภูมิยูโร-อเมริกันเท่านั้นที่จะเข้าใจว่าประเทศ H เป็นอย่างไร!สำหรับคนเหล่านั้น หากชายในตำนานของประเทศ H ยังมีชีวิตอยู่ สถานที่นั้นถือเป็นเขตต้องห้ามสำหรับทหารทุกคนใครก็ตามที่กล้าบุกรุกก็คงถึงคราวตาย!แม้ว่าวอลเลซจะเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของประเทศ J มาประมาณหนึ่งทศวรรษ แต่เขาก็ยังกลัวชายคนนั้นอย่างไม่อาจบรรยายได้ในตอนนั้นเขาไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้กับชายคนนั้นได้ถึงสิบกระบวนท่าด้วยซ้ำ!ไม่ใช่แค่วอลเลซ แม้แต่ห้าประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดที่รวมตัวกันก็ถูกชายคนนั้นคนเดียวทำลาย!นั่นเป็นเหตุผลที่วอลเลซไม่กล้าให้ใครภายนอกรู้ว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ประเทศ Hถ้าข่าวแพร่ออกไปถึงหูของหัวหน้าผู้ฝึกสอน อาจจะมีปัญหาใหญ่ตามมาในที่สุดเมื่อวอลเลซมาถึงประเทศ H โดยไร้ปัญหาใด ๆ ชายผู้อมทุกข์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเขาเข้าไปในชายแดนของประเทศได้โดยไม่มีเหตุขัดข้อง ก็หมายความว่าชายผู้คนยังไม
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข