แมนดี้รู้สึกมึนงงหลังที่เธอได้ยินสิ่งที่ฮาร์วีย์พูดจริงเหรอที่เธอถูกหลอก? ฮาร์วีย์หนีออกมาได้ด้วยตัวเองเหรอ?เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ดี ๆ ช่วงเวลาไม่ได้มีมากนัก คีธได้พูดขึ้นว่าจะรู้ผลการสืบสวนหลังจากผ่านไปยี่สิบสองชั่วโมงแต่ฮาร์วีย์กลับปรากฏตัวขึ้นภายในหนึ่งชั่วโมง“ฮาร์วีย์ นายคิดอะไรอยู่? นายยังจะโม้อีก!”“นายรู้ไหมว่าใครเอาตัวนายไป? คนพวกนั้นเป็นนักเลงจากชายแดนโอไฮโอ! คนพวกนั้นลงมือฆ่าได้ภายในพริบตาเดียว!”“ถ้าไม่ใช่ตระกูลเยตส์ที่ควบคุมตำรวจทั้งหมดในเซาท์ไลท์ได้ด้วยการส่งคนออกไปหานายและแรงกดดันมหาศาลใส่นักเลงพวกนั้น นายจะยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง?!”“นายคงได้ตายไปแล้ว!”“นายไม่เห็นเหรอว่าคนบนถนนมาจากกรมตำรวจ? ความปลอดภัยของบัควู้ดหนาแน่นขึ้นเพราะนาย!”ทั้งไซม่อนและลิเลียนทำราวกับว่าพวกเขารู้เรื่องทั้งหมด ทำให้ตอนนี้พวกเขาหน้าซีดลงทันทีด้วยความคิดเห็นของพวกเขา การโอ้อวดที่เป็นความเคยชินของฮาร์วีย์มันสิ้นหวังทั้งหมดเป็นเพราะแมนดี้ที่เสียสละทุกอย่างเพื่อให้เขาปลอดภัย แต่เขากลับอ้างว่าเขาทำทั้งหมดด้วยตัวของเขาเองในตอนนั้นแมนดี้พูดขึ้น “พ่อคะ แม่คะ ความจริงไม่ได้สำคัญเลยค่ะ สิ
คำพูดที่กล้าหาญของฮาร์วีย์สร้างความมึนงงให้กับไซม่อนและลิเลียนหลังจากเวลาผ่านไป ไซม่อนถอนหายใจและคร่ำครวญ “ลืมไปเถอะ ตอนนี้เราจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว”“วันนี้ไม่ใช่วันของนาย พักผ่อนเถอะ”หลังจากนั้น ไซม่อนได้พาตัวลิเลียนออกไปด้วยความผิดหวัง!ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง!แม้กระทั่งในสถานการณ์อย่างนี้ ฮาร์วีย์ยังคงพูดโม้อีก พวกเขาไม่สามารถทนพูดอะไรต่ออีกได้แล้วสำหรับพวกเขา คนอย่างฮาร์วีย์เป็นความสิ้นหวังอย่างมากแมนดี้ยิ้ม “ที่รัก อย่ามาแกล้งฉันเล่นสิ”“ในอนาคต เรามาหาทางสร้างธุรกิจเล็ก ๆ กันเถอะ มันคงไม่ยากที่จะเอาตัวรอดได้ถ้าเราทำหน้าที่ของเราได้ดี”“ถ้ามันไม่ได้ผล เราจะคงจะต้องไปขายของตามท้องถนนแล้ว เราไม่ได้มีส่วนร่วมกับผู้ขายของแผงลอยเร็ว ๆ นี้เหรอ? เราเริ่มคืนนี้กันเลยไหม?”แมนดี้ย่อมทำทุกอย่างที่เธอพูดตลอดและมีแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งจากนั้นเธอจึงไปค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเพื่อหาสินค้าขนาดเล็กจากตลาดใกล้เคียงและพาฮาร์วีย์ไปคลังสินค้าด้วยความสนใจฮาร์วีย์พูดไม่ออกไม่นาน แมนดี้ก็ได้เตรียมบางอย่างที่จะขายได้และเจอแผงลอยบนถนนคนเดินตามที่เธอพูดว่าแผงลอยของพวก
แมนดี้หน้าเสีย เธอไม่คาดคิดว่าตอนที่เธอตั้งแผงลอยขึ้น เธอจะเจอใครที่ชั่วร้ายและน่ารังเกียจเท่านิคมาก่อน “ผู้จัดการลาเชย์ ผมคิดว่าถุงน่องที่คุณถืออยู่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ”“จริงด้วย!”นิคต้องพูดถึงแมนดี้ต่อหน้าลูกน้องของเขาแน่เขาไม่ได้มีเพียงแต่โกรธแมนดี้ที่ไล่เขาออก แต่เขายังมีความต้องการทางเพศกับเธอมาเสมออีกด้วยฮาร์วีย์เดินออกมาจากด้านหลังด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงหลังจากที่เห็นนิคเห็นว่าแมนดี้กำลังมีความสุขกับการขายของ เขาก็ไม่มีเจตนาที่จะหยุดเธอแต่ผู้ชายคนนี้กลับออกมาจากที่ไหนไม่รู้และตั้งใจจะทำร้ายเธอ ซึ่งทำให้ฮาร์วีย์รู้สึกโกรธสายตาของฮาร์วีย์เย็นชา ซึ่งสายตาของเขาทำให้ร่างกายของนิคเย็นลงแมนดี้ตกใจเมื่อเห็นฮาร์วีย์ เธอรีบกระซิบพูดทันที “ฮาร์วีย์ อย่าไปสนใจคนพวกนี้เลย เรามาที่นี่เพื่อสร้างธุรกิจกันนะ เหมือนคำกล่าวที่ว่าความสันติสร้างความมั่งคั่ง”ที่จริงแล้ว เธอกลัวว่าฮาร์วีย์จะทำร้ายพวกเขาและเกิดปัญหาในภายหลังเธอไม่ใช่ประธานบริษัทของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์แล้ว ถ้าเกิดว่าฮาร์วีย์ทำร้ายบางคนและถูกตำรวจพาตัวไปล่ะ? เธอจะทำอะไรได้?ฮาร์วีย์พยักหน้าและตอบกลับ “ก็ได้ ผ
ท่าทีบนใบหน้าของนิคแสดงความสมเพชขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อเขาได้ยินแมนดี้พูดขึ้นด้วยความถ่อมตัวอย่างนี้“ประธานซิมเมอร์ ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ อย่างนี้ผมคงต้องระมัดระวังธุรกิจของคุณแล้วล่ะ”“ถุงน่องพวกนี้ ผมต้องการมันทั้งหมด!”เมื่อนิคพูดจบท่าทางของเขาดูร้ายกาจขึ้น“ผมอยากซื้อสักคู่เหมือนกัน!”“ฮ่าฮ่าฮ่า…!”ลูกน้องของนิคหัวเราะอย่างน่าสมเพช สายตาที่เต็มไปด้วยความใคร่ของพวกเขาจับจ้องไปที่แมนดี้นิคแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายและพูด “แมนดี้ ฉันได้ยินมาว่าเธอทิ้งกรรมสิทธิ์หุ้นของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ไปทั้งหมด อย่างนี้ก็หมายความว่าเธอไม่เหลืออะไรแล้ว บางทีเธออาจจะเช่าบ้านไม่ได้ด้วยซ้ำ!”“เอาอย่างนี้ไหม? ตอนนี้บริษัทของเรากำลังหาเลขาให้ฉันอยู่ด้วยเงินเดือนเจ็ดร้อยแปดสิบดอลลาร์ต่อเดือน”“ตอนนี้ฉันยังไม่เจอผู้สมัครที่เหมาะสม แต่ถ้าเธอทำตัวดี ฉันให้ตำแหน่งนั้นกับเธอได้นะ!”“แต่เธอจะต้องจำเงื่อนไขหนึ่งข้อของการเป็นเลขาของฉัน คือเธอจะต้องนอนกับฉัน!”ฮาร์วีย์อดทนต่อไม่ไหวอีกแล้ว ผู้ชายคนนี้หยาบช้าเกินไป ตอนนี้ฮาร์วีย์ไม่ต้องการอะไรนอกจากการพุ่งตัวไปตบผู้ชายคนนี้และกดหัวของเขาลงชักโครกแต่แมนด
นิครีบลุกขึ้นจากพื้นเขาหน้าซีดและอับอาย เขาหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาและเริ่มกดเบอร์เพื่อโทรออก“บราเทอร์ฟราย นี่ผมเองนิค!”“ตอนนี้ผมถูกคนขายของทำร้ายในถนนคนเดิน!”“ที่นี่เป็นอาณาเขตของคุณ คุณควรมาให้ความยุติธรรมกับผม!”ท่าทีของทุกคนเปลี่ยนไปหลังจากที่พวกเขาได้ยินชื่อของบราเทอร์ฟรายหลังจากเวลาผ่านไป ใครบางคนพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ “หัวหน้าครับ บราเทอร์ฟรายที่คุณหมายถึง เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะเป็นหัวหน้าใหญ่ของถนนคนเดินแห่งนี้์”“นายค่อนข้างมีความรู้รอบตัวอยู่นี่ ใช่บราเทอร์ฟรายคนนั้นนั่นแหละ!”“บราเทอร์ฟรายเป็นหนึ่งในหัวหน้าใหญ่แห่งท้องถนน เขาดูแลควบคุมถนนคนเดินที่นี้!”“เขาเป็นพี่ใหญ่ของฉัน!”นิคแสดงใบหน้ามีชัยท่าทางของใครหลาย ๆ คนเปลี่ยนไปอย่างมากหลังจากได้ยินประโยคของเขา ในตอนนี้ท่าทางของพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่บริเวณนั้นแย่ลงมากเจ้าของแผงลอยอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “นี่สาวน้อย รีบไปเร็ว!”“บราเทอร์ฟรายไม่ได้ง่ายขนาดนะ! ใครก็ตามที่ตั้งแผงลอยที่นี่จะต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้เขา!”“ถ้าเธอไม่จ่ายเขา อย่างน้อยเขาก็แค่ทำลายแผงลอยเธอ แต่ถ้าแย่ที่สุดเขาจะทำร้ายเธอ!”“มากไปกว่านั้นบราเทอร์ฟรา
บราเทอร์ฟรายเยาะเย้ย “ตั้งแผงลอยบนพื้นที่อาณาเขตของฉันโดยที่ไม่จ่ายค่าคุ้มครองเหรอ? น่าสนใจดี!”“นานแล้วนะที่ฉันไม่ได้เจอคนที่กล้าขนาดนี้!”ในขณะที่เขาพูด เขาถ่มน้ำลายลงพื้นและพูดขึ้นอย่างเมินเฉย “ไอ้สารเลว เลียน้ำลายของฉันซะ! คุกเข่าลงตอนที่นายพูดกับฉันด้วย!”“หรือไม่อย่างนั้น ฉันจะตัดแขนกับขาของนายทิ้งวันนี้ให้หมด!”นิคและลูกน้องของเขาเยาะเย้ยนิคเหลือบมองฮาร์วีย์และพูดเสริม “ไอ้สารเลวไม่ได้ยินเหรอ? รีบคุกเข่าลงซะ!”“ถ้านายทำตัวดี ๆ บราเทอร์ฟรายอาจจะไม่ฆ่านายก็ได้!”“แต่ถ้าไม่ ฉันเกรงว่านายอาจจะคลานออกไปจากที่นี่ไม่ได้ด้วยซ้ำ!”ฮาร์วีย์มองดูในขณะที่นิคยังคงทำตัวเหมือนกับตัวตลกอย่างไม่มีทีท่าแยแสแมนดี้รีบก้าวออกมาด้านหน้าฮาร์วีย์และขวางเขาพร้อมกระซิบ “ฮาร์วีย์ คนพวกนี้มาจากท้องถนน เราทำให้พวกเขาโกรธไม่ได้นะ”เธอขอโทษบราเทอร์ “บราเทอร์ฟรายเราเพิ่งมาใหม่ เรายังไม่รู้กฎของที่ดี”“ฉันไม่แน่ใจว่าเราต้องจ่ายเท่าไหร่แต่ฉันจะจัดการค่าใช้จ่ายในไม่ช้า”ในตอนแรกบราเทอร์ฟรายมองไม่เห็นแมนดี้ แต่เมื่อเขาเห็นผู้หญิงที่สง่างาม ทำให้เขาตกตะลึงทันทีเขาแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายและพูดขึ้น “นี่
เบ็กก้า เดย์ ภรรยาลับของบราเทอร์ฟรายหัวเราะคิกคัก“ที่รัก ผู้ชายคนนี้อวดดีจังเลย! เขาแทบไม่มองคุณเลยนะคะ”“เขาไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าอะไรดีสำหรับเขา!”เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ทำให้สายตาของบราเทอร์ฟรายเยือกเย็นขึ้นเขาอยู่บริเวณถนนคนเดินมานานหลายปี แม้ว่าถ้าผู้บัญชาการสูงสุดของสถานีตำรวจบังเอิญเจอเขา พวกเขายังต้องให้ความเคารพแก่เขาเลยใครจะคาดคิดว่าคนหัวร้อนที่มาจากที่ไหนไม่รู้จะหยาบคายขนาดนี้?เขายังบอกให้บราเทอร์ฟรายคุกเข่าในถังขยะอีกด้วย? ตลกดีจริง ๆ !“ฉันจะเตือนนายอีกครั้ง คุกเข่าและเลียน้ำลายของฉันซะ!” บราเทอร์ฟรายออกคำสั่งพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชาทั่วทั้งบริเวณตกอยู่ในความเงียบสงัดทันทีทุกคนในพื้นที่ต่างไม่กล้าเอ่ยปากพูดออกมาแม้แต่คำเดียว พวกเขายังไม่กล้าแม้แต่จะหายใจพวกเขาทั้งหมดรับรู้ได้ว่าบราเทอร์ฟรายตอนนี้กำลังโกรธมากในถนนคนเดิน การทำให้บราเทอร์ฟรายโกรธย่อมไม่เป็นผลดีกับทุกคนมีเพียงแค่ฮาร์วีย์เท่านั้นที่ยังคงนิ่งราวกับก้อนหิน ใบหน้าของเขายังเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งอีกด้วยเบ็กก้าเดินตรงไปเตะแผงลอยบนพื้นที่แมนดี้ตั้งขึ้น“ไม่เข้าใจที่เขาพูดเหรอ?! เขาบอกให้เลียน้
“มิสเตอร์ยอร์ก คุณบ้าไปแล้วเหรอ? คุณรู้หรือเปล่าว่าหัวหน้าของบราเทอร์ฟรายคือใคร? คุณกล้าที่จะรับคำขอโทษของเขาหรือเปล่าถ้าเกิดเขามาที่นี่?”“ผู้ชายคนนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริงในสายงานที่นี่! เพียงแค่เขาดีดนิ้ว เขาสามารถทำทุกอย่างได้ที่เขาต้องการ! แต่คุณยังอยากให้ผู้ชายคนนั้นก้มหัวให้คุณอีกเหรอ?”“คุณคิดอะไรอยู่? คุณเป็นแค่ลูกเขยเกาะกินที่กำลังตั้งแผงลอยอยู่บนถนน! คุณคู่ควรเหรอ?”นิค ลาเชย์และคนอื่น ๆ ชี้นิ้วไปที่ฮาร์วีย์และแหย่เขา ปกติแล้วเขาไม่เคยพบเจอใครที่โง่จนแยกสิ่งที่ดีและไม่ดีไม่ได้ แมนดี้รู้สึกเคร่งเครียด‘สั่งให้หัวหน้ามาและขอโทษฉันเหรอ?’‘ฮาร์วีย์กำลังคิดอะไรอยู่?’‘เขาพยายามจะฆ่าพวกเราเหรอ?’แมนดี้ตื่นตระหนกจนหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมา เธอส่งข้อความหาคีธและฟินน์ เยตส์ด้วยความสั่นกลัวภายใต้เหตุการณ์เหล่านี้ ถึงแม้ว่าแมนดี้ไม่ต้องการที่จะหันไปขอร้องอ้อนวอน แต่เธอกลัวว่าฮาร์วีย์จะถูกบราเทอร์ฟรายและลูกน้องของเขาทำร้ายถึงตายถ้าเธอไม่ขอความช่วยเหลือจากตระกูลเยตส์บราเทอร์ฟังในขณะที่ฮาร์วีย์สั่งให้หัวหน้าของเขาปรากฏตัวและหักแขนของเขาแถมยังให้ขอโทษนังเด็กผู้หญิงคนนี้อีกคว
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข