ในเวลาไม่นานนัก บริเวณทางเดินของโซน VIP ที่สนามบิน ผู้ชายหลายสิบคนในชุดขาวก็ออกมายืนทั้งสองข้างของทางเดิน จากนั้นพ่อบ้านในชุดทักซิโด้ก็เดินออกไปและปูพรมสีแดงบนทางเดิน คนอื่น ๆ รอบข้างถูกกันให้ออกจากบริเวณนั้นทันที ทั้งหมดนี้คือการต้อนรับการมาถึงของนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ชายชราท่าทางร่าเริงเขามีผมสีดำสวมสูทสีขาวค่อย ๆ เดินออกมาจาทางเดินของ VIP เขาถือลูกวอลนัทสองลูกไว้ในมือและค่อย ๆ กลิ้งมันไปมาในฝ่ามือของเขา ขณะที่เขาเดินออกมา ผู้ชายในชุดขาวทุกคนก็สูดหายใจเข้าแล้วตะโกนออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน "ยินดีต้อนรับครับ! นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์!” ในขณะเดียวกัน นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ก็ดูสง่างามมาก ๆ ราศีและออร่าของเขาได้สะกดฝูงชนรอบ ๆ ขณะที่เขากำลังเดินออกมาตามทาง ฝูงชนทั้งหมดต่างก็ก้มศีรษะลงโดยไม่รู้ตัวและไม่กล้าที่จะสบตาเขาตรง ๆ ชายสองคนในชุดทะมัดทะแมงเดินตามหลังนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์มาด้วย คนหนึ่งมีผิวขาว อีกคนมีผิวคล้ำ อย่างไรก็ตามทั้งสองคนมีกล้ามเนื้ออันใหญ่บึกบึนเหมือน ๆ กันซึ่งมันทำให้พวกเขาดูเต็มไปด้วยสัญชาตญาณของนักฆ่า หลาย
“เว้นแต่อะไร?!” นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ถามขึ้นมาในทันควัน “เว้นแต่เราจะสามารถเชิญท่านผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองให้มารักษาเขา!” “ผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้อย่างแท้จริง!” “เราไปเชิญชวนเขาแล้วเมื่อคืนนี้ แต่ทว่าพวกเราก็ถูกปฏิเสธ!” “แต่วันนี้เขาน่าจะกำลังไปที่สนามบิน เขาจะขึ้นเครื่องบินและออกจากบัควู้ดในอีกสองชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว!” ดวงตาของนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์กะพริบถี่ ๆ เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ครู่ต่อมาเขาก็หัวเราะเยาะเย้ยก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “คุณพ่อบ้าน นี่เป็นงานสำหรับคุณ ไปเชิญผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองมาที่นี่” “บอกเขาไปว่า ถ้าเขาเต็มใจที่จะช่วยเรา พวกเราตระกูลเยตส์จะถือว่าเป็นหนี้บุญคุณเขาอย่างใหญ่หลวง ไม่ว่าจะเป็นความมั่งคั่ง, อำนาจ,หรือสาวงาม พวกเราสามารถหามาให้ได้อะไรก็ได้ตามที่เขาต้องการ!” "ครับ นายท่าน!" พ่อบ้านตอบรับพร้อมพยักหน้า อย่างไรก็ตาม คุณย่าเยตส์ก็ได้พูดขึ้นมาว่า “นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ ดิฉันไม่คิดว่าจะมีความหวังมากนัก ก่อนหน้านี้เมื่อผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองมาที่บัควู้ด หลาย ๆ ตระกูลในสิบอันดับแรกของประเทศ
จากนี้ไปบัควู้ดจะเป็นเมืองของตระกูลเยตส์! เพราะในท้ายที่สุด ตระกูลยอร์ก, ตระกูลร็อบบินส์, ตระกูลเซอร์เรย์, ตระกูลคลาวด์, และตระกูลซิลวาก็จะต้องถูกกำจัดไป มีเพียงตระกูลไนส์เวลล์และสกาย คอร์ปอเรชั่นจากบัควู้ดเท่านั้นที่สามารถนับว่าเป็นคู่แข่งได้ ตระกูลไนส์เวลล์ขายของโบราณเป็นหลัก พวกเขาไม่ได้ตะลุยในโลกวงการของธุรกิจมากนัก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกลัวพวกเขามากนัก สกาย คอร์ปอเรชั่นสามารถเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อของนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ได้หรือไม่? มันก็คงจะไม่เหนือบ่ากว่าแรงของเขาอย่างแน่นอน! เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลเยตส์ที่บัควู้ดก็จะสามารถเข้าครอบครองและกลายเป็นตระกูลที่ร่ำรวยเพียงตระกูลเดียวในบัควู้ดแห่งนี้! ทันใดนั้น คุณย่าเยตส์และคนอื่น ๆ ก็เริ่มวาดภาพจินตนาการอันสวยหรูในใจของพวกเขา! ... ในเวลาเดียวกัน พ่อบ้านของตระกูลเยตส์จากอเมริกาก็เร่งรีบไปยังสนามบินบัควู้ดพร้อมกับผู้ติดตามในชุดสีขาวจำนวณมาก ในขณะนั้น ฮาร์วีย์ได้มาส่งผู้อาวุโสออสการ์ที่สนามบินด้วยตัวเอง นี่เป็นเพราะว่าผู้อาวุโสออสการ์ชอบนั่งรถตู้ ฮาร์วีย์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจัดหามันมาให้เขาโดยเฉ
ผู้อาวุโสออสการ์ถึงกับผงะหลังจากได้ยินสิ่งที่นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์พูด ก่อนหน้านี้ เหล่าผู้บังคับบัญชาตำแหน่งใหญ่ ๆ มากมายจากทั่ว ๆ ทุกมุมโลกได้เข้ามาขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสออสการ์ พวกเขามักจะเริ่มต้นด้วยวิธีต่าง ๆ อันสวยหรูและในที่สุดก็มักจะลงเอยด้วยวิธีอันน่ารังเกียจ แต่ว่าอย่างไรก็ตามพวกเขายังคงปฏิบัติต่อผู้อาวุโสออสการ์ด้วยความเคารพหลังจากที่ได้พบกับตัวเขา แต่ทว่า คนที่อยู่เบื้องหน้าของเขาในตอนนี้นั้นช่างหยิ่งผยองและโอหังมาก ๆ แม้ว่าเขาจะมีเชื้อสายจีน แต่เขาไม่มีเค้าขนบธรรมเนียมอันดีงามในแบบฉบับจีนเลยแม้สักเสี้ยว ในทางกลับกันนิสัยของเขานั้นมันเต็มไปด้วยคำว่ามหาอำนาจในแบบฉบับของชาวอเมริกันอย่างเต็มเปี่ยม “ฉันจะไม่ทำอะไรทั้งนั้น ฉันมีหลักการในการรักษาของฉัน ฉันจะไม่รักษาผู้คนที่มาจากห้าประเทศมหาอำนาจอีกในตลอดชีวิตนี้” คนอย่างผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองจะกลัวอำนาจได้อย่างไร? เขาตอบกลับอย่างเย็นชา นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ชำเลืองมองผู้อาวุโสออสการ์และเอ่ยถามอย่างเย็นชาว่า “หน้าที่ของหมอคือช่วยชีวิตผู้คนไม่ใช่หรือ? และการช่วยชีวิตผู้คนก็ไม่ควรที่จะมีเรื่องพรมแดน
ณ สกาย คอร์ปอเรชั่น ฮาร์วีย์กำลังอ่านข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลเยตส์จากอเมริกาที่อีวอนน์ส่งมาให้ ทันใดนั้น อีธาน ฮันต์ก็ได้โทรเข้ามา “นายท่าน! มีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติครับ!" “ผู้อาวุโสอาร์มสตรองยังไม่ได้ขึ้นเครื่อง คนของเรากำลังค้นหาเขาอยู่ที่สนามบิน แต่ว่าเราก็ยังหาเขาไม่พบในขณะนี้ครับ” อีธานค่อนข้างกระวนกระวาย ผู้อาวุโสออสการ์ได้ปฏิบัติการรักษาให้กับเหล่าทหารที่บาดเจ็บจำนวนมากระหว่างออกปฎิบัติการ นั่นคือเหตุผลที่คนในกองทัพต่างก็เคารพเขาอย่างสุดซึ้ง ในตอนนี้ออสการ์หายตัวไป แน่นอนว่าเหล่าผู้คนจากกองทัพย่อมเป็นห่วงเป็นใยเขาเป็นพิเศษ การแสดงออกของฮาร์วีย์ก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน “ฉันเป็นคนไปส่งเขาที่สนามบิน ระหว่างทางก็ไม่มีอะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้น เป็นไปได้อย่างเดียวคือมีคนจับตัวเขาไปหลังจากที่ฉันออกจากสนามบินไปแล้ว!” “ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรในช่วงเวลานั้นอย่างละเอียดที!” อีธานไปทำตามที่ฮาร์วีย์พูด หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้กลับมาพร้อมข้อมูลที่ค้นพบ “พบแล้วครับท่านหัวหน้าผู้ฝึกสอน มีชายกลุ่มหนึ่งมาพาตัวเขาขึ้นรถโตโยต้า เอลฟ่าออกจากสนามบินไป” “ผมได้ให้สถานีตำรวจบัควู้ดช่วยเห
บรรยากาศตึงเครียด! นี่มันเป็นการข่มขู่และคุกคาม! นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์เอาแต่ใช่อำนาจข่มขู่และเขาไม่ได้ให้ทางเลือกอื่นแก่ผุ้อาวุโสออสการ์เลยด้วยซ้ำ ถ้าผู้อาวุโสออสการ์ไม่ช่วยรักษาลูกชายของเขา เขาก็จะไม่ลังเลที่จะฆ่าผู้ชายคนหนึ่งทิ้ง "คุณ…" ผู้อาวุโสออสการ์ตัวสั่นด้วยความโกรธ แม้แต่นายพลในกองทัพก็ไม่มีใครที่กล้าปฏิบัติกับเขาแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่เจ้าพ่อแห่งพวกนักเลงท้องถนนก็ยังเคารพต่อเขา แต่กับนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์นั้นเขาไปไกลเกินกว่าที่จะกู่กลับแล้ว การข่มขู่ผู้อาวุโสออสการ์นั้นมันก็แย่มากพออยู่แล้ว แต่นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ถึงกับคิดที่จะฆ่าผู้ช่วยของผู้อาวุโสออสการ์โดยไร้ซึ่งความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แต่ปัญหาก็คือผู้อาวุโสออสการ์ไม่สามารถใช้เวลาอยู่ในบัควู้ดได้นานมากนัก มีผู้ป่วยที่รอรับการรักษาจากเขามากมายที่เซ็นทรัลเพลนส์ นอกจากนั้นเขายังมีคิวที่ต้องเข้าผ่าตัดให้กับผู้คนอีกมากมาย การที่เขาเสียเวลาหนึ่งวันที่บัควู้ดมันก็เท่ากับว่าการผ่าตัดผู้ป่วยก็ต้องเลื่อนไปด้วยและนั่นมันหมายถึงความเป็นความตายของพวกเขาเหล่านั้นด้วย กว่านอร์ตันจะฟื้นตัวก็ใช้เว
เบ็น เยตส์ที่อยู่ทางด้านหลังรีบวิ่งไปข้างหน้าทันทีหลังจากที่เห็นฮาร์วีย์ เขาพูดเสียงดังว่า “คุณพ่อบ้านเยตส์ มันคือฮาร์วีย์ ยอร์ก!” “มันเป็นคนที่ทำให้มิสเตอร์นอร์ตันกลายมาเป็นแบบนี้!” “ตระกูลเยตส์จากบัควู้ดก็ตกต่ำมาถึงจุดนี้ได้ก็เป็นเพราะมัน!” “มันเป็นคนที่จัดการกับฟินน์ เยตส์ด้วย!” “คุณพ่อบ้านเยตส์ จัดการกับเจ้าขยะเหม็นเน่านี้ทีเถอะ!” “มันบอกว่าตัวมันไม่แม้แต่จะชายตามองอเมริกาด้วยซ้ำ! ดังนั้นเราต้องจัดการกับเจ้าคนอวดดีนี่ซะ!” ตระกูลเยตส์ทุกคนต่างหัวเราะอย่างเย็นชา ในสายตาของพวกเขา ฮาร์วีย์จบสิ้นแน่วันนี้ พ่อบ้านเยตส์จ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าเย็นชา “แกคือคนที่ทำให้นายน้อยนอร์ตันนอนเป็นผักแบบนี้เหรอ?” เหล่าชายฉกรรจ์ที่สวมชุดสูทสีขาวก็จ้องไปที่ฮาร์วีย์ด้วยท่าทางเย็นชา "ใช่แล้ว ฉันทำมันเองแหละ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ฉันยังไม่ได้ทำให้ถึงตายก็เถอะ” “ฉันจะจำบทเรียนนี้เอาไว้ในครั้งต่อไป เมื่อฉันลงมือกับใครสักคน ฉันจะต้องทำให้ถึงตาย” ฮาร์วีย์แสดงท่าทีขอโทษขอโพย หลังจากนั้น เขาก็ยิ้มให้ออสการ์ทันทีและพูดขึ้นว่า “ผู้อาวุโสอาร์มสตรอง คราวนี้ผมไม่ได้ดูแลคุณอย่
“ไร้ประโยชน์สิ้นดี!” “พวกแกไม่มีความสามารถแม้แต่จะรั้งใครคนหนึ่งไว้ได้เลยเหรอ?!” “พวกแกมีประโยชน์อะไรบ้าง?!” “ถ้าพวกแกคิดจะเป็นข้ารับใช้ของตระกูลเยตส์จากอเมริกา ก็หัดใช้สมองอันน้อยนิดคิดทบทวนตัวเองเสียบ้างนะ! พวกแกไม่มีความสามารถแม้แต่จะรั้งคนคนหนึ่งไว้ได้แบบนี้น่ะเหรอ?!” พ่อบ้านเยตส์ชี้ไปที่เหล่าตระกูลเยตส์จากบัควู้ดในขณะที่ดุด่าพวกเขาอย่างโกรธจัด เขาตะคอกดุด่าใส่เหล่าตระกูลเยตส์ต่าง ๆ นา ๆ จนพวกเขาหน้าถอดสี แต่พวกเขาก็ไม่มีใครกล้าที่จะโต้เถียงใด ๆ เลย นั่นเป็นเพราะว่าการแสดงออกของนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์ในตอนนี้นั้นดูเคร่งขรึมมาก ๆ หากพวกเขากล้าที่จะต่อล้อต่อเถียง พวกเขาอาจจะถูกจัดการโดยนายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์โดยที่ไม่ต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาในฐานะตระกูลเดียวกัน นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์กำลังโกรธจนตัวสั่น อกของเขาแทบจะระเบิดออกมา นายใหญ่ที่สามของตระกูลเยตส์เป็นคนแบบไหนน่ะหรือ? เมื่อสมัยที่เขายังเด็ก อำนาจและความมั่งคั่งของเขานั้นหาตัวจับได้ยากมาก เมื่อเขาเกษียณมียังสาวกนับไม่ถ้วนภายใต้การปกครองของเขา ผู้คนมากมายต่างก็เคารพเขาเมื่อเขาเดินไปรอบ ๆ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข