ในรถคีธถามอย่างสุภาพว่า “ผู้บัญชาการเบลค เราจะไปไหนกัน?”“เดอะการ์เด้น เรสซิเดนซ์” เบลลามี่ตอบคีธไม่แปลกใจเลยที่ได้ยินชื่อสถานที่นั้น เดอะการ์เด้น เรสซิเด้นเป็นหมู่บ้านที่พักระดับไฮเอนด์ที่สุดในบัควู้ดหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนนี้คือใคร? แม้ว่าเขาจะอาศัยอยู่อย่างสันโดษหลังจากลาออก ที่นี่คงเป็นเพียงที่เดียวเท่านั้นที่เหมาะกับสถานะของเขาเบลลามี่หยุดพูดไปฮาร์วีย์เป็นคนแนะนำให้เขาทำงานรับใช้ในเซาท์ไลท์ในขณะนั้นผู้อาวุโสในกองทัพพยายามเกลี้ยกล่อมให้ฮาร์วีย์เป็นผู้บัญชาการกองทหารทั้งเก้า แต่ฮาร์วีย์ปฏิเสธระหว่างการเจรจาฮาร์วีย์พูดว่าเบลลามี่เป็นคนเก่งดังนั้นเบลลามี่จึงได้เลื่อนตำแหน่งในโอกาสการเปลี่ยนตำแหน่งในกองทัพในครั้งนี้เบลลามี่รู้สึกขอบคุณไม่เพียงแต่หัวหน้าผู้ฝึกสอนเท่านั้นที่ดูแลพี่น้องอย่างดีในสนามรบ แต่เขายังคงดูแลแม้หลังจากที่เขาออกจากกองทัพแล้วเบลลามี่มาที่นี่ครั้งนี้เพื่อแสดงความขอบคุณและเขายังหวังว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนจะให้คำแนะนำบางอย่างแก่เขา***ในขณะเดียวกัน ณ เดอะการ์เด้น เรสซิเด้นฟินน์เดินเข้ามาพร้อมกับนายตำรวจหลายสิบคนพวกเขาแสดงบัตรประจำตัวเพื่อที่จะเข้าไ
เมื่อฟินน์โกรธมากจนตอนนี้ที่เขากำลังจะลงมือ รถของคีธก็มาส่งเบลลามี่ที่เดอะการ์เด้น เรสซิเด้นพอดีเบลลามี่ลงจากรถที่ตรงหน้าประตูทางเข้า จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “ขอบคุณนายท่านเยตส์ แต่ตัวตนของหัวหน้าผู้ฝึกสอนนั้นเป็นความลับสุดยอด ดังนั้นผมจึงไม่สามารถเชิญคุณเข้าไปข้างในได้”“ไม่เป็นไรครับ ผมยังคงมีโอกาสได้เห็นหน้าหัวหน้าผู้ฝึกสอนในพิธีแต่งตั้งอยู่ดี!”คีธสุภาพมาก ไม่กล้าส่งใครตามเบลลามี่ไปเพราะคนทั้งสองที่อยู่ข้างในนั้นเป็นระดับหัวหน้าใหญ่ในกองทัพ ตระกูลเยตส์ไม่สามารถทำให้พวกเขาขุ่นเคืองได้แต่คีธก็ไม่ได้ออกไปทันที เขาสั่งว่า “พวกนายอยู่ข้างนอก ผู้บัญชาการเบลคออกมา แล้วหลังจากนั้นพวกนายไปส่งเขา”ในขณะเดียวกันที่ประตูบ้านของฮาร์วีย์ฟินน์มองฮาร์วีย์ด้วยสายตาเย็นชาและพูดว่า “จริง ๆ แล้วคนแบบนายไม่คู่ควรที่ฉันจะมาจัดการด้วยตัวเอง!”“แต่นายกลับยังไม่รู้ตัวว่าควรยืนอยู่ตรงไหน และนายกลับมายั่วยุตระกูลเยตส์อีกครั้ง!“ด้วยความผูกพันในครอบครัวของเรา ถ้านายต้องคุกเข่าขอโทษแล้วหย่ากับแมนดี้ซะ ฉันอาจจะยอมปล่อยนายไป!”ฮาร์วีย์มองฟินน์นิ่ง จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและตบหลังมือทันทีเพีย
เบลลามี่ทำให้ฮาร์วีย์ประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าเบลลามี่จะมาเบลลามี่ออกจากค่ายศัสตราวุธนานแล้ว เขามีชื่อเสียงในด้านกลยุทธ์และยุทธวิธี ไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งของเขาทุกคนในค่ายศัสตราวุธก็คือราชาแห่งอาวุธ คนที่ออกมาจากค่ายศัสตราวุธล้วนแต่ไปได้ดีแม้ว่าฟินน์จะเป็นแชมป์ลีกต่อสู้ของตำรวจ แต่ยังมีช่องว่างระหว่างทั้งสองฝ่ายที่อธิบายไม่ได้แต่แล้วฟินน์ก็โชคดีอีกครั้งถ้าเบลลามี่ไม่เข้าหยุดเขา ฟินน์คงตายไปแล้วในตอนนี้“เกรงใจเครื่องแบบของคุณบ้าง! พวกคุณน่าจะมาจากสถานีตำรวจใช่ไหม?”“คนจากสถานีตำรวจกำลังทำร้ายคนธรรมดา คุณกำลังละเมิดข้อกฎหมาย ควรพิจารณาถึงความร้ายแรงของความผิด!”สีหน้าของเบลลามี่แย่มาก เขาไม่คิดว่าระบบราชการในเซาท์ไลท์จะวุ่นวายขนาดนี้ และมีคนจากสถานีตำรวจมาทำตัวแบบนี้ด้วยฟินน์ปาดเลือดที่มุมปากของเขาและพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณมาจากไหนมายุ่งเรื่องของคนอื่น?”“ถึงคุณจะเป็นหัวหน้า แต่ไม่เห็นหรือไงว่าตำรวจจัดการเรื่องนี้อยู่?”“คุณรู้ผลที่ตามมาของการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ดีใช่ไหม?”ฟินน์ตะโกนเสียงดังและหยิบปืนที่เขาเหน็บอยู่ในซองออกมา จ่อไปที่หัวและกดลงบนหน้าผากของเบลลาม
”อะไรนะ?!”ฟินน์ก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินแบบนั้นก็ดูหวาดกลัวทันทีนายตำรวจที่ตามเขามาที่นี่ก็อ้าปากค้าง รู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้าเกิดอะไรขึ้น? คนที่เดินเข้ามาอย่างกล้าหาญที่กระโดดออกมาจากที่ไหนไม่รู้คือผู้บัญชาการสูงสุดของกรมทหารเซาท์ไลท์!นี่ นี่ นี่ นี่...ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการกระทำเมื่อก่อนหน้านี้นั้นเท่ากับพวกเขารนหาที่ตาย!ฟินน์ตระหนักได้แล้วว่าเขาเพิ่งทำผิดพลาดไปมากเพียงใด และในขณะนั้นเขาก็ตัวสั่นไปทั้งตัวแน่นอนว่าตระกูลเยตส์เป็นหนึ่งในตระกูลเฟิร์สคลาสผู้บัญชาการสูงสุดของกรมทหารเซาท์ไลท์ถือว่าเป็นปืนใหญ่ที่ทรงอำนาจตระกูลเยตส์ไม่สามารถทำให้เขาขุ่นเคืองได้ที่สำคัญที่สุด เขาเพิ่งบอกออกไปว่าเขาเป็นคนกำหนดกฎในเซาท์ไลท์ นี่...ในที่สุดฟินน์ก็ตระหนักได้ว่าเขาทำผิดพลาดครั้งใหญ่ความผิดพลาดนี้อาจทำให้ตระกูลเยตส์ล่มสลายหายไปจากเซาท์ไลท์ทันทีหลังจากรู้ความสัมพันธ์ระหว่างคีธกับฟินน์ เบลลามี่ก็เยาะเย้ย “ฉันรู้แล้ว!”“ตระกูลเยตส์คือกฎหมายแห่งเซาท์ไลท์!”“ไม่แปลกใจที่คีธต้องส่งผมเอง!”“คุณกำลังวางแผนที่จะให้ลูกชายของคุณฆ่าผมด้วยปืนของเขาเหรอ?”“คุณมันอวดดี!”ค
“ไม่ได้ยินเขาพูดเหรอ?” เบลลามี่ดูเย็นชาฟินน์ได้แค่เพียงกัดฟันแล้วยอมคุกเข่า “มิสเตอร์ยอร์ก ผมขอโทษ ผมสัญญาว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”เมื่อเห็นฟินน์ยอมคุกเข่าขอโทษ ฮาร์วีย์ก็หยิบเงินออกมาสิบห้าเซ็นต์แล้วโยนลงตรงหน้าฟินน์ จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “เด็กดี ครั้งหน้าก็ยอมคุกเข่าให้เร็วหน่อย ผมจะให้รางวัลเพิ่มอีกสักสองสามดอลลาร์”“แก!”ฟินน์ตัวสั่นด้วยความโกรธมากขึ้นไปอีก เขารู้ว่าฮาร์วีย์กำลังยั่วอารมณ์ของเขาแต่ถึงอย่างนั้นเขาไม่กล้าแสดงท่าทีใด ๆ ต่อหน้าเบลลามี่เบลลามี่ดีใจที่เห็นท่าทีของฟินน์และพุดว่า “ออกไปได้แล้ว ผมจะปล่อยเรื่องนี้ไป”“น่าเสียดายนะคีธ มิตรภาพของเราคงจบลงที่นี่”เบลลามี่รู้สึกว่าเขาให้ความเคารพคีธเป็นอย่างมากถ้าคนพวกนั้นกล้ายุ่งกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนเขาที่อื่น เขาคงจะฆ่าอีกฝ่ายไปนานแล้วเขาต้องปกปิดตัวตนของหัวหน้าผู้ฝึกสอน เขาทำได้เพียงแค่ทำแค่นี้“นี่…”สีหน้าของคีธมืดลง เขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเบลลามี่มากขึ้น และกำลังจะได้ทำความรู้จักกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนผ่านตัวเขา แต่เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องจะออกมาเป็นแบบนี้!“ถ้าอย่างนั้นผมจะออกไปก่อน ไม่ต้องกังวล ผู้บั
แมนดี้นึกบางอย่างขึ้นมาได้ “ฮาร์วีย์ ตระกูลเยตส์เพิ่งมากับพวกตำรวจเมื่อกี้นี้ไม่ใช่เหรอ? พวกเขาทำให้อะไรคุณหรือเปล่า?”ฮาร์วีย์พูดอย่างจริงจังว่า “พวกเขากล้าทำอะไรผมได้ยังไง? ก่อนฟินน์ออกไป เขาขอโทษผมด้วย”แมนดี้ขมวดคิ้ว “ฮาร์วีย์ ทำไมคุณถึงยังพูดแบบนี้? รู้มั้ยว่าถ้าเรื่องนี้กระจายออกไปคุณจะเดือดร้อน!”“ฉันไม่อยากให้คุณมีปัญหา”ฮาร์วีย์พูดอย่างครุ่นคิด “ที่รัก ผมพูดจริง ถ้าคุณไม่เชื่อผมถามเบลลามี่ดูสิ เขาเพิ่งเห็นกับตา”เบลลามี่ที่อยู่ด้านข้างตอบให้ทันทีว่า “พี่สะใภ้ ผมก็อยู่ที่นั่น ผมเองก็มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคีธด้วย ตระกูลเยตส์ขอโทษและสัญญาว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”แมนดี้รู้สึกแปลก ๆ อันที่จริงเธอไม่เชื่อคำที่เพื่อนของฮาร์วีย์พูด แต่เธอก็ไม่ได้แย้งอะไรออกมาฮาลซีย์ไม่ได้คิดอะไร เธอหัวเราะเยาะ “มิสเตอร์เบลค คุณรู้ไหมว่าคีธเป็นใคร? เขาเป็นผู้บัญชาการอันดับสามในเซาท์ไลท์!”“แล้วสถานะของคุณล่ะ? คุณมีคุณสมบัติที่จะโต้เถียงกับเขาได้งั้นเหรอ? เขาจะฟังคุณไหม?”เบลลามี่ยิ้มและพูดว่า “แต่ความจริงก็คือเขาฟังผม และเขาไม่กล้าต่อต้าน”ฮาลซีย์หัวเราะ “ไม่กล้าที่จะต่อต้านงั้นเหรอ?
“ใช่ครับ เพราะถ้าผมจำไม่ผิด หัวหน้าผู้ฝึกสอนของค่ายศัสตราวุธซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาเหนือกว่าผู้บัญชาการเบลค คือคน ๆ นั้น ก็อยู่ที่เดอะการ์เด้น เรสซิเด้นเช่นกัน”“ต่อไปผู้บัญชาการเบลคคงจะไปที่นั่นบ่อย ๆ แน่นอน”“ถ้าเขารู้ว่าตระกูลเยตส์ยังไปก่อกวนฮาร์วีย์อยู่ เขาอาจจะโกรธก็ได้”“พวกเราตระกูลเยตส์ ไม่ควรทำให้ผู้บัญชาการทหารแห่งเซาท์ไลท์ขุ่นเคืองใจ!”คีธคร่ำครวญฮาร์วีย์ช่างเป็นคนที่โชคดีจริง ๆ แม้แต่เรื่องดี ๆ แบบนี้ก็เกิดขึ้นกับเขาเขาแค่เช่าบ้านอยู่อาศํย แต่กลับโชคดีมากที่เช่าบ้านในหมู่บ้านเดียวกันกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนในตำนานได้คุณย่าเยตส์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “หาดอดทนกับเรื่องเล็ก ๆ ไม่ได้จะทำให้แผนการใหญ่ไม่สำเร็จ เธอพูดถูก เราไม่ควรทำให้แผนใหญ่ของเราพังเพราะคนบางคน!”“สิ่งที่ตระกูลเยตส์ต้องทำในตอนนี้คือกู้คืนความสัมพันธ์ของเรากับผู้บัญชาการเบลค มันจะดีกว่าถ้าเราได้ทำความรู้จักกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนได้เร็ว ๆ !”“แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ? เธอส่งคนไปเช็คประวัติของผู้เช่าทั้งหมดที่อาศัยอยู่ที่เดอะการ์เด้น เรสซิเด้น และดูว่าใครมีความเป็นไปได้หัวหน้าผู้สอนมากที่สุด”“หลังจากแน่ใจแล้
สีหน้าของคีธดูแย่ลงจากได้ยินสแบบนั้นคุณย่าเยตส์พูดถูก คงมีคนคิดเหมือนกันหลายคนเชลดอน ซาเวียร์ และไคล์ ควินแลน คนสองคนนั้นมาจากตระกูลสิบอันดับต้น ๆ พวกเขาจะพลาดโอกาสนี้ไปได้อย่างไร?ฟีบีที่มีเพียงแค่รูปลักษณ์และรูปร่างที่งดงามไม่สามารถเทียบกับลูกสาวจากตระกูลซาเวียร์จากโวลซิ่ง และตระกูลควินแลนจากจอร์เจียได้ จู่ ๆ ฟินน์ก็พูดขึ้นว่า “พ่อครับ ที่จริงเรายังมีโอกาส!”“ตราบใดที่เรากล้ามากพอ เรายอมให้พี่สาวหลับนอนกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนและมีลูกกับเขา แม้ว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนจะไม่แต่งงานกับพี่สาว แต่เราก็ยังสามารถใช้ประโยชน์จากเด็กได้!”คีธขมวดคิ้วและพูดว่า “แต่แบบนี้ชื่อเสียงของตระกูลเยตส์ก็จะป่นปี้!”ฟินน์พูดอย่างเย็นชาว่า “พ่อครับ คนที่มีความทะเยอทะยานสูง ไม่สนใจเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้หรอกครับ! ถ้าเราทำได้ พ่อก็จะเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสที่น่านับถือในอนาคต!”“และผมเองก็จะเติบโตขึ้นและสามารถทำให้ตระกูลเยตส์รุ่งเรืองมากขึ้น!”“ชื่อเสียงไม่ได้มีความสำคัญถ้าหวังผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่นี้ มันกินไม่ได้!”คุณย่าเยตส์พยักหน้าและพูดว่า “เป็นความคิดที่ดี ฟินน์ เธอเก่งจริง ๆ!“โทรหาฟีบี บอกให้เธอเตรียมตัว
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข