ถ้าเป็นจริงตามนั้นก็มีอะไรอธิบายได้หลายอย่างรวมทั้งเรื่องเจ้าชายยอร์กเองที่ขอแต่งงานและพวกไนส์เวลล์ที่ยอมยกรีสอร์ทให้เธอฮาร์วีย์มีเงินหกร้อยยี่สิบห้าล้านดอลลาร์ได้อย่างไรแถมฮาร์วีย์ยังกล้าหักมือจอร์จอีกและหลายสิ่งหลายอย่างก่อนหน้านี้ ทุกอย่างล้วนอธิบายเรื่องทั้งหมดได้แต่ปัญหาคือว่าถ้าฮาร์วีย์เป็นเจ้าชายยอร์กจริง ๆ ทำไมเขาไม่บอกล่ะ?แมนดี้ขมวดคิ้ว เธอมองฮาร์วีย์อย่างพิจารณา คำถามผุดขึ้นมาในหัวตลอดเวลา…เมื่อทุกอย่างจบลง ฮาร์วีย์และแมนดี้ก็เตรียมจะเดินทางกลับ พวกเขาขึ้นรถและออกไปทันทีมีรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์อยู่ในมือแล้ว คงต้องเตรียมความพร้อมหลาย ๆ อย่างหลังจากที่ทั้งสองออกไป จอร์จที่มือเต็มไปด้วยเฝือกเดินมาพร้อมกับชายอีกสองสามคนก็เตะประตูเข้ามาเมื่อเห็นว่าห้องว่างเปล่า สีหน้าของจอร์จก็เยือกเย็นลง“พวกมันอยู่ที่ไหน?”คิงตอบอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ว่า “นายท่าน พวกเขาคงเพิ่งออกไป ลูกน้องของผมกำลังตามไป เราจะไม่ให้คลาดสายตา!”จอร์จสั่งคิงว่า “นายตามพวกมันไป จัดการให้มันพิการซะ แต่เหลือผู้หญิงคนนั้นไว้!”“ฉันจะสนุกไปกับเมียของมันต่อหน้ามัน!”“และฉันต้องการให้มันโอนกรรมสิทธิ์
ชายฉกรรจ์ประมาณสามสิบคนออกจากรถจากทั้งสองและเดินมุ่งหน้าตรงมาที่ฮาร์วีย์พวกมันทั้งสูงและดูแข็งแรงด้วยรูปร่างตามแบบฉบับตะวันตก ดูราวกับว่าพวกมันแต่ละคนสามารถจัดการกับผู้ชายสิบคนพร้อมกันได้ ท่าทางดูน่าเกรงขามและดูคุกคามพวกมันถือกระบองไฟฟ้าสำหรับตำรวจ และท่าทางของพวกมันดูเย็นชาหลังจากจอดรถและล็อครถแล้ว ฮาร์วีย์ก็ลงจากรถและมองพวกผู้ชายตรงหน้าอย่างใจเย็นคิงแทรกโผล่ออกมาจากฝูงชน เขามองฮาร์วีย์ด้วยแววตาเยาะเย้ย“ไง เจ้าหนู กลัวเหรอ!”“แกกล้าเดินลงจากรถทั้ง ๆ ที่เห็นว่าเป็นเรางั้นเหรอ?!”ฮาร์วีย์ตอบว่า “ไสหัวออกไปจากที่นี่ตั้งแต่ตอนนี้ตอนนี้ฉันยังอารมณ์ดีอยู่ ถ้าพวกนายขัดจังหวะการพักของเมียฉัน ฉันจะหักแขนหักขาพวกนายทุกคน”“ฮ่าฮ่าฮ่า…!”คิงและลูกน้องต่างพากันหัวเราะ“ฉันไมาอยากพูดเรื่องไร้สาระกับแกแล้ว จัดการมันซะ!”เสียงหัวเราะอย่างเย็นชาของคิงตามาด้วยพวกลูกน้องนับสิบพุ่งไปหาฮาร์วีย์ตูม!แต่ฮาร์วีย์ยื่นมือขวาออกไป แล้วคว้าคอของพวกลูกน้องที่เป็นหัวโจก จากนั้นเขาก็ทุ่มร่างของลูกน้องคนนั้นลงกับพื้น“อ๊ากก!”เลือดพุ่งออกมาจากปากของลูกน้องคนนั้น อวัยวะภายในบางส่วนของเขาดูเหมือนจ
ผ่านไปห้านาที จอร์จก็มาถึงรอยยิ้มปรากฏบนฉายชัดบนใบหน้าของเขาเมื่อเห็นรถข้าง ๆ “แกกล้าต่อกรกับฉันนักใช่ไหม ฮาร์วีย์ ยอร์ก? ไปตายซะ!”จอร์จลงจากรถอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่เขาเห็นในวินาทีต่อมาทำให้เขาแทบช็อกคิงนอนอยู่บนพื้นพร้อมกับพวกลูกน้องของเขา ทุกคนสลบไปแล้วทุกคนเป็นทหารปลดประจำการ แล้วนี่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร?‘เป็นไปได้ยังไง?!’สีหน้าของจอร์จเต็มไปด้วยความตกใจ ลูกน้องของเขาเป็นทีมที่มาที่ประเทศ H กับเขาและตอนนี้หมดสภาพทุกคน เขาไม่รู้จะอธิบายสถานการณ์นี้ให้คณะกรรมการของมอร์แกน ไฟแนนเซียล กรุ๊ป อย่างไรสายตาของจอร์จมองไปรอบ ๆ แต่ไม่เจอรถของฮาร์วีย์เงาดำที่กำลังเดินเข้ามาหาเขา มันคือฮาร์วีย์นั่นเอง“แกทำอะไรลงไป? เกิดอะไรขึ้น?” จอร์จถามอย่างไม่อยากจะเชื่อฮาร์วีย์เพียงแค่ยิ้ม“ฉันส่งคนพวกนี้นี้ไปลงนรกแล้ว และคุณจะเป็นคนต่อไป”“แก! แกแตะต้องฉันไม่ได้!”“ฉันเป็นตัวแทนจากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินนะ!”“ฉันมีความคุ้มกันทางทูต!”จอร์จตัวสั่นเทาเมื่อเขาเห็นฮาร์วีย์ย่างกายเข้ามาใกล้เขาลูกน้องของเขาที่เป็นมืออาชีพยังมีสภาพแบบนั้นเพราะฝีมือของฮาร์วีย์ ตัวเขาเองจะส
ทุกคนที่เข้าร่วมการประมูลเอนชานท์เมนท์ รีสอร์ตล้วนเข้าใจแล้วเหตุผลที่ฮาร์วีย์เย่อหยิ่งเขามีคนคอยหนุนหลังเขาอยู่ และไม่ใช่ใครอื่นไหล คน ๆ นั้นคือเจ้าชายยอร์กนั่นเอง!ไม่แปลกใจที่เขากล้าต่อกรกับจอร์จที่สามจากมอร์แกน ไฟแนนเซียลกรุ๊ปในเวลาเดียวกัน ข่าวลือนั้นก็แพร่กระจายออกไปหลายคนเริ่มซุบซิบถึงเรื่องที่เจ้าชายยอร์กที่ขอแต่งงานภรรยาของฮาร์วีย์ และเธอปฏิเสธตอนนี้ที่ได้รู้ข่าวว่าฮาร์วีย์ทำงานเป็นคนขับรถของเจ้าชายยอร์ก ผู้คนต่างคาดเดากันไปว่าฮาร์วีย์ใช้ภรรยาของเขาปูทางเพื่อหางานทำในชั่วพรบตาวงสังคมชั้นสูงก็ไม่พอใจและรังเกียจฮาร์วีย์เขาไม่เพียงแต่เป็นแมงดาเท่านั้น แต่กลับยังหาชู้ให้ภรรยาตัวเองอีกด้วยไร้ยางอายจริง ๆ !มากไปกว่านั้นเขายังคงทำท่าทีเย่อหยิ่งและอวดเบ่งเพราะเพียงแค่ใช้ภรรยาตัวเองไปเป็นชู้กับเจ้าชายยอร์ก!มอร์แกน ไฟแนนเซียลกรุ๊ปก็รับรู้ถึงข่าวลือนี้เช่นเดียวกันพวกเขาอยากจะฆ่าฮาร์วีย์เสียจริง ๆ แต่ไม่มีหนทางใดเลยที่พวกเขาจะได้เข้าใกล้สกาย คอร์ปอเรชั่น รวมถึงเจ้าชายยอร์กบรรดาคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นขุนนางจากดินแดนพระอาทิตย์ไม่เคยตกดินเหล่านั้น ล้วนแล้วแต่พกความมั่
นี่คือข่าวที่เป็นกระแสร้อนแรงที่สุดของวันนี้ในเมืองบัควู้ดเนื้อหาของข่าวนั้นดูธรรมดาลงรายละเอียดเพียงไม่กี่คำแมนดี้เข้ารับตำแหน่งหุ้นส่วนและประธานคนใหม่ของรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์“จากการประเมินมูลค่าของบริษัทในตอนนี้ รีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์มีมูลค่าประมาณเจ็ดร้อยเจ็ดสิบห้าล้านดอลลาร์ เราเชื่อว่าภายใต้การบริหารมิสซิมเมอร์ รีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์จะกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในเวลาอันสั้น บางทีอาจจะเป็นบริษัทมูลค่าล้านล้านดอลลาร์ได้ด้วยซ้ำ!”ข่าวที่ปรากฏบนจอบนทีวีนั้นทำให้คนในตระกูลเยตส์มองหน้ากัน“มันเป็นไปได้ยังไง? แมนดี้เป็นประธานของรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ได้ยังไง?”“รีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์มีมูลค่าอย่างน้อยหกร้อยยี่สิบห้าล้านดอลลาร์ในมูลค่าตลาด! มันจะเปลี่ยนเจ้าของได้ง่าย ๆ แบบนี้ได้ยังไง?”“แมนดี้ทำได้ยังไง? เราไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?”ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้พวกตระกูลเยตส์ใกล้จะล่มสลายบางคนถึงกับตบหน้าตัวเอง แต่เมื่อพวกเขารู้สึกถึงความเจ็บปวดจากการตบนั้น มันจึงยืนยันได้ว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นพวกเขาไม่ได้ฝันพวกเยตส์ทำตามแผนการทุกอย่างหลังจากที่ไล่แมนดี้ออกจากซิลเวอร์น
หลังจากนั้น ตระกูลเยตส์ก็มารวมตัวกันที่ทางเข้าอาคารรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์พวกเขาต้องยอมรับแมนดี้และครอบครัวของเธอยังคงให้โชคกับพวกเขาอยู่บ้างเมื่อพวกเขามาถึงก็เห็นแมนดี้รายล้อมไปด้วยกลุ่มคนแวดวงสังคมชั้นสูงพวกตระกูลเยตส์อิจฉาจนแทบจะกระอักเลือดออกมาทันทีพวกเขารู้สึกละอายใจและอยากที่จะแก้แค้น พวกเขาต้องเก็บความไม่พอใจเอาไว้ในใจ และเดินเข้าไปหาแมนดี้“โอะ แมนดี้! เธออยู่ที่นี่นี่เอง!”“ก่อนหน้านี้ฉันงี่เง่าไปหน่อย ฉันมองเธอผิดไปจริง ๆ !”“ทุกอย่างเป็นความผิดของป้าและลุงของเธอ ฉันตบสั่งสอนพวกเขาแล้ว!”“แมนดี้! ถ้าเธออยากให้เราจะจัดแถลงข่าวและบอกทุกคนว่าคุณคือทายาทที่ภาคภูมิใจที่สุดของตระกูลเยตส์ เราทำให้ได้นะ!”“ตอนนี้ตระกูลเยตส์ต้องการเธอ!”“ถ้าไม่มีเธอ ตระกูลของเราคงถึงคราวล้มละลาย!”“ถ้าไม่เชื่อฉัน! ดูสิตอนนี้ฉันไอออกมาเป็นเลือดแล้ว!”ในขณะที่คุณย่าเยตส์พูด เธอก็หยิบผ้าเช็ดหน้าให้แมนดี้ดู บนนั้นมีจุดรอยเลือดติดอยู่นี่คือเลือดที่ก่อนหน้านี้ในตอนที่คุณย่าเยตส์เดือดดาลด้วยความโกรธแต่ตอนนี้เธอใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ออกมาเรียกร้องความเห็นใจแมนดี้ขมวดคิ้วคุณย่าเยตส์พูดต่อ
รีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์กำลังได้รับความสนใจจากทุกช่องทางสื่อในบัควู้ดหลายคนหยิบโทรศัพท์และกล้องออกมาเพื่อถ่ายภาพของกลุ่มคนที่กำลังคุกเข่าอยู่หน้าอาคาร ภาพนี้ทำให้ตระกูลเยตส์ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นตระกูลสูงส่งรู้สึกอับอายอย่างที่สุดความเย่อหยิ่งและศักดิ์ศรีของพวกเขาถูกเหยียบย่ำอย่างไร้ความปราณีในตอนนั้นพวกเขาสาบานในใจว่าจะฉกฉวยโอกาสผลาญเงินทั้งหมดของแมนดี้หากพวกเขาผ่านพ้นเรื่องในตอนนี้ไปได้ พวกเขาจะจับโยนแมนดี้เข้าซ่องโสเภณี!ความอัปยศที่พวกเขารู้สึกในวันนี้ เธอจะต้องชดใช้สิบเท่า!คุณย่าเยตส์ไม่ได้คุกเข่าเหมือนคนอื่น ๆ แต่ใบหน้าอันขาวผุดผ่องของเธอนั้นแสดงความอับอายออกมาตระกูลเยตส์หมดสิ้นแล้วศักดิ์ศรีทั้งหมดแต่เพื่อให้แมนดี้ใจเธออ่อนลง พวกเขาทำได้เพียงอดทนภาพนั้นทำให้แมนดี้ที่ทำเย็นชา ก็ทำให้เธอรู้สึกสับสนในสายตาของเธอ ตระกูลเยตส์จะไม่มีทางคุกเข่าลงได้นั่นเพราะความเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรีของพวกเขาเธอหันมองไปข้างหลังเธอคนอื่นอาจจะแยกไม่ออกว่าใครเป็นคนพูดก่อนหน้านี้ แต่แมนดี้เธอรู้ดี ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฮาร์วีย์เองตอนนี้แมนดี้ผู้ใจดีคิดว่าฮาร์วีย์โหดร้ายเกินไปแต่ก่
ในจังหวะที่แมนดี้กำลังจะหมุนตัว ร่างสูงที่อยู่ข้างหลังเธอก็ขยับตัวออกมาฮาร์วีย์ก็ปรากฏตัว“ที่รัก ได้เวลาเลิกงานแล้ว”เมื่อเห็นฮาร์วีย์พวกตระกูลเยตส์ก็ตัวสั่นด้วยความโกรธพวกเขารู้ว่าฮาร์วีย์มาตรงที่พวกเขาเพื่อก่อความวุ่นวายมันจะดีกว่าถ้าเขายังยืนอยู่ตรงนั้นที่เดิม แต่แน่นอนเขาจะไม่มีทางทำแบบนั้น“แมนดี้ มาคุยกับยายก่อนสิ เราสายเลือดเดียวกัน!”“เขาเป็นแค่ลูกเขย! เขาไม่เกี่ยวอะไรกับเรา”คุณย่าเยตส์จะเข้าไปคว้าเสื้อของแมนดี้แต่ฮาร์วีย์ขวางผู้หญิงคนนั้นเอาไว้จากนั้นเขาก็จับมือแมนดี้และพูดว่า “คุณลืมไปแล้วหรือว่าคนพวกนี้ทำกับคุณไว้ยังไง? คุณคิดว่าพวกเขาจริงจังกับคำว่าครอบครัวจริง ๆ งั้นเหรอ? พวกเขาแค่สนใจรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ที่คุณเป็นเจ้าของอยู่เท่านั้น”“ถ้าคุณไม่มีเงิน คุณก็ไม่มีค่าอะไรในสายตาพวกเขา”“ฉัน…”แมนดี้เม้นริมฝีปาก เธอเข้าใจในสิ่งที่ฮาร์วีย์กำลังสื่อถึง แต่เธอก็ยังลังเล“ตระกูลเยตส์ได้ทำลายความสัมพันธ์ที่มีกับครอบครัวของเราไปแล้ว พวกเขายังจัดงานแถลงข่าวประกาศให้คนทั้งโลกรู้ คุณคิดว่าพวกเขาจะกลับคำพูดของพวกเขางั้นเหรอ?”“แมนดี้! ไม่ว่าคุณจะให้เงินไปเท่าไหร
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข