โรซาลี ไนส์เวลล์ถูกส่งกลับไปอยู่เคียงข้างเชน ไนส์เวลล์ปรมาจารย์แห่งการประเมินวัตถุโบราณรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งจากนั้นฮาร์วีย์ ยอร์กก็เอ่ยปากเตือน “ช่วงนี้คนในตระกูลไนส์เวลล์ควรพักในโรงแรมระดับ 5 ดาวไปก่อน”"มันยังไม่จบ"ฮาร์วีย์รู้ดีว่าปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในครั้งนี้คือตัวนายท่านลำดับสี่ตระกูลเยตส์เองทุกอย่างเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเพราะเขายังมีลมหายใจคนในตระกูลไนส์เวลล์ตัวสั่นเมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ท่ามกลางฝูงชน สายตาของโรซาลีที่มีต่อฮาร์วีย์นั้นแตกต่างออกไปผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่มากความสามารถ แต่เขายังช่วยชีวิตเธอไว้อีกต่างหาก!ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเข้ามาได้ทันเวลา เธอไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ!”แต่พฤติกรรมของเธอก็เป็นปกติ เย็นชาราวกับน้ำแข็ง เธอไม่รู้จะพูดคำใดอื่นอีกนอกจากคำว่า "ขอบคุณ" ประโยคง่าย ๆ ราวกับไม่อาจอธิบายความรู้สึกนึกคิดของตัวเองออกมาเป็นคำพูดได้สำหรับอีวอนน์ ซาเวียร์ เธอได้ความสงบกลับคืนมาแล้วเธอหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนพูดขึ้น “ซีอีโอยอร์ก เป้าหมายของพวกเขาคือคุณ”"คุณหนูไนส์เวลล์กับฉันเป็นแค่เครื่องมือที่ใช้ต่อกรกับคุณเท่านั้น”“มีโอกาสสูงมากที่คร
“นายท่านลำดับที่สี่ ท่านทำใจดี ๆ ไว้นะครับ!”รัสเซล ฌองจากตระกูลฌองแห่งมอร์ดู ยืนอยู่ด้านข้าง ไม้เท้าที่เขาถืออยู่สะท้านตลอดเวลา สีหน้าของเขาหม่นหมองอย่างยิ่งนายท่านลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์เคยเจอกับรัสเซลมาก่อนแล้ว ตระกูลเยตส์จากอเมริกาที่ทำงานร่วมกับตระกูลฌองได้รับการยินยอมจากทั้งสองตระกูลมาด้วยดีแต่เมื่อได้เห็นท่าทางหวาดกลัวของรัสเซล นายท่านลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์ก็ดูเหมือนจะรู้อะไรบางอย่างใบหน้าที่ดูสงบเป็นปกติของเขากระตุกเป็นครั้งคราวในขณะที่เขาจ้องมองไปที่โลงศพ แต่ผ่านไปนานแล้วเขาก็ยังไม่ได้เปิดมันออกท้ายที่สุดโลงศพทั้งหมดก็ถูกเปิดออกโดยอีแวนเดอร์ ซึ่งตามหลังนายท่านตระกูลเยตส์มาอย่างใกล้ชิดแบรดลีย์ ฟิล เยตส์ ท็อดด์ ฌอง บาห์น ฟลอยด์ และเลนน็อกซ์...ทั้งหกคนสิ้นลมหายใจโดยสมบูรณ์ตึง!เมื่อนายท่านลำดับที่สี่เห็นศพของลูกชายบุญธรรมและลูกสมุนของเขา ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านนายท่านลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์ปลีกวิเวกไปเป็นเวลากว่าสิบปีแล้ว แบรดลีย์ และนายทหารชั้นสูงเหล่านี้ ติดตามเขามาตลอด พวกเขาเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดที่สุดกับเขาที่สุด เขาเห็นคนเหล่านี้เป็นดั่งเลือดเนื้อเชื้อไขของต
ทุกคนสั่นสะท้านอย่างหยุดไม่ได้หลังจากได้ยินคำสั่งของนายท่านลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์ชาวจีนโพ้นทะเลของตระกูลเยตส์จากอเมริกาเคยอาศัยอยู่ทั่วประเทศ H มานานหลายปีแล้ว อย่างในเมืองมอร์ดู เมืองโวลซิ่ง และโกลเด้น แซนด์ตระกูลเยตส์จากบัควู้ดเป็นเพียงญาติสนิทครอบครัวเล็ก ๆ เท่านั้นตอนนี้นายท่านลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์แทบจะเสียสติ เขาต้องการให้ญาติทุกคนในครอบครัวเยตส์รวมตัวกันแล้วเทหมดหน้าตักเนี่ยนะ!ความแข็งแกร่งอย่างนั้นจะน่ากลัวเพียงใดภายในเวลาหนึ่งวัน ทุกครอบครัวของตระกูลเยทส์ก็ได้มารวมตัวกันที่ประเทศ H!มีทั้งพวกผู้มีอำนาจ และพวกอันธพาล ไหนจะพวกทหารและเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้คร่ำหวอดในเขาพื้นที่สีเทาของโลกธุรกิจ...เครือญาติของครอบครัวเยตส์จากอเมริกากำลังขยายธุรกิจทุกประเภทหากคนเหล่านั้นมารวมตัวกัน คงยากที่จะจินตนาการภาพออก!สกาย คอร์ปอเรชั่นนั้นแข็งแกร่งมากท่านผู้ฝึกสอนยอร์กเองก็ยอดเยี่ยมที่สุดแต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะหยุดพลังที่ไร้ขีดกำจัดอย่างนี้ได้แน่!ทุกคนจินตนาการถึงผลลัพธ์ของเรื่องนี้ไปไกล!ในวันที่มีการประชุมการลงทุนและการมีส่วนร่วมทางธุรกิจ ในศูนย์นิทรรศการที่กว้างขวางนั้นจะไ
อีธานตัวสั่นเบา ๆ หลังจากที่ได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ ดูเหมือนว่าครั้งนี้หัวหน้าผู้ฝึกสอนพร้อมที่จะกำจัดประเทศแห่งความชั่วร้าย เขาไม่เพียงแต่พยายามที่จะทำให้ตระกูลเยตส์จากอเมริการู้สึกหวาดกลัวเพียงเท่านั้น แต่สิ่งที่เขาจะทำคือเขาจะกำจัดตระกูลเยตส์จากอเมริกาทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในประเทศ H แม้ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนจะไม่ได้อยู่ในกองทัพแล้ว แต่เขาก็ยังคงทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ของประเทศ ขณะนั้นเองอีธานก็รู้ลึกซึ้ง ไม่น่าแปลกใจที่ผู้นำของประเทศ H มักจะเชิญฮาร์วีย์ให้ไปทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้สอนของค่ายทหารดัง ๆ ทั้งเก้าแห่ง ซึ่งจะสามารถประสบความสำเร็จในฐานะผู้อาวุโสของกองทัพได้ในอนาคตภายภาคหน้า ฮาร์วีย์เหลือบมองไปที่ไทสันแล้วพูดอย่างใจเย็น “ในเมื่อผู้คนมากมายจากท้องถนนมาที่บัควู้ดแล้ว นายซึ่งเป็นราชาแห่งท้องถนน ควรไปตามหาพวกคนเหล่านี้ แล้วช่วยบอกจำนวนคนที่อยู่ที่นี่แล้วด้วย” “ในเมื่อพวกมันอยู่ที่นี่แล้ว ฉันอยากให้พวกมันทุกตัวอยู่ที่นี่ตลอดไป” ไทสันโค้งคำนับและตอบว่า “ครับ!” เรย์ที่อยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วและพูดว่า “ท่านประธานยอร์ก นายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์เตรียมพร้อมจัดงานศพในวันที่มี
หลังจากที่ได้ยินคำพูดนั้น ร่างกายของเลย์ตันก็ยิ่งสั่นหนักขึ้น การแสดงออกของทั้งคู่ค่อนข้างดูนิ่ง ๆ ไม่ได้แสดงออกถึงอาการโกรธเคืองแต่อย่างใด แต่เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าอากาศรอบ ๆ ตัวเขานั้นมันเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ ***ณ สกาย คอร์ปอเรชั่น เชน ไนส์เวลล์รีบไปหาฮาร์วีย์ทันทีที่เขาได้รับข่าว “ท่านประธาน! มีปัญหาใหญ่แล้ว!” “นายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์บ้าไปแล้ว! คงไม่จำเป็นต้องให้ผมบอกคุณหรอกว่าเขาน่ากลัวมากแค่ไหน!” “คุณค่อนข้างมีความสามารถและมีตัวตนที่ไม่มีใครเทียบได้!” “แต่นายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์เป็นคนอเมริกัน เขาจะไม่มีทางมาสนใจใยดีพลเมืองของประเทศ H แน่ ๆ ถ้าเขาโมโหและเริ่มทำร้ายผู้บริสุทธิ์ แล้วจะเกิดอะไรขึ้น?” เชนยังคงบอบช้ำอย่างหนักจากนายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์ แต่เมื่อคิดถึงการเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมากของตระกูลไนส์เวลล์ มันก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะทำแบบนั้น ฮาร์วีย์จัดการเรื่องส่วนใหญ่เสร็จแล้ว แต่บังเอิญมีอย่างหนึ่งที่เขาไม่ได้วางแผนเอาไว้ เขายิ้มและพูดว่า “คุณเชน ตอนนี้คุณอยู่ที่นี่แล้ว มีบางอย่างที่ฉันต้องการให้คุณทำเพื่อฉันหน่อย” “คุณถนัดเรื่องของเก่าแก่
ฮาร์วีย์ยิ้ม “ผู้อาวุโส ผมไม่ได้โทรหาหัวหน้ากองทัพเพียงเพื่อให้เขามาเกลี้ยกล่อมผมนะ ผมกำลังเตรียมที่จะกำจัดสายลับจากอเมริกาที่แฝงตัวอยู่ในประเทศ H ผมต้องการความร่วมมือจากกองทัพ” “สายลับจากอเมริกา?!” น้ำเสียงของผู้อาวุโสของกองทัพดูค่อนข้างจริงจัง “หลังจากสงครามในตอนนั้น ห้าประเทศที่แข็งแกร่งที่สุด ซึ่งรวมถึงอเมริกาด้วย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหยุดต่อสู้กันเพียงแค่ผิวเผิน แต่พวกเขาก็ยังคงแอบใช้กลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่” “หากว่าคุณสามารถขับไล่สายลับจากอเมริกาได้ มันก็จะถือว่าเป็นประโยชน์ของประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง คุณต้องการให้กองทัพร่วมมือกับคุณอย่างไรบ้าง?” ฮาร์วีย์จึงตอบกลับไปว่า “หากกองทัพเคลื่อนไหวเร็วเกินไป ฝ่ายอเมริกาจะไหวตัวทัน” “นั่นเป็นเหตุผลที่ผมหวังว่ากองทัพจะแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่ให้ระมัดระวังอย่างที่สุดทุกอย่างต้องเป็นความลับ อย่าพยายามหยุดใครก็ตามที่กำลังเข้ามาในบัควู้ดในช่วงเวลานี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะมาจากหนึ่งในเก้ากองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดก็ตาม!” ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสกำลังขมวดคิ้วอยู่ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตอบกลับมาว่า “เอาล่ะ พู
เหล่าทหารทั้งหมดของหน่วยหน่วยมังกรทะเลทะเลต่างจับกลุ่มกัน เลือดของพวกเขากำลังเดือดพล่าน และขวัญกำลังใจของพวกเขาก็พุ่งทะยานทะลุหลังคา ภาพที่เห็นทำให้เหล่าคนใหญ่คนโตจากกองกำลังทหารของเซาท์ไลท์ถึงกับต้องหยุดดู พวกเขาทุกคนรู้ว่าเบลลามี่นำหน่วยมังกรทะเลมาอยู่ใต้ปีกของเขาเพื่อรับตำแหน่งในครั้งนี้ แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะทรงพลังขนาดนี้ ถ้าตัดสินจากรูปลักษณ์ของพวกเขา ดูเหมือนว่าจะมีสงครามครั้งใหญ่อีกครั้งในแนวหน้าของเซาท์ไลท์ ***รัฐบาลเซาท์ไลท์ เชลดอน ซาเวียร์ ผู้บัญชาการสูงสุดสีหน้าของเขาดูเคร่งขรึม ท่าทางของเขาดูภูมิฐาน บุคคลตำแหน่งสูง ๆ ในรัฐบาลของเซาท์ไลท์ก็ได้มาปรากฏตัวที่นี่ด้วยเช่นกัน การแสดงออกของพวกเขาค่อนข้างเคร่งขรึม “ผู้การเบลลามี่จู่ ๆ ก็นำหน่วยมังกรทะเลของเขาออกมา จะมีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้นไหมนะ?” “นั่นสิ เซาท์ไลท์ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาก็หลายปีแล้ว มีอะไรเกิดขึ้นที่แถบชายแดนหรือเปล่านะ?” "ท่านเชลดอน คุณต้องทำให้ทุกอย่างกระจ่างชัดเจนสำหรับพวกเราที่เหลือ!” บุคคลตำแหน่งสูง ๆ ในรัฐบาลของเซาท์ไลท์ต่างก็ดูกระตือรือร้นไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น พว
นายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์นิ่งไปสักพักหลังจากที่ได้ยินเรื่องทั้งหมด จากนั้นเขาก้ถามขึ้นมาว่า “ผู้อาวุโสหมายความว่าอย่างไรนะ? ทำไมจู่ ๆ เขาถึงออกคำสั่งแบบนี้?” จากนั้นธีโอก็ยิ้ม “ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ นายใหญ่ที่สี่!” “พวกเราบางส่วนในรัฐบาลได้ข้อสรุปเดียวหลังจากวิเคราะห์ข่าวที่เราได้รับ!” “สถานการณ์ทั่วโลกตอนนี้ยังคงไม่ปกติ พวกระดับสูงจึงไม่อยากที่จะต่อต้านอเมริกา!” “นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาพร้อมที่จะเมินเฉยต่อทุกสิ่งที่เราทำ พวกเขาปล่อยให้เราทำทุกอย่างได้ตามที่เราต้องการ!” รอยยิ้มจาง ๆ ด้วยความบ้าคลั่งเผยขึ้นใบหน้าของเขา จากนั้นเขาก็ทำการแสดงความเคารพต่อนายใหญ่ที่สี่ของตระกูลเยตส์ “ดูเหมือนว่ารัฐบาลของบัควู้ดและเซาท์ไลท์จะไม่ต้องการแม้แต่จะปกป้องฮาร์วีย์และสกาย คอร์ปอเรชั่นในครั้งนี้!” “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็จะดำเนินการตามแผนต่อไป!” “ครับท่าน!” เหล่าคนใหญ่คนโตทุกคนในตระกูลเยตส์ต่างโค้งคำนับอย่างรวดเร็ว “กระจายคำสั่งของฉัน ผู้มีอำนาจทุกคนและตัวแทนของตระกูลใหญ่ ๆ ในบัควู้ดต้องไปที่สุสานบัควู้ดที่ชานเมืองเพื่อร่วมพิธีงานศพ!” “และอีกอย่าง ฉันอยากให้เหล่าผู้บริ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข