ไม่นานหลังจากนั้น คนของตระกูลเยตส์ก็ออกไปด้วยกันและในที่สุดก็พบว่าเกิดอะไรขึ้น“แมนดี้ได้ลงทุนเงินเป็นจำนวนมากเพื่อเร่งความคืบหน้าของโครงการซิลเวอร์นิมบัส เมาท์เทนรีสอร์ต!”“ตอนนี้ไม่มีเงินในบัญชีบริษัทเลย ผู้บริหารเหล่านั้นลาออกเพราะไม่ได้รับเงินเดือนในเดือนนี้!”“ทีมก่อสร้างไม่ได้รับเงินรายเดือน เป็นธรรมดาที่พวกเขาหยุดงาน!”“นอกจากนี้ ข่าวลือกำลังแพร่กระจายออกไปว่าซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์เป็นหนี้ คนที่ซื้อวิลล่าไปแล้วขอยกเลิก!”“สำหรับข้อตกลงมันมีอยู่จริง แมนดี้เซ็นสัญญากับสกาย คอร์ปอเรชั่นในนามของบริษัทว่ากันนี่เป็นเงื่อนไขสำหรับเธอในการเข้ารับตำแหน่งเป็นประธานบริษัท!”“สรุปคือทั้งหมดเป็นเพราะแมนดี้!”“หมาตัวน้อยนั่นโยนขี้ให้ตระกูลเยตส์!”“เราคิดไปเองว่าเราต่อรองชนะ!”หลังจากได้รับฟังคำชี้แจงเรื่องนี้แล้ว พวกตระกูลเยตส์ต่างก็โกรธจัดในเวลานี้เมอร์เซเดส เบนซ์ มายบัคก็มาถึงบ้านของตระกูลเยตส์ผู้ชายที่ดูสุขุมในชุดสูทและรองเท้าหนังเดินเข้ามา“ขอโทษนะครับ คนที่ดูแลตระกูลเยตส์อยู่ที่นี่หรือเปล่า?”“ฉันเอง และคุณคือ…” คุณย่าเยตส์รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ แต่เธอก็ต้องเดินก
ในที่สุด ผู้ถือหุ้นรายย่อยและรายกลางตกลงที่จะให้เวลากับตระกูลเยตส์สักสองสามวันในการระดมทุนหลังจากที่ตระกูลของพวกเขาได้ทำให้มันมาถึงจุดนี้ ด้วยเหตุนี้ ตระกูลเยตส์จึงต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาล เนื่องจากพวกเขามีเวลาเพียงไม่กี่วัน จำนวนเงินทั้งหมดที่พวกเขาต้องจ่ายคือเจ็ดล้านแปดแสนดอลลาร์ แม้ว่าตระกูลเยตส์จะเต็มไปด้วยความสับสนมึนงงในหัวอยู่ในขณะนั้น แต่ทว่าพวกเขาก็ยอมตกลงราคาเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติที่มาจ่ออยู่ตรงหน้าของพวกเขาแล้ว เมื่อผู้ถือหุ้นรายย่อยและรายกลางได้จากไป เหล่าตระกูลเยตส์ก็เอาแต่นิ่งเงียบ ทุกคนต่างก็เหงื่อไหลอาบหน้า อีกทั้งการแสดงออกของพวกเขาช่างดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพวกเขาคิดว่าทุกอย่างได้จบลงแล้ว ทันใดนั้นรถกระบะหลายสิบคันก็เข้ามาจอดอยู่ที่ด้านนอก ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีคนกลุ่มหนึ่งกรูกันเข้ามาที่ข้างในทันที พวกเขาเป็นผู้จัดหาวัสดุก่อสร้างของบริษัทมานานหลายปีแล้ว พวกเขามาที่นี่เพราะบริษัทค้างชำระพวกเขามามาหลายวันแล้ว “จ่ายเงินมาได้แล้ว!” “เราต้องการให้พวกคุณชำระเงินค่าวัสดุก่อสร้างในตอนนี้ เดี๋ยวนี้! และถ้าไม่จ่าย พวกเราจะทำลายคฤหาสน์ของตระกูลเยตส์ท
"มีเพียงแค่การขอโทษ! แล้วชำระหนี้เพียงทางเดียวเท่านั้น!” เลย์ตันกล่าวพรางกัดฟันแน่น ฟินน์จะเต็มใจทำได้อย่างไร? เขาเป็นถึงผู้บัญชาการลำดับสามของกรมตำรวจบัควู้ด มันคงน่าอายเกินไปสำหรับเขาที่จะโค้งคำนับและกล่าวคำขอโทษกับเหล่าซัพพลายเออร์ที่ต่ำต้อยเหล่านี้ ทันใดนั้น คุณย่าเยตส์ก็เดินออกมาข้างหน้าด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง “ฟินน์ มันจะเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตนะถ้าหลานไม่รีบแก้ไขปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ รีบไปขอโทษเดี๋ยวนี้! “เบ็น เอาทุกอย่าที่เรามีออกจากบัญชี และชำระหนี้ทั้งหมดนี่ซะให้จบ ๆ ไป!” ฟินน์และเบ็นดุไม่เต็มใจเลยสักนิด แต่ท่าทางของคุณย่าเยตส์ในขณะนั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตาม ในที่สุด ฟินน์ก็กัดฟันและโค้งคำนับขอโทษเหล่าซัพพลายเออร์ทั้งหมด ในทางกลับกัน เบ็นก็ได้ไปถอนเงินหลายพันดอลลาร์ออกจากบัญชีธนาคารของตระกูลเยตส์ อีกทั้งพวกเขายังต้องจำนองรถยนต์สองสามคันเพื่อให้ได้เงินจำนวนหนึ่งล้านห้าแสนดอลลาร์เพื่อมาชำระหนี้ให้เหล่าซัพพลายเออร์ทั้งหมด ซัพพลายเออร์ทั้งหมดจากไปหลังจากที่พวกเขานับเงินต่อหน้าของตระกูลเยตส์ แต่ก่อนที่พวกเขาจะออกไป ซัพพลายเอ
"อะไรกัน? ที่พวกเธอทุกคนมีอำนาจมีกินมีใช้ขึ้นมาได้จนถึงเท่าทุกวันนี้ นั่นก็เป็นเพราะแรงสนับสนุนเงินทองชื่อเสียงจากตระกูลทั้งนั้น!” “และในตอนนี้ตระกูลเยตส์กำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติ พวกเธอทุกคนกลายเป็นคนใบ้ไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?” คุณย่าเยตส์ทุบไม้เท้าของเธอลงกับพื้นเสียงดังอย่างฉุนเฉียวพร้อมกับตัวสั่นไปด้วยความโกรธจัด หัวของทุกคนก้มลงต่ำ ไม่มีใครสามารถปริปากและตอบกลับเธอได้เลยสักคน เพราะพวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น! “พูดออกมาสิ พูดออกมาเดี๋ยวนี้! เราจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้? จะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร?” คุณย่าเยตส์ยังคงตะโกนออกมาอย่างโกรธจัด “คุณย่าครับ ผมคิดว่าเราถูกนังสารเลวนั่นหลอก นังแมนดี้!” “คิดเกี่ยวกับมันดี ๆ อีกครั้งสิ เราต่างหากที่เป็นคนชี้ทางให้แมนดี้ต้องมอบหุ้นทั้งหมดของเธอที่มีให้กับเรา ถ้าหากว่าเธอยังต้องการให้ฮาร์วีย์มีชีวิตอยู่!” “แต่หุ้นที่มีมูลค่าสามร้อยล้านดอลลาร์! ผู้ชายแบบไหนกันที่จะคุ้มกับเงินจำนวนมากขนาดนั้น?” “และเธอก็ให้มันกับพวกเราอย่างง่ายดาย!” “ผมคิดว่าเธอทำมันโดยเจตนา เธอรู้ดีอยู่แล้วว่าซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์นั้นย
เหล่าตระกูลเยตส์กำลังคิดค้นกลยุทธ์ต่าง ๆ ในการนำแมนดี้กลับมาแก้ไขปัญหานี้ ในส่วนของแมนดี้นั้น เธอกำลังศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลว่าอุตสาหกรรมใดที่น่าสนใจและควรก่อตั้งเป็นบริษัทใหม่ของเธอ ฮาร์วีย์เองก็ให้กำลังใจเธอมาโดยตลอด โดยบอกกับเธอว่าตลาดของบัควู้ดนั้นมีขนาดที่ค่อนช้างจะใหญ่และมีโอกาสที่รอเธออยู่ตั้งมากมาย นอกจากนี้ แมนดี้ยังเป็นผู้หญิงที่ดื้อรั้นมาโดยตลอด เธอมักจะลุกขึ้นทันทีหลังจากที่เธอล้มลง ด้วยแรงสนับสนุนและกำลังใจจากฮาร์วีย์ มันยิ่งตอกย้ำความคิดของเธอในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ๆ เธอใช้เวลาอยู่ที่เดอะการ์เด้น เรสซิเด้นท์เพื่อค้นหาแผนงานและเตรียมมองหานักลงทุนมาร่วมหุ้นในธุรกิจใหม่ของเธอ ทันใดนั้น คุณย่าเยตส์ก็ได้โทรหาเธอ “แมนดี้ นังเด็กเวร!” “ตระกูลเยตส์ไปทำอะไรให้แกนักหนาเหรอ?!” “แกกล้าดียังไงถึงได้วางแผนกำจัดตระกูลของพวกเราเอาไว้ตั้งแต่แรก?!” “แกสมควรตาย!” "ฉันเกลียดแก นังตัวดี! เมื่อตอนที่ลิเลียนท้องแก ฉันน่าจะทำให้แท้งไปซะ!” “ถ้าเป็นอย่างนั้นตั้งแต่แรก ตระกูลสุดรักสุดหวงที่ฉันเฝ้าดูแลประคบประหงมมาเป็นอย่างดีก็คงจะไม่จบลงแบบนี้หรอก!” คุณย่าเยตส์กำลังดุด่าแมน
คุณย่าเยตส์พูดราวกับว่าเธอนั้นเป็นคนที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรม เธอเล่นทั้งบทนางฟ้าและปีศาจในเวลาเดียวกัน! โดยปกติแล้ว เธอรู้ซึ้งถึงบุคลิกของแมนดี้เป็นอย่างดี นั่นคือหัวใจที่อ่อนโยนและความรู้สึกที่แข็งแกร่งในเรื่องของครอบครัว ตระกูลเยตส์สามารถทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลังได้เพียงเพื่อชื่อเสียงเงินทองและผลประโยชน์อื่น ๆ แต่แมนดี้เธอจะไม่มีทางทำเช่นนั้นแน่ ๆ ประเด็นนี้มันก็เห็นกันชัด ๆ อยู่แล้ว เธอไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งเจ้างั่งฮาร์วีย์ ยอร์กนั่นเลย เธอถึงกับยอมแลกทุกอย่างเพื่อมัน ถ้าเป็นฟีบี เยตส์นะ ถ้าเธอมีสามีแบบนี้สามีของเธอคงโดนเธอเตะกระเด็นไปแล้ว “อ้อ แมนดี้ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ฉันจะให้กับเธอได้ เราสามารถพูดคุยกันได้ ถ้าหากว่าเธอยินดีที่จะกลับมาสะสางเรื่องต่าง ๆ ซะ!” “ถ้าไม่เห็นแก่ฉัน อย่างน้อยก็ช่วยเห็นแก่แม่ของเธอบ้าง!” “ฉันเป็นแม่ของแม่เธอนะ!” คุณย่าเยตส์พูดราวกับว่าเธอนั้นมีพระคุณอย่างยิ่ง แต่ความหมายที่แท้จริงนั้นมันคือเรื่องผลประโยชน์หลังจากนี้ต่างหาก และคำพูดนั้นมันก็ได้บีบหัวใจของแมนดี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอก็ไม่ได้สนใจซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส
หลังจากนั้นไม่นาน แมนดี้กัดฟันแน่นและถอนหายใจออกมาในที่สุด เธอไม่พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว เธอเป็นคนจิตใจดีแต่ก็ไม่ใช่คนโง่ เธอจะมองเหล่าตระกูลเยตส์ไม่ออกได้อย่างไร? แต่เธอเพียงแค่ไม่สามารถก้าวผ่านความรู้สึกที่มันติดค้างอยู่ภายในหัวใจของเธอได้ก็เท่านั้นเอง เมื่อฮาร์วีย์พูดเรื่องนี้ออกมาตรง ๆ มันก็ทำให้แมนดี้รู้สึกโล่งใจได้บ้าง “ที่รัก ขอบคุณนะ ฉันเข้าใจดีว่าพวกเขาปฏิบัติกับฉันเหมือนเป็นเครื่องมือ และฉันจะไม่ฟังพวกเขาอีกแล้ว” “ตระกูลเยตส์สมควรได้รับบทเรียนเสียบ้าง” แม้ว่าแมนดี้จะพูดออกมาแบบนั้น แต่หัวใจของเธอก็ยังคงเจ็บปวดรวดร้าวด้วยคำว่าครอบครัว แต่ฮาร์วีย์นั้นเขาไม่คิดจะให้โอกาสกับตระกูลเยตส์อีกเลยแม้สักครั้งเดียว เขาส่งซีนเธียร์ไปสำรวจมหาวิทยาลัยที่ต่างเมืองเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการทำให้ทั้งไซม่อนและลิเลียนออกจากบัควู้ดไปก่อน อีกทั้งเขายังเสนอให้ทั้งสองใช้เวลาเที่ยวเล่นพักผ่อนหย่อนใจในมอร์ดูและโวลซิ่งก่อนกลับมา และด้วยเหตุนี้ เหล่าตระกูลเยตส์ก็จะไม่มีทางติดต่อกับไซม่อนและลิเลียนได้ ... ณ คฤหาสน์ของตระกูลเยตส์ ทุกคนพยายามโทรหาครอบครัวของแมนดี้ด้วยท่าทางอันสิ้
ชายคนนั้นหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐน่ะเหรอ? ช่างน่ายกย่องเสียนี่กระไร! น่ากลัวจัง น่ากลัวสุด ๆ !” “นายคิดว่าฉันไม่รู้หรอกเหรอว่าคีธ เยตส์ไปยั่วโมโหหัวหน้าผู้ฝึกสอนและยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทหารอีกทั้งอาการของเขาก็ยังคงอยู่ในขั้นโคม่าอยู่เลย!” “ตระกูลเยตส์ยังเหลือใครอีกไหม? อย่าบอกนะว่าตอนนี้พวกคุณทุกคนกำลังพึ่งพาอำนาจกระจอก ๆ ของฟินน์อยู่?” ฟินน์ตัวสั่นด้วยความโกรธหลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น พวกคนเหล่านี้ไม่เคารพเขาในฐานะผู้บัญชาการลำดับสามของกรมตำรวจบัควู้ดเลยแม้สักนิด แต่นี่ก็คงจะเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าเหล่าซัพพลายเออร์ได้กระจายข่าวเกี่ยวกับตระกูลเยตส์ออกไปแล้วตั้งแต่เมื่อเช้าตรู่ ตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้แล้วว่าตระกูลเยตส์เป็นเพียงแค่ภาพวาดของเสือโคร่งไม่ได้น่ากลัวและยิ่งใหญ่อย่างที่คิด พวกเขาจึงจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้เพื่อเงินทองของพวกเขา หากไม่เป็นเช่นนั้นพวกเขาอาจจะพลาดโอกาสทองนี้ไป ทันใดนั้น ฟีบีก็เดินออกมาข้างหน้าด้วยท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยามและพูดขี้นมาว่า “พวกแก พวกแกทั้งหมดไม่รู้บ้างเลยหรือว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนจะมาที่คฤหาสน์ของพวกเรา
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข