วันถัดมา แมนดี้ ซิมเมอร์ เข้าบริษัทด้วยใบหน้าที่กอปรไปด้วยรอยคล้ำรอบดวงตา ก่อนที่เธอจะถึงที่ทำงาน ท็อดด์ ฌองก็เข้ามาพร้อมกลุ่มบอดี้การ์ดของเขาก่อนแล้วไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนใดในองค์กรกล้าเข้าใกล้เขาเมื่อเห็นบอดี้การ์ดเหล่านั้นมีปืนเหน็บเอว เมื่อมีปืนอยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย พวกเขาอาจตายได้ทุกวินาที จริงไหม…? ใครจะกล้าต่อกรกับคนเช่นนี้กัน? พนักงานของรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์พร้อมที่จะคุกเข่าต่อหน้าท็อดด์และตระกูลของเขาสันนิษฐานว่าพวกเขาสื่อสารกันเมื่อคืนนี้และตงตกลงกันได้ “ผมสงสัยว่าคุณได้เก็บเอาข้อเสนอของผมไปคิดหรือเปล่าซีอีโอซิมเมอร์” ท็อดด์นั่งลงบนโซฟา เขานั่งไขว่ห้างขณะพินิจพิเคราะห์แมนดี้ใบหน้าของแมนดี้แข็งทื่อ"เอาล่ะ แม้ว่าฉันจะเตรียมขายรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ให้คุณ แต่คุณไม่คิดว่าคุณควรจะมีมารยาทสักหน่อยเหรอคะ?” ท็อดด์ผงะเล็กน้อย เขาไม่ได้คาดคิดว่าแมนดี้จะเห็นด้วย เขาหัวเราะขึ้น"ยอดเลย! ดูสิว่าคุณพร้อมแค่ไหนซีอีโอ ซิมเมอร์ ผมจะให้ราคากับคุณอย่างงามทีเดียว” “สิบห้าเซ็นต์!” ท็อดด์ควักเหรียญออกมาจากกระเป๋าของเขาและโยนมันลงบนพื้น และมันก็ส่งเสียงดังกึกก้อง เหรียญนั้น
จองหอง! ทรงอิทธิพล! ชั่วช้า! นี่เป็นความคิดของทุกคนเกี่ยวกับตระกูลฌองแห่งมอร์ดูผู้มีร่วมเหตุการทุกคนในที่เกิดเหตุตัวสั่นด้วยความกลัว พวกเขาเคยได้ยินข่าวซุบซิบมาว่าพวกที่ต่อต้านตระกูลฌองแห่งมอร์ดูนั้นหายสาบสูญไปพร้อมกับตระกูลของพวกเขากันหมด พนักงานเหล่านี้ไม่อยากให้เรื่องจบลงแบบนั้นเลย ปึก! เลขาของท็อดด์ยื่นเอกสารสัญญากับแมนดี้และพูดอย่างเป็นกันเองว่า “ได้ยินที่นายน้อยของผมพูดไหม? หยิบเหรียญไป เซ็นข้อตกลง แล้วรีบกลับบ้านไปจัดการตัวเอง ก่อนจะมาพบนายน้อย เข้าใจไหม?”“ถ้าซีอีโอซิมเมอร์ยังไม่เต็มใจเซ็น งั้นคืนนี้นายน้อยของผมจะเชิญคุณไซมอน คุณลิเลียน และคุณซินเธียร์มาทานอาหารเย็นด้วยกัน…”เลขาฯ ของเขาดูสุภาพและให้เกียรติในขณะพูด แต่คำพูดที่ออกมาจากปากของเขา ทำให้ทุกคนขนหัวลุก ตระกูลของแมนดี้จะลงเอยอย่างไรเมื่อเผชิญหน้ากับคนชั่วช้าเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซีนเธียร์ที่ยังเด็กและไร้เดียงสา… เมื่อคิดเช่นนั้น แมนดี้ก็นึกหวาดกลัว"คุณ…!" แมนดี้หันไปหาทอดด์ แต่เธอไม่มีความกล้าที่จะต่อว่าเขา เธอกลัวว่าทอดด์จะแก้แค้นตระกูลของเธอขึ้นมาจริง ๆ เมื่อเผชิญกับคนที่โหดเหี้ยมเช่นเขา แมนดี้ทำอะไรไม่
ฮาร์วีย์เหลือบมองท็อดด์และขมวดคิ้ว "นายคิดว่านายเป็นใคร? ไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังคุยกับภรรยาของฉัน ไสหัวไปไหนก็ไป!”“แก...” ท็อดด์โกรธจัด เขากัดฟันแน่นจากนั้นยืนขึ้นและเย้ยหยัน “อยากจะพล่ามอะไรก็เรื่องของแก! พอพูดจบ ฉันจะส่งแกสองคนลงนรก!”“ไม่ดีกว่า ฉันจะไว้ชีวิตแกก่อน เพื่อที่แกจะได้เห็นว่าฉันทรมานภรรยาแกยังไง หลังจากนั้นฉันจะจัดการแก!” ท็อดด์หัวเราะ เขาจะไม่ปล่อยฮาร์วีย์ไปง่าย ๆเพี้ยะ!ฮาร์วีย์ตบหน้าท็อดด์อย่างรุนแรง ภายใต้การสายตาที่ไม่เชื่อของทุกคน เขาคำรามอย่างเย็นชา “ฉันไม่สนว่านายเป็นใคร” “แต่จำไว้!” “นี่คือบัควู๊ด ไม่ว่านายจะใหญ่โตมาจากไหน อยู่ที่นี่นายต้องมีมารยาท!” “ฉันให้เวลานายสามวินาที คุกเข่าขอโทษที่ทำให้ภรรยาฉันตกใจซะ!” “ไม่อย่างนั้น นายจะต้องตายที่นี่!”“ขอโทษเธอซะ!” ขณะนั้นบอดี้การ์ดทุกคนของท็อดด์โกรธจัดและเล็งปืนไปที่ฮาร์วีย์ถ้าท็อดด์เอ่ยปากพวกเขาจะยิงทันที “เขาแย่แน่!” พนักงานทั้งหมดของรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ตกใจมาก พวกเขาเกือบฉี่ราดกางเกง และไม่เคยคิดเลยว่าฮาร์วีย์ ยอร์ก สามีที่ยังมีชีวิตอยู่คนนี้จะใจกล้าถึงขนาดตบท็อดด์ ฌองทันทีหลังจากที่เขามาถึง!เ
ด้านนอกของบริษัท รีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ท็อดด์ ฌองหน้าบึ้ง เขากุมใบหน้าที่บวมเล็กน้อยสีหน้าน่ากลัวเขาส่งสายตาแห่งความกระหายเลือดไปยังเลขาของตัวเอง“ทำไมนายถึงห้ามไม่ให้ฉันฆ่ามันซะ!”“ถ้านายไม่มีคำอธิบายที่ดีพอ ฉันจะฆ่านายแทน!”เลขาของเขาเอ่ยตอบ “นายน้อยครับ ก่อนที่เราจะมาที่บัควู้ด นายใหญ่ได้เตือนเราว่า ไม่ใช่แค่ห้ามไม่ให้นายน้อยฆ่าใคร แต่เราไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าใครต่อหน้านายน้อยด้วย”“ยิ่งกว่านั้นที่นี่คือเมืองบัควู้ดไม่ใช่มอร์ดู ตระกูลฌองของเราไม่ได้มีอำนาจอะไรที่นี่”“นอกจากนี้ ผู้คนจากตระกูลสิบอันดับแรกตระกูลอื่น ๆ ก็มาที่บัควู้ดแล้ว ทำไมนายน้อยถึงปล่อยให้หมอนั่นทำให้คุณต้องชะงักไปล่ะครับ?”“อีกอย่าง ผมตรวจสอบประวัติฮาร์วีย์คนนั้นแล้ว เขาน่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าชายยอร์กด้วยนะครับ หากเราบุ่มบ่ามทำอะไรไป เราอาจจะมีปัญหาอย่างหนักทีเดียว”“ฉันเดาว่าไอ้สารเลวนั่นต้องทำได้แน่ ไม่อย่างนั้นเขาจะกล้าทำคุณได้อย่างไร?”ทอดด์สงบลงหลังจากได้ยินคำพูดของเลขา “ฟังดูเข้าที หมอนั่นกล้าตบหน้าฉัน มันคงฉลาดพอที่จะเตรียมพร้อมไว้แต่แรก ถ้าเราถูกหมอนั่นใส่ร้าย เราคงลำบาก”“สำหรับความสั
สีหน้าของทอดด์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายครั้ง หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงเย้ยหยันปรากฏขึ้น “ในเมื่อนายท่านลำดับสี่ของตระกูลเยตส์กำลังจะมา เราก็จะร่วมมือกับมอร์แกน ไฟแนนเชียลกรุ๊ปชั่วคราว เราจะรอจนกว่าพวกเขาจะทำลายเจ้าชายยอร์กกับบริษัทสกาย คอร์ปอเรชั่น เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะฆ่าฮาร์วีย์ด้วยน้ำมือของฉันเอง!”“ถ้าไม่มีเจ้าชายยอร์กหนุนหลัง ฉันก็อยากรู้นักว่าจะหมอนั่นจะรอดไปได้สักกี่น้ำ!”“สำหรับผู้หญิงคนนั้น แมนดี้… เธอจะเป็นของฉันไม่ช้าก็เร็ว!”คนของท็อดด์ยิ้มเศร้า ๆ หลังจากได้ยินคำพูดของท็อดด์เป็นเวลาหลายปีที่นายน้อยไม่เคยยอมแพ้ต่อสิ่งที่เขาต้องการฮาร์วีย์เป็นเพียงลูกเขยที่มีชีวิต เขาตายแน่!***ณ เทือกเขาร็อคกี้ รัฐเท็กซัส ประเทศอเมริกาครั้งหนึ่งนักวิชาการชาวอเมริกันเคยศึกษาเกี่ยวกับภูเขาเหล่านี้มาแล้ว เทือกเขานี้สอดคล้องกับเทือกเขาอื่นในเทือกเขาตะวันออกกลางที่กล่าวถึงในหนังสือโบราณ "ภูเขาและทะเล" ซึ่งเต็มไปด้วยความลึกลับมีอารามโบราณอยู่ในหุบเขาในเทือกเขาร็อคกี้ไม่มีเทพเจ้าในวัด มีเพียงที่นอนที่ทำจากใบเกลือ ซึ่งมีร่องรอยของผู้ที่ทำสมาธิมาเป็นเวลานานคนรับใช้ของเยตส์แห่งอเมริกาจะ
แม้ว่าแบรดลีย์จะไม่ได้เป็นสมาชิกตระกูลเยตส์แห่งอเมริกา แต่เขาก็ยังเป็นตัวแทนของนายใหญ่ลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์หลายต่อหลายครั้งแม้แต่ฟิลก็เคารพเขาแบรดลีย์พูดอย่างเฉยเมยว่า “นายน้อยฟิล คุณควรกลับไปก่อน พ่อบุญธรรมของผมบอกว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้เอง”“คนที่ฆ่านายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์จะต้องพินาศอย่างแน่นอน!”"ครับ! ขอบคุณครับคุณปู่ลำดับที่สี่!”ฟิลรู้สึกตื่นเต้นนายใหญ่ลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์เต็มใจที่จะออกมาใช่ไหม?! ตราบใดที่ปรมาจารย์คนที่สี่เยตส์เต็มใจที่จะก้าวออกมาจากการเก็บตัว บริษัทสกาย คอร์ปอเรชั่นก็จะถึงจุดจบ!เจ้าชายยอร์กถูกขีดเส้นตายแน่นอน!ความกล้าหาญขอนายใหญ่ลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์นั้นไม่เพียงแต่ไร้เทียมทานเท่านั้น...ทักษะของเขายังยอดเยี่ยมเหลือเกิน ตราบใดที่เขาเต็มใจจะทำ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ทันทีหลังจากนั้น ข่าวของนายใหญ่ลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์ที่ออกจากความวิเวกนั้นแพร่กระจายไปทั่วรัฐเท็กซัสของอเมริกา และจากนั้นกระจายกลับไปยังบัควู้ดผ่านช่องทางพิเศษหลังจากได้ข่าวคราวของบุคคลในตำนานอย่างนายใหญ่ลำดับที่สี่ตระกูลเยตส์ว่ากำลังจะไปที่บัควู้ด ตระกูลใหญ่โตทั้งหมดและ
ว่ากันว่า ราชาแห่งอาวุธทั้งสี่นี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากนายท่านลำดับสี่ของตระกูลเยตส์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพวกเขาบ่มเพาะทักษะร่วมกัน และความกล้าหาญของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิมเมื่อเทียบกับราชาแห่งอาวุธเหล่านี้จากทีมคอบร้าแล้ว แชมป์เปี้ยนมวยชาวเท็กซัสสองคนภายใต้การนำของอาจารย์เยตส์ผู้ล่วงลับเป็นเพียงผู้อ่อนแอไปในทันทีหากทั้งสี่คนนี้เคลื่อนไหว พวกเขาสามารถสังหารกองทัพที่มีอุปกรณ์ครบครันซึ่งประกอบด้วยคนนับพันได้ด้วยตัวคนเดียวหากพวกเขายังไม่เกษียณ พวกเขาทั้งหมดอาจมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามคนเหล่านี้น่ากลัวเป็นที่สุด!ผู้ที่รู้เรื่องชาวเยตส์แห่งอเมริกาต่างสั่นสะท้านด้วยความกลัว“ยินดีต้อนรับ นายท่านลำดับสี่ของตระกูลเยตส์!”เมื่อเห็นนายท่านลำดับสี่ของตระกูลเยตส์เดินออกมา ตระกูลใหญ่โตและกองกำลังต่างชาติก็โค้งคำนับเพื่อทำความเคารพเขาแม้แต่ตัวแทนของตระกูลสิบอันดับแรกในเมืองH ก็ยังโค้งคำนับให้เขาพวกเขาไม่ใช่สมาชิกหลักของสิบตระกูลอันดับแรก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีสิทธิ์ยืนต่อหน้านายท่านลำดับสี่ของตระกูลเยตส์แม้ว่าพวกเขาจะถูกนายท่านลำดับสี่
แบรดลีย์พยักหน้า “พ่อบุญธรรมไม่ต้องกังวลครับ ผมได้สั่งการและส่งสายลับของเราไปสืบเรื่องนี้แล้ว เร็ว ๆ นี้เราน่าจะได้ข้อมูล”นายท่านลำดับสี่ตระกูลเยตส์พยักหน้าห้วน ๆ เขาจะไม่บุ่มบ่ามทำอะไรจนกว่าเขาจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนแน่นอนว่า รู้เขารู้เขา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งในฐานะอดีตพลตรีอย่างเขา จะทำตัวหุนหันพลันแล่นเหมือนคนทั่วไปได้อย่างไร?ตัวแทนของตระกูลต่าง ๆ ต่างส่งสายตาแลกเปลี่ยนกัน เมื่อเห็นท่าทีของนายท่านลำดับสี่ตระกูลเยตส์ พวกเขารู้สึกโล่งใจเพราะถูกบริษัทสกาย คอร์ปอเรชั่นขัดขวาง พวกเขาจึงต้องระแวดระวังอยู่เสมอและไม่กล้าวางอำนาจจนเกินไป ยิ่งกว่านั้นพวกเขาใช้เวลาทุกวันด้วยความหวาดกลัวแต่ตอนนี้มันต่างออกไป หากนายท่านลำดับสี่ตระกูลเยตส์เคลื่อนไหว บริษัทสกาย คอร์ปอเรชั่นจะต้องถึงจุดจบอย่างแน่นอนในกรณีนี้พวกเขาสามารถกินเค้กก้อนโตอย่างบัควู้ดได้โดยไม่ต้องเหนียมอายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากพวกเขาสามารถทำกำไรจากสภาการลงทุนและการร่วมมือทางธุรกิจครั้งต่อไปได้ พวกเขาก็สามารถได้รับผลกำไรงาม ๆ เหล่านั้นได้นี่สำหรับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาบัควู้ดอย่างนั้นรึ?อย่ามาล้อเล่นน่า!ที่พว
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข