แอชลีย์ จัดด์กำลังมองเพื่อพิจารณาฮาร์วีย์ ยอร์ก โดยเฉพาะเสื้อผ้าธรรมดา ๆ และนาฬิกาเรือนเก่าของชายหนุ่ม จากนั้นเธอก็พูดอย่างเย็นชาว่า “โทรหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมดและแจ้งว่ามีคนสร้างปัญหาที่นี่!”“นี่จะเป็นโบนัสของพวกเขา ขอให้พวกเขารับโอกาสนี้ไว้!”แอชลีย์นำกลุ่มคนไปที่ด้านหน้าและมองมาที่ฮาร์วีย์อย่างเย็นชาเมื่อเห็นเครื่องแบบรักษาความปลอดภัยที่มาร์คัสสวมใส่ ท่าทางของเธอก็ยิ่งเหยียดเขามากขึ้นไปอีกในความเห็นของแอชลีย์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ในระดับต่ำสุดของสังคม คนที่เข้ากับพวกเขาได้ก็ด้อยกว่าในทุก ๆ ด้านในสายตาของแอชลีย์ ตำรวจที่บาดเจ็บเหล่านั้นก็เหมือนกับกลุ่มวัยรุ่นอันธพาลที่ทะเลาะกันเพราะชุดลำลองที่พวกเขาทุกคนใส่ ด้วยสถานะของเธอในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาล เธอจะมองพวกเขาอย่างไรได้อีก?ในขณะเดียวกัน แอชลีย์มองไปที่ฮาร์วีย์และมาร์คัสอย่างเย็นชา เธอบอกว่ากับพวกเขาว่า “ถ้าจะบอกว่าเราไม่เก่งและไม่มีประสิทธิภาพ ฉันจะส่งพวกคุณไปโรงพยาบาลอื่น!”“แต่คุณบอกว่าเราไม่มีจรรยาบรรณทางการแพทย์? ล้อเล่นหรือเปล่าคะ?!“คุณรู้เบื้องหลังของโรงพยาบาลเอ็ดเวิร์ดไหม? โรงพยาบาลของเร
โรงพยาบาลเอ็ดเวิร์ดเป็นสถานที่แบบไหน?นี่เป็นสถานที่ที่พวกกระจอก ๆ จะมาทำตัวกักขฬะได้หรืออย่างไร?ไร้สาระที่สุด!มาร์คัสตะโกนด้วยความโกรธ “คุณมันเข้าใจอะไรยากจริง ๆ ทำตัวไม่สมกับเป็นหมอสักนิด ผมจะรายงานพฤติกรรมคุณแน่!”เพี๊ยะ!แอชลีย์ จัดด์ก้าวไปข้างหน้าและตบมาร์คัสหนึ่งฉาด จากนั้นเธอก็ตะโกนอย่างเย็นชา “เอาเลย จะร้องเรียนอะไรก็เชิญ! เอาเลย! คิดจะใช้ข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริงมาขู่ฉัน คิดว่าฉันกลัวเหรอ?”มาร์คัสไม่ทันตั้งตัวจากการตบและเขาชะงักไปเล็กน้อย เกือบจะล้มลงกับพื้น เขายกมือขึ้นปิดนาย้มด้วยสีหน้าไม่พอใจโครม!ขณะนั้นเองฮาร์วีย์ ยอร์กไม่คิดที่จะยืนดูอยู่เฉย ๆ เขาเดินไปข้างหน้าและเตะลำตัวของแอชลีย์ทันที"โอ๊ย!"แอชลีย์กรีดร้อง ร่างของเธอลอยออกไป“มีคนโดนทำร้าย! มีคนก่อปัญหาที่นี่!”พยาบาลสาวสวยหลายคนร้องออกมาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็มองฉากนี้ด้วยความประหลาดใจไม่ต่างกัน สีหน้าดูหวาดกลัว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คาดคิดว่าจะเกิดสิ่งนี้ขึ้นไม่เพียงแต่แอชลีย์จะเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอ็ดเวิร์ดเท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้น เธอยังมาจากตระกูลจัดด์จากโวลซิ่งด้วย!คนจากตระก
เมื่อเห็นสีหน้าของผู้คนรอบตัวเปลี่ยนแปลง บนใบหน้าของแอชลีย์ จัดด์จึงมีรอยยิ้มพึงพอใจปรากฏขึ้นในขณะนี้ เธอหรี่ตาและพูดว่า “หัวหน้าใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังโรงพยาบาลเอ็ดเวิร์ดคือหนึ่งในสี่นายน้อยแห่งโวลซิ่ง!“นายกล้าดีอย่างไรถึงมาทำตัวจองหองในอาณาเขตของนายน้อยตระกูลจัดด์แบบนี้?“ไปได้ความกล้าแบบนี้มาจากไหน?“แม้แต่ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งเซาท์ไลท์ เชลดอน ซาเวียร์จะมาที่นี่ เขายังต้องเกรงใจ นับประสาอะไรกับนาย!”“คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้ คุกเข่าและยอมรับความผิดพลาดของคุณเดี๋ยวนี้ ชดเชยให้เราหนึ่งแสนห้าหมื่นเหรียญ ไม่งั้นได้เห็นดีกันแน่!”ฮาร์วีย์ ยอร์กพูดอย่างหน้าชื่นตาบาน “คุณคิดว่าแค่เอ่ยชื่อนายน้อยตระกูลจัดด์ออกมาก็ทำให้คนกลัวได้แล้วเหรอ?”“นี่คิดจะทำให้ผมกลัวเหรอ?”เมื่อเห็นสีหน้าเย้ยหยันจาง ๆ บนใบหน้าของฮาร์วีย์...ร่างกายของแอชลีย์สั่นสะท้านก่อนหน้านี้ไม่ว่าเธอจะเป็นใครหน้าไหน แค่เอ่ยชื่อหนึ่งในสี่นายน้อยตระกูล อีกฝ่ายจะต้องกลัวอย่างไม่ต้องสงสัย!แต่ตอนนี้อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ใส่ใจกับมันแม้แต่น้อยนี่ไม่เป็นเพียงการตบหน้าแอชลีย์ แต่ยังเป็นการตบหน้านายน้อยตระกูลจัดด์และตระกูลจัดด์ด้วย
“คุณ…อย่ามั่นใจอะไรในตัวเองขนาดนั้นสิ…”หลังจากที่เห็นฮาร์วีย์ ยอร์กตบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจนสลบไป ไม่ว่าแอชลีย์ จัดด์จะโง่เขลาเพียงใด เธอก็รู้ว่าฮาร์วีย์ไม่ใช่คนที่เธอจะรับมือได้ง่ายๆเธอหดตัวกลับด้วยความตกใจ ทว่าเมื่อเธอมีสติสัมปชัญญะกลับมา เธอก็รู้สึกตัวว่าเขาเหยียบย่ำศักดิ์ศรีเธอในขณะนี้ แอชลีย์กัดฟันและจ้องมองฮาร์วีย์ เธอพูดว่า “ฮอลลี่ ไปโทรหารองสารวัตรเกร็ก ฟินช์ บอกเขาว่ามีคนมาสร้างปัญหาในโรงพยาบาลเอ็ดเวิร์ด!”จากนั้นแอชลีย์ก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์และพูดต่อ “ไม่ว่านายจะมีอำนาจและแข็งแกร่งแค่ไหน ฉันก็แน่ใจว่านายไม่กล้ายุ่งกับคนจากสถานีตำรวจแน่!”“นายแค่รออีกหน่อยเถอะ นายจะต้องตายในคุก!”ฮาร์วีย์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น แอชลีย์ได้พิสูจน์ตัวเองให้เขาเข้าใจแล้วว่าเธอค่อนข้างน่ารำคาญเขาไม่ได้คิดที่จะตบหน้าใครหน้าไหนทั้งนั้น แต่เธอยังคงยื่นหน้าเข้ามาหาครั้งแล้วครั้งเล่าบางคนต้องได้เรียนรู้ด้วยวิธีใช้ไม้แข็งแอชลีย์หัวเราะเยาะหลังจากดูท่าทางของฮาร์วีย์ เธอเข้าใจผิดไปว่าฮาร์วีย์กำลังกลัว"กลัวเหรอ?”"ฉันกำลังบอกนายให้เอาบุญ จะคุกเข่าร้องขอความเมตตาในตอนนี้ยังไม่
มาร์คัสรู้สึกกังวลเล็กน้อย “พี่ยอร์ก ถ้าคนจากสถานีตำรวจมาถึง ผมเกรงว่าจะอธิบายเรื่องนี้ยากสักหน่อย”ฮาร์วีย์ ยอร์กยิ้มอย่างไม่แยแส "ไม่ต้องห่วง แค่เชื่อฉันก็พอ ยังไงเราก็ไม่แพ้”มาร์คัสผงะไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็หัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “ผมรู้ว่าพี่ยอร์กเป็นคนเก่ง แล้วต่อไปผมเชื่อพี่! ผมจะทำทุกอย่างที่พี่สั่ง!”หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงบีบแตรดังสนั่นจากนั้นรถต่อต้านการจราจลหลายคันก็ขับมาที่ประตูอย่างรวดเร็วเมื่อประตูรถเปิดออก ชายฉกรรจ์ในเครื่องแบบหลายสิบคนเดินออกมาพร้อมกระบอกปืนที่คาดเอวผู้นำเป็นชายในชุดเครื่องแบบสีขาว เขาดูกระหายเลือดและผลักฝูงชนออกไป เขาเดินไปที่ด้านหน้าของแอชลีย์ จัดด์และพูดว่า “ผู้อำนวยการจัดด์ ผมได้ยินมาว่ามีคนมาก่อปัญหาในโรงพยาบาลเหรอ?”“ไอ้หน้าโง่ที่ไหนมันกล้า? ไม่รู้หรือว่าใครหนุนหลังโรงพยาบาลเอ็ดเวิร์ด?”“มาก่อกวนในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างโรงพยาบาลอย่างนี้ ผมจะสอนเขาเองว่ากฎหมายคืออะไร!”เมื่อเห็นชายในชุดเครื่องแบบสีขาว แอชลีย์รู้สึกตื่นเต้น เธอหัวเราะคิกคักและพูดว่า “รองสารวัตรฟินช์ คุณมาแล้ว! ไอ้บ้าสองคนนี้น่ารำคาญมาก! ไม่ใช่แค่ใส่ร้ายเราว่าไม่ม
ดวงตาของเกร็ก ฟินช์กระตุกและร่างกายของเขาสั่นสะท้าน ทว่าเขาไม่กล้าปฏิเสธ เขาหันแก้มข้างขวาเข้ามาใกล้โดยสมัครใจทั้งที่ร่างกายสั่นเทา เพื่อให้ฮาร์วีย์ ยอร์กสามารถตบเขาได้อย่างง่ายดายเพี๊ยะ!ฮาร์วีย์ไม่รีรอและตบเขาทันที!เกร็กถูกส่งให้ลอยออกไป เมื่อล้มลงกับพื้น เขาพ่นฟันออกมาสองซี่นี่…นี่มันเกิดอะไรขึ้น?เป็นไปได้อย่างไร?แอชลีย์ จัดด์ ฮอลลี่ และคนอื่น ๆ รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันเมื่อเห็นฉากที่เหนือจริงนี้ พวกเขาต่างพากันตกตะลึงเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?นั่นคือคนที่มีอำนาจมากที่สุดเป็นอันดับสองในกรมตำรวจบัควู้ด!แต่ในตอนที่เกร็กกำลังเผชิญหน้ากับชายผู้นี้ เขาก็ดูเหมือนตัวกระจ้อยร่อยลงไปในทุกด้าน แก้มซ้ายของ เกร็กถูกตบ และเขายังต้องยื่นแก้มขวาให้ตบเพิ่มด้วยความสมัครใจอีก?!ที่สำคัญที่สุด ในตอนที่เกร็กขยับแก้มขวาไป เขายังเอียงหน้าเพื่อให้อีกฝ่ายตบได้ง่ายขึ้นเป็นพิเศษอีก?!ในขณะนี้ ทุกคนรู้สึกงุนงงภูมิหลังฮาร์วีย์คืออะไรกันแน่?เขาจะทำให้คนใหญ่คนโตอย่างเกร็ก ฟินช์ กลายเป็นพวกขี้อายเหมือนหนูได้อย่างไรมาร์คัสมองฉากนี้ด้วยความชื่นชม พี่ยอร์กสุดยอดจริง ๆ สถานะของเขาในฐา
“คุณได้เรียนรู้บทเรียนของคุณแล้วใช่ไหม?”“ก็ได้ ผมจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง!”ฮาร์วีย์ ยอร์กเตะเกร็ก ฟินช์จนเขาล้มลงกับพื้น“ไล่คนของคุณออกไป และปิดโรงพยาบาลนี้ซะ!”“ปิดโรงพยาบาลเอ็ดเวิร์ด? ไม่พูดเกินไปหน่อยเหรอ?!”ในตอนนั้นเอง เสียงเย้ยหยัยดังมาจากด้านหลังฝูงชน "คุณคิดว่าคุณเป็นใคร? ปิดโรงพยาบาลเอ็ดเวิร์ดตามใจชอบแบบนี้? คุณมีสิทธิ์อะไร? คุณคู่ควรนักหรือ?”“นายน้อยควินแลน!”แอชลีย์ จัดด์ดูตื่นเต้นเมื่อได้ยินเสียงนี้ จากนั้นเธอก็หันหน้าไปทางที่มีชายหนุ่มและหญิงสาวหลายคนอยู่“นายน้อยควินแลน คุณมาได้ทันเวลาพอดีเลยล่ะค่ะ! ไอ้ส*รเลวนี่ที่มาจากไหนไม่รู้ ไม่เพียงแต่ทำตัวกักขฬะที่นี่เท่านั้นนะคะ แต่เขายังทำร้ายคนอื่นด้วย และเขายังคิดจะปิดโรงพยาบาลด้วยซ้ำ! คุณต้องเป็นคนทวงความยุติธรรมให้ฉัน!”ชายหนุ่มผู้มั่งคั่งเดินออกไปทันทีเขาสวมใส่เสื้อผ้าหรูหราทั่วทั้งร่างกายของเขา เขาดูเหมือนเศรษฐีหน้าใหม่ที่ในปากคาบซิการ์ และมีลูกน้องมากกว่าสิบคนติดตามเขาอยู่ด้านหลังแอชลีย์เห็นเขาและพูดอย่างรวดเร็วว่า “นายน้อยควินแลน!”แอชลีย์ทำท่าทางเอียงอายในขณะที่เธอพูด เห็นได้ชัดว่าตัวตนของคุณชายควินแลนนั้นค
“พี่ยอร์ก เราอย่ายุ่งกับตระกูลควินแลนจากจอร์เจียจะดีกว่านะครับ!”“ไคล์ ควินแลนเป็นผู้บัญชาการลำดับสองของเซาท์ไลท์!“คงจะลำบาก ถ้าเราไปหาเรื่องตระกูลพวกเขา!”แม้ว่ามาร์คัสจะมีความกล้าอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังตกใจเมื่อได้ยินชื่อตระกูลควินแลนแม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าฮาร์วีย์ ยอร์ก เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลบัควู้ด…แต่แม้แต่โยเอล เกรฮัม ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งบัควู้ด เมื่อได้พบกับไคล์ ควินแลนแล้ว เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมจำนน!ฮาร์วีย์ยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไร เขาเป็นแค่พวกคางคกขึ้นวอเท่านั้นแหละ!”มาร์คัสขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วหยุดพูด เมื่อฮาร์วีย์พูดเช่นนั้น เขาก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก“คางคกขึ้นวอเหรอ?”“ใครให้นายกล้าพูดแบบนี้?”“นายรู้ไหมว่าเราเป็นใคร”“นี่คือนายน้อยซาเวียร์แห่งตระกูลซาเวียร์จากโวลซิ่ง นี่คือคุณชายฌองจากตระกูลฌองแห่งมอร์ดู นี่คือ คุณชายออร์ติซจากมูลนิธิปาร์คสัน…”“พวกบ้านนอกอย่างนาย กล้าพูดได้ยังไงว่าคนอย่างพวกเราเป็นไม่มีหัวนอนปลายเท้า?”ตอนนั้นเอง ชายหญิงเจ็ดหรือแปดคนในเครื่องแต่งกายแบบจีนเดินเข้ามาหาฮาร์วีย์ด้วยรอยยิ้มแกน ๆเห็นได้ชัดว่าเป็นคนร่ำรวยจากตระกูลใหญ่และบ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข