แขกยังคงหลั่งไหลกันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในไม่ช้างานเลี้ยงก็จะเริ่มขึ้นแล้ว เมื่อแขกในงานนั่งประจำที่กันจนหมดแล้วก็เห็นว่าที่นั่งของเจ้าภาพยังคงว่างอยู่ เมื่อนาฬิกาบอกเวลาสองทุ่มแล้ว ตระกูลเยตส์ทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่หน้าห้องโถงและพูดออกมาเสียงดังอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “ยินดีต้อนรับ นายใหญ่ที่สามแห่งตระกูลเยตส์!” ท่ามกลางความสนอกสนใจของฝูงชนในงาน นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ก็เดินออกมาจากห้องโถงด้านหลัง เขาสวมชุดสูทสีเขียวมันดูเรียบ ๆ แต่บนสูทนั้นใช้ไหมสีทองในการปักลวดลายมังกรดูน่าเกรงขาม นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์มีราศีของชายผู้ยิ่งใหญ่อยู่อย่างเต็มเปี่ยม เขาเป็นผู้มีอำนาจอิทธิพลอีกทั้งยังมีสถานะทางสังคมอันสูงส่งมาเป็นเวลานาน เพียงแค่การมองของเขามันก็เพียงพอที่จะทำให้เหล่าฝูงชนลุกขึ้นยืนแสดงความเคารพต่อเขาทันที เหล่าคนใหญ่คนโตบางคนถึงกับหายใจหายคอไม่สะดวกเมื่อพวกเขามองไปที่นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ 'ตามที่คาดเอาไว้เลย นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ ออร่าและกิริยาท่าทางแบบนั้นใครจะเทียบกับเขาได้อีกล่ะ?’ บางคนถึงขั้นคิดว่าตลาดธุรกิจทั้งหมดของบัควู้ดและเซาท์ไลท์จะตกไปอยู่ภา
คุณย่าเยตส์ตัวสั่นด้วยความโกรธหลังจากที่ได้ยินคำพูดถากถางของเขา เธอตะโกนออกมาอย่างโกรธจัดว่า “สารเลว! แกจะไปรู้อะไร! พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันกับตระกูลเยตส์จากอเมริกาแล้วนับจากนี้เป็นต้นไป!” “ถ้าแกกล้าที่จะใส่ร้ายคระกูลเยตส์จากบัควู้ดอีกครั้งนะ ฉันจะหาคนมาหักขาแกทิ้งซะ!” ฮาร์วีย์ตอบกลับอย่างใจเย็นว่า “คุณย่าก็รู้ดีอยู่เต็มอกหนิว่าตระกูลเยตส์จากอเมริกาเคยมองคุณในฐานะมนุษย์คนหนึ่งจริง ๆ หรือเปล่า? ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมจำเป็นต้องเตือนคุณย่าด้วยเหรอ?” ฝูงชนรู้สึกงุนงงเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น พวกเขาต้องยอมรับว่าสิ่งที่ลูกเขยไร้ประโยชน์ของเขานั้นพูดความจริง ตระกูลเยตส์จากบัควู้ดไม่ได้มีค่าในสายตาของตระกูลเยตส์จากอเมริกาเลยแม้สักนิด! เบ็นยืนขึ้นและชี้ไปที่ฮาร์วีย์พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ฮาร์วีย์ ยอร์ก แกยังกล้าที่จะโผล่หน้ามาให้พวกเราเห็นอีกเหรอ? แกดีเด่นมาจากไหนกัน?” ฮาร์วีย์มองเขาด้วยท่าทางอันสงบ “พวกคุณทุกคนคิดว่าที่นี่คือวัดทองคำหรืออะไรทำนองนั้นเหรอ? ก็แค่กรงสุนัขเท่านั้นเอง ผมจะมาหรือจะไปมันก็เรื่องของผม” “แกมันก็แค่ลูกเขยขยะ ๆ ที่เกาะเมียตัวเองกินไปวัน ๆ ! ตร
“คุกเข่า!”เบ็น เยตส์หัวเราะอย่างเยือกเย็นในขณะที่เดินตรงเข้าไปหาฮาร์วีย์ ยอร์ก เขากำลังที่จะกดไหล่ของฮาร์วีย์ลงเพื่อบังคับให้เขาคุกเข่าลงแต่เป็นไปได้เหรอที่เขาจะกดเขาลงได้?“คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!”เบ็นรู้สึกว่าเขากำลังขายหน้าตัวเองต่อหน้านายใหญ่ลำดับสามแห่งตระกูลเยตส์ ตอนนี้เขากำลังพยายามกดเขาลงอย่างสิ้นท่า“ผัวะ!”อยู่ ๆ ฮาร์วีย์ก็ตบเบ็นเข้าที่หน้าของเขาร่างของเบ็นกระเด็นออก ร่างของเขาบิดเบี้ยวในขณะที่เขาลอยลงมาปะทะลงกับพื้นดินทุกอย่างเงียบไปหมด!เงียบจนถึงขั้นสามารถได้ยินเสียงของเข็มหล่นลงพื้นได้!ทุกคนแทบไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็นโดยเฉพาะตระกูลเยตส์ที่ตกตะลึงเป็นอย่างมากตัวตนที่พวกเขามีอยู่ตอนนี้มันคืออะไร? สถานะที่พวกเขามีอยู่ตอนนี้คืออะไรกันแน่?‘คนต่ำช้าอย่างฮาร์วีย์กล้าทำร้ายเขาได้ยังไง?!’“กร็อบ”ในขณะที่เบ็นพยายามจะลุกขึ้นอื่น ฮาร์วีย์ก็ได้เดินเข้ามาพร้อมกับเหยียบคอของเขาเมื่อพวกเขาเห็นภาพที่เกิดขึ้น ทุกคนต่างอ้าปากค้างกับสิ่งที่เกิดขึ้น ใบหน้าของทุกคนแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นเบ็น เยตส์…ตายเหรอ?!นายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์อ้าปากค้างหลังจากเห็นสิ่งท
นายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์โบกมือของเขาในตอนนี้ จากนั้นเปล่งเสียงอย่างเย็นชา “ปล่อยเขาไปเถอะ วันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลเยตส์ ไม่จำเป็นต้องรีบหรอก”“เมื่อไหร่ที่งานแต่งงานกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนเรียบร้อยแล้ว มันก็คงง่ายที่ขยี้แมลงตัวนี้ให้ตายทีหลังได้!”คุณย่าเยตส์ตัวแข็งทื่อ แต่ต่อมาเขาเธอตอบกลับอย่างเขินอาย “นายใหญ่ที่สาม คุณมักจะนึกถึงเรื่องทุกอย่างเสมอ! ยังไงมันก็คงใช้เวลาไม่นานที่จะจัดการกับลูกเขยเกาะกินธรรมดานั่น!”“การมาเยือนของหัวหน้าผู้ฝึกสอนในงานคืนนี้ต่างหากที่สำคัญ!”“ถ้าเราสามารถทำให้หัวหน้าผู้ฝึกสอนแต่งงานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราได้ ตระกูลเยตส์จะต้องกลายเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเซาท์ไลท์!”ฮาร์วีย์เดินจากไปภายใต้สายตาของทุกคนที่จับจ้องเขาท่าทีไม่ลดละของนายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์เพิ่มมากขึ้นในตอนนี้และค่อย ๆ ถามอย่างใจเย็น “คุณบอกไม่ใช่เหรอว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนกำลังมา? เขาจะมาถึงตอนไหน?”คุณย่าเยตส์โค้งและตอบกลับ “เขาไม่ได้เจาะจงเวลา แต่ฉันมั่นใจว่าเขาน่าจะใกล้ถึงแล้ว”“ฉันจะสั่งให้คนโทรหาเขาเอง”หลังจากเวลาผ่านไป เลย์ตัน ลูฟรีบวิ่งเข้ามาด้านในด
โยเอล เกรฮัมมองลึกเข้าไปในดวงตาของนายใหญ่ที่สามแห่งตระกูลเยตส์และค่อย ๆ ตอบกลับ “นายใหญ่ที่สาม ผมรู้ว่าคุณเป็นตัวแทนของตระกูลเยตส์จากเท็กซัส อเมริกา”“แต่โดยปกติแล้วรัฐเท็กซัสในสหรัฐอเมริกายังมีมิตรภาพสายสัมพันธ์ที่ดีต่อบัควู้ดอีกด้วย”“เพราะด้วยเหตุนี้ผมจะเมตตาโดยให้คำแนะนำให้กับคุณ”“คุกเข่าขอโทษซะ แล้วเก็บกระเป๋าออกจากประเทศนี้ไปและอย่ากลับมาที่ประเทศ H อีก”“คุณสู้ผู้ชายคนนั้นไม่ได้หรอก!”ทุกคนตกตะลึงหลังจากได้ยินสิ่งที่โยเอลพูดคุกเข่าขอโทษเหรอ? แล้วออกจากประเทศนี้ไปเหรอ?“เออใช่ ผมมีสองความคิดเห็น!”“บัควู้ดไม่ได้ง่ายอย่างที่ตระกูลเยตส์แห่งอเมริกาขึ้น นายใหญ่ที่สามครับ ผมแนะนำทางที่ดีคือคุณต้องขอโทษและออกจากที่นี่ไป มันอาจเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะอธิบายให้กับทางสหรัฐอเมริกาถ้าเกิดว่ามีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับคุณที่นี่” เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงจากบัควู้ดทั้งหมดพูดจากนั้นเชน ไนส์เวลล์พูดด้วยท่าทางที่หยั่งไม่ถึง “นายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์ มีบางอย่างที่คุณต้องหนีห่างออกไปเพราะคุณไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ นี้เป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุดไม่ใช่ทางเลือกที่ขี้ขลาด!”ท้ายที่สุด
โยเอล เกรฮัมและคนอื่น ๆ ต่างอ้าปากค้างหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่นายใหญ่แห่งตระกูลเยตส์พูด ท่าทางของพวกเขาดูย่ำแย่อย่างมากในตอนนี้พวกเขาไม่คิดว่าเขาจะไม่ยอมแพ้และเขายังต้องการเข้ามาในบัควู้ดโดยเฉียบพลันและยังขอให้ทุกคนอยู่ข้างเขาอีกด้วยเขาต้องการสู้ฝาชนฝากับชายผู้นั้น!โยเอลพูดขึ้นมาหลังจากที่สูดหายใจ“นายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์ครับ ผมพูดทุกอย่างที่ต้องการไปหมดแล้ว”“จากมุมมองของภาครัฐ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เราจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแข่งขันทางธุรกิจ”“โปรดเข้าใจด้วยนะครับ นายใหญ่ที่สาม”สายตาของนายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์เยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง อย่างไรแล้วเขาไม่สามารถบังคับคนในภาครัฐได้อยู่แล้ว เขาจึงถามขึ้นอย่างเย็นชา “ก็ได้ แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ?”เหล่าผู้มีอำนาจจากมอร์แกน ไฟแนนเซียลกรุ๊ปมองตากันและพูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน “พวกเราเต็มใจเดินตามคุณครับ นายท่านที่สาม!”ถึงแม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่มีคนระดับสูงในฝ่ายของพวกเขาก็ตาม แต่พวกเขายังคงเป็นโฆษกในบัควู้ดอยู่ทำให้พวกเขามีอิทธิพลอยู่บ้างนอกจากนี้นายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์ยังเป็นมหาอำนาจที่มาจากต่างประเทศอีกด้วย พว
นายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์กำลังแสดงใบหน้าที่เต็มไปด้วยความชอบธรรมเมื่อเห็นอย่างแบบนี้ทำให้เชน ไนส์เวลล์ถอนหายใจเขารู้ว่าไม่ว่าเขาจะเลือกข้างไหน ไม่นานก็ช้าตระกูลไนส์เวลล์ก็จะกลายเป็นศัตรูกับตระกูลเยตส์แห่งอเมริกาแม้ว่าพวกเขาจะทำงานกับพวกเขาแต่ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น?มันเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้พวกเขากลายเป็นศัตรูกับชายผู้นั้นแต่ว่าถ้าพวกเขาจะสามารถชนะได้อย่างปฏิหาริย์ แต่ตระกูลเยตส์แห่งอเมริกาจะปล่อยตระกูลไนส์เวลล์ไปง่าย ๆ เหรอ?ไม่!พวกเขาจะไม่ยอมปล่อยให้คนอื่นยุ่งเรื่องของพวกเขา!ถ้าตระกูลไนส์เวลล์เลือกที่จะอยู่ฝ่ายของตระกูลเยตส์แห่งอเมริกา พวกเขาจะได้รับผลประโยชน์อะไรนอกจากกลายเป็นเบี้ยของพวกเขา?มันเป็นเรื่องที่ดีที่เขารู้ดีว่าควรเลือกอะไรในตอนนั้น เชนเอามือของเขาลงและมองไปที่นายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์อย่างไม่มีความรู้สึกใด ๆ ในสายตาของเขา“นายใหญ่ที่สาม ผมคงต้องทำให้คุณผิดหวัง แต่ตระกูลไนส์เวลล์ขอเลือกยืนข้างเจ้าชายยอร์กแห่งสกาย คอร์ปอเรชั่นครับ!”ตูม!คำพูดเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ตกใจสุดขีด!มันมาราวกับสายตาฟาดคนในฝูงชนต่างอ้าปากค้างกรามของหลาย ๆ คนแทบร่วงห
บรรยากาศทั้งหมดตกอยู่ในความเงียบสงัด ไม่มีใครกล้าที่จะเอ่ยพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวแปะ แปะ…ท่ามกลางความเงียบสงัด กลับมีใครบางคนเริ่มปรบมือพร้อมกับท่าทีเยือกเย็นบนใบหน้าของเขาผู้ที่ปรบมือคือนายท่านที่สามแห่งตระกูลเยตส์เขามองกวาดไปทางเชน ไนส์เวลล์ด้วยสายตาเย็นชาเช่นเคยในตอนนี้แม้แต่นายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์ก็ยังแทบไม่เชื่อเขามั่นใจว่าจะไม่มีใครกล้าที่จะขัดคำสั่งของเขา เมื่อเขามาที่บัควู้ด เขารู้สึกว่าทุกคนต้องคุกเข่าให้กับเขาแต่ใครจะคาดคิดว่าจะมีหลายคนที่ไม่เกรงกลัวต่อความตายและยังกล้าที่จะดูถูกอำนาจของเขาในวันแรกที่เขาเดินทางมาที่บัควู้ดฮาร์วีย์ ยอร์กไม่ต้องการจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว!เจ้าชายยอร์กไม่รู้ว่าอะไรที่ดีสำหรับเขาและตอนนี้แม้แต่เชน ไนส์เวลล์ก็ยังไม่ให้เกียรตินายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์อีกเหรอ?!ในตอนนั้นเอง นายใหญ่แห่งตระกูลเยตส์ระเบิดหัวเราะออกมา มันเป็นเสียงหัวเราะที่ชั่วร้ายที่ทำให้ขนแขนของทุกคนลุกซู่ ความเคารพของพวกเขาอยู่ไหน?ความเคารพที่นายใหญ่ลำดับสามของตระกูลเยตส์สั่งสมมานานหลายปีถูกเหยียบย่ำลงพื้นทุก ๆ วันโกรธเกรี้ยว!นายใหญ่ลำดับสามข
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข