ดเวย์น ฮาริสและเมสัน วอร์เนอร์ทั้งคู่ต่างเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากในมหาวิทยาลัยบัควู้ด คำกล่าวที่เกี่ยวกับการสู้กับของพวกเขาไปแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วและดึงดูดนักศึกษาที่อยากรู้อยากเห็นมามากมายเมสันมีสีหน้าลำบากใจ แต่ต่างจากดเวย์นที่เมินเฉย แถมยังมีเวลาโบกมือทักทายสาว ๆ รอบตัวเขาอย่างเป็นมิตรอีกด้วยเขาเป็นประธานของสมาคมเทควันโดในมหาวิทยาลัยบัควู้ดและยังมีสายดำภายใต้ชื่อของเขาอีกด้วย ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา เขาจึงมีแฟนคลับสาว ๆ ค่อนข้างมากดเวย์นรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากกับท่าทางของเมสันในวันนี้เขาเชื่อว่าถ้าเขาจัดการกับเมสันได้ ซีนเธียร์ก็จะได้รู้ว่าเธอควรเลือกผู้ชายคนไหนดเวย์นยืดแขนของเขาออกและกวักนิ้วชี้ของเขาด้วยท่าทางเยาะเย้ย ท้าให้เมสันเขาหาเขาเมสันหัวเราะออกมาอย่างเลือดเย็นก่อนที่จะโยนลูกบาสใส่ดเวย์นอย่างเกรี้ยวกราดแต่ดเวย์นกลับยกขาของเขาและเตะลูกบาสออกไปแต่ทันทีที่เขาเตะ เมสันก็ได้พุ่งตัวเข้าหาเขาและโจมตีเขาด้วยการตบเข้าที่หน้าอย่างแรงเพียะ!การตบครั้งนี้แรงพอที่ทำให้ดเวย์นกระเด็นออกไป นาทีที่เขาล้มลงกับพื้น เมสันก็ได้พุ่งตัวเข้ามาเตะเข้าท้องของเขา“อ๊าก!”ดเว
ฮาร์วีย์ไม่ได้ตั้งใจอยากที่จะทะเลาะกับเด็กแต่เมสันกำลังทำตัวราวกับว่าเขาเป็นราชาของโลกทั้งใบ แต่ในสายตาของฮาร์วีย์เขาเป็นเพียงแค่เด็กเหลือขอเท่านั้นฮาร์วีย์จะสนใจสักนิดได้อย่างไร?เขายอมคุยด้วยเพียงเพราะเขาหวังว่าเมสันจะหยุดรังควานซีนเธียร์สักทีพูดอย่างปกติ ลืมทายาทร่ำรวยแห่งรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ไปได้เลย แม้แต่คณบดีของมหาวิทยาลัยบัควู้ดยังไม่มีสิทธิ์ที่จะคุยกับเขาแต่เมสันพบว่าคำพูดของฮาร์วีย์เป็นการหยามเกียรติอย่างมากเขาชี้ตรงไปที่ฮาร์วีย์อย่างเกรี้ยวกราดและตะโกน “นายคิดว่านายเป็นใครถึงกล้ามาบอกให้ฉันขอโทษ?!”“ฉันขอเตือนนาย! ว่าฉันรู้ทันนาย!”“ฉันต้องการซีนเธียร์และคืนนี้ฉันก็จะนอนกับเธอด้วย! ไม่ใช่แค่นั้นนะ ฉันจะทำให้นายคุกเข่าและมองดูทุกอย่างข้าง ๆ !”สมุนของเมสันเผยการแสดงออกที่เลวร้ายและในทิศทางที่ผิดของคำพูดของเขาโดยปกติแล้วครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทำอย่างนี้แต่คำพูดของเมสันทำให้ฮาร์วีย์โกรธอย่างมากเขายังแทบไม่กล้าที่จะแกล้งน้องสะใภ้ของเขาอย่างนี้เลยแต่คนพวกนี้ยังกล้าที่จะพูดแบบนี้เหรอ?ฮาร์วีย์ก้าวออกไปข้างหน้าอย่างคอแข็งเมื่อเห็นท่าทางของฮาร์วีย์
“เกิดอะไรขึ้น?”“เขาถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินเหรอ?!”เริ่มแรกท่าทีเรียบง่ายและนิ่งสงบของเจคอบก็เปลี่ยนไปทันที เขายืนขึ้นด้วยความโกรธ“ประธานวอร์เนอร์ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” แมนดี้ถามเจคอบตอบกลับด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง “ประธานซิมเมอร์ ผมเกรงว่าเราคงต้องเลื่อนการเจรจาของเราออกไปอีกสองสามวันนะครับ”“ลูกชายของผมถูกทำร้ายอย่างหนักที่มหาวิทยาลัยและถูกส่งเข้าโรงพยาบาลครับ แล้วยังไม่พบคนที่ทำผิดอีกครับ ผมต้องไปตรวจสอบดูสักหน่อย”“เป็นไปไม่ได้ที่ลูกชายของผมจะถูกทำร้ายโดยไม่หวังอะไร ใช่ไหม?”แมนดี้จัดการร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัทด้วยความเคารพอย่างสูง เมื่อฟังเจคอบ เธอพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องไปเยี่ยมกับประธานวอร์เนอร์ด้วยเหมือนกันค่ะ”“ได้ครับ”ไม่นานทั้งสองคนได้เดินทางมาถึงที่โรงพยาบาลเจคอบหน้าเสียทันทีเมื่อเขาเห็นเมสันที่มีผ้าพันแผลอยู่เต็มไปหมดถูกพาออกมาจากห้องฉุกเฉิน “ใครทำให้ลูกอย่างนี้?! ไม่ได้บอกพวกเขาเหรอว่าลูกเป็นทายาทของรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์?!”ใบหน้าของเจคอบเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น“พ่อครับ ผมบอกเขาแล้ว! แต่เขาไม่ได้สนใจเลย!”“เขายังบอกด้วยว่าเขาจะหักขาของพ่อด้วย
“ทำร้ายเหรอ?”อีกด้านหนึ่งของสาย ฮาร์วีย์ได้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นกับเมสันไปแล้ว แต่เมื่อแมนดี้ถามเขา เขาก็นึกขึ้นได้ทันที“ผมไม่ได้ทำร้ายใครเลยนะ ผมแค่สั่งสอนเด็กเอง”“สั่งสอนเหรอ?”แมนดี้ไม่อยากจะเชื่อ“คุณจะบอกว่าคุณแค่สั่งสอนด้วยการทำให้ทายาทของรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์เข้าโรงพยาบาลเหรอ?!”“ฉันจะบอกคุณไว้เลยนะ! คุณกำลังเจอปัญหาใหญ่แน่!”แมนดี้วางสายอย่างเกรี้ยวกราดเธอสูดหายใจเข้าเพื่อให้ใจเย็นลง ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็โค้งให้เจคอบ “ประธานวอร์เนอร์คะ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของเราค่ะ!”“ฉันจะมอบเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์เพื่อเป็นการชดเชยที่ทำร้ายจิตใจลูกชายของคุณค่ะ พร้อมกับค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดค่ะ”“แล้วเรื่องความร่วมมือของเขา บริษัทของเราจะมอบหุ้นส่วนของเราให้สิบเปอร์เซ็นต์เพื่อเป็นการขอโทษจากฉันค่ะ”แต่คำพูดของแมนดี้กลับทำให้เจคอบหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็นเท่านั้น “เงินเหรอ? คุณคิดว่ารีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์ต้องการเงินเหรอ?”แมนดี้ขมวดคิ้ว“แล้วสิ่งที่คุณต้องการคืออะไรคะ ประธานวอร์เนอร์? เราจะทำทุกอย่างด้วยอำนาจของเราค่ะ ตราบใดที่คุณเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ”
ณ คฤหาสน์ของตระกูลเยตส์เจคอบแวะมาเยี่ยมพร้อมกับของติดไม้ติดมือเขามาด้วย ใบหน้าของเขาย่ำแย่อย่างมาก “คุณเยตส์ บรรยากาศธุรกิจในเซาท์ไลท์แย่ขนาดนี้แล้วเหรอ?”“ผู้คนสามารถไปทำร้ายลูกของอีกฝ่ายเพื่อชนะการเจรจาเหรอครับ?”ด้วยสิ่งนี้ทำให้ท่าทีของคีธ เยตส์เปลี่ยนไป “ใครกันที่ทำพฤติกรรมเกินคนอย่างนี้?!”“วงการธุรกิจของเซาท์ไลท์มีความยุติธรรมและอยู่ในกรอบมาโดยตลอด! ใครที่สร้างความวุ่นวายอย่างนี่มีแต่จะทำให้ชีวิตของเขาอยู่ยากขึ้น!”“คุณไม่ได้บอกอีกฝ่ายเหรอครับว่าผมเป็นคนที่คอยสนับสนุนคุณอยู่เบื้องหลัง?”เจคอยถอนหายใจและตอบกลับ “คุณเยตส์ อาจเป็นเพราะอำนาจของคุณคงจะไม่ยิ่งใหญ่อีกต่อไปแล้ว”“เมสัน ลูกชายของผมได้กล่าวชื่อของคุณไปแล้ว แต่ใครบางคนยังคงกล้าที่จะหักซี่โครงของเขาอยู่ ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาลครับ แทบจะทนไม่ไหวครับ!”“อะไรนะ?!”คีธยืนขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด ท่าทีของเขาย่ำแย่มากเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ทำให้สายสัมพันธ์มี่เป็นของตระกูลเยตส์ได้ลดลงไปสามสิบเปอร์เซ็นต์เพื่อครอบคลุมการสูญเสียของพวกเขา ตระกูลเยตส์พยายามตั้งใจที่จะเอาใจรีเจนซี่ เอ็นเตอร์ไพรส์แต่ตอนนี้ ลูกน้อง
เจคอบยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นความไม่สบายใจของตระกูลเยตส์ก่อนหน้านี้ เขาได้สืบและค้นพบมาแล้วส่าแมนดี้ ซิมเมอร์เป็นหลานสาวของตระกูลเยตส์แต่เขายังไม่มั่นใจว่าความสัมพันธ์ของเธอกับตระกูลเยตส์เป็นอย่างไร เขาจึงต้องพูดทั้งหมดออกมาเพื่อได้รับข้อมูลจากตระกูลเยตส์ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าตระกูลเยตส์ไม่ต้อนรับแมนดี้ ซิมเมอร์และฮาร์วีย์ ยอร์ก พูดได้ว่าพวกเราจงเกลียดจงชังทั้งคู่!ในเมื่อเป็นเพราะเรื่องนี้ เจคอบก็สามารถดำเนินธุรกิจของเขาต่อได้อย่างไร้ยางอายเขายังสามารถใช้ตระกูลเยตส์เพื่อต่อต้านแมนดี้ ซิมเมอร์ ในเมื่อพวกเขาสนับสนุนเขาอยู่แล้วเขาสามารถบีบบังคับให้แมนดี้ยอมเขาได้!คีธครุ่นคิด“บอกให้ฟินน์กลับมาบ้าน”ไม่นานฟินน์ เยตส์ก็เดินทางกลับมาเขาเป็นผู้บัญชาการลำดับสามของสถานีตำรวจบัควู้ด ตำแหน่งปัจจุบันของเขาตอนนี้คือรองสารวัตรนับได้ว่าเขาเป็นชายที่โดดเด่นแม้ว่าอายุของเขาจะยังหนุ่มก็ตาม“ฟินน์ ไปตามหาฮาร์วีย์ ยอร์กกับประธานวอร์เนอร์และบอกเขาว่าเขาต้องทำอะไร!”“ตลอดเวลาเขาเอาเปรียบคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล ถ้าประธานวอร์เนอร์ไม่ได้ต้องการที่จะคุยกับผู้ชายคนนี้อย่างส่วนตัว อย่างนั้นก
ฮาร์วีย์ตอบกลับอย่างใจเย็น “บางคนก็แค่ต่ำเกินไป คุณทำให้พวกเขาเห็นไม่ได้หรอกถ้าไม่จัดการเรียกสติพวกเขา”“ถ้าผมไม่ทำอย่างนั้น เด็กผู้ชายคนนั้นคอยรังควานซีนเธียร์ต่อไปเรื่อย ๆ จากนั้นมีเพียงแค่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”“อีกอย่าง ผมไม่ได้อยู่กับซีนเธียร์ตลอดเวลาเหมือนกัน”“ใช่! พี่เขยแค่พยายามจะปกป้องฉันเอง หยุดโทษเขาได้แล้ว”ซีนเธียร์ดึงมือของแมนดี้มาพร้อมกับทำสายตาน่าสงสารแมนดี้ถอนหายใจและไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อแต่ปัญหาก็คือเมสันถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลและเหตุผลทุกอย่างก็อยู่ข้างเขาเธอจะรับมือกับเรื่องนี้ได้อย่างไร?แมนดี้ไม่คิดที่จะยอมรับเงื่อนไขที่อีกฝ่ายได้ตั้งขึ้นหรอกแต่พวกเขาคงไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แน่เรื่องนี้มันชวนปวดหัวสุด ๆ !ในตอนนั้นเองเสียงออดประตูก็ดังขึ้นเจคอบ วอร์เนอร์และฟินน์ เยตส์ อยู่ที่ประตูและพากลุ่มสารวัตรมาพร้อมกันกับพวกเขาใบหน้าของเจคอบเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งฟินน์จับไปที่อาวุธที่ห้อยอยู่ที่เอวของเขาและประกาศอย่างเคร่งขรึม “ฮาร์วีย์ ยอร์กและแมนดี้ ซิมเมอร์! ฉันมาที่นี่เพื่อเป็นตัวแทนของสถานีตำรวจบัควู้ด”“ฮาร์วีย์ ยอร์ก! นายได้ก่อเหตุทำร้
“ใช่! โดยปกติประธานสภานักศึกษาเป็นราชาแห่งมหาวิทยาลัยอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันปกตินะ เพราะเมสันก็มีคุณสมบัติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ!”“เธอต่างหากที่ไร้ยางอาย! เธอแสดงความรักกับพี่เขยของเธออย่างเปิดเผย เธอถูกทำให้อับอายจนโกรธตอนที่ทุกอย่างเปิดเผยและทำร้ายเมสัน!”ซีนเธียร์หน้าเสีย เธอหันไปหาดเวย์น “รุ่นพี่ฮาริสเต็มใจที่จะยืนหยัดเพื่อเมสันแม้ว่าเขาจะเป็นคนทำร้ายรุ่นพี่เหรอคะ?”ดเวย์นตอบกลับด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง “ซีนเธียร์ เธอหยุดบิดเบือนความจริงสักทีได้ไหม? คนที่ทำร้ายฉันคือฮาร์วีย์ ยอร์ก พี่เขยของเธอนะ!”“ฉันไม่อยากจะทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ แต่เธอพูดขึ้นมาเองนะ!”ซีนเธียร์ชะงักเพราะคำสารภาพของดเวย์นเธอไม่เคยคาดคิดว่าดเวย์นจะโยนความผิดไปให้ฮาร์วีย์อย่างนี้ตอนนี้ทำให้ฮาร์วีย์เข้าใจทุกอย่างดีการร่วมมือกันระหว่างเจคอบและตระกูลเยตส์ได้ถูกเตรียมไว้หมดแล้วถึงแม้ว่าพ่อของดเวย์นจะทำงานให้กับรัฐบาลของบัควู้ด แต่เขาเป็นเพียงแค่ลูกน้องที่ไม่มีความสำคัญในสายตาของตระกูลเยตส์เขาจะกล้าขัดคำสั่งเหรอ?นักศึกษาเหล่านี้จะกล้าขัดคำสั่งตระกูลเยตส์และรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์เหรอ?
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข